หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 18 ความเกลียดชังของเจิ้งซื่อ

ตอนที่ 18 ความเกลียดชังของเจิ้งซื่อ

 

เจิ้งซื่อกรีดร้องออกมา ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธจนเป็นลมล้มพับไป 

“ท่านแม่” หนานกงซูรีบวิ่งเข้าไปประคองเจิ้งซื่อ ร้องห่มร้องไห้ออกมา “ท่านพ่อ เมื่อแต่งงานแล้วก็ต้องมีสัมพันธ์ต่อกัน ท่านยอมให้พี่สาวรังแกท่านแม่ขนาดนี้เลยหรือ” 

“ข้าเอ่ยอันใดผิดไปเช่นนั้นหรือ” หนานกงมั่วมองหนานกงฮุยและหนานกงชวี่ด้วยสีหน้าใสซื่อ หนานกงชวี่กระอักกระอ่วนหันกลับมาบอก “มั่วเอ๋อร์ ต่อไปอย่าไปฟังคำพูดพวกนั้นอีก ฮูหยิน…เอ่อ ฮูหยินไม่ได้มาจากหอที่ใดหรอก” 

“งั้นมาจากที่ไหนกัน” หนานกงมั่วกะพริบตาปริบ “ตอนที่ฮูหยินหลี่ร้องไห้ข้าได้ยินนางบอก ผู้ที่เข้าพิธีนั้นได้เป็นภรรยาเอก ผู้ที่วิ่งตามก็ต้องเป็นอนุภรรยา แม้แต่บ้านก็ไม่มี หากตอนนั้นฮูหยินไม่เอาเข้ามาอยู่ในบ้าน ผู้ที่ยอมเป็นอนุก็คงมีแต่พวกชั้นต่ำ” 

หนานกงซูที่ประคองเจิ้งซื่อเอาไว้รู้สึกหนักอึ้งที่ไหล่ ยามนี้เจิ้งซื่อได้สลบไปอย่างแท้จริงแล้ว 

“พอแล้ว” หนานกงไหวจ้องหนานกงมั่วเขม็งด้วยความโกรธ “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือตั้งใจกันแน่ เจ้าตั้งใจเรียนรู้กฎซะ ถ้ายังกล้าเหลวไหลอีกระวังจะมีไม้กระดานคอยปรนนิบัติ และพวกเจ้า…หากกล้าแพร่งพรายคำพูดเมื่อสักครู่ออกไปแม้เพียงครึ่งประโยค ระวังชีวิตของพวกเจ้าเอาไว้ด้วย” กวาดตามองบ่าวไพร่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวตอบรับ ในใจอดที่จะชื่นชมคุณหนูใหญ่ไม่ได้ ถึงขั้นทำให้ฮูหยินเป็นลมล้มพับไปได้ 

“ยังไม่พาฮูหยินกลับห้องไปอีก” หนานกงไหวบอกพลางสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปทันที หนานกงซูแม้จะไม่พอใจ ทว่านางก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ทำได้เพียงมองหนานกงมั่วด้วยความคับแค้นใจ ก่อนจะไปส่งเจิ้งซื่อกลับห้องด้วยตนเอง 

ห้องโถงเงียบลง หนานกงมั่วยักไหล่ มองพี่ชายทั้งสองที่มีสีหน้ายับยุ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

เนิ่นนานจากนั้นหนานกงชวี่จึงพ่นลมหายใจออกมา กล่าวว่า “น้องรอง พามั่วเอ๋อร์ไปพักผ่อนเถิด มีอะไรค่อยว่ากันอีกที” หนานกงฮุยพยักหน้า “มั่วเอ๋อร์ เราไปกันเถอะ พี่รองสั่งให้คนจัดห้องไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว” หนานกงมั่วพยักหน้ารับ “ลำบากแล้ว” 

“ไม่ต้องเกรงใจ ข้าเป็นพี่รองของเจ้า ขาดเหลือสิ่งใดบอกกับพี่รองได้” หนานกงฮุยกล่าวด้วยใบหน้ารู้สึกผิด 

หนานกงมั่วถอนหายใจ พยักหน้าบอก “ลำบากพี่รองแล้ว” 

หนานกงฮุยยิ้มราวกับดอกไม้บาน “รีบไปเถิด ดูว่าชอบห้องพักหรือไม่ หากไม่ชอบเดี๋ยวพี่รองจะเปลี่ยนให้เจ้าเอง” 

มองส่งพี่น้องทั้งสองจากไป ห้องโถงใหญ่เหลือไว้เพียงหนานกงชวี่เพียงผู้เดียว หนานกงชวี่ถอนหายใจยาว มั่วเอ๋อร์ยังไม่เคยเรียกเขาว่าพี่ใหญ่เลย ช่างเถิด ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน 

ภายในเรือน ห้องของเจิ้งซื่อ เจิ้งซื่อใบหน้าเหยเกนอนพิงพนักเตียงอยู่ นางปาถ้วยชาที่หนานกงซูยื่นให้ลงพื้น แก้วแตกกระจัดกระจายจนหนานกงซูตกใจ 

“ท่านแม่” 

“ซูเอ๋อร์…ชีวิตแม่ทุกข์ทรมานเหลือเกิน” เจิ้งซื่อนิ่งไปเล็กน้อย กอดบุตรีไปร้องไห้เสียงดังไปด้วย “ท่านแม่ ท่านอย่าเสียใจไปเลย ท่านพ่อต้องจัดการให้เราแน่ หนานกงชิงนางลำพองใจไปได้ไม่นานหรอก” เจิ้งซื่อยิ้มเย็น “จัดการรึ คาดหวังกับพ่อเจ้าน่ะรึ” 

หนานกงซูแปลกใจ “ทำไมหรือ ท่านพ่อให้เกียรติท่านแม่มากนะเจ้าคะ” 

เจิ้งซื่อส่ายหน้า ตอบกลับไปว่า “ซูเอ๋อร์ เจ้าไม่เข้าใจ หากพ่อเจ้าอยากจัดการให้เราจริงๆ คำพูดของหนานกงชิงเมื่อสักครู่เขาจะปล่อยไปง่ายๆ แบบนั้นหรือ เดิมท่านพ่อรักเจ้ามาก แต่วันนี้ถ้าคนที่พูดแบบนั้นเป็นเจ้า เกรงว่าพ่อเจ้าก็คงไม่ปล่อยไว้เป็นแน่” หนานกงซูย่นคิ้ว เอ่ยอย่างไม่เชื่อ “หรือท่านแม่คิดว่า เมื่อเทียบกันแล้วท่านพ่อจะรักหนานกงชิงมากกว่างั้นหรือ” หากท่านพ่อรักหนานกงชิง ไยต้องทิ้งนางไว้ที่ตานหยางหลายปีไม่ดูแลสารทุกข์สุกดิบ 

เจิ้งซื่อถอนหายใจ ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป “เป็นข้าเองที่ดูถูกเด็กนั่น ต่อไป จะประมาทแบบนี้อีกไม่ได้” เพียงนึกถึงคำพูดของหนานกงมั่วเมื่ออยู่ในห้องโถง เจิ้งซื่อก็รู้สึกเจ็บปวดอยู่ในอก หนานกงซูตอบรับ เอ่ยเสียงหวาน “ท่านแม่กังวลอันใด หญิงเพียงผู้เดียวจะสามารถพลิกฟ้าได้เลยหรือ รอลูกแต่งเข้าจวนเย่ว์อ๋อง…ลูกจะสั่งสอนนางแทนท่านแม่เอง ต้องหาวิธีช่วยท่านแม่ให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮูหยินให้ได้” 

เจิ้งซื่อกอดหนานกงซูเอาไว้ในอ้อมอกพลางเอ่ยว่า “มีเพียงลูกสาวที่กตัญญูต่อแม่ ไม่เหมือนกับจิ้งจอกสองตัวนั่น…” 

“ท่านแม่ ท่านหมายถึง…” หนานกงซูขมวดคิ้ว หนานกงซูไม่ได้ฉลาดที่สุด แต่ก็ไม่ได้โง่ มารดาของนางไร้ซึ่งบุตรชาย ผู้ที่ต้องรับหน้าที่สืบทอดฉู่กั๋วกงต่อไปจึงมีเพียงพี่ใหญ่ ต่อไปนางต้องพึ่งบารมีพี่ใหญ่และพี่รอง หากพวกเขาถูกหนานกงมั่วดึงไปคงจะไม่เป็นการดีแน่ “ท่านแม่คิดมากไปแล้ว พี่ใหญ่และพี่รองไม่เจอพี่สาวมานานหลายปี คงหนีไม่พ้นความคิดถึงและละอายใจอย่างแน่นอน แต่ว่าพวกเราอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี จะขาดได้เร็วเช่นนั้นเลยหรือ ท่านแม่อย่าโกรธไปเลย ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นที่พบเห็นดูถูกเอาได้” 

เมื่อได้ยินสิ่งที่นางบอก เจิ้งซื่อจึงสงบลง พยักหน้ารับ “ซูเอ๋อร์พูดถูก ก็หลายปีมาแล้ว…แม่ไม่มีทางมาเสียท่ายามนี้หรอก หนานกงมั่ว…ข้าก็อยากรู้ว่าเจ้ามีฝีมืออะไร” 

หนานกงซูปิดปากหัวเราะ “ท่านแม่เข้าใจก็ดีแล้ว ท่านแม่ ข้า…ไปเยี่ยมหวงจั่งซุนไม่ได้จริงหรือเจ้าคะ” 

“เรื่องนี้…” เจิ้งซื่อลำบากใจ “พวกเจ้านั้น…” ไม่มีสถานะใดๆ หากคนอื่นรู้เข้าคงเสียมาถึงชื่อเสียงของซูเอ๋อร์ หนานกงซูเอ่ยอย่างเศร้าโศก “แต่ว่า ข้าเป็นห่วงหวงจั่งซุง ยิ่งไปกว่านั้น หากได้เจอหวงจั่งซุนข้าต้องตกลงเรื่องของเราให้แน่ใจ ไม่เช่นนั้น…” 

เจิ้งซื่อคิดอยู่ชั่วครู่ นึกถึงเยี่ยนอ๋องที่เอ็นดูหนานกงมั่ว ยิ่งเย้ยหยันอยู่ในใจ แม้จะได้รับความรักและเอ็นดูจากเยี่ยนอ๋องแล้วอย่างไรเล่า แต่งกับทายาทจวิ้นอ๋องผู้ที่ไม่มีอันใดเลยมีอะไรน่าชื่นชมกัน รอซูเอ๋อร์เป็นชายาของเย่ว์จวิ้นอ๋องก่อนเถิด เมื่อได้เป็นชายาพระโอรสของฮ่องเต้แล้ว…ถึงตอนนั้นเด็กนั่นก็คงจะได้เห็นดีกัน 

“แม่รู้แล้ว แม่จะช่วยเจ้าเอง” เจิ้งซื่อเอ่ยต่อว่า “เรื่องนี้ห้ามให้พ่อของเจ้ารู้เด็ดขาด เข้าใจหรือไม่” 

หนานกงซูพยักหน้าอย่างว่าง่าย รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้น 

ภายในห้องหนังสือ หนานกงไหวนั่งเขียนอักษรอยู่หลังโต๊ะ หนานกงชวี่ยืนเงียบอยู่ตรงหน้า เวลาผ่านไปเนิ่นนานก่อนที่หนานกงไหวจะเงยหน้าขึ้นมาถาม “เจ้ามีอันใด” 

หนานกงชวี่บอก “หลายปีมานี้มั่วเอ๋อร์ใช้ชีวิตตัวคนเดียวลำบากไม่น้อย และคงไม่มีใครสอนมารยาทแก่นาง หากมีสิ่งใด…ไม่ถูกไม่ควร ท่านพ่อได้โปรดให้อภัย” หนานกงส่งเสียงตอบรับ “เจ้าเป็นห่วงนาง แต่นางก็เป็นบุตรีของข้านะ เสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง เจ้าคิดว่าข้าจะทำเช่นไรกับนางกัน” 

“ลูกมิกล้า” หนานกงชวี่ก้มหน้าตอบ 

หนานกงไหวโบกมือ “ข้ารู้ว่านางไม่พอใจ เรื่องครั้งนี้ข้าไม่ถือสา เจ้าไปบอกนาง ต่อไประวังหน่อย เป็นหญิงสาวเอ่ยคำหยาบคาบพวกนั้นแล้วมันจะเป็นเช่นไร” 

หนานกงชวี่พยักหน้าพร้อมตอบรับ “ลูกทราบแล้วท่านพ่อ” 

หนานกงไหวถอนหายใจออกมา “ครั้งนี้ที่ให้นางไปแต่งแทนเพราะเลี่ยงไม่ได้ ซูเอ๋อร์และหวงจั่งซุนให้คำมั่นต่อกันแล้ว แม้นว่าไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำอันใดไม่ได้ หากบังคับให้นางแต่งออกไป เกรงว่าจะก่อกวนจนไม่เป็นการดี ยิ่งทำให้ตระกูลหนานกงต้องผิดต่อรัชทายาทและหวงจั่งซุน” 

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท