ตู้หลันจูได้ฟังก็นึกรังเกียจ เด็กตัวแค่นั้นจะต้องสอนอะไร รอพวกเขาโตอีกหน่อยก็รู้ความเอง อีกอย่างนางแต่งตัวไปเดินเล่นซื้อของก็ใช้เงินสินเดิมนางเอง เกี่ยวอะไรกับเขาด้วย
ตู้หลันจูยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สีหน้าพลันย่ำแย่ขึ้นมาทันที
ยามนี้ ลู่เจียวกำลังเดินเข้าประตูมาพอดี
พอหันถงเห็นลู่เจียวเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นยิ้มทักทาย “พี่สะใภ้ มาแล้วหรือ”
ตู้หลันจูเห็นสามีตนให้เกียรติลู่เจียวเช่นนี้ก็โมโห เขาเคยดีกับนางเช่นนี้เมื่อไรกัน วันๆ เอาแต่รังเกียจนาง ว่านางนี่ไม่ดี นั่นไม่ดี เขาดีเลย แล่นมายกหางหญิงอื่น
ตู้หลันจูมองภาพตรงหน้า โมโหจนลืมคำที่หันถงกำชับนางก่อนมา หากเจ้ากล้าก่อเรื่องอีก ก็จะหย่ากับเจ้า ขับไล่เจ้าออกจากตระกูลหันไป
“นางปีศาจจิ้งจอก หน้าไม่อาย รู้จักแต่ล่อลวงผู้ชาย”
ตู้หลันจูด่าออกมาราวกับปากไร้หูรูด
ทุกคนในห้องโถงสีหน้าดำทะมึน เซี่ยอวิ๋นจิ่นเปล่งรัศมีเย็นเยียบดุดันรอบกาย แววตาดุดันเข้มยิ่งกว่าหมึกดำ
เขาหันไปจ้องมองหันถง “นี่คือที่เจ้าว่าจะมาขอโทษหรือ ลบหลู่ครั้งเดียวไม่พอ ครั้งสองยังมาลบหลู่ผู้อื่นอีก”
หันถงโมโหจนก้าวเข้าไปหาตู้หลันจูทันที ยกมือคิดตบหน้าตู้หลันจู
ตู้หลันจูเชิดหน้าขึ้นทันที ตะโกนอย่างเอาเรื่องดุดันขึ้น “เจ้าตบสิ ตบหน้าข้าเลย ข้าอยากดูนักว่าเพื่อนางปีศาจจิ้งจอกนี่ เจ้าทำร้ายภรรยาตนเองให้ต้อยต่ำได้เพียงใด”
สีหน้าลู่เจียวดำทะมึนไปหมด ความจริงนางไม่รู้จริงๆ ว่าตู้หลันจูเกลียดนางเพราะเหตุใด
นางกับหันถงไม่ค่อยได้พบปะอะไรกันเท่าไรจริงๆ
แต่หากหันถงกับตู้หลันจูมีเรื่องตบตีกันที่บ้านพวกนาง ส่งผลต่อชื่อเสียงบ้านพวกนางจริงๆ
ลู่เจียวรีบเรียกเสียงเข้ม “หันถงจะตบตี ก็พากลับไปตบตีที่ตระกูลหันเจ้า”
หันถงคิดแล้วก็มีเหตุผล เขาตั้งใจมาทำอะไรที่ตระกูลเซี่ยกัน
หันถงชักมือกลับ ตู้หลันจูเห็นหันถงชักมือกลับ กลับวิ่งเข้าชนเขาราวกับหญิงชั่วร้าย “เจ้าตบสิ เจ้าตบข้าให้ตายวันนี้เลยสิ ข้าอยากดูนักว่าเพื่อหญิงผู้นี้ เจ้าจะทำได้ถึงขั้นไหนกัน ใครก็ได้มาดูสามีข้าตบตีภรรยาตนเองเพื่อนางปีศาจจิ้งจอกนี่เร็ว”
ในห้องโถงตระกูลเซี่ย สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นดำทะมัน ตวาดเสียงเยียบเย็น “หุบปาก”
ตู้หลันจูถูกเขาตวาดเข้าก็หยุดตะโกนทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องมองตู้หลันจูด้วยสายตาดุดัน กล่าวทีละคำว่า “เจ้ากล้าพูดอีกคำเดียว ข้าก็จะให้คนลากเจ้าไปตบปาก”
แม้ว่าตู้หลันจูหาเรื่อง แต่ในใจก็รู้อยู่บ้างว่าลู่เจียวไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรกับหันถง คนเขามีสามี มีลูกแล้ว สามีนางยังหล่อกว่า ลูกๆ นางก็หน้าตาดีกว่า นางจะไปต้องตาต้องใจหันถงได้อย่างไร ดังนั้นพวกเขาสองคนไม่ได้มีอะไรกัน
สาเหตุที่ตนเองไม่พอใจลู่เจียวล้วนเพราะหันถงเอาแต่บอกว่าลู่เจียวดี ว่านางไม่ดี
เรื่องนี้หากเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา คนที่เสียเปรียบก็คือนางเอง
ตู้หลันจูรีบเงียบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางเงียบ ก็มองไปยังหันถงออกคำสั่งดุดันว่า “เจ้าพานางกลับไป วันหน้าอย่าได้พานางมาบ้านข้าอีก คำขอโทษของนาง พวกเรารับไม่ไหว”
แม้แต่ใจคิดสังหารตู้หลันจู หันถงก็มีแล้ว สีหน้าดำทะมึนหันหลังเดินไปทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังมองเห็นรอบกายเขาเปล่งรัศมีพิฆาตราวกับจะสังหารคน ก็กลัวจริงๆ ว่าเขาจะทำอะไรที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง รีบเรียกเขาไว้ “หันถงอย่าโมโหจนทำเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง บ้านเจ้ามีคนแก่และเด็ก ไม่จำเป็นต้องทำไปเพราะสตรีโง่เง่าคนหนึ่ง และเจ้าควรพิจารณาครอบครัวเจ้าในวันหน้าให้ดีๆ ภรรยาดีก่อหายนะน้อยนะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น โดนใจหันถงเข้าพอดี
ความจริงก่อนที่จะมาวันนี้ เขายังมีใจคิดอบรมตู้หลันจู อย่างไรตนก็แต่งนางมาแล้ว ควรจะชี้แนะนางให้ดี ทั้งสองคนยังมีบุตรชายสองคน แต่ตอนนี้เขาหมดใจกับตู้หลันจูแล้ว
หญิงผู้นี้ถึงตายก็ไม่เปลี่ยนนิสัย นางแก้ไขไม่ได้แล้ว มีนางอยู่ เขากับอวิ๋นจิ่นไม่อาจคบหาเป็นสหายสนิทได้ นับประสาอันใดกับที่อวิ๋นจิ่นว่า ภรรยาดีก่อหายนะน้อย วันหน้าหญิงผู้นี้เกรงว่าจะนำพาหายนะมาสู่เขา ดังนั้นหญิงผู้นี้ไม่อาจเอาไว้ได้อีก
หันถงตัดสินใจว่ากลับไปก็จะเขียนหนังสือหย่า ให้ตู้หลันจูไสหัวกลับตระกูลตู้ไป
วันหน้านางจะเป็นอย่างไร เขาขี้เกียจจะสนใจ
หันถงประสานมือมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ขอบคุณ”
เขารู้ว่าคำพูดเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาจากใจ เมื่อครู่นี้เขาหุนหันพลันแล่นคิดกลับไปสังหารตู้หลันจูจริงๆ เช่นนี้ ก็จะทำผิดมหันต์แล้วจริงๆ
หันถงกับตู้หลันจูออกจากบ้านตระกูลเซี่ยไปกันอย่างรวดเร็ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบขอโทษลู่เจียว “ขอโทษ ล้วนเป็นข้าที่สะเพร่าจึงได้ปล่อยให้เจ้าถูกหญิงผู้นั้นด่าทอ”
ก่อนหน้านี้เขาเห็นแก่หน้าหันถง จึงต้องไว้หน้าเขาอยู่บ้าง ให้ลู่กุ้ยไปเชิญลู่เจียวมา คิดไม่ถึงว่าตู้หลันจูจะด่าลู่เจียวต่อหน้าว่านางปีศาจจิ้งจอก
แม้ว่าลู่เจียวจะโกรธ แต่ก็ไม่ได้โกรธจนขาดสติ ตอนนี้มาได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวขอโทษ นางก็ไม่โกรธแล้ว
เพียงแต่นางแปลกใจมาก นางก็ไม่ได้ล่วงเกินตู้หลันจู ทำไมอีกฝ่ายถึงเกลียดนางเช่นนี้ได้
“ข้าไม่ได้รู้จักตู้หลันจูเลย ทำไมนางเกลียดข้าอย่างนั้น ก่อนหน้านี้บ้านเราจัดงานเลี้ยง หันถงพาลูกสองคนมา เจ้าเด็กสองคนนั่นก็ไม่อยากเจอข้า ข้ายังคิดสาเหตุไม่ออก ตอนนี้คิดแล้วน่าจะเป็นท่านแม่พวกเขาพูดอะไรต่อหน้าพวกเขา”
“แต่ข้าคิดไม่ตกจริงๆ ว่าตู้หลันจูโมโหอะไร ระหว่างข้ากับหันถงก็ไม่ได้มีพบปะกันมากมายอะไร”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียว คิดแล้วก็เดาว่า “น่าเพราะหันถงเอาเจ้าไปเปรียบกับนาง ว่านางอบรมลูกไม่เป็น อะไรพวกนี้ เพราะเรื่องนี้ นางเลยจำฝังใจเคียดแค้นเจ้า”
ลู่เจียวได้ฟังคำเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พลันไร้วาจาจะกล่าว มองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ทำไมเขาไปบอกภรรยาตนว่าภรรยาผู้อื่นดีกว่ากัน นี่จะไม่ให้ภรรยาตนโมโหได้หรือ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าไม่เป็นมิตรนัก แค่นเสียงฮึเยียบเย็น “นางแน่จริงก็ไปโกรธหันถงสิ ไประบายใส่หันถงสิ แต่นางไม่ตำหนิหันถง กลับมาตำหนิเจ้า เห็นพวกเรารังแกง่ายหรือไง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แววตาดุดัน พอคิดถึงว่าตู้หลันจูด่าลู่เจียวว่านางปีศาจจิ้งจอกล่อลวงผู้ชายอื่น ก็โมโหอยากจะตีหญิงผู้นั้นให้ตายเสียจริง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหรี่ตาลงอย่างไม่รู้ตัว ตู้หลันจูกล้ารังแกภรรยาเขา เขาไม่ปล่อยนางไว้แน่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็หรี่ตา ลู่เจียวลุกขึ้นจะกลับ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันคิดถึงเรื่องหนึ่งได้ก็เรียกลู่เจียวไว้
“ลู่เจียว มีเรื่องหนึ่งข้าอยากหารือกับเจ้าสักหน่อย”
ลู่เจียวรีบนั่งลงทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางแล้วก็เล่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนถึงเรื่องที่นายอำเภอหูเชิญเขาไปเป็นที่ปรึกษาเบื้องหลัง
“ความจริงข้าเป็นห่วงว่าข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้นายอำเภอหูจะนำพาอันตรายมาให้เจ้ากับลูกทั้งสี่ ดังนั้นจึงไม่ได้รับปากนายอำเภอหู แต่ตอนนี้ดูท่าแม้ข้าไม่รับปากเป็นที่ปรึกษาให้นายอำเภอหู เรื่องที่ควรเกิดก็ไม่ได้เกิดน้อยลงเลย ดังนั้นข้าคิดดูแล้ว หรือว่าจะไปเป็นที่ปรึกษาเบื้องหลังให้นายอำเภอหูดี”