ลู่เจียวกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็พลันมีสีหน้าเข้าใจในทันที มองลู่เจียวด้วยแววตาเขานิ่งลึก กล่าวว่า “เจ้ารู้ไหมว่าผู้ใดฆ่าหลัวซินซื่อ”
ตอนแรกลู่เจียวก็ส่ายหน้าไม่เข้าใจเท่าไร แต่จากนั้นก็เหมือนคิดอะไรได้ พลันเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เจ้าว่าคนที่ฆ่าหลัวซินซื่อตายก็คือหลิ่วไหลตี้?”
กระต่ายถูกบีบจนมุมย่อมหันมากัดคน หลัวซินซื่อเอาแต่ทุบตีภรรยาตนเอง หลิ่วเหนียงจื่อฆ่าเขาก็ไม่แปลก
“ข้าได้ยินมือปราบจ้าวเล่าว่า ตอนพวกเขาเข้าไปในบ้านตระกูลหลัว ภรรยาหลัวซินซื่อยังกำอาวุธฆ่าคนอยู่ในมือ”
ลู่เจียวคิดถึงหลิ่วไหลตี้ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ถูกคนทุบตีโมโหโต้กลับ แม้ฆ่าคนสะใจ แต่สุดท้ายก็ทำลายชีวิตตนเอง
ลู่เจียวคิดแล้วอารมณ์ก็อัดอั้น คิดถึงว่าตนเองรู้จักหลิ่วไหลตี้ นางจึงตัดสินใจจะไปเยี่ยมหลิ่วไหลตี้
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ข้าอยากพบหลิ่วไหลตี้สักครั้ง อย่างไรพวกเราก็รู้จักกันมา ควรไปเยี่ยมนางสักหน่อย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นท่าทางลำบากใจ กล่าวว่า “มือปราบจ้าวบอกว่า ตอนนี้หลิ่วไหลตี้ไม่ยอมรับผิด ไม่อาจให้พบผู้ใดได้ในตอนนี้ นอกจากนางยอมรับผิด พวกเราจึงจะไปเยี่ยมนางได้”
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็แสดงท่าทางเข้าใจ แต่คิดไปคิดมา นางก็ยังคงรู้สึกว่าด้วยนิสัยหลิ่วไหลตี้น่าจะไม่กล้าฆ่าคนถึงจะถูก หรือว่าเมื่อวานหลัวซินซื่อทุบตีนาง เพราะทุบตีแรงไป ดังนั้นนางจึงฆ่าหลัวซิน ซื่อ ไม่เช่นนั้นอยู่ดีๆ นางฆ่าหลัวซินซื่อทำไม
แม้ว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย แต่ทว่าแต่ไรมานางก็ถูกทุบตีมาตลอดก็ไม่ได้คิดฆ่าคน ทำไมอยู่ๆ จึงฆ่าคน
นอกจากเกิดเรื่องอะไรที่พวกนางไม่รู้
ลู่เจียวพลันหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เซี่ยอวิ๋นจิ่น ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้มีกับดัก เจ้าว่าหลิ่วไหลตี้โดนทุบตีมาตลอดไม่โต้ตอบ ตอนนี้ทำไมอยู่ๆ จึงลุกขึ้นมาฆ่าเขา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวว่า “เป็นไปได้ว่าหลัวซินซื่อทุบตีนางอีกแล้ว แต่ลงมือหนักเกินไป ดังนั้นนางโมโหขึ้นมาเลยฆ่าเขา”
ลู่เจียวแววตาครุ่นคิดลุ่มลึก นางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลางกล่าวว่า “พวกเราไปตรวจสอบกันหน่อยดีกว่า ถือเสียว่าช่วยนาง หากนางถูกใส่ความ หรือว่าหากหลัวซินซื่อไม่ใช่หลิ่วไหลตี้เป็นคนฆ่า แล้วจะเป็นผู้ใดฆ่า คนอยู่เบื้องหลังสร้างสถานการณ์เท็จ แสดงให้เห็นว่าหลัวซินซื่อเก็บซ่อนความลับยิ่งใหญ่อะไรเอาไว้ ไม่แน่นี่อาจเป็นช่องทางที่พวกเจ้าจะจัดการอำเภอชิงเหอนี่ได้”
พอลู่เจียวพูดขึ้นมา เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็แอบคิดตาม เขามองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “พวกเราแอบไปตระกูลหลัวหาเพื่อนบ้านพวกเขาสักคนมาสอบถามดูหน่อย เมื่อวานตอนเย็นตระกูลหลัวมีเหตุการณ์อะไรหรือไม่”
“ตกลง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวให้หลินต้าไปส่งพวกเขาที่บ้านเช่าหลัวซินซื่อ
ณ บ้านเช่าตระกูลหลัว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้ว่าครอบครัวพวกเขายากจน ดังนั้นบ้านเช่าจึงเล็กมากและอยู่ในถนนที่มีแต่ชาวบ้านยากจน เป็นเรือนฝั่งตะวันตกในบ้านหลังหนึ่ง ข้างๆ ติดกันก็เป็นครอบครัวอื่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไม่ได้ลงจากรถไปหาบ้านหลัวซินซื่อ แต่ให้หลินตงแสร้งทำเป็นญาติหลัวซิน ซื่อไปสอบถามข่าวคราวจากเพื่อนบ้าน
หลินตงเข้าไปครู่หนึ่งก็ออกมารายงาน “คุณชาย เหนียงจื่อ พวกท่านไม่รู้ว่าในนั้นแต่ละคนล้วนพูดอะไรกันบ้าง บอกว่าหลิ่วไหลตี้ฆ่าสามี แต่หลายคนต่างรู้สึกว่าไม่อยากจะเชื่อ เพราะเรื่องที่หลิ่วไหลตี้โดนหลัวซินซื่อทุบตี เพื่อนบ้านต่างก็รู้ มีคนไม่น้อยยังสอนนางให้ต่อสู้บ้าง แต่หลิ่วไหลตี้ผู้นี้ขี้ขลาดมาก ไม่กล้าตอบโต้”
หลินตงกล่าวจบก็หยุดหอบหายใจ ก่อนจะเล่าต่ออีกว่า “ข้าถามเพื่อนบ้านพวกนั้นว่าเมื่อวานตอนเย็นหลัวซินซื่อทุบตีหลิ่วไหลตี้อีกหรือ เพื่อนบ้านว่าเมื่อวานตอนหัวค่ำหลัวซินซื่อเหมือนจะดีใจมาก ซื้อกับข้าวจากข้างนอกลับมาหลายอย่าง ตกค่ำยังดื่มสุราไปเล็กน้อย ไม่ได้ยินว่าเขาทุบตีหลิ่วไหลตี้”
ในรถม้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสบตากัน เมื่อคืนไม่ได้ทุบตีหลิ่วไหลตี้ หลิ่วไหลตี้ถึงกลับฆ่าหลัวซินซื่อ นี่ไม่เหมือนเหตุการณ์ฆ่าคนเพราะถูกยั่วยุจนไม่อาจระงับโทสะ
ลู่เจียวมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเบาๆ ว่า “เจ้าไปหามือปราบจ้าวหน่อย หาทางให้พวกเราได้พบหลิ่วไหลตี้สักครั้ง ข้าจะถามนางต่อหน้าว่าได้ฆ่าหลัวซินซื่อหรือไม่ หากนางไม่ได้ทำ พวกเราต้องช่วยนางสักครั้ง หญิงผู้นี้น่าสงสารมาก ถูกผู้ชายในครอบครัวใช้ความรุนแรง ยังต้องคดีฆ่าคนเช่นนี้อีก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบพยักหน้าเห็นด้วย “ได้ เรื่องนี้ข้าไปจัดการให้”
รถม้ากลับไปตามทางเดิม เซี่ยอวิ๋นจิ่นจะไปขอให้มือปราบจ้าวหาช่องทางให้ ลู่เจียวพาเฝิงจือลงจากรถม้ากลับเข้าบ้านตระกูลเซี่ย
นางเพิ่งเข้าบ้านตระกูลเซี่ย ลู่กุ้ยก็เข้ามารายงาน
“พี่เจียว จู้เหนียงจื่อกับถันเหนียงจื่อมา บอกว่าอยากขอพบพี่”
ลู่เจียวแค่คิดก็รู้ว่าจู้เหนียงจื่อกับถันเหนียงจื่อน่าจะมาเพราะรู้เรื่องหลิ่วไหลตี้ฆ่าสามีแล้ว
“อืม ข้ารู้แล้ว”
ลู่เจียวพาเฝิงจือไปห้องโถงกลาง ในห้องโถง สีหน้าจู้เป่าจูกับถานเสี่ยวยาทั้งสองคนแอบดูตกใจ พอเห็นลู่เจียวเข้ามา จู้เป่าจูก็กระโดดเด้งขึ้นราวกับกระต่ายพุ่งมาข้างกายนางพร้อมกับคว้ามือนางไว้
“พี่ลู่ พี่ได้ยินเรื่องคดีหลิ่วไหลตี้ฆ่าสามีหรือยัง ไหลตี้ฆ่าหลัวซินซื่อ พวกเรากำลังจะไปช่วยนาง นางกลับฆ่าคนไปแล้ว ตอนนี้นางก็คงไม่รอดแล้ว”
ถานเสี่ยวยาเองก็ขอบตาแดงก่ำ กล่าวอย่างเสียใจว่า “นางอาภัพเหลือเกิน ถูกผู้ชายทุบตี พอบันดาลโทสะก็ฆ่าผู้ชายทิ้ง ตนเองก็เลยต้องโชคร้าย”
ลู่เจียวไม่ได้บอกจู้เป่าจูกับถานเสี่ยวยาว่าคดีหลิ่วไหลตี้ฆ่าสามีน่าจะมีลับลมคมนัย
เรื่องเช่นนี้ไม่เหมาะจะให้ผู้อื่นรู้ ดังนั้นนางจึงไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เพียงแต่เออออกับทั้งสองคนไป
“หลิ่วไหลตี้เป็นคนอาภัพ ถึงกับแต่งกับผู้ชายไม่ใช่คนผู้นี้ ผู้หญิงเราเลือกผู้ชายจะต้องมีตามองด้วย ไม่เช่นนั้นชีวิตที่เหลือก็น่าจะทุกข์ทนแท้จริงแล้ว”
โลกยุคนี้ไม่นิยมหย่า แม้ว่าหย่าได้ แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยอมทนรับกรรมแต่ไม่เลือกเส้นทางหย่า
นับประสาอันใดกับผู้ชายต้องการหน้าตา หลายคนแม้ตีเจ้าตาย ก็ไม่มีทางหย่ากับเจ้า ตีตายแล้วค่อยแต่งใหม่ก็ได้ แต่ไม่ยอมหย่ากับผู้หญิงง่ายๆ
ลู่เจียวคิดแล้วก็รู้สึกโชคดี เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นคนมีเหตุผล ไม่ได้คิดหาทางแอบให้ร้ายนางเพราะนางขอหย่า
“พวกเรารู้จักกับนางมา หรือว่าไปเยี่ยมนางด้วยกันดีไหม”
จู้เป่าจูเสนอ ถานเสี่ยวยาเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ข้าได้ยินว่าคดีฆ่าคนตาย หากคนทำผิดไม่ยอมรับไม่อาจปล่อยให้พบกับผู้ใดได้”
จู้เป่าจูหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “พี่ลู่ พี่หาทางให้พวกเราไปพบนางสักครั้งได้ไหม”
ลู่เจียวส่ายหน้ากล่าวว่า “อย่าเลย ตอนนี้นางคงไม่อยากพบใครอย่างแน่นอน นับประสาอันใดกับพวกเราเองก็พบไม่ได้ด้วย”
จู้เป่าจูกับถานเสี่ยวยาอารมณ์หมองหม่นลงอย่างยากจะระงับ บรรยากาศเงียบงัน
ลู่เจียวคุยกับพวกนางครู่หนึ่ง พวกนางก็ขอตัวกลับกัน สรุปพอคิดถึงเรื่องที่หลิ่วไหลตี้พบเจอ ในใจทุกคนก็แอบรู้สึกเศร้า
ตกกลางคืนนั้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนก็ได้พบหลิ่วไหลตี้ มือปราบจ้าวเฝ้าอยู่นอกห้องขัง คืนนี้พอดีคนที่เฝ้าคุกเป็นคนที่สนิทกับมือปราบจ้าว ดังนั้นจึงได้โอกาสพอดี
ในห้องขัง หลิ่วไหลตี้ตัวสั่นเทาขดตัวอยู่มุมหนึ่ง ได้ยินลู่เจียวเรียกนางเป็นนานก็ไม่ตอบ
จนลู่เจียวเดินเข้ามาให้ห้องขัง นางจึงได้ตัวสั่นเทาเงยหน้าขึ้นมองลู่เจียว พอนางเห็นว่าคนที่มาเยี่ยมนางถึงกับเป็นลู่เจียว ก็อดร้องไห้ขึ้นมาไม่ได้ นางยื่นมือไปคว้ามือลู่เจียวไว้แน่น เหมือนพบแสงสว่างหนึ่งเดียวท่ามกลางความมืดมิด
“ลู่เหนียงจื่อ ข้าเปล่า ข้าไม่ได้ฆ่าเขา เขาข้าไม่ได้ฆ่า ข้าไม่ได้ฆ่าเขา เจ้าช่วยข้าด้วย ข้ากลัว ข้ากลัวที่นี่”