เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็เงียบมองลู่เจียวด้วยแววตาลุ่มลึก
ลู่เจียวจะรู้สึกไหมว่าเขาเป็นคนโหดเหี้ยม
ลู่เจียวกลับไม่ได้คิดเช่นนี้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นดำรงชีวิตไม่ได้ง่ายเลย ซิ่วไฉไม่มีคนรับใช้ ไม่มีเงิน เพื่อปกป้องครอบครัวตนเอง ได้แต่ลงมือก่อน นี่ไม่นับว่าโหดเหี้ยม คนเช่นตู้หลันจู หากไม่ลงมือก่อน นางย่อมลงมืออีก
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็กำชับเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่า “ตอนเจ้าทำเรื่องพวกนี้ก็ระวังหน่อย อย่าให้ผู้อื่นรู้เห็น ไม่เช่นนั้นจะเสียเปรียบได้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวไม่ได้ว่าเขาไม่ดี และไม่ได้มีท่าทีผิดปกติอันใด ก็วางใจลง จากนั้นเขาก็ถามเบาๆ ว่า “ลู่เจียว เจ้าจะรู้สึกไหมว่าข้าโหดเหี้ยมมาก”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ก็ไม่เท่าไรนะ โหดเหี้ยมหมายถึงลงมือกับคนที่ไม่มีอาวุธในมือ ไม่มีความแค้นกับตนเอง เช่นนั้นเรียกว่าโหดเหี้ยมอำมหิต หากรับมือศัตรูก็ไม่เรียกว่าโหดเหี้ยม หรือว่าต้องรอให้ตนเองโดนผู้อื่นทำร้ายก่อนจึงจะเรียกว่าไม่โหดเหี้ยม”
ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พลันมีความรู้สึกยินดีทะลักออกมาจากหัวใจ ความคิดลู่เจียวหลายอย่างเหมือนกับเขามากจริงๆ หากพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ช่างเป็นคู่สวรรค์สร้างจริงๆ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นตื่นเต้นจนยากจะระงับตนเอง เขายื่นแขนออกไปกอดลู่เจียวไว้
“ลู่เจียว ข้าดีใจจริงๆ ดีใจที่เจ้าเห็นเหมือนข้า ก่อนหน้านี้ข้ายังกลัวว่าเจ้าจะคิดว่าข้าโหดเหี้ยม”
ลู่เจียวอึ้งไปทันที นี่หมายความว่าอย่างไร อยู่ดีๆ มากอดทำไมกัน
พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกอดลงไปก็พลันได้สติว่าตนเองตื่นเต้นยินดีเกินไปจึงเปิดเผยตัวตนออกไป คงไม่ทำให้ลู่เจียวโมโหกระมัง
เขารีบปล่อยลู่เจียว กล่าวอย่างเกรงใจว่า “ข้าดีใจมากเกินไป คิดจะแบ่งปันกับเจ้าสักหน่อย”
ลู่เจียวเห็นเขากอดนางและปล่อยอย่างรวดเร็ว ก็ไม่ทันได้คิดอะไรมาก คนเขาปล่อยนางแล้ว เหมือนว่ากอดนางแบบสหายเท่านั้น
ลู่เจียวไม่ทันได้คิดมาก ก็ได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยอีกว่า “ยังมีเรื่องหนึ่งข้าอยากบอกเจ้าสักหน่อย”
ลู่เจียวมองสีหน้าจริงจังของเขา เหมือนว่าเรื่องที่จะพูดนั้นสำคัญมาก นางจึงไม่ทันได้คิดอะไร ถามว่า “เรื่องอะไร”
“วันนี้ข้ายังวางอุบายคุณหนูสวี่ชิงอินจวนเซี่ยนเว่ย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มีสีหน้าเย็นเยียบ ครั้งก่อนสวี่ชิงอินทำให้ลู่เจียวเสียหน้าในงานเลี้ยงตระกูลหู เขาคิดมาตลอดว่าจะหาโอกาสจัดการนาง
วันนี้เขาได้โอกาสพอดี เขาจึงได้วางอุบายสวี่ชิงอิน
ลู่เจียวฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ รีบถามว่า “วางอุบายนางอย่างไร”
“วันนี้คุณหนูหกตระกูลเถียนจัดงานเลี้ยงชมบุปผา เชิญบรรดาคุณหนูในอำเภอชิงเหอ สวี่ชิงอินเองก็ไป ข้าไปหาเถียนจิ้นอานคุณชายเจ็ดตระกูลเถียนพอดี สวี่ชิงอินเห็นข้าก็ตามสะกดรอยข้ามา เดิมข้าคิดหาโอกาสจัดการนางอยู่แล้ว นางมาสะกดรอยตามหลังข้า ก็เป็นโอกาสที่ดีพอดี ข้าบอกกับเถียนจิ้นอาน คุณชายเจ็ดตระกูลเถียนว่า หากเขากอดสวี่ชิงอินต่อหน้าทุกคน สวี่ชิงอินก็จะเป็นภรรยาเขา วันหน้าเขาก็มีภรรยางดงามเล่นเป็นเพื่อนเขาแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ อธิบายต่อว่า “คุณชายเจ็ดตระกูลเถียนตอนเด็กสมองได้รับความกระทบกระเทือน สติปัญญาไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร การพูดการจาและการกระทำก็เหมือนเด็กสี่ห้าขวบ คนนอกเรียกเขาว่าเจ้าปัญญาอ่อน เมื่อก่อนข้าเคยช่วยเขาไว้โดยบังเอิญครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาเลยติดข้า ก่อนหน้านี้ข้ารับปากเอาของเล่นไปให้เขา เมื่อวานตอนเย็นข้าเห็นลูกๆ เล่นของเล่น ก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ วันนี้ตอนเที่ยงก็เลยออกไปซื้อของเล่นไปให้เขา”
“คิดไม่ถึงว่าไปเจอกับงานเลี้ยงชมบุปผาตระกูลเถียนพอดี สวี่ชิงอินเห็นข้า ก็แอบตามหลังข้า ข้าเลยได้โอกาสพอดี”
ลู่เจียวไม่รู้ว่าควรกล่าวอันใดดี
“เช่นนั้น สวี่ชิงอินถูกเถียนจิ้นอานกอดต่อหน้าทุกคนจริงๆ หรือ”
“ใช่ เถียนจิ้นอานแม้ว่าสมองไม่ดี แต่คนตระกูลเถียนกลัวเขาเกิดเหตุ ดังนั้นจึงสอนวิชายุทธ์เขา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักก่อนจะกล่าวว่า “ข้าลืมบอกเจ้า บรรพชนตระกูลเถียนเปิดสำนักคุ้มภัย หลายปีมานี้เปิดสำนักคุ้มภัยมาตลอด ทำกิจการสำนักคุ้มภัย ดังนั้นไม่เพียงแต่ผู้ชาย แม้แต่ผู้หญิงก็เป็นวิชายุทธ์”
“คนตระกูลเถียนตามใจเถียนจิ้นอานอย่างมาก ที่เถียนจิ้นอานสติปัญญาบกพร่องก็เพราะตอนนั้นคนตระกูลเถียนไปมีเรื่องกับผู้อื่น คนเขาตามมาแก้แค้นเอาคืนพวกเขา ปรากฏทำร้ายเถียนจิ้นอานที่อายุเพียงห้าขวบ เถียนจิ้นอานตอนเด็กหน้าตาดีและฉลาดน่ารักมาก เดิมก็เป็นเด็กน้อยน่ารักหน้าตาดี คิดไม่ถึงว่าเพราะคนตระกูลเถียนไปมีเรื่องกับผู้อื่น ทำให้เขาต้องมากลายเป็นเด็กปัญญาอ่อน ทั้งครอบครัวจึงรู้สึกผิดอย่างมาก”
“กอปรกับท่านแม่เขาตอนนั้นพอรู้ว่าเขาปัญญาอ่อนก็ทำเอาล้มป่วย ต่อมารักษาไม่หายจึงได้จากไป ทั้งครอบครัวจึงมีเขาเป็นยอดดวงใจ ตามใจเขาอย่างยิ่ง และกลัวเขาโดนคนรังแก จึงสอนให้เขาเรียนวิชายุทธ์แต่เล็ก แม้ว่าเขาสติไม่ดี แต่มีวิชายุทธ ดังนั้นเถียนจิ้นอานกอดสวี่ชิงอิน สวี่ชิงอินจึงสลัดไม่หลุด”
ตอนนั้นเถียนจิ้นอานวิ่งไปกอดสวี่ชิงอิน ยังเอาแต่ตะโกนว่าเรียก ภรรยาคนสวย มาเล่นเป็นเพื่อนข้าเร็ว
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็นึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที
“เจ้าหลอกเถียนจิ้นอานไปทำเรื่องเช่นนี้ ไม่นานคนตระกูลเถียนย่อมรู้ ถึงตอนนั้นเจ้าก็ทำให้คนตระกูลเถียนโกรธแล้ว เรื่องนี้เจ้าทำการไม่สมควรแล้ว”
ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบมองนางกล่าวว่า “ข้าบอกเรื่องนี้กับคนตระกูลเถียนแล้ว คนตระกูลเถียนไม่พอใจจริงๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็เพราะข้าสอนเถียนจิ้นอานทำเรื่องเช่นนี้ ในใจข้าเองก็รู้สึกผิด ดังนั้นข้าเลยบอกคนตระกูลเถียนเอง เจ้าว่าหากขอให้เจ้าช่วยตรวจอาการให้เถียนจิ้นอานสักหน่อยได้ไหม ดูว่าสมองเขารักษาได้ไหม หากได้ ข้าก็จะขอให้เจ้าช่วยรักษาเขาหน่อย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองลู่เจียวพลางเอ่ยขอร้องว่า “ลู่เจียว เจ้าช่วยข้าเรื่องนี้ได้ไหม”
ลู่เจียวเดิมก็เป็นหมอ นับประสาอันใดกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นยังให้ความสำคัญมาขอร้องนางในเรื่องนี้อีก นางจะไม่รับปากได้อย่างไร
“ได้ เจ้าให้พวกเขามาพรุ่งนี้ ข้าจะช่วยตรวจให้เถียนจิ้นอาน”
ใบหน้าหล่อเหลากระจ่างของเซี่ยอวิ๋นจิ่นเผยรอยยิ้มขึ้นมาทันที มองลู่เจียวด้วยแววตาอ่อนโยน กล่าวว่า “ลู่เจียว ขอบคุณเจ้าแล้ว แม้ว่าเจ้าปากแข็ง แต่จิตใจดีงามมากจริงๆ”
ลู่เจียวหันไปมองแววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในแววตาดำลุ่มลึกนั้นราวกับมีดวงไฟลุกโชน ดวงไฟลุกโชนนั้นราวกับแหใหญ่ที่ไร้ช่องว่างที่คลุมนางเอาไว้
ลู่เจียวมองแววตาเขาแล้ว ในใจก็เต้นแรงอย่างไม่อาจระงับ
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ถอนสายตากลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ลู่เจียวรีบลุกจะออกไปด้านนอก “เจ้ารีบไปช่วยทบทวนตำราให้นักเรียนได้แล้ว ข้ากลับเรือนด้านหลังก่อน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังเห็นนางท่าทางแตกตื่นลนลานเล็กน้อย เห็นชัดว่าเป็นเพราะเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอดเม้มปากยิ้มบางไม่ได้ แววตางามกระจ่างราวกับภาพวาด
ลู่เจียวรู้สึกหวั่นไหวกับเขาแล้ว เช่นนี้เป็นเรื่องดีมาก เขาต้องทลายกำแพงในใจของนางลง ทำให้นางยอมรับเขาให้ได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นลุกขึ้นเดินออกไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่คิดถึงเรื่องที่ลู่เจียววันนี้พบเจอมาที่ตระกูลหลู สีหน้าเขาก็เย็นเยียบทันที เขารู้สึกว่าตนเองควรไปตระกูลหลูสักครั้ง ประการแรก ช่วยอาจารย์ใหญ่หลูหาคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในตระกูลหลู งูนั่นต้องเป็นพี่สะใภ้ตู้หลันจูปล่อยมาแน่ นางส่งงูเข้าตระกูลหลูได้ ตระกูลหลูย่อมต้องมีคนในให้ความร่วมมือ
ประการที่สอง เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็อยากบอกอาจารย์ใหญ่หลูว่า วันหน้าเซี่ยเหนียงจื่อจัดงานอีกก็ไม่ต้องมาเชิญภรรยาเขาอีก