เด็กสาวอายุสิบสามสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจหวาดกลัว คว้าเสื้อผ้าลู่เจียวราวกับคนกำลังจมน้ำคว้าขอนไม้พยุงตัวไว้
ลู่เจียวรีบกล่าวว่า “เจ้ารีบลุกขึ้น บอกข้าหน่อยว่าตอนนี้สภาพท่านแม่เจ้าเป็นอย่างไร”
นางกล่าวจบก็หันหลังเดินเข้าบ้านตระกูลซู มีคนตามมาเป็นพรวน ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจา ซูจิ่นซิ่วร้องไห้กล่าวว่า “วันนี้เกิดเรื่องมากมาย ข้าไม่รู้ว่าจะเล่าอย่างไร สรุปเพราะเรื่องต่างๆ ตอนกลางวัน ข้าเป็นห่วงท่านแม่ข้า ดังนั้นจึงไม่ได้นอนทั้งคืน ตกดึกก็ยังนอนไม่หลับ ครุ่นคิดอยู่ว่าจะไปนอนเป็นเพื่อนคุยกับท่านแม่ สักหน่อย คิดไม่ถึงว่าตอนข้าไปถึงห้องท่านแม่ ก็เห็นนางแขวนคออยู่ในห้อง”
จากนั้นก็นางก็ร้องตะโกนสุดเสียง ทำเอาบิดานางกับหลิวเซียงที่นอนอยู่ในห้องอีกห้องตกใจตื่น เขาพุ่งเข้าไปอุ้มท่านแม่ลงมา
“ท่านแม่เจ้าตอนนี้มีถ่ายหนักเบาไหม ลูกตาถลนออกมาไหม”
ซูจิ่นซิ่วคิดอยู่ครู่หนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่มี ตอนนางถูกช่วยลงมา ทั้งร่างปวกเปียก ไม่ขยับ แม้แต่ลมหายใจก็ไม่มี”
ซูจิ่นซิ่วกล่าวจบก็แผดเสียงร้องไห้ดังลั่น ลู่เจียวกลับดีใจ ไม่แน่สวีเหนียงจื่ออาจยังช่วยได้
คนผูกคอตายต้องผ่านสามขั้นตอน ขั้นตอนแรก สมองอื้ออึงตัวร้อนจัด ขั้นตอนสอง ทั่วร่างกระตุกเกร็ง ขั้นตอนสาม มีสภาพเหมือนตายจริง ตอนเข้าสู่สภาวะเหมือนตายจริง ถ่ายหนักเบาจะออกมาหมด ลูกตาจะถลน และหยุดหายใจกะทันหัน
แต่ขั้นตอนเหล่านี้สั้นมาก เพียงแค่สามถึงห้านาที ยามนี้หากฝังเข็มช่วย ก็สามารถช่วยยื้อลมหายใจคืนมาได้
แม้ว่าตอนนี้สวีเหนียงจื่อไม่ได้ถ่ายหนักเบา ลูกตาไม่ได้ถลนออกมา แต่ลู่เจียวสงสัยว่าตอนนี้นางอยู่ในสภาวะเหมือนตายจริงขั้นแรก หากรีบฝังเข็มช่วย นางน่าจะฟื้นคืนมาได้
ลู่เจียวมองไปยังซูจิ่นซิ่วกล่าวว่า “เจ้ารีบพาพวกเราไป”
“ได้”
ซูจิ่นซิ่ววิ่งเหยาะๆ เข้าไปในบ้านตระกูลซู ลู่เจียวด้านหลังมองมือปราบจ้าว กล่าวว่า “อีกสักครู่ หากมีคนบ้านตระกูลซูขวางข้า ขอมือปราบจ้าวช่วยข้าสกัดไว้”
มือปราบจ้าวมองลู่เจียวถามว่า “เช่นนั้น ตอนนี้สวีเหนียงจื่อยังช่วยได้ไหม”
“ลองดู ไม่แน่อาจได้”
ทุกคนพุ่งเข้าไปในบ้านตระกูลซู ตรงไปยังห้องพักซูจิ่นซิ่ว ในและนอกห้องยามนี้มีคนบ้านตระกูลซูอยู่ไม่น้อย ต่างกำลังด่าทอว่านางอัปมงคล
“อยู่ดีๆ มาผูกคอตาย หากอยากตายจริงก็อย่ามาตายที่บ้านตระกูลซูข้าสิ”
“ใช่ พี่สะใภ้ใหญ่ยังรังเกียจบ้านตระกูลซูเราโชคร้ายไม่พออีกหรือ จึงได้จงใจฆ่าตัวตายเพื่อเพิ่มความโชคร้ายให้บ้านตระกูลซู”
ในห้องโถง สีหน้าซูต้าไห่เจ็บปวด ตวาดดังว่า “หุบปาก”
อย่างไรสวีเหนียงจื่อก็เป็นภรรยาแต่งเขาตอนเขายังหนุ่ม ตอนนี้มาผูกคอตายไป ในใจซูต้าไห่เองก็เสียใจอย่างมาก
เขารู้ว่าทำไมภรรยาตนจึงฆ่าตัวตาย แรกสุดก็ถูกน้องสะใภ้เขาตบตี ต่อมาถูกข่าวหลิวเซียงตั้งครรภ์กระทบกระเทือนจิตใจ ต่อมายังถูกเขาที่โดนท่านแม่กับหลิวเซียงกล่อมให้แล่นไปบอกภรรยาว่าจะยกหลิวเซียงขึ้นเป็นภรรยาเอกคนที่สอง ตอนนั้นสีหน้านางย่ำแย่อย่างมาก
แต่ท่านแม่เขายังไปบอกซูเหลียงเฉินบุตรชายเขาอีกว่าท่านแม่เขาไม่ใช่ภรรยาที่ดี ใจแคบ ไม่เหมาะเป็นภรรยาเอก ภรรยาเอกที่ไหนไม่หาอนุให้สามีตน ท่านแม่เขาจึงมีเรื่องกับท่านพ่อเขาด้วยเหตุนี้
บุตรชายเขาเรียนหนังสือจนโง่เง่าไปแล้ว ถึงกับวิ่งไปบอกท่านแม่ตนเองว่า ผู้หญิงควรจะเป็นภรรยาที่ดีและใจกว้าง หาอนุให้สามีด้วยตนเอง หลิวเซียงตั้งครรภ์แล้ว ยกเป็นภรรยาเอกคนที่สองก็สมควร
ตอนนั้นซูต้าไห่ได้ยินเรื่องนี้ แม้รู้สึกว่าบุตรชายทำไม่เหมาะสมนัก แต่ลึกๆ ในใจก็เอนเอียงไปทางหลิวเซียง ดังนั้นจึงไม่ว่าอะไร คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายทำให้สวีเหนียงจื่อต้องมาตายเช่นนี้
ซูต้าไห่รู้สึกสำนึกเสียใจภายหลังแล้ว รู้อย่างนี้ เขาก็จะไม่เอ่ยเรื่องยกหลิวเซียงเป็นภรรยาเอกคนที่สองแล้ว
พอลู่เจียวก้าวเข้ามาในโถงบ้านตระกูลซู แม่สามีและน้องสะใภ้นางก็ว่า “นี่! พวกเจ้ามาทำอะไร”
“หาได้ยากจริง แล่นมาบ้านเราทำไม”
ลู่เจียวไม่สนใจ นางรู้สึกสะอิดสะเอียนสองคนนี้มาก นางตรงไปห้องนอนหลักทันที ทั้งสองคนคิดรั้งไว้ แต่มือปราบจ้าวรีบก็เข้ามาขวางทั้งสองคนไว้
“ลู่เหนียงจื่อเป็นหมอ เข้าไปดูว่าสิ้นลมแล้วหรือยัง”
แม่สามีสวีเหนียงจื่อกับน้องสะใภ้รีบส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญขึ้น “คนก็ตายไปแล้ว ยังตรวจสอบอะไรอีก ยังรังเกียจว่าบ้านตระกูลซูเราโชคร้ายอัปมงคลไม่พออีกหรือ”
“พี่สะใภ้ใหญ่ข้าก็จริงๆ เลย แท้จริงมีความคับแค้นอันใดกับบ้านตระกูลซูกัน ต้องมาผูกคอตายในบ้านด้วย ได้ยินว่าคนผูกคอตายตายไปแล้วก็จะกลายเป็นผีแขวนคอตามจองล้างคนในบ้านด้วย”
มือปราบจ้าวได้ฟังหญิงสองคนนี้ก็ตวาดดุดันว่า “พวกเจ้ายังเป็นคนอยู่ไหม คนตายไปแล้ว ยังมาพูดจาเช่นนี้ สวีเหนียงจื่อเป็นคนเช่นไร พวกเราทุกคนรอบๆ ล้วนเห็นกันกระจ่าง กลับเป็นพวกเจ้าที่ไม่รู้จะพูดเช่นไร”
มือปราบจ้าวกล่าวจบก็มองไปยังซูต้าไห่ที่นั่งทื่ออยู่ในห้องโถง กล่าวน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “ซูต้าไห่ คนเราไม่อาจไร้ศีลธรรม คนไร้ศีลธรรมต้องไม่ได้ผลดีตอบแทนแน่”
สีหน้าซูต้าไห่ย่ำแย่ยิ่งขึ้น ลุกขึ้นจะเดินเข้าไปในห้อง มือปราบจ้าวยกมือขวางเขาไว้
“เจ้ารอก่อน ให้ลู่เหนียงจื่อตรวจก่อนว่าเป็นอย่างไร”
ในห้องนอน มีแต่ลู่เจียวกับซูจิ่นซิ่วสองคน
ลู่เจียวรีบลงมือช่วยผายปอดให้สวีเหนียงจื่ออย่างเร่งด่วน นางกดไปที่หน้าอกสามสิบที จากนั้นก็ให้ซูจิ่นซิ่วส่งลมผายปอดให้มารดานางเอง เด็กหญิงตัวเล็กๆ ไม่ได้นึกรังเกียจมารดาตนเองแม้แต่น้อย นางร้องไห้ไปทำตามวิธีการช่วยชีวิตเร่งด่วนที่ลู่เจียวสอนไป
ลู่เจียวเห็นคนที่พื้นไม่มีการตอบสนอง ก็รีบหยิบสารอะดรีนาลีนจากห้วงอากาศฉีดให้สวีเหนียงจื่อเพื่อรักษาชีพจรให้นิ่ง
ซูจิ่นซิ่วอายุน้อย ไม่ค่อยรู้เรื่องการแพทย์ เรื่องพวกนี้ลู่เจียวจึงไม่ได้ปิดบังนาง รีบฉีดอะดรีนาลีน กระตุ้นสวีเหนียงจื่อ
หน้าอกสวีเหนียงจื่อกระเพื่อมขึ้นลงทันที ซูจิ่นซิ่วเห็นดังนี้ก็แผดเสียงร้องไห้ดังลั่น “ท่านแม่ ท่านแม่”
ทุกคนนอกห้องได้ยินเสียงร้องไห้ในห้อง ก็พากันคิดว่าสวีเหนียงจื่อไร้ทางรอดแน่แล้ว
สีหน้าทุกคนนอกห้องแตกต่างกัน ในนั้นที่ดีใจที่สุดก็คือหลิวเซียง
สวีโต้วตายแล้ว นางก็จะได้ขึ้นแทนตำแหน่งนางแล้ว นางก็จะได้กลายเป็นนายหญิงบ้านตระกูลซูแล้ว ดีจริงๆ
หากหลิวเซียงไม่ได้อดกลั้นเอาไว้ ก็คงหัวเราะออกมาแล้ว
เฉินเจาตี้แอบรู้สึกสะใจ แต่นางก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
สวีเหนียงจื่อตายไป หลิวเซียงก็จะได้ขึ้นแทนตำแหน่งเป็นนายหญิงบ้านตระกูลซู หลิวเซียงผู้นี้ขี้งกและใจแคบ คนอย่างนางหากได้เป็นนายหญิงบ้านตระกูลซู วันหน้านางกับสามีนางยังจะอยู่บ้านตระกูลซูได้อีกหรือ ยังจะสบายเหมือนเมื่อก่อนได้อีกหรือ
เฉินเจาตี้กลอกตาไปมา สุดท้ายก็ไปหยุดที่ซูต้าไห่
ในใจนางคิดทันที หากนางล่อลวงพี่ชายสามีตนเองได้ ยังกลัวจะไม่ได้อยู่บ้านตระกูลซูอีกหรือ หากนางล่อลวงพี่ชายสามีนางมาได้ สามีนางจะกล้าตบตีนางหรือ
ส่วนเซี่ยอวิ๋นจิ่น สายตาเฉินเจาตี้ไปหยุดที่เซี่ยอวิ๋นจิ่น เป็นครั้งแรกที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกได้ แววตาที่หันไปมองเฉินเจาตี้อย่าได้กล่าวว่าคมกริบเชือดเฉือนเพียงใด
เฉินเจาตี้ตกใจสะดุ้ง รีบละสายตาหนีทันที ในใจค่อนข้างไม่พอใจ นางแอบเบ้ปากแค่นเสียงฮึ บางทีซิ่วไฉผู้นี้เป็นคนที่ดีแต่รูปงาม ทำอะไรไม่เป็น ไม่งั้นผู้ชายที่ไหนไม่แอบลักกิน
พอคิดเช่นนี้ ในใจนางก็สงบลงได้ นางไม่มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก แต่กลับจับจ้องซูต้าไห่พลางแอบคิดการเงียบๆ
