นอกประตูมีกลุ่มคนเดินเข้ามา ที่นำมาก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ด้านหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังมีนายอำเภอหู สวี่เซี่ยนเว่ย รองนายอำเภอหยาง เผิงจู่ปู้และมือปราบจ้าว
ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ยินจากหลินตงว่าตู้หลันจูภรรยาหันถงหาเรื่องลู่เจียว ก็ไม่วางใจเรือนด้านหลัง ให้หลินตงคอยจับตาดูเรือนด้านหลังไว้
ดังนั้นทันทีที่ในโถงงานเลี้ยงเกิดเรื่อง หลินตงก็รู้แล้ว เขารีบวิ่งไปเรือนด้านหน้ารายงานเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พูดสักคำก็ลุกขึ้นยืนเดินไปเรือนด้านหลัง เพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นสามีลู่เจียว ลู่เจียววันนี้มาเป็นแขกสำคัญตระกูลหู ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เป็นแขกสำคัญตระกูลหูด้วย นั่งร่วมโต๊ะกับพวกนายอำเภอหู
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นขยับ พวกนายอำเภอหูเห็นท่าทีเขาก็ลุกขึ้นตามเขาไปเรือนด้านหลังด้วยสัญชาตญาณพร้อมกัน
ตลอดทางมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นเล่าเหตุการณ์เรือนด้านหลังให้นายอำเภอหูฟังคร่าวๆ
สีหน้านายอำเภอหูย่ำแย่อย่างมาก โดยเฉพาะได้ยินว่าน้องสาวสะใภ้คนโตเขาถึงกับออกมาชี้ตัวลู่เจียวว่าเก็บไข่มุกแดนใต้ได้ สมองหญิงผู้นี้ป่วยไหม นั่นเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตพี่สาวนาง นางพูดจาเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร
สวี่เซี่ยนเว่ยได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ไม่ได้โมโห กล่าวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างนุ่มนวลว่า “ก็แค่ไข่มุกแดนใต้เม็ดเดียวไหม ข้าไปบอกชิงอินว่าวันหน้าค่อยหาให้นางอีกเม็ด นางจริงๆ เลย ลู่เหนียงจื่อชอบก็ให้นางไปก็ได้นี่”
สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นดำทะมึนมองสวี่เซี่ยนเว่ย กล่าวน้ำเสียงเข้มว่า “ภรรยาข้าไม่ได้เป็นคนเก็บไข่มุกแดนใต้ได้แล้วไม่คืน แม้นางเป็นหญิงบ้านนอก แต่ก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้ความ เก็บไข่มุกแดนใต้ได้แล้วจะเก็บซ่อนไว้แน่นอน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ไม่อยากมองสวี่เซี่ยนเว่ยอีก พาคนเดินมุ่งไปเรือนด้านหลัง
โถงงานเลี้ยงเรือนด้านหลังมีบรรดาผู้หญิงอยู่กับจำนวนมาก พอเห็นผู้ชายมา ก็ยืนขึ้นทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวไปด้านหน้าลู่เจียว หลี่อวี้เหยารีบเปิดทางให้ สีหน้านางรู้สึกผิดอย่างมาก มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เซี่ยซิ่วไฉ ขออภัย จวนตระกูลหูพวกเราเสียมารยาทแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้สนใจหลี่อวี้เหยา สองตามองไปยังลู่เจียว กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
ลู่เจียวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้านิ่งสงบ ไม่ได้มีท่าทีสงสัยนางสักนิด เดิมนางกำลังโมโหอยู่ก็พลันสงบนิ่งลงมาก
นางยิ้มมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
เมื่อครู่ที่นางได้ยินสวี่ชิงอินกล่าวอย่างมั่นใจ ก็แอบคลำกระเป๋าพกตนเงียบๆ พบว่าในกระเป๋าพกมีไข่มุกเม็ดกลมเม็ดหนึ่ง น่าจะเป็นสวี่ชิงอินให้คนยัดไข่มุกแดนใต้ใส่กระเป๋าพกนาง
ลู่เจียวไม่คิดเลยว่าในงานเลี้ยงวันนี้ตนต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้ ดังนั้นไม่ได้ระวังตัวแม้แต่น้อย
อย่างไรที่นี่วันนี้ก็ไม่ได้มีคนรู้จักมากมายอะไร จะมีผู้ใดมาใส่ร้ายนาง
แต่กลับมีเสียอย่างนั้น
ลู่เจียวไม่เข้าใจว่าทำไมสวี่ชิงอินต้องให้ร้ายนาง
แต่เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นปรากฎตัว สายตาที่มองสวี่ชิงอินอย่างโมโหก็พลันสว่างวาบ นางรู้แล้วว่าหญิงผู้นี้ต้องใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าแล้ว ดังนั้นจึงหาทางให้ร้ายนาง
ลู่เจียวหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ใบหน้านี้แท้จริงจะนำภัยมาให้นางอีกเท่าไรกัน นางอยากจะตะโกนให้ทุกคนในที่นั้นได้รู้เสียจริงว่านางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นหย่ากันแล้ว วันหน้าเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับนางแล้ว ดังนั้นอย่าได้มาหาเรื่องใส่ร้ายนางอีก
แต่สุดท้ายลู่เจียวก็อดทนไว้ เพราะแม้นางพูดไป ก็ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าจะไม่มีเรื่อง
คนอยู่ในยุทธภพ จะไม่โดนดาบฟันได้อย่างไร
แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นมองสำรวจลู่เจียว แน่ใจว่านางไม่เป็นไร ก็หันมองไปยังสวี่ชิงอิน “คุณหนูสวี่คิดค้นตัวภรรยาข้า ข้าก็อยากขอถามเจ้า ผู้ใดให้สิทธิ์นี้แก่เจ้า หนึ่ง ภรรยาข้าไม่ใช่คนร้าย สอง ไม่ใช่บ่าวในจวนเจ้า เจ้าถือสิทธิ์ข้อไหนมาค้นตัวภรรยาข้า”
สวี่ชิงอินถูกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกดดันรุนแรงจนตกใจ กล่าวเสียงอ่อยว่า “แต่ไข่มุกแดนใต้ข้า ถูกนางเก็บไป นั่นเป็นของที่ท่านพ่อข้ามอบให้ข้า ข้า…”
สวี่ชิงอินกล่าวไม่ทันจบ สวี่เซี่ยนเว่ยก็เอ่ยว่า “เหลวไหล ก็แค่ไข่มุกแดนใต้เม็ดเดียวไหม ลู่เหนียงจื่อ ชอบก็ให้นางไปก็ได้ เจ้าเหลวไหลอะไร ไว้พ่อคิดหาทางหามาให้เจ้าอีกเม็ดก็ได้”
สวี่ชิงอินได้ฟังสวี่เซี่ยนเว่ย แววตาก็ยิ้มส่องประกาย ออดอ้อนสวี่เซี่ยนเว่ยกล่าวว่า “ท่านพ่อ นี่เพราะท่านพ่อพูดนะ งั้นข้าไม่เอาเรื่องลู่เหนียงจื่อแล้ว”
วาจานี้เหมือนว่าลู่เจียวเก็บไข่มุกแดนใต้นางได้อย่างนั้นแหละ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเปล่งรัศมีไอเย็นรอบกาย พ่อลูกคู่นี้น่ารังเกียจมากจริงๆ
สวี่เซี่ยนเว่ยไม่ได้คิดให้ร้ายอะไรลู่เจียว ก็แค่ตนเองคิดเองเออเอง คิดว่าไข่มุกแดนใต้เม็ดเดียวไม่เท่าไร เขากลับไม่ทันคิดว่าหากวันนี้ลู่เจียวไม่แสดงความบริสุทธิ์ตนเอง ชื่อเสียงเสียหายนี้ก็จะตกอยู่กับนางแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นแววตาดำทะมึน มองสวี่เซี่ยนเว่ยดุดัน กล่าวว่า “สวี่เซี่ยนเว่ยคิดแน่ใจแล้วหรือว่า ภรรยาข้าเก็บไข่มุกแดนใต้พวกท่านได้”
พอเขากล่าวขึ้น สวี่เซี่ยนเว่ยก็คิดได้ทันทีว่าการกระทำของตนเองไม่ค่อยเหมาะสม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่สนใจเขา หันไปมองบรรดาสตรีในห้อง กล่าวว่า “ในเมื่อไข่มุกแดนใต้หายไปที่โต๊ะหลัก ตามหลักคนในโต๊ะหลักทุกคนก็ควรต้องโดนค้นตัว หรือว่าเพราะพวกเจ้ามีเงินก็ไม่ต้องค้นตัว บ้านเรายากจนก็ต้องถูกค้นตัวหรือ”
สีหน้าเขาดุดันอย่างที่สุด นายอำเภอหูรีบกล่าวว่า “ในเมื่อจะค้น ก็ต้องค้นทั้งโต๊ะ”
ฮูหยินซ่งรับสัญญาณสายตาจากนายอำเภอหู รีบลุกขึ้นยืนสีหน้าเข้มเอ่ยว่า “งั้นก็เริ่มค้นตัวข้าก่อนละกัน”
ฮูหยินนายอำเภอให้ค้นตัวแล้ว คนอื่นยังจะกล่าวอะไรได้
ผู้ใดก็ไม่กล้าส่งเสียงค้าน
ยามนี้ลู่เจียวก็ยืนขึ้น “ความจริงก็ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวยืนขึ้นพูด ก็รู้ว่ายามนี้นางต้องมีความคิดอะไร จึงถอยหลังก้าวหนึ่งเปิดทางให้ลู่เจียวพูด
ลู่เจียวก้าวมาถึงข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น มองสวี่ชิงอินตรงข้ามกล่าวว่า
“ข้ารู้สึกว่าคุณหนูสวี่จงใจหาเรื่องข้า ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าจึงหาเรื่องข้า”
พอลู่เจียวกล่าว สตรีในโถงงานเลี้ยงก็รู้สึกว่าสวี่ชิงอินจงใจหาเรื่องลู่เจียว แต่ละคนมองสวี่ชิงอินอย่างแปลกใจ
ตามหลักการแล้วสวี่ชิงอินกับลู่เหนียงจื่อน่าจะไม่เคยมีเรื่องกันถึงจะถูก อย่างไรคนเขาก็เพิ่งมาอำเภอชิงเหอ
นี่แท้จริงคือเรื่องอะไรกันแน่
ขณะทุกคนกำลังเดา ลู่เจียวก็เอ่ยอีกว่า “คุณหนูสวี่เอาแต่ยืนยันว่าข้าเก็บไข่มุกแดนใต้ได้ เหมือนแน่ใจว่าไข่มุกแดนใต้อยู่ที่ตัวข้า แต่ข้าไม่ได้เก็บไข่มุกแดนใต้ได้”
“ก่อนหน้านี้คุณหนูสวี่ยังคิดให้คนค้นตัวข้า ข้าสงสัยคุณหนูสวี่คิดฉวยโอกาสนี้ยัดไข่มุกแดนใต้ใส่ตัวข้า แต่ตอนนี้ยังไม่ทันได้ค้นตัว ดังนั้นข้าสงสัยว่าไข่มุกแดนใต้ยามนี้ยังอยู่ที่ตัวคุณหนูสวี่”
พอลู่เจียวกล่าว คนในงานเลี้ยงไม่น้อยต่างสีหน้าแปรเปลี่ยน แต่ละคนมองไปยังสวี่ชิงอิน
สวี่ชิงอินสีหน้าแปรเปลี่ยนทันที โมโหถลึงตาใส่ลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร ไข่มุกแดนใต้จะมาอยู่ที่ตัวข้าได้อย่างไร เห็นชัดๆ ว่าไข่มุกแดนใต้อยู่ที่ตัวเจ้า”
“ข้ารู้สึกว่าไข่มุกแดนใต้ตอนนี้น่าจะยังอยู่ที่ตัวเจ้า เพราะเจ้ายังไม่ทันให้คนได้ค้นตัวข้า ก็ไม่มีโอกาสยัดไข่มุกแดนใต้ใส่ตัวข้า ดังนั้นจะค้นตัวก็ต้องเริ่มค้นจากตัวคุณหนูสวี่ก่อน แน่ใจว่าตัวคุณหนูสวี่ไม่มีไข่มุกแดนใต้ จึงจะค้นตัวข้าได้”
สวี่ชิงอินได้ฟังคำพูดลู่เจียว ในใจก็อดแค่นเยาะไม่ได้ เห็นชัดว่าไข่มุกแดนใต้อยู่ในกระเป๋าพกเจ้า ยังว่าอยู่บนตัวข้า?