ต้าเป่าพูดขึ้นทันที “ท่านแม่บอกพวกเราว่าเจ้าโตกว่าพวกเราหนึ่งขวบ ท่านแม่เรากับท่านน้าหลี่สาบานเป็นพี่น้องกันแล้ว ดังนั้นเจ้าจึงเป็นพี่สาวพวกเรา”
เจ้าหนูที่เหลืออีกสามคนก็พยักหน้าเต็มแรง “ใช่ วันหน้าพวกเราก็จะเรียกเจ้าว่าพี่”
หูหลิงเสวี่ยดีใจมาก หยิบกล่องสามสี่ใบจากมือคนรับใช้ด้านหลังมากล่าวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่า “ในนี้คือตุ๊กตาน้ำตาลกับตุ๊กตาดินปั้นที่ก่อนหน้านี้พวกเจ้าชอบ ยังมีตุ๊กตาล้มลุกด้วย วันนี้ข้านำมามอบเป็นของขวัญให้พวกเจ้า”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบของเล่นหูหลิงเสวี่ยอย่างมากยิ่ง พอได้ยินว่านางนำมาด้วย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็กล่าวขอบคุณหูหลิงเสวี่ยพร้อมกันด้วยความดีใจ
“ขอบคุณพี่เสี้ยวเสี้ยว พี่ช่างดีจริงๆ”
หูหลิงเสวี่ยยิ้มส่งของขวัญให้
ผู้ใหญ่ในห้องโถงเห็นเด็กๆ อยู่ร่วมกันได้ดีก็ดีใจมาก
แต่จ้าวอวี้หลัวจ้องมองหูหลิงเสวี่ยเขม็งอย่างไม่พอใจ ก่อนจะมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวว่า “บ้านข้าก็มีของเล่นเยอะแยะ หากพวกเจ้าบอกว่าข้าดี ข้าย่อมมอบของขวัญให้พวกเจ้าแน่นอน”
น่าเสียดายเจ้าหนูน้อยทั้งสี่มองนางพร้อมกัน กล่าวว่า “เจ้าไม่รู้จักมารยาท พวกเราไม่เอาของขวัญของเจ้า”
จ้าวอวี้หลัวพอได้ฟังก็เบะปากร้องไห้อีก
ในห้องโถง ลู่เจียวรีบเอ่ยว่า “จ้าวอวี้หลัว เจ้าอยากเล่นกับน้องๆ ไหม หากอยากเล่นห้ามร้องไห้ เจ้าร้องไห้ก็จะไม่มีคนเล่นกับเจ้า”
จ้าวอวี้หลัวพอได้ฟังก็กลั้นเสียงสะอื้นไห้ได้ทันที แม้ว่านางยังคงไม่พอใจ แต่ยังดีที่ระงับเสียงร้องไห้เอาไว้ได้
ลู่เจียวมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวว่า “พวกเจ้าพาพี่เสี้ยวเสี้ยวกับพี่อวี้หลัวไปเล่นที่เรือนด้านหลัง”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ชอบหูหลิงเสวี่ย แต่กลับไม่ชอบจ้าวอวี้หลัว ดังนั้นจึงรู้สึกไม่ค่อยยินดีเท่าไร
ลู่เจียวรีบมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวว่า “แม้นางไม่รู้จักมารยาท แต่ผู้ที่มาเยือนล้วนเป็นแขก พวกเจ้าควรต้อนรับแขกให้ดี”
เด็กผู้ชายไม่ควรใจแคบเกินไป ต้องสอนให้ใจกว้างสักหน่อย
ลู่เจียวกล่าวจบก็มองไปยังจ้าวอวี้หลัว กล่าวน้ำเสียงเข้มงวดว่า “อยู่บ้านท่านน้าต้องรู้จักมารยาท ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีคนยอมเล่นกับเจ้า”
จ้าวอวี้หลัวเหมือนยอมรับได้แล้ว เพราะที่นี่ไม่มีคนฟังคำพูดนาง และไม่มีคนคอยเอาใจนาง นางจึงได้แต่อดกลั้นไว้แล้ว
“ข้าทราบแล้ว”
ลู่เจียวให้ลู่กุ้ยพาเด็กๆ ไปเล่นที่เรือนด้านหลังและให้เขาคอยดูไว้ด้วย
ลู่กุ้ยรีบพาเด็กๆ ไปเรือนด้านหลังทันที
ลู่เจียวยิ้มมองหูซ่านกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น เอ่ยขึ้นว่า “ข้าพาพี่อวี้เหยากับผิงอันไปคุยที่เรือนด้านหลัง พวกเจ้าคุยกันที่เรือนด้านหน้าแล้วกัน”
หูซ่านรีบพยักหน้า “รบกวนลู่เหนียงจื่อต้อนรับภรรยาข้าแล้ว”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ลู่เจียวพาหลี่อวี้เหยากับผิงอันไปเรือนด้านหลัง เรือนด้านหน้าหูซ่านคุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเรื่องที่บิดาให้เขามาเชิญเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปเป็นที่ปรึกษาหลังม่าน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็กล่าวว่า “ได้ ไว้ข้าไปคุยรายละเอียดนายอำเภอหูเอง”
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นรับปาก หูซ่านก็คิดว่าตนเองฟังผิด ก่อนหน้านี้เขาเตรียมวาจาเกลี้ยกล่อมเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาไม่น้อย คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันได้นำมาใช้งานเลย
ทั้งสองคนคุยกัน สานต่อมิตรภาพเพิ่มพูนยิ่งขึ้น
ที่เรือนด้านหลัง ลู่เจียวกับหลี่อวี้เหยาก็ยิ่งพัฒนามิตรไมตรีต่อกัน ทั้งสองคนคุยไปหัวเราะไปราวกับสหายสนิทรู้ใจ
อาจเพราะหลี่อวี้เหยาอยากคบหาลู่เจียวด้วยความจริงใจ ทำให้ลู่เจียวรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ จึงเห็นหลี่อวี้เหยาเป็นดังหสายสนิทและพี่สาวร่วมสาบาน ทำให้บรรยากาศอบอุ่นอย่างมาก
ลู่เจียวเห็นหลี่อวี้เหยาให้แม่นมพาผิงอันไปให้นม ก็เสนอว่า “เจ้าให้นมด้วยตนเองได้ไหม”
พอพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าหลี่อวี้เหยาก็แอบไม่พึงพอใจสักเท่าไร นางมองลู่เจียวพลางถอนหายใจ กล่าวว่า “กล่าวกับน้องเจียวตามตรง ข้าอยากให้นมบุตรชายข้าด้วยตนเอง แต่แม่สามีไม่ยอม”
ลู่เจียวตกใจถามว่า “ทำไมไม่ยอม เด็กกินนมมารดา ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของมดลูกมารดา และการป้อนนมยังทำให้ไม่เกิดโรคท่อนมอักเสบได้ง่าย ที่สำคัญที่สุดก็คือความผูกพันแม่ลูกลึกซึ้ง ลูกก็จะมีความรู้สึกปลอดภัย”
สีหน้าหลี่อวี้เหยายิ่งแย่ลง เอ่ยกับลู่เจียวเบาๆ ว่า “เจียวเจียว ข้าบอกเจ้านะ แม่สามีข้าเห็นกันอยู่ว่ามีชาติกำเนิดมาจากบ้านนอก แต่นางกลับเอาแต่วางท่าทางเหมือนพวกตระกูลใหญ่ นิดหน่อยก็อ้างแต่ระเบียบธรรมเนียม อย่างเช่นว่า นางรับอนุให้พ่อสามีข้าเอง เจ้ารู้ไหม บ้านเราตอนนี้มีบุตรสาวที่เกิดจากอนุสองคน คนหนึ่งชื่อหูอิ้งเยว่ อีกคนชื่อหูอิ้งเสวี่ย คนเล็กนั่นปีนี้เพิ่งเจ็ดขวบ”
“อนุสองคนนี้ก็เป็นแม่สามีข้าหามาให้ นางบอกว่านายหญิงตระกูลใหญ่ต้องคอยหาอนุให้สามีตนเอง ดังนั้นพอพ่อสามีข้าสอบผ่านจิ้นซื่อได้เป็นนายอำเภอ แม่สามีก็หาอนุให้พ่อสามีข้าสองคน ก็คือมารดาของหูอิ้งเยว่กับหูอิ้งเสวี่ย”
“พอมาถึงบุตรชายนาง นางก็จะทำเช่นนี้ แต่ถูกพ่อสามีข้าระงับไว้ แต่แม้เป็นเช่นนี้ หูซ่านเองก็มีหญิงรับใช้ข้างกายคอยอุ่นเตียงถึงสองคน”
หลี่อวี้เหยาเล่าจบก็หันไปถามลู่เจียว “แม่สามีเจ้าดีกว่าใช่ไหม”
หญิงบ้านนอกน่าจะดีกว่าสักหน่อยไหม
ลู่เจียวคิดถึงหร่วนซื่อขึ้นมาทันที หรือว่าแม่สามีในใต้หล้านี้ต่างชอบหาอนุให้บุตรชาย
โชคดีที่วันหน้านางก็จะแยกจากเจ้าหนูน้อยทั้งสี่แล้ว ไม่มีโอกาสได้เป็นแม่สามี แต่ลู่เจียวรู้สึกว่าแม้ตนเองอยู่ข้างกายเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ต่อ ก็ย่อมไม่ทำเรื่องหาอนุให้บุตรชายอย่างแน่นอน ไยต้องหาเรื่องรังแกผู้หญิงด้วยกัน
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “แม่สามีข้าร้ายกาจกว่าแม่สามีเจ้า แต่ถูกพ่อสามีข้าหย่าไปแล้ว ตอนนี้ข้าไม่มีแม่สามีแล้ว”
หลี่อวี้เหยาส่งเสียงอุทานตกใจ ขนาดชาวบ้านในหมู่บ้านยังหย่าภรรยาได้ แต่สุดท้ายก็นึกอิจฉาลู่เจียวขึ้นมา
“เจียวเจียว ไม่มีแม่สามีนี่ดีจริงๆ มีแม่สามีปวดหัวยิ่ง ก็เหมือนกับครั้งนี้ที่ข้าให้กำเนิดบุตรชาย ข้าเองก็มีน้ำนม คิดป้อนนมเอง แต่แม่สามีเอาแต่ว่าตระกูลใหญ่ที่ไหนมีมารดาให้นมบุตรด้วยตนเอง ต้องให้แม่นมให้ หลังจากนั้นบุตรชายข้าก็เลยต้องกินนมจากแม่นมแทน”
ลู่เจียวได้ฟังหลี่อวี้เหยาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เจ้าห้ามตามใจแม่สามีเจ้าในเรื่องนี้เด็ดขาด หากปล่อยเช่นนี้ไป วันหน้าบุตรชายเจ้าต้องเหินห่างจากเจ้า เจ้าทุ่มเทแรงกายคลอดบุตรชายออกมาอย่างยากลำบาก ปล่อยให้เหินห่างไปเช่นนี้ เจ้าไม่ปวดใจหรือ”
ตนเองเลี้ยงดูเติบใหญ่เองจึงจะสนิทสนม ให้แม่นมป้อนนมจนโต ก็จะสนิทกับแม่นมแทน
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็มองหลี่อวี้เหยา กล่าวว่า “หากเจ้ายังมีน้ำนม ข้าก็คิดวิธีบ้านๆ นำน้ำนมเจ้าออกมาได้”
หลี่อวี้เหยารีบส่ายหน้ากล่าวว่า “ข้าเคยแอบป้อนนมอยู่บ้าง ดังนั้นพอยังมีน้ำนมอยู่ และเพราะข้าไม่ได้ป้อนนม ทำให้บางครั้งรู้สึกปวดมาก”
หลี่อวี้เหยากล่าวจบก็รู้สึกว่าน้องสาวคนนี้ตนเองรับมาไม่ได้เสียเปล่า นางคิดเพื่อนางเสมอ
ไม่เหมือนน้องสาวกับท่านแม่นาง พูดเรื่องนี้กับพวกนาง พวกนางถึงกับว่าแม่สามีนางทำถูก นี่คือญาติสนิทหรือ
ลู่เจียวได้ยินว่าหลี่อวี้เหยายังมีน้ำนม ก็เสนอขึ้นอย่างดีใจมาก
“วันหน้าเจ้าไม่ต้องฟังคำแม่สามี แต่ก็อย่าได้ปะทะกับนาง ขอเพียงแอบปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เช่น เจ้าอาจผลัดกันป้อนกับแม่นม ขอเพียงเจ้ามีน้ำนม เจ้าก็ให้เอง ตอนไหนไม่พอ ก็ให้แม่นมป้อน แต่เรื่องนี้ต้องรู้กันแต่ในเรือนเจ้า ไม่ให้ผู้อื่นรู้”
“อีกอย่างหญิงรับใช้ข้างกายคอยอุ่นเตียงสามีเจ้าสองคนนั่นก็ต้องหาทางจับผิดไล่พวกนางไป ต้องแบ่งปันสามีตนเองกับหญิงอื่น เจ้าไม่ปวดใจหรือ”
คำพูดลู่เจียวทำเอาหลี่อวี้เหยาแปลกใจมาก คนปกติได้ยินเรื่องเช่นนี้ก็จะปลอบใจนางให้เป็นภรรยาที่ดี ต้องหาอนุให้สามีด้วยตนเอง แต่ไรมาไม่เคยมีใครบอกนางว่าอย่าแบ่งปันสามีกับหญิงอื่น
“เจียวเจียว เจ้าไม่เห็นด้วยที่ผู้ชายรรับอนุหรือ”