หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 31 คำแนะนำของลิ่นฉังเฟิง

ตอนที่ 31 คำแนะนำของลิ่นฉังเฟิง

 

“พอพี่สาวกลับมา ท่านพ่อก็เกลียดข้าแล้วหรือ ฮือ ฮือ…” หนานกงซูร้องไห้สะอึกสะอื้น “ท่านพ่อต่อว่าข้า ไยไม่ต่อว่านางที่ติดตามหวงจั่งซุน…เห็นชัดว่านางอยากแย่งหวงจั่งซุน…” 

“ซูเอ๋อร์” หนานกงฮุยที่ฟังอยู่ด้านข้างทนไม่ไหว ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “สถานที่ตรงนั้นมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว เห็นได้ชัดว่ามั่วเอ๋อร์เข้าไปก่อน ทำไมกลายเป็นว่ามั่วเอ๋อร์ติดตามหวงจั่งซุนไปได้เล่า ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่ใช่เพราะเจ้าพูดจาให้ร้ายมั่วเอ๋อร์ต่อหน้าหวงจั่งซุน มั่วเอ๋อร์คงไม่โผล่ออกมา และเกิดเรื่องอย่างเช่นคืนนี้ได้เยี่ยงไร” 

หนานกงซูร้องไห้เสียงดัง “ข้าไปพูดให้ร้ายนางเมื่อใดกัน” 

หนานกงฮุยยิ้มเย็น “เช่นนั้นก็เชิญหวงจั่งซุนมาสอบถาม ดูว่าเจ้าเอ่ยสิ่งใดต่อหน้าหวงจั่งซุนไปบ้าง” 

หนานกงซูกัดริมฝีปากไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก เจิ้งซื่อกอดบุตรีเอาไว้ เช็ดคราบน้ำตาให้ “ท่านพี่ เรื่องนี้ซูเอ๋อร์ทำไม่ถูกจริง แต่นางกับหวงจั่งซุนนั้นรักกันยากที่จะเลี่ยงได้…คุณหนูใหญ่ทำให้เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ไม่สนใจความสัมพันธ์พี่น้องหรืออย่างไร” 

“พอแล้ว” หนานกงไหวเอ่ยขึ้นเสียงดังด้วยความรำคาญ “เพราะเจ้าตามใจนางจนไม่รู้จักอะไรสูงอะไรต่ำ ช่าง…” เอ่ยมาได้เพียงครึ่ง หนานกงไหวกลับไม่ได้เอ่ยต่อ เจิ้งซื่อหัวใจเย็นวาบขึ้นมา นางรู้ว่าหนานกงไหวจะพูดว่าอย่างไร ช่างสมกับเป็นบุตรที่เกิดจากภรรยารอง สั่งสอนไม่เป็นหรือ แล้วคิดว่านางไม่อยากเป็นภรรยาเอกหรืออย่างไรกัน นางยอมทนลำบากมาตั้งกี่ปี ขึ้นมานั่งในตำแหน่งภรรยาเอกแล้ว ไม่คิดว่าในใจของหนานกงไหวจะยังไม่ลืมคู่ชีวิตคนเดิมของเขา 

หนานกงไหวเองรู้ว่าเป็นคำพูดทำร้ายจิตใจจึงไม่ได้เอ่ยออกมา นำมันกลืนกลับลงไป เอ่ยเสียงเย็น “จากนี้เป็นต้นไป ให้นางอยู่แต่ในเรือน หากก่อเรื่องขึ้นมาอีก พวกเจ้าสองคนแม่ลูกก็อยู่ที่ตานหยางไม่ต้องกลับจินหลิงแล้ว” 

“ไม่นะ…” หนานกงซูตกใจ ตอนนี้ควรจะเป็นเวลาที่นางต้องเฝ้าสานสัมพันธ์ระหว่างตัวนางกับหวงจั่งซุน หากท่านพ่อไม่ให้นางออกไป ก็จะไม่เสียท่าให้แก่หนานกงมั่วตัวร้ายนั่นหรอกหรือ 

เจิ้งซื่อรีบดึงสะกิดนางเอาไว้ เอ่ยบอก “เจ้าค่ะ ท่านพี่โปรดวางใจ ข้าจะดูแลสั่งสอนซูเอ๋อร์เป็นอย่างดี” 

หนานกงไหวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ออกไปเถิด” 

แม้ไม่อยากยอม ทว่าหนานกงซูที่โดนมารดาลากออกมาก็จำต้องยอม ก่อนไปยังไม่ลืมมองจ้องถลึงตาใส่หนานกงฮุยด้วย เป็นอย่างที่ท่านแม่กล่าว เพียงหนานกงมั่วกลับมาก็ไปเข้าข้างนางเสียแล้ว สุดท้ายก็ไม่เหมือนกับลูกที่ท่านแม่คลอดออกมาเองจริงๆ 

เมื่อเห็นสายตาของหนานกงซู หนานกงไหวจึงต้องถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง บุตรีผู้นี้ถูกมารดาของนางเอาใจจนเสียคนแล้ว 

บรรยากาศในห้องเงียบลง หนานกงไหวนิ่งอยู่เนิ่นนาน สองพี่น้องหนานกงเองก็ไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใด 

ผ่านไปชั่วครู่ ถึงได้ยินหนานกงไหวถามขึ้น “เรื่องคืนนี้เกี่ยวกับมั่วเอ๋อร์จริงหรือ” ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจบุตรีของตนเอง เรื่องหนานกงมั่วทำเขาจดจำได้ดี หากบอกว่าหนานกงมั่วใส่ร้ายหนานกงซู เขาเชื่อจริงๆ ว่านางคงทำมันได้ หากเอ่ยถึงสมอง เกรงว่าหนานกงซูสิบคนก็ยังสู้หนานกงมั่วเพียงคนเดียวไม่ได้ หนานกงไหวไม่รู้ว่าต้องดีใจที่มีบุตรีคนโตฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่ง หรือควรจนปัญญากับบุตรีคนรองที่ถูกเอาอกเอาใจจนโง่เขลาเบาปัญญา 

หนานกงฮุยไม่พอใจ “ท่านพ่อ ท่านหมายความเยี่ยงไร สถานที่ตรงนั้นใช่ว่าท่านจะไม่รู้จัก หรือว่ามั่วเอ๋อร์จะสามารถเดินผ่านหน้าหวงจั่งซุนและซูเอ๋อร์เข้าไปได้เลยหรืออย่างไร หรือว่ามั่วเอ๋อร์นัดให้ซูเอ๋อร์และหวงจั่งซุนไปนัดเจอกันที่นั่น เซียวเชียนเยี่ยนั่น…” เขาไม่ชอบใจหวงจั่งซุนผู้เสแสร้งทำเป็นสุภาพอ่อนโยนผู้นี้ 

“น้องรอง” เสียงเข้มของหนานกงชวี่เอ่ยขัดขึ้น เงยหน้ามองหนานกงไหวพร้อมกับเอ่ย “ท่านพ่อ เรื่องนี้คงจะเป็นการเข้าใจผิดขอรับ” จากนั้นจึงเล่าถึงเหตุการณ์ที่พวกเขาจะไปชวนหวงจั่งซุนมาดื่มด้วยกันให้ฟังอย่างละเอียดอีกรอบ หนานกงไหวครุ่นคิดอยู่นาน เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่หนานกงมั่วทำไม่ได้ ใบหน้าของเขาจึงผ่อนคลายลง 

หนานกงชวี่เอ่ยต่อ “แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ซูเอ๋อร์ควรได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างจริงจังแล้ว หญิงสาวยังไม่ทันออกเรือน กล้านัดชายออกมากลางดึก หาก…แพร่งพรายออกไป” 

หนานกงฮุยเอ่ยอย่างหงุดหงิด “ท่านพ่อ ซูเอ๋อร์ต้องแต่งกับเซียวเชียนเยี่ยจริงหรือขอรับ ข้าว่าเซียวเชียนเยี่ยไม่ใช่คนดีนัก” 

หนานกงไหวมองเขาแล้วเอ่ยตอบว่า “เดิมพ่อเองก็ไม่ได้มีความคิดเช่นนี้ แต่ว่าตอนนี้…เกรงว่าไม่แต่งคงไม่ได้แล้ว” หนานกงไหวไม่เคยมีความคิดจะให้บุตรีแต่งออกไปกับเหล่าเชื้อพระวงศ์เลย แม่จะเป็นคนหยาบทว่าเขาก็ไม่ได้โง่ รู้ดีว่าระหว่างเหล่าเชื้อพระวงศ์ต่างๆ นั้นวุ่นวายเพียงใด ทว่าตอนนี้ซูเอ๋อร์และหวงจั่งซุนเป็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าพวกเขาไม่ยอมก็คงจะไม่ได้แล้ว เซียวเชียนเยี่ยจะไม่รู้เชียวหรือว่าการนัดหญิงสาวออกมามันไม่เหมาะสม เกรงว่าตัวเซียวเชียนเยี่ยเองคงต้องการเช่นนี้ สกุลหนางกงมีบุตรีเพียงสองคน มั่วเอ๋อร์ถูกยกให้หมั้นกับผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงไปแล้ว เพียงซูเอ๋อร์แต่งเข้าจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง ต่อไปจวนฉู่กั๋วกงก็คงต้องอยู่ฝั่งเดียวกับจวนเย่ว์จวิ้นอ๋องแล้ว 

“ฮุยเอ๋อร์ไม่เข้าใจ เจ้าก็ไม่เข้าใจด้วยหรือ” 

หนานกงชวี่ก้มหน้า เอ่ยตอบเสียงเรียบ “ลูกเข้าใจขอรับ ท่านพ่อ ชื่อเสียงของซูเอ๋อร์เป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรเสีย ถึงจะเป็นภรรยารอง…ระดับชั้นไม่เหมือนกัน ฐานะก็ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับปล่อยให้ซูเอ๋อร์ประมาทถูกทำลายชื่อเสียงแล้วนั้น…” 

หนานกงไหวพยักหน้า กล่าวตอบ “เรื่องนี้พ่อก็เข้าใจดี คิดว่าหวงจั่งซุนเองก็รู้ดี เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น พรุ่งนี้ก็ควรต้องกลับไปได้แล้ว ก่อนกลับจินหลิง ห้ามให้ซูเอ๋อร์ออกไปไหน” 

“ขอรับท่านพ่อ” หนานกงชวี่พยักหน้ารับ 

หนานกงฮุยยักไหล่ไม่สนใจ เพียงท่านพ่อไม่โยนความผิดไปให้มั่วเอ๋อร์ก็พอแล้ว ส่วนหนานกงซู เขาไม่ได้ตีตัวออกห่างจากนางเพราะมั่วเอ๋อร์กลับมา แต่เป็นเพราะนางทำตัวไม่ดีเอง 

เป็นดั่งที่คิด เช้าวันรุ่งขึ้นเซียวเชียนเยี่ยพร้อมพี่น้องตระกูลเว่ยก็ลากลับไปทันที แต่เว่ยจวินมั่วและลิ่นฉังเฟิงสองคน ราวกับไม่รับรู้ถึงความรู้สึกอึดอัดของหนานกงไหว ยังคงพักที่เรือนหนานกงต่อไป ยังคงติดตามหนานกงมั่วไปทุกหนทุกแห่ง สิ่งที่วุ่นวายเพิ่มเข้ามาก็คือมีหนานกงฮุยติดตามไปด้วยอีกคน ทำให้การเคลื่อนไหวของทั้งสามนั้นมีขอบเขตจำกัด เดิมตั้งใจขึ้นเขาไปเยี่ยมอาจารย์ หนานกงมั่วจึงล้มเลิกความคิดนี้ไป นางรู้ว่าหนานกงฮุยพยายามชดเชยให้ แต่เมื่อเทียบความสัมพันธ์กับเว่ยจวินมั่วที่มีเป้าหมายคือเรื่องเงินแล้ว หนานกงมั่วไม่คิดว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวนี้จะน่าเชื่อถือได้หรอก เมื่อใดที่เห็นสายตาผิดหวังของหนานกงฮุย หนานกงมั่วทำได้เพียงเบนสายตาไปทางอื่น 

“พรุ่งนี้ก็เป็นวันพิธีไหว้บรรพบุรุษแล้ว แม่นางมั่วจะไปด้วยหรือไม่” ในสวน ลิ่นฉังเฟิงพิงต้นไม้ท่าทางเกียจคร้านพลางเอ่ยถามขึ้นมา 

“หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ข้าจำเป็นต้องไปหรือไม่” 

หนานกงฮุยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยตอบ “พิธีไหว้บรรพบุรุษไม่จำเป็นต้องให้ผู้หญิงไป เพียงแต่งานเลี้ยงหลังจบงานที่หวงจั่งซุน เยี่ยนอ๋อง และโจวอ๋องจัดขึ้น มั่วเอ๋อร์ควรไปดูสักหน่อยเถิด” 

หนานกงมั่วหันไปมองเว่ยจวินมั่ว เดิมเว่ยจวินมั่วกำลังหลับตาสงบนิ่งอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาพยักหน้าให้นาง “เสด็จป้าส่งเทียบเชิญมาแล้ว” พระชายาเยี่ยนอ๋องส่งเทียบเชิญมาให้ แน่นอนว่าปฏิเสธไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานกงกลับมาจินหลิงแล้วก็ควรเข้าร่วมสังคมชั้นสูง ครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ผู้ที่ติดตามมาร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษล้วนเป็นลูกหลานของวีรบุรุษผู้กล้าที่รวบรวมประเทศขึ้นมา 

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท