Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1775 ยานข้ามโลกและโลกต้าอวี่

ตอนที่ 1775 ยานข้ามโลกและโลกต้าอวี่
จากที่ร้องไห้อยู่หนานชิวพลันยิ้มออก กลอกตาใส่ใส่หลินสวินคราหนึ่ง มองว่าคำพูดเขาเป็นคำพูดติดตลกเพื่อปลอบใจตน
หลินสวินเองก็ยิ้ม “ยังยิ้มได้ก็ดีแล้ว”
เขาพลันพาหนานชิวออกจากบ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้พูด
“เจ้าจะทำอะไร”
หนานชิวประหลาดใจเล็กน้อย
“ไปหาเจ้าลมตดมู่ซิวหย่วนนั่น ระบายความโกรธให้เจ้า”
หลินสวินพูดอย่างสบายๆ
“หา?”
หนานชิวอึ้งงัน ชายหนุ่มที่ร่างกายอ่อนแอ หลงทางและความจำเสื่อมคนนี้ เหตุใดจึงจริงจังกับคำพูดขบขันนี้
“อะไรนะ”
หนานตงที่เฝ้าอยู่หน้าบ้านหินมาโดยตลอดอึ้งงัน แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง เจ้าหน้าขาวนั่นพูดว่าอะไรนะ จะไปแก้แค้นมู่ซิวหย่วนหรือ
“หยุด!”
“เจ้าจะพาหนานชิวไปไหน”
“น่าชังนัก นี่เจ้าจะฉวยโอกาสแทรกแซง ลักพาตัวพี่หนานชิวหรือ”
ตอนที่เห็นหลินสวินพาหนานชิวเดินออกนอกหุบเขา ผู้แข็งแกร่งเผ่ามู่ซางหลายคนที่ได้ยินข่าวต่างรีบมาล้อมเอาไว้
สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีมาก
ตอนนี้สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินและมู่ซิวหย่วนวานให้เผ่าเพลิงเมฆามาถอนหมั้น เป็นเรื่องที่อับอายอย่างครั้งใหญ่สำหรับเผ่ามู่ซาง กระทบกระเทือนใจอย่างหนัก
ไม่กี่วันทั้งโลกลำนำสวรรค์ก็จะมองพวกเขาเป็นตัวตลก
แต่เวลานี้คนนอกอย่างหลินสวินกลับจะพาหนานชิวจากไป เขา… เขาคิดว่าหนานชิวถูกถอนหมั้นแล้วตนจะมีโอกาสจริงๆ หรือ
“พี่ชายน้อยหลิน เจ้ารีบปล่อยข้า”
หนานชิวร้อนรนขึ้นมาแล้ว
หลินสวินชะงักเท้า ไม่ได้สนใจผู้คนรอบๆ ตัว สายตามองไปยังหนานชิวพร้อมพูดว่า “เจ้าคิดว่าด้วยตัวเจ้าเองหรือด้วยคนในเผ่าของเจ้า ภายหน้าในโลกลำนำสวรรค์นี้จะมีโอกาสแก้แค้นเท่าไหร่”
หนานชิวชะงักไปทั้งตัว สีหน้าแปรเปลี่ยนไม่หยุด
สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินเป็นสำนักอันดับหนึ่งในโลกลำนำสวรรค์ มู่ซิวหย่วนเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน อยากไปแก้แค้นเขาหรือ
เผ่ามู่ซางสิบคนรวมกันก็ไม่ไหว!
“กำเริบเสิบสาน! เจ้ายังจะกล้าพูดดูหมิ่นเผ่ามู่ซางของข้า”
ผู้ฝึกปราณเผ่ามู่ซางที่อยู่รอบๆ ต่างเดือดดาล
หลินสวินยังคงไม่สนใจ เพียงมองหนานชิวแล้วพูดว่า “เชื่อข้าสักครั้งหรือไม่”
หนานชิวพูดเสียงสั่น “ได้หรือ”
หลินสวินยิ้ม “ทำไมจะไม่ได้”
“จะ จะ เจ้า… อวดดีเกินไปแล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งเผ่ามู่ซางหลายคนทนไม่ไหวแล้ว ต่างลงมือจะจับตัวหลินสวินไม่ให้เขาพาหนานชิวไป
ตูม!
แสงสมบัติโฉบพุ่ง วิชามรรคตลบม้วน เสียงสะท้านยิ่งยง
หลินสวินยังคงไม่สนใจ พาหนานชิวหมุนตัวจากไป
เสื้อผ้าของเขาพลิ้วไหว ไม่หันหลังมองด้วยซ้ำ ราวกับไม่ได้สังเกตเห็นการโจมตีสารพัดที่ปกคลุมมิดท่วมฟ้าด้านหลัง
หนานชิวไม่สามารถสงบได้ ในใจนางแขวนลอยขึ้นมา ตกใจจนหน้าถอดสี
ทว่าครู่ต่อมานางก็อึ้งงันไป
การโจมตีและแสงสมบัติทั่วฟ้านั่นราวกับดอกไม้ไฟที่สลายตัวง่ายดาย ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็สลายหายไปราวกับฟองสบู่แล้ว
“นี่…”
นางหันมองหลินสวิน ตระหนักได้เป็นครั้งแรก ว่าตนเหมือนจะไม่เคยรู้เลยว่าพี่ชายน้อยหลินคนนี้เป็นคนอย่างไร
ไกลออกไปเหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่ามู่ซางเองก็อึ้งค้าง จิตใจสั่นไหว มองหลินสวินที่อยู่เคียงข้างหนานชิวค่อยๆ เดินห่างออกไป ราวกับเห็นเทพอย่างไรอย่างนั้น!
“เขา… เป็นใครกันแน่”
จนกระทั่งเงาร่างของหลินสวินและหนานชิวหายไป จึงมีคนอดถามไม่ได้
ทุกคนมองหน้ากัน พวกเขารู้เพียงว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่หนานชิวแบกกลับมาตอนที่ไปล่าเหยื่อ นอกจากนี้ก็ไม่รู้อะไรเลย
“เร็ว ไปบอกอาเก้า!”
มีคนตะโกน
ความกระทบกระเทือนจิตใจที่หนานเหลยเผิงได้รับวันนี้ใหญ่หลวงเกินไป ตอนนี้กำลังนั่งเหม่ออยู่ในบ้าน สีหน้ามืดมนแฝงความหดหู่
“จบแล้ว… ทุกอย่างจบแล้ว…”
เผ่าเพลิงเมฆาเป็นคู่ปรับของเผ่ามู่ซาง ตอนนี้ยังดองกับมู่ซิวหย่วน ในอนาคตจะมีที่ยืนของเผ่ามู่ซางได้อย่างไร
คิดถึงตรงนี้หนานเหลยเผิงก็ปวดใจราวกับถูกมีดแทง ใบหน้าเศร้ารันทด
“อาเก้า คนแปลกหน้านั่นพาตัวหนานชิวไปแล้ว!”
ตอนที่คนในเผ่ามาบอกข่าว หนานเหลยเผิงเองก็โกรธเช่นกัน เจ้าคนบ้าระห่ำ!
ทว่าพอรู้ที่มาที่ไปของเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าทุกคนในเผ่าลงมือแต่กลับไม่สามารถทำอันตรายหลินสวินได้แม้แต่น้อย ในดวงตาของหนานเหลยเผิงก็มีประกายสายหนึ่งวบผ่าน
หรือว่า…
ชายหนุ่มนั่นจะเป็นยอดฝีมือที่เก็บซ่อนความสามารถไว้ลึกล้ำคนหนึ่ง!
ทันใดนั้นหนานเหลยเผิงพลันขมวดคิ้ว เผยสีหน้าร้อนรน “แย่แล้ว! มู่ซิวหย่วนนั่นเป็นถึงผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน เขากลับพาหนานชิวไปแก้แค้น แม้พลังต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่จะเอาอะไรไปสู้กับสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน”
“หากเขาล้มเหลวขึ้นมา สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินกล่าวโทษลงมา เผ่ามู่ซางก็จะถูกดึงไปพัวพันด้วยไม่ใช่หรือ”
“เผ่ามู่ซางในตอนนี้… จะรับเพลิงโทสะของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินได้อย่างไร”
คิดถึงตรงนี้หนานเหลยเผิงก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป ตะโกนเสียงดังว่า “เร็ว รวบรวมกำลังคนไปสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินกับข้า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขัดขวางไม่ให้เจ้าหมอนั่นทำเรื่องโง่เขลา!”
……
ฮูม…
ห้วงอากาศว่าเปล่าปรากฏคลื่น หลินสวินขับยานขนส่งอวกาศบินทะยานเหนือทะเลเมฆ แม้ความเร็วเทียบการเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศไม่ได้ แต่ก็ไม่ด้อยกว่าเท่าไร
ตลอดทางหนานชิวสีหน้าเลื่อนลอย เห็นได้ชัดว่าประหม่ามาก
ไปแก้แค้นที่สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินหรือ
เรื่องเช่นนี้ที่ผ่านมานางไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ
นั่นเป็นถึงราชันแห่งโลกลำนำสวรรค์ เป็นนายเหนือหัวสูงสุดในสายตาของผู้ฝึกปราณมากมาย!
หลินสวินกล่าว “แม่นางหนานชิว เจ้ารู้วิธีออกจากโลกลำนำสวรรค์หรือไม่”
หนานชิวเอ่ย “เจ้าจะจากไปหรือ”
หลินสวินพูด “ใช่ รอระบายความโกรธให้เจ้าเสร็จข้าก็จะจากไป”
“พี่ชายน้อยหลิน เจ้า… มาจากไหนกันแน่” หนานชิวอดพูดไม่ได้ นางยิ่งรู้สึกว่ามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ออก
หลินสวินคิดๆ แล้วกล่าว “ที่ที่ห่างจากทางเดินโบราณฟ้าดาราไปไกลมาก”
จู่ๆ หนานชิวก็หัวเราะออกมา “เจ้าสามารถมาจากสถานที่ที่ไกลขนาดนั้นได้ ต้องเป็นคนที่สุดยอดมากแน่ๆ”
จากนั้นหนานชิวก็บอกหลินสวินว่าอยากไปจากโลกลำนำสวรรค์มีเพียงทางเดียว นั่นก็คือนั่ง ‘ยานข้ามโลก’
ยานข้ามโลกสามารถข้ามกำแพงเขตแดนโลกอย่างง่ายดาย หลังจากเข้าสู่ฟ้าดาราก็จะเดินทางไปตามเส้นทางที่มั่นคงและเชื่อถือได้ สามารถไปยังสถานที่อื่นๆ ของทางเดินโบราณฟ้าดาราได้อย่างปลอดภัย
มูลค่าของยานข้ามโลกแพงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มีเพียงขุมอำนาจใหญ่บนทางเดินโบราณฟ้าดาราจึงจะสามารถสร้างได้ โลกลำนำสวรรค์เป็นแค่โลกเล็กๆ ที่ห่างไกลของทางเดินโบราณฟ้าดารา ไม่มีความสามารถจะสร้างยานข้ามโลกได้
ทว่าจากที่หนานชิวพูด ยาม ‘ศึกราชันลำนำสวรรค์’ จะมียานข้ามโลกลำหนึ่งมาโลกลำนำสวรรค์
ถึงตอนนั้นผู้ยิ่งใหญ่บางส่วนที่นั่งยานข้ามโลกมา ก็จะเลือกผู้แข็งแกร่งที่โดดเด่นในศึกราชันลำนำสวรรค์จำนวนหนึ่ง แล้วออกจากโลกลำนำสวรรค์ด้วยกัน
หลินสวินฟังถึงตรงนี้อดถามไม่ได้ “ผู้ยิ่งใหญ่ที่เจ้าว่ามาจากไหนหรือ”
ในดวงตาคู่โตที่สว่างไสวของหนานชิวเผยความใฝ่หา “โลกต้าอวี่!”
โลกต้าอวี่!
โลกใบหญ่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ในโลกมากมายของฟ้าดารา สามารถจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ได้
ภายใต้โลกต้าอวี่ ควบคุมโลกเล็กๆ ทั้งหมดสิบหกโลก โลกลำนำสวรรค์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
โลกต้าอวี่มีเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ที่ชื่อเสียงสะเทือนฟ้าดารา มีสำนักโบราณที่สืบต่อมายาวนาน มีแดนมงคลภูเขาวิญญาณและผู้โดดเด่นนับไม่ถ้วน!
“ในโลกลำนำสวรรค์ของพวกเรา ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์คนใดที่ไปถึงระดับราชันล้วนปรารถนาจะไปฝึกปราณในโลกต้าอวี่ อย่างศึกราชันลำนำสวรรค์ครั้งนี้ สุดท้ายผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกจะถูกเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากโลกต้าอวี่เลือกและพาไปฝึกปราณที่โลกต้าอวี่”
ในเสียงของหนานชิวแฝงความใฝ่หาที่ปิดไม่อยู่
“หากข้าสามารถไปฝึกปราณที่โลกต้าอวี่ เผ่ามู่ซางของพวกเราก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย ผู้ยิ่งใหญ่ที่พาข้าจากไปจะมอบ ‘ยันต์รับศิษย์แท้จริง’ ให้กับเผ่าของข้า มียันต์นี้ก็เท่ากับมีการคุ้มครองชั้นหนึ่ง สามารถทำให้ขุมอำนาจอื่นหวาดเกรง”
ฟังถึงตรงนี้หลินสวินจึงเข้าใจ
“โลกต้าอวี่…”
หลินสวินตระหนักได้ว่าหากตนอยากรู้ข่าวบนทางเดินโบราณฟ้าดารา คงต้องไปถึงที่นั่นก่อนถึงจะได้
หกปีแล้วเขายังไม่สามารถยืนยันได้ว่า หลังจากแหล่งสถานคุนหลุนสิ้นสุดลง พวกอาหู เจ้าคางคก อาหลู่ไปที่ไหน…
จู่ๆ หนานชิวก็ถอนหายใจ “แต่ตอนนี้ข้าคงเข้าร่วมศึกราชันลำนำสวรรค์ไม่ได้แล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ทำได้อยู่แล้ว”
ดวงตาดำของหลินสวินราบเรียบ ได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
……
เขาเทพขลุ่ยหิมะ
สถานที่ที่ชีพจรปราณวิญญาณอันดับหนึ่งแห่งโลกลำนำสวรรค์รวมตัว สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินตั้งอยู่ตรงนี้ เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ฝึกปราณสำคัญของโลกลำนำสวรรค์
ศึกราชันลำนำสวรรค์กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกสิบวันให้หลัง ก็จะเปิดม่านบนเขาเทพขลุ่ยหิมะ
ใต้เขาเทพขลุ่ยหิมะเป็นเมืองที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง
ช่วงที่ผ่านมาผู้ฝึกปราณมากมายมารวมตัวจากสี่ทิศแปดทาง หมายจะชมงานใหญ่ครั้งนี้
บุคคลชั้นยอดแห่งสี่สำนักใหญ่และสิบสามเผ่าใหญ่ล้วนกระเหี้ยนกระหือรือ เตรียมพร้อมเพื่อศึกราชันลำนำสวรรค์
“ได้ยินข่าวหรือยัง คนที่มาจากโลกต้าอวี่ครั้งนี้เป็นถึงเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ‘สำนักยุทธ์เตาโอสถ’”
“สำนักยุทธ์เตาโอสถหรือ นี่เป็นถึงสำนักใหญ่สามอันดับแรกของโลกต้าอวี่! เบื้องลึกเบื้องหลังต้องเท้าความไปถึงสมัยบรรพกาล ผู้แข็งแกร่งในสำนักมากมาย อิทธิพลรุ่งเรืองอย่างที่สุด”
“ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะมีผู้โชคดีกี่คนที่สามารถเข้าตาได้…”
ในเมืองมีเสียงพูดคุยถึงศึกราชันลำนำสวรรค์ทุกที่ ครึกครื้นอย่างที่สุด
“ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้ พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ ว่ามู่ซิวหย่วนผู้สืบทอดแท้จริงแห่งสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินถอนหมั้นผู้หญิงที่ชื่อหนานชิวแห่งเผ่ามู่ซาง”
“จริงหรือนี่”
“เป็นเรื่องจริง เผ่าเพลิงเมฆาปล่อยข่าวตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว บอกว่ามู่ซิวหย่วนกำลังจะหมั้นหมายกับเยวี่ยจิ่นลูกสาวผู้นำเผ่าเพลิงเมฆาของพวกเขา!”
“ฮ่าๆๆ เผ่ามู่ซางนี่ก็ซวยเกินไปแล้ว ไม่เพียงอิทธิพลลดลง ตอนนี้ยังสูญเสียแรงหนุนที่แข็งแกร่งอย่างมู่ซิวหย่วน ต่อไป… คงถูกลบชื่อออกจากสิบสามเผ่าใหญ่”
“หนานชิวหรือ เหอะๆ ผู้หญิงที่ไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมาอยู่ข้างกายมู่ซิวหย่วน”
และเรื่องการถอนหมั้นของมู่ซิวหย่วนก็แพร่สะบัดไปทั่ว ชักนำให้เกิดระลอกคลื่นและเสียงฮือฮาอย่างต่อเนื่อง
มู่ซิวหย่วน!
นี่เป็นถึงดาวเด่นที่สะดุดตาที่สุดในโลกลำนำสวรรค์ เรื่องถอนหมั้นเกิดขึ้นกับเขา อยากไม่เป็นที่สนใจยังยาก
ส่วนหนานชิวที่ถูกเขาถอนหมั้น กลายเป็นตัวตลกในสายตาทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
“เอ๋ นั่นยานสมบัติของใคร กล้ามาก ไม่รู้ว่าใต้เขาขลุ่ยหิมะ บนเมืองแห่งนี้ห้ามบินกลางอากาศหรือ”
จู่ๆ ก็มีคนสังเกตเห็นว่าบนท้องฟ้ามียานสมบัติลำหนึ่งเคลื่อนมา ปรากฏอยู่เหนือห้วงอากาศของเมืองอยู่รางๆ ห่างจากยอดเขาขลุ่ยหิมะที่อยู่ไกลออกไปไม่กี่พันจั้งเท่านั้น
“นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือ”
ไม่นานผู้ฝึกปราณมากมายในเมืองต่างสังเกตเห็นภาพนี้ ล้วนรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอย่างไม่ได้
ทำเช่นนี้ เท่ากับท้าทายสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินโดยตรง!
…………………..
Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท