หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 20 เชื้อพระวงศ์จึงจะร่ำรวยอย่างแท้จริง

ตอนที่ 20 เชื้อพระวงศ์จึงจะร่ำรวยอย่างแท้จริง

 

“ขอรับ คุณชายรอง พวกเจ้ายังไม่รีบขอบคุณคุณชายรองและคุณหนูใหญ่อีก” 

“ขอบคุณคุณชายรองเจ้าค่ะ บ่าวเคารพคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ” สาวใช้ที่หนานกงฮุยเลือกรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกนางเป็นสาวใช้ที่เฝ้าดูแลจวนหนานกงมาตลอด แม้จะเป็นงานสบาย ทว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปีกลับไม่ได้เจอเจ้านายเลยจึงไม่เคยได้รับรางวัลอะไร ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอนาคตเลย นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีโอกาสได้เป็นบ่าวรับใช้ข้างกายคุณหนูใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายรองยังกล่าวอีกว่า หากดูแลปรนนิบัติดี ยังจะพาพวกนางกลับจินหลิงไปด้วย ที่นั่นคือเมืองหลวงนะ ชั่วพริบตาสาวใช้ทั้งสี่คนก็ได้รับสายตาอิจฉาส่งมา 

หนานกงมั่วพยักหน้า บอกกับหนานกงฮุย “ข้าจะกลับไปพักผ่อนแล้ว” 

หนานกงฮุยพยักหน้ารับ “มั่วเอ๋อร์รีบไปพักเถิด ที่เหลือพี่รองช่วยเจ้าจัดการต่อเอง” 

หนานกงมั่วเดินตัวตรงเข้าไปด้านใน สาวใช้ทั้งสี่ที่พึ่งรับตำแหน่งใหม่มองสบตากัน คุณหนูใหญ่ไม่ถามชื่อพวกนางด้วยซ้ำ แม้แต่หันมามองก็ยังไม่มองเลย ท่าทางเย็นชาเช่นนี้ทำให้พวกนางทำอะไรไม่ถูก คุณหนูใหญ่ไม่พอใจพวกนางหรือ 

“ยังไม่รีบตามไปอีก” หนานกงฮุยขมวดคิ้วไม่พอใจ สาวใช้พวกนี้ค่อนข้างซื่อบื้อ ให้อยู่รับใช้มั่วเอ๋อร์จะดีจริงหรือ แต่ว่า…เมื่อนึกถึงสาวใช้สองคนที่เจิ้งซื่อเตรียมไว้ให้มั่วเอ๋อร์เมื่อครั้งที่แล้ว หนานกงฮุยก็ส่ายหน้า อย่างน้อยสาวใช้ซื่อบื้อเหล่านี้ก็ยังดีกว่า ช่างเถอะ หากไม่เหมาะก็ค่อยหาคนใหม่เสีย 

… 

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงขอพบเจ้าค่ะ” 

ด้านในเรือนไม้ไผ่ หลังโต๊ะริมหน้าต่างที่เปิดออกเพียงครึ่งเดียว หญิงสาวในอาภรณ์สีฟ้าอ่อนกำลังฝึกเขียนพู่กันอยู่ เสียงของสาวใช้รายงานเสียงดังเข้ามาอย่างนอบน้อม 

หนานกงมั่วเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เว่ยจวินมั่วงั้นหรือ” 

สาวใช้เฝ้าหน้าประตูสะดุ้งเล็กน้อย แม้ว่าพวกนางจะมาอยู่กับคุณหนูได้ไม่นาน แต่ก็เข้าใจนิสัยของคุณหนูดี ว่าไม่สามารถเข้าใกล้ได้ง่ายๆ แม้จะเป็นสาวใช้ข้างกาย ทว่าคุณหนูไม่ได้ให้พวกนางช่วยอะไรมากมาย ส่วนมากนางจะทำมันด้วยตัวของนางเอง เรื่องราวของคุณหนูใหญ่แพร่กระจายออกไปทั่วทั้งจวนในเวลาอันรวดเร็ว อย่างเช่นเยี่ยนอ๋องทรงเปลี่ยนชื่อให้คุณหนูด้วยตัวเองและยังมอบแผ่นหยกให้อีกด้วย อย่างเช่นคุณหนูและผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงได้รับพระราชทานสมรสจากฝ่าบาท และอย่างเช่น…คุณหนูกลับมาวันแรกก็ทำเอาฮูหยินถึงขั้นเป็นลมล้มพับ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณหนูจะขานชื่อผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงออกมาตรงๆ เช่นนี้ 

“ให้เขาเข้ามาเถิด” นางรู้อยู่แล้วว่าเว่ยจวินมั่วต้องมา อย่างไรเสียยาที่ต้องถวายให้เยี่ยนอ๋องนั้นยังต้องให้เว่ยจวินมั่วมารับ นอกจากนี้ เรื่องการแต่งงานยังต้องจัดการอีกด้วย และหากต้องจัดการเรื่องได้รับพระราชทานสมรสโดยที่ไม่อาศัยความร่วมมือจากเว่ยจวินมั่วนั้นคงจะมิได้ นางเองก็เคยคิดว่าอยากยืนยันหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่แต่งและผลักมันกลับไปให้หนานกงซู แต่พระราชโองการของฝ่าบาทนั้นก็คลุมเครือจริงๆ หากต้องถกเถียงสุดท้ายนางคงหนีไม่พ้น ขณะเดียวกัน นางเองก็คิดว่าฝ่าบาทคงไม่คิดว่าหนานกงซูเป็นตัวเลือกที่ดีนักจึงมีราชโองการมาเช่นนี้ เจิ้งซื่อไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าวังไปถวายพระพรพระชายาได้ เช่นเดียวกัน หนานกงซูเองก็ไม่มีสิทธิ์ 

ไม่นาน เว่ยจวินมั่วก็เดินตามสาวใช้เข้ามา 

“ออกไปก่อน” หนานกงมั่วบอก 

“เจ้าค่ะคุณหนู” 

สามารถทำให้สาวใช้เคารพเชื่อฟังได้ขนาดนี้ คุณหนูใหญ่สกุลหนานกงฝีมือคงมิใช่ธรรมดา มองเห็นหญิงสาวนั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ ท่าทางเงียบสงบทว่าไม่เย็นชา เพียงนางยิ้มออกมาก็ทำให้คนรู้สึกถึงจิตใจที่ดีงามและบริสุทธิ์ โกหกน่ะ ความจริงแล้วเขาไม่เคยลืมแววตาสังหารจากครั้งแรกที่เจอกับหญิงผู้นี้ 

หนานกงมั่วเองก็มองสังเกตเว่ยจวินมั่ว รูปร่างสูงโปร่ง โดดเด่นไม่ธรรมดา ผมสีดำถูกมัดไว้ด้านหลังอย่างพิถีพิถัน ชุดสีฟ้าครามปักด้วยลายเมฆยิ่งทำให้เขาดูเย็นยะเยือกมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ดวงตาคู่นั้น…หนานกงมั่วขยับมือโดยไม่รู้ตัว พบว่าตนเองเผลอจดจ่อไปที่ดวงตาของเขา นางไม่ชอบความรู้สึกเช่นนี้เลย 

“คุณหนูหนานกง” 

“เว่ยซื่อจื่อ[1]” 

ห้องหนังสือเงียบลง ไม่นานเว่ยจวินมั่วจึงเอ่ยขึ้น “เรื่องบาดแผลของเสด็จลุง คุณหนูหนานกงมีวิธีจริงหรือ” ในยามนั้นเสด็จลุงได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยองค์รัชทายาท เรื่องนี้ฝ่าบาทเองก็เป็นกังวลมากเช่นกัน ดังนั้นหนานกงมั่วสามารถช่วยเสด็จลุงได้จริงๆ หรือพูดไปเรื่อย สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก แน่นอนเขารู้ว่าหนานกงมั่วไม่ใช่คนแบบนั้น 

หนานกงมั่วเผยรอยยิ้มออกมา เอ่ยขึ้นว่า “หนานกงมั่วจะกล้าเอาเยี่ยนอ๋องมาล้อเล่นได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ” 

“เช่นนั้น ต้องรบกวนคุณหนูหนานกงแล้ว” 

หนานกงมั่วยักคิ้ว “เว่ยซื่อจื่อกับเยี่ยนอ๋องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากเลยหรือ” 

“เป็นเช่นนั้น” 

เมื่อหลังพิงเข้ากับพนักเก้าอี้ หนานกงมั่วก็เคาะนิ้วเบาๆ กับพนักวางมือ เอ่ยถามว่า “เช่นนี้ เว่ยซื่อจื่อคิดจะเอาสิ่งใดมาจ่ายค่ารักษาให้ข้า” 

เว่ยจวินมั่วเงียบไปชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นพลางเอ่ยถาม “คุณหนูหนานกง..ต้องการดวงตาของข้าหรือ” 

รอยยิ้มบนใบหน้าของหนานกงมั่วแข็งค้างทันใด มุมปากยกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ที่แท้เขาก็ดูออก บางครั้งคนเราก็ควรต้องไวกว่า เพราะศัตรูอยู่ในที่แจ้ง ข้าอยู่ในที่ลับ เมื่อมีคนรู้ในสิ่งที่เราคิดอ่าน เรื่องจะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น นางขมวดคิ้วขึ้นด้วยความกังวล ต้องฆ่าคนปิดปากหรือไม่นะ 

รอยยิ้มเย็นของเว่ยจวินมั่วผ่านเข้ามา เอ่ยว่า “เมืองจินหลิง…ไม่ได้ล้อเล่น” 

หนานกงมั่วมองเขานิ่งๆ 

“ตามที่ข้าบอก ครอบครัวของฮูหยินสกุลหนานกงมารดาเจ้าคงไม่มีแล้ว” เว่ยจวินมั่วเอ่ยต่อ “พี่ชาย แม้จะรักคุณหนูหนานกงมาก แต่ว่า…อยู่ในจวนฉู่กั๋วกงก็คงจะพึ่งไม่ได้” หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ยแย้ง “ความหมายของเว่ยซื่อจื่อคือ ท่านเป็นที่น่าพึ่งพาอย่างนั้นหรือ ถ้าหากกระทั่งพี่ชายก็ยังเชื่อไม่ได้ ไยข้าต้องเชื่อท่าน” 

เว่ยจวินมั่วคิดอยู่ชั่วครู่ “ข้ามีสิ่งที่เจ้าต้องการ เจ้าก็มีสิ่งที่ข้าต้องการ นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือหรอกหรือ” 

“อย่างเช่น?” 

“ข้าต้องการรักษาอาการเสด็จลุงให้หาย คุณหนูหนานกงคงต้องการการสนับสนุนในเมืองจินหลิง” เว่ยจวินมั่วเอ่ย 

“ท่านหมายถึงจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องอย่างนั้นหรือ” หนานกงมั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม 

เว่ยจวินมั่วหรี่ตาลง มองนางเงียบๆ “คุณหนูหนานกงมีความกล้าไม่ธรรมดาเลย” 

“ไม่เท่าไร” หนานกงมั่วยิ้มบอก 

“เจ้าน่าจะรู้ดี หากฝ่าบาทรู้ว่าการรักษาของเจ้าไม่ธรรมดา เช่นนี้ก็คงต้องมีรับสั่งให้เจ้ารักษาเสด็จลุงเป็นแน่” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเตือน หากหนานกงมั่วรักษาเยี่ยนอ๋องก็จะนับเป็นบุญคุณ ทว่าหากเป็นรับสั่งของฝ่าบาทแล้วนั้น คงไม่เหมือนกันแล้ว 

หนานกงมั่วไม่มีท่าทีตระหนกใดๆ “เรื่องการรักษา เรื่องแบบนี้…มีหรือไม่มีขึ้นอยู่กับข้า” ถ้าข้ารักษาได้ไม่ดีเจ้าจะทำไม 

“ดูเหมือนจะวางใจกับความเมตตาจากคุณหนูหนานกงมิได้จริงๆ” 

“อืม เช่นเดียวกับคุณชายมั่วที่ไม่ได้ดูเงียบขรึมเช่นกัน” 

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “ภายในหนึ่งปี จวนเยี่ยนอ๋องและจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องพร้อมช่วยเหลือเจ้าทุกอย่าง นอกจากนี้ ข้าจะจ่ายค่ารักษาให้ด้วย” 

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “เท่าไรหรือ” 

“สามหมื่นตำลึง” เว่ยจวินมั่วกล่าว 

หนานกงมั่วยังคงนิ่ง เว่ยจวินมั่วหรี่ตา สีหน้ายังคงเดิม เอ่ยขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า “ห้าหมื่นตำลึง” 

 

 

[1] ซื่อจื่อ มาจากภาษาจีนคือ 世子 หมายถึงผู้สืบทอด 

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท