ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย – ตอนที่ 307 เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าเขาใจร้าย

ตอนที่ 307 เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าเขาใจร้าย

ช่างไม้ทำงานไปก็คุยกับลู่เจียวไป “ลู่เหนียงจื่อ ท่านฉลาดหลักแหลมจริง ถึงกับคิดของเล่นมากมายให้คุณชายได้เรียนรู้กัน”

ลู่เจียวกำลังเอาหนังสือที่ซื้อมาตอนเช้าจัดเรียงขึ้นชั้นหนังสือ ชั้นหนังสือในห้องล้วนเป็นชั้นหนังสือเตี้ยๆ เพื่อให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หยิบหนังสือมาอ่านเองได้สะดวก

ลู่เจียวได้ฟังช่างไม้พูดก็อดยิ้มไม่ได้ กล่าวว่า “แค่พอได้เท่านั้น”

ความจริงนางก็แค่เลียนแบบจากโรงเรียนอนุบาลในยุคปัจจุบันเท่านั้น ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุข อย่าได้พอหวนคิดถึงวัยเด็กก็มีแต่พวกสี่คัมภีร์ห้าตำราขงจื่ออะไรพวกนี้

ลู่เจียวกล่าวจบ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่แสนมีความสุขเอ่ยชมขึ้นว่า “ท่านแม่ข้าไม่ใช่ฉลาดธรรมดานะ ของที่นางทำเป็นมีเยอะแยะเลย ไม่เพียงแต่พวกนี้ นางยังทำของเล่นเป็นตั้งเยอะแยะ ไม่เพียงแต่ทำของเล่นเป็น ยังล่าสัตว์เป็น รักษาผู้ป่วยเป็น ยังหาเงินได้มากมายอีกด้วย สรุป นางคือท่านแม่ที่ร้ายกาจอันดับหนึ่งในโลกเลย”

“ใช่แล้ว ท่านแม่ยิงธนูก็เก่ง วิชาการแพทย์ก็เก่งกาจมาก ผู้อื่นรักษาไม่ได้ ท่านแม่ข้ารักษาได้หมด”

ช่างไม้ได้ฟังเด็กๆ พูดมาก็ตกใจอุทานขึ้น “จริงหรือเท็จกัน”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กำลังจะพูดต่อ ลู่เจียวก็ยิ้มรับคำกล่าวต่อว่า “ก็แค่รักษาโรคธรรมดาทั่วไปเล็กน้อย ไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้น”

นางไม่อยากให้ตนเองเป็นที่รู้จักว่าเก่งกาจขนาดนั้น ไม่งั้นเดี๋ยวทุกคนก็คงพากันมาหานางที่บ้านกันหมด

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็มองไปยังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “พวกเจ้าสี่คนเอาของเล่นที่ซื้อมาตอนเช้าไปเก็บในกล่องไม้ของตัวเอง แล้วยกกล่องไม้ไปเก็บเรือนด้านหลัง วันหน้ามีของเล่นอะไรอีก ก็เอาไปเก็บไว้ในกล่องไม้ของตัวเอง”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พยักหน้าอย่างดีใจทันที ข้างนอกห้องยามนี้มีศีรษะเล็กผลุบๆ โผล่ๆ ชะเง้อมองเข้ามาอยู่

ลู่เจียวเห็นว่าคนที่ชะเง้อมองมาก็คือหลินซี บุตรชายคนเล็กของหลินต้า เด็กคนนี้พอมาอยู่บ้านตระกูลเซี่ยก็ล้มป่วยด้วยโรคหวัด ระยะนี้พักรักษาตัวอยู่ ก่อนหน้านี้ลู่เจียวเขียนใบสั่งยาให้เขา ตอนนี้ดูท่าจะหายแล้ว

พอหลินซีมา เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ดีใจกวักมือเรียกให้เขาเข้ามา

ทุกคนหยิบของเล่นชิ้นหนึ่งให้หลินซีกล่าวว่า “หลินซี เจ้าป่วยไม่ใช่หรือ พวกเราซื้อของเล่นให้เจ้า เดิมตั้งใจว่าจะเอาไปให้เจ้า ตอนนี้เจ้ามาแล้ว ก็ให้เจ้าเลยแล้วกัน”

หลินซีรู้สึกตกใจที่เป็นที่รักของทุกคน ความจริงสองสามวันนี้ท่านพ่อท่านแม่กับพี่ชายเขาล้วนเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือกลัวว่าเจ้านายจะไล่เขาออกไป

เพราะคนรับใช้ในหลายครอบครัว พอล้มป่วยก็จะถูกขับไล่

คิดไม่ถึงว่านายหญิงไม่เพียงแต่ไม่ได้ขับไล่เขาออกไป ยังเขียนใบสั่งยาให้เขากิน ตอนนี้คุณชายน้อยยังให้ของเล่นเขาอีก ขอบตาหลินซีแดงก่ำ

แต่เขาไม่กล้ารับ หันไปมองลู่เจียว ลู่เจียวเห็นหลินซีมองนางก็ยิ้มกล่าวว่า “คุณชายน้อยให้เจ้า เจ้าก็รับไว้ วันหน้าไม่มีอะไรก็ช่วยข้าดูแลคุณชายน้อยก็พอ”

หลินซีรับของเล่นที่เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้เอาไว้อย่างดีใจ ยังกล่าวขอบคุณคุณชายน้อยทั้งสี่ “ขอบคุณคุณชายน้อยมากขอรับ”

ต้าเป่าทำสีหน้าเป็นผู้ใหญ่ โบกมือกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เจ้าก็เหมือนคนในครอบครัวเรา เจ้าล้มป่วย เรามอบของขวัญให้เจ้าก็สมควรอยู่ วันหน้าไม่มีอะไรก็มาเล่นกับพวกเราแล้วกัน”

หลินซีรีบพยักหน้าเต็มแรง ช่วยเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ยกกล่องของเล่นออกไป แต่พวกเขาตัวเล็กจึงยกไม่ค่อยไหว

สุดท้ายลู่กุ้ยเป็นคนช่วยพวกเขาขนกล่องใส่ของเล่นออกไป

ช่างไม้ในห้องมองมาทางลู่เจียว คิดจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เป็นนานก่อนจะเอ่ยถามขึ้นเสียงเบาว่า “ลู่เหนียงจื่อ วันหน้าพวกเราทำของที่ทำให้บ้านท่านไปทำให้บ้านคนอื่นได้ไหม”

ช่างไม้รู้ว่าของที่ตระกูลเซี่ยสั่งทำพวกนี้ หากพวกตระกูลใหญ่ได้เห็น ต้องมีหลายคนอยากสั่งทำด้วยแน่ เช่นนั้นก็จะสน้างรายได้ให้พวกเขาอย่างมาก

ช่างไม้กล่าวจบ ก็รีบกล่าวว่า “เอาเป็นว่าครั้งนี้พวกเราช่วยบ้านท่านทำของพวกนี้ ไม่เอาค่าแรง ได้ไหมขอรับ”

บรรดาช่างไม้ในห้องจ้องมองลู่เจียวท่าทางระแวดระวัง กลัวลู่เจียวไม่เห็นด้วย

ความจริงลู่เจียวไม่คิดมาก นางไม่ได้อยากจะอาศัยเรื่องพวกนี้หาเงิน ช่างไม้เอาของพวกนี้ไปหาเงินได้ ก็เป็นเรื่องดี

นางยิ้มมองพวกช่างไม้กล่าวว่า “หากมีคนคิดอยากทำ พวกเจ้าก็ช่วยทำให้พวกเขาได้เลย ส่วนเงินค่าแรงที่ทำให้บ้านข้านั้นก็จ่ายตามเดิม พวกเจ้าวางใจได้”

คนพวกนี้เป็นคนที่หันถงหามาให้นาง ล้วนเป็นคนซื่อและทำงานเก่ง ชีวิตความเป็นอยู่ช่างไม้ปกติก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร นางจะไปหักเงินค่าแรงพวกเขาได้อย่างไร

ช่างไม้ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ดีใจกล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อ ท่านเป็นคนดียิ่ง ค่าแรงงานครั้งนี้พวกเราไม่ขอรับแล้ว”

พวกเขานึกภาพออกว่าหากพวกเขาเอาของเช่นนี้ออกไปขาย ย่อมทำเงินได้ก้อนหนึ่ง ดังนั้นไม่เอาค่าแรงที่ทำให้ลู่เหนียงจื่อแล้วกัน

ลู่เจียวไม่ได้กล่าวมากความต่อ ไว้ทำงานเสร็จค่อยจ่ายเงินค่าแรงก็แล้วกัน

บรรยากาศในห้องดีอย่างมาก พวกช่างไม้ก็ยิ่งมีแรงทำงาน

ลู่เจียวจัดของที่เรือนด้านหน้าเสร็จก็กลับเรือนด้านหลัง ใช้พู่กันเขียนเลขอารบิก เตรียมแปะเลขเหล่านี้ไว้บนกำแพงห้อง นอกจากนี้นางยังเขียนสูตรคำนวณ ไว้สอนเจ้าหนูน้อยทั้งสี่คำนวณ ยังเขียนนิทานเตรียมไว้สอนภาษาอีกหลายเล่ม เอาไว้ในห้องให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่อ่าน

นิทานที่ลู่เจียวเขียนส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องราวการสอน เช่น ขยันทำงานหนัก คุณธรรมยิ่งใหญ่ กตัญญูรู้มารยาท สรุปล้วนเป็นนิทานที่มีคุณค่า

เดิมนางยังคิดเขียนนิทานที่มีบทละครเพื่อจะได้เขียนบทละคร นางตั้งใจว่าจะสอนเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ป้องกันตัวจากผู้ร้าย เช่น โจรลักพาตัวที่พวกเขาพบเจอในวันนี้ หากถูกลักพาตัวไปแล้วจะรับมืออย่างไร และวิธีการแยกแยะคนข้างกายว่าดีหรือเลว

เพียงแต่ลู่เจียวยังไม่ทันเขียนนิทานที่มีบทละคร เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็เดินเข้ามา

ลู่เจียวเห็นสีหน้าเขาเยียบเย็น คิ้วขมวดหน้าตาบึ้งตึง ก็รู้ว่าตอนบ่ายเขาไปดูคดีที่ที่ว่าการอำเภอมาน่าจะไม่ราบรื่น โจรที่ถูกจับได้ผู้นั้นน่าจะไม่ยอมบอกว่าคนบงการเบื้องหลังคือผู้ใด

“โจรนั่นไม่ยอมบอก?”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวเท้ายาวๆ ไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะหนังสือของลู่เจียว

“อืม มือปราบจ้าวใช้การลงทัณฑ์ โจรนั่นยังกัดฟันทน อย่างไรก็ไม่ยอมบอก”

ลู่เจียวแปลกใจ “เจ้าโจรนี่ก็ซื่อสัตย์ภักดีเหมือนกันนี่”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้ตอบ แต่กล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าโจรนี่ไม่ได้ปริปาก แต่ถูกข้าหลอกความออกมาได้บ้าง”

ลู่เจียวพอได้ฟังคำพูดนี้ก็รู้สึกสนใจ ยืดตัวนั่งตรงมองเขา “ผู้ใด”

“ตู้หลันจูบงการให้ทำ” แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเต็มไปด้วยความเย็นเยียบดุดันอย่างที่สุด ก่อนหน้านี้เขาได้ให้บทเรียนตู้หลันจูไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าหญิงผู้นี้ยังไม่รู้จักแก้ไข ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าโทษว่าเขาโหดเหี้ยม

ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาหลินตงออกไปสืบเรื่องตู้หลันจู ปรากฏพบว่าตู้หลันจูแอบมีความสัมพันธ์กับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องตนเอง ปกติหันถงไม่อยู่บ้าน พี่ชายนางผู้นั้นจึงเป็นเพื่อนเดินตลาด กินข้าวและซื้อเสื้อผ้ากับนาง ทั้งสองคนสนิทชิดเชื้อกันอย่างมาก

ตอนเซี่ยอวิ๋นจิ่นตรวจสอบเรื่องนี้ก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากนัก คนมากมายต่างรู้เรื่องนี้ มีแต่พวกตระกูลหันโง่งั่งที่ไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านรอบๆ ต่างแอบหัวเราะเยาะพวกเขา พวกเขาเองกลับไม่รู้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นตรวจสอบเรื่องนี้เจอก็วางแผนทั้งคืน หลอกพี่ชายลูกพี่ลูกน้องตู้หลันจูออกมา และก็ตามตู้หลันจูออกมาเช่นกัน ปรากฏว่าเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้น

ในที่สุดหันถงก็รู้เรื่องที่ตู้หลันจูแอบมีความสัมพันธ์กับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องผู้นี้ เดิมเขาก็รังเกียจหญิงผู้นี้คิดจะหย่านางอยู่แล้ว

แต่เพราะการค้าตระกูลหันและตระกูลตู้สองตระกูล พอเขาบอกว่าจะเขียนหนังสือหย่าตู้หลันจู ท่านพ่อท่านแม่เขาไม่เห็นด้วย แต่พอนี้ตู้หลันจูก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น

สองผู้เฒ่าตระกูลหันก็รีบเห็นด้วยทันที

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย

Status: Ongoing

เพราะสามีดันเป็น ‘ตัวร้าย’ สุดโหด ภารกิจแก้เดธแฟลคจึงเริ่มต้นขึ้น!

แพทย์ทหารจิตใจงดงามจากศตวรรษที่ 21 ผู้หนึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลเลยซื้อนิยายมาอ่าน

ในเนื้อหานิยายมีตัวร้ายอยู่สี่คน ไม่มีเรื่องชั่วใดไม่ทำ สังหารคนโดยไม่กะพริบตา

ทว่าภายหลังตัวร้ายสี่คนนี้ถูกพระเอกนางเอกร่วมมือกันสังหาร แต่ชายสี่คนนี้ดันมีบิดาเป็นถึงโส่วฝู่

เพื่อที่จะแก้แค้นแทนบุตรชาย เขาจึงกลายเป็นจอมปีศาจชั่วร้าย

สุดท้ายพระเอกนางเอกล้วนถูกฆ่าตาย…และนางก็ดันทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาที่จะตายแต่ยังสาวของตัวร้ายผู้นั้น!

เพื่อเปลี่ยนชะตาความตายที่จะเกิดขึ้นนางจำต้องหลีกหนีให้ไกลจากตัวร้ายผู้นี้

ทั้งสองจึงทำสัญญากันหากนางสามารถรักษาขาที่บาดเจ็บของ เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตัวร้ายจอมโหดจนหายดีได้

เขาจะหย่าให้นาง และนางจะได้ไปใช้ชีวิตอิสระหลีกหนีเดธแฟลคที่จะเกิดขึ้น!

ปฏิบัติการการเอาอกเอาใจสามีตัวร้ายและขุนลูกชายแฝดสี่ให้จ้ำม่ำจึงเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท