หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 42 เหยียบเรือสองแคม

ตอนที่ 42 เหยียบเรือสองแคม

หนานกงมั่วมิได้นึกโกรธเคือง เพียงมองเจิ้งซื่อแล้วเอ่ยถามว่า “หว่านฮูหยิน ท่านเชื่อคำพูดนี้หรือไม่”

แน่นอนว่าเจิ้งซื่อไม่เชื่อ บุรุษหากไม่มักมาก ไหนเลยจะมีเรื่องวุ่นวายเช่นนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเชียนเยี่ยเองก็มิใช่เด็ก จวนเย่ว์จวิ้นอ๋องมิได้มีเพียงชายาเอก ยังมีชายารองอีกมากมาย คิดว่าเซียวเชียนเยี่ยที่ผ่านมามากมายจะรักหนานกงซูเพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือ ต่อให้เจิ้งซื่อโง่เขลาเพียงใดก็ไม่อาจเชื่อได้ แต่ว่าเช่นนั้นแล้วอย่างไรเล่า ได้รับความโปรดปรานต้องอาศัยความรักที่แท้จริงอย่างนั้นหรือ วังหลังนั้นอาศัยฝีมือเสียมากกว่า

“มีเรื่องอันใดกันถึงได้หัวเราะสนุกสนานเช่นนี้” เสียงทุ้มต่ำของเว่ยจวินมั่วดังมาจากไม่ไกล ทั้งสามคนหันกลับไปก็เห็นเว่ยจวินมั่วกำลังเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับลิ่นฉังเฟิง

ลิ่นฉังเฟิงมองเห็นหนานกงมั่วแล้วยิ่งหัวเราะหนักขึ้น “ไม่เจอกันหลายวัน แม่นางมั่วก็ยังคงงดงาม”

หนานกงมั่วยิ้ม “ไม่เจอกันหลายวัน คุณชายฉังเฟิงก็ยังคงโดดเด่น”

ลิ่นฉังเฟิงประสานมือหัวเราะพลางเอ่ยตอบ “แม่นางมั่วชมเกินไปแล้ว”

เจิ้งซื่อก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ซื่อจื่อ คุณชายลิ่น มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”

ลิ่นฉังเฟิงยิ้มตอบ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดหรอก หวงจั่งซุนเห็นว่าที่นี่งดงาม อยากให้ทุกคนได้รวมตัวกัน ร่วมกันผ่อนคลาย คลายความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางตลอดหลายวันมานี้ ข้ามารับแม่นางหนานกงเป็นเพื่อนจวินมั่ว” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว มองไปยังเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วพยักหน้า “วันนี้ไม่ออกเดินทางแล้ว ออกไปเดินเล่นกันเถิด”

“เห็นจะไม่เหมาะเท่าใดนัก” เจิ้งซื่อมีท่าทางลำบากใจ “อย่างไรคุณหนูใหญ่และซูเอ๋อร์ต่างก็ยังไม่ออกเรือน…”

ลิ่นฉังเฟิงหัวเราะ “เจิ้งฮูหยินโปรดวางใจ พวกเราพาเพียงแม่นางมั่วไปผู้เดียวเท่านั้น แม่นางมั่วเป็นคู่หมั้นคู่หมายของจวินมั่ว คงจะไม่เป็นปัญหาหรอกกระมัง” ดังนั้นย่อมไม่เกี่ยวอันใดกับหนานกงซูเลยแม้แต่น้อย เจิ้งซื่อกังวลมากไปแล้ว

เจิ้งซื่อนิ่งค้าง ทว่าหนานกงซูกลับไม่สนใจ ยิ้มตอบ “ท่านแม่ คุณชายลิ่นกล่าวได้ถูกแล้ว ให้พี่ใหญ่ออกไปกับเว่ยซื่อจื่อเถิดเจ้าค่ะ”

ลิ่นฉังเฟิงมองไปยังหนานกงมั่วด้วยความแปลกใจ ‘หนานกงซูจิตใจดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน’

หนานกงมั่วยิ้มบางๆ ‘นางคิดว่าอีกชั่วครู่เซียวเชียนเยี่ยจะมาเชิญนาง’

เซียวเชียนเยี่ยจะมาหรือ ผีเท่านั้นล่ะจึงจะรู้

เซียวเชียนเยี่ยจะจำหนานกงซูได้หรือไม่ แน่นอนว่าต้องจำได้ หนานกงซูเป็นถึงบุตรีของฉู่กั๋วกง แต่ว่าเซียวเชียนเยี่ยจะสามารถพาหนานกงซูเดินไปทั่วอย่างเปิดเผยได้หรือไม่ แน่นอนว่าไม่ได้ แม้หนานกงซูจะลุ่มหลงจนขึ้นสมอง ทว่าเซียวเชียนเยี่ยนั้นไม่ใช่ ตั้งแต่หนานกงซูและเซียวเชียนเยี่ยมีความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ทั่วทั้งเมืองจินหลิงกลับไม่มีใครดูออก การกระทำของเซียวเชียนเยี่ยนั้นดูเหมือนเหลวแหลกไปเรื่อย ทว่ากลับมีความรัดกุมทีเดียว

ลงท้าย หนานกงซูจึงต้องจากไปพร้อมกับเจิ้งซื่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ทุ่งหญ้าราบเรียบกว้างใหญ่รอบทะเลสาบ เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของเดือนสาม ดอกไม้บานสะพรั่ง ผีเสื้อบินวน แม้จะเปรียบไม่ได้กับดอกไม้งดงามมีชื่อเสียงในเมืองหลวง ทว่ากลับเป็นภาพที่งดงาม

“มั่วเอ๋อร์” ยังไม่ทันได้หยุดยืนก็ได้ยินเสียงเรียกของเซี่ยเพ่ยหวนดังขึ้น เมื่อหันกลับไปพลันมองเห็นเซี่ยเพ่ยหวนวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางโล่งอกโล่งใจ ด้านหลังของนางนั้นคือเซียวเชียนเยี่ยที่มีใบหน้าทะมึน เมื่อมองเห็นทั้งสามคน เซียวเชียนเยี่ยก็เดินตามมาราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เอ่ยขึ้นพลางยิ้มบางๆ “น้องชาย ฉังเฟิง คุณหนูหนานกง ที่แท้พวกเจ้าก็มาด้วยกัน”

ลิ่นฉังเฟิงยิ้ม “จวินมั่วไปรับแม่นางมั่วมาด้วยกัน เย่ว์จวิ้นอ๋องไม่…”

“น้องชายกับคุณหนูหนานกงช่างมีความสัมพันธ์ที่ดีเหลือเกิน ดูเหมือนท่านอาฉังผิงคงวางใจได้แล้ว” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยขัดคำพูดของลิ่นฉังเฟิงขึ้นมาราวกับไม่ตั้งใจ

เซี่ยเพ่ยหวนจูงมือหนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มั่วเอ๋อร์ ตลอดทางมานี่น่าเบื่อมาก ข้าเกือบจะไปหาเจ้าที่รถม้าของเจ้าอยู่แล้ว” หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “เจ้าก็มาสิ รถม้าตระกูลหนานกงจะมีเจ้าเพิ่มมาอีกสักคนจะเป็นไรไป” เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยอย่างยินดี “เยี่ยมไปเลย พรุ่งนี้ข้าจะนั่งไปกับเจ้า”

“เซี่ยฮูหยินจะยอมหรือ” หนานกงมั่วถาม

“แน่นอนว่าท่านแม่ไม่ว่าอะไร” เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยต่อ “ท่านแม่บอกว่าช่วงนี้ต้องอยู่เป็นเพื่อนพี่รองร่ำเรียนหนังสือ ไม่มีเวลามาสนใจข้าหรอก ข้าอยู่คนเดียวน่าเบื่อเป็นที่สุด”

ลิ่นฉังเฟิงเลิกคิ้ว เอ่ยอย่างแปลกใจ “ได้ยินมาว่าคุณหนูรองตระกูลเซี่ยนั้นมีความสามารถ เพราะขยันหมั่นเพียรเช่นนี้หรอกหรือ”

แม้เซี่ยเพ่ยหวนจะโกรธพี่รองอยู่บ้าง แต่ไม่มีทางทำให้ชื่อเสียงของคนเป็นพี่เสียหายต่อหน้าคนนอกเป็นแน่ ทำเพียงตอบออกไป “พี่รองชอบร่ำเรียนหนังสือ ท่านแม่จึงช่วยสอนให้ ตรงข้ามกับข้าที่ไม่ใส่ใจ” ลิ่นฉังเฟิงยิ้ม “คุณหนูสามเซี่ยถ่อมตัวเกินไปแล้ว” ในเมืองหลวงใครจะไม่รู้ถึงสติปัญญาของคุณหนูสามตระกูลเซี่ยที่แม้แต่ฝ่าบาทยังชื่นชม

“ฉังเฟิงกล่าวได้ถูกแล้ว คุณหนูสามจากตระกูลเซี่ยต่างหากที่เป็นสตรีผู้มีความสามารถที่สุดในเมืองจินหลิง” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเพ่ยหวนกล่าวเสียงเรียบ “เย่ว์จวิ้นอ๋องชมเกินไปแล้ว คำพูดนี้หากแพร่งพรายออกไปคนอื่นคงได้ดูถูกเซี่ยสามเป็นแน่ มั่วเอ๋อร์ เราไปเดินเล่นที่ริมทะเลสาบกันเถิด เมื่อสักครู่ข้ามองเห็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” เซี่ยเพ่ยหวนคว้ามือหนานกงมั่วเอาไว้แน่น บ่งบอกว่านางแทบหมดความอดทนต่อเซียวเชียนเยี่ยอยู่แล้ว หนานกงมั่วพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ ข้าเองก็อยากไปดูสักหน่อย จวินมั่ว พวกข้า…”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้าเล็กน้อย “ระวังด้วย อย่าตกลงไปในน้ำเล่า”

หนานกงมั่วอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เขา พยักหน้าตอบรับและจูงมือเซี่ยเพ่ยหวนเดินออกไป

“พวกเรา…” เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะเอ่ยบางอย่าง

“พี่ชาย” เสียงทุ้มของเว่ยจวินมั่วดังขึ้น “กระหม่อมมีเรื่องอยากหารือกับพระองค์”

เซียวเชียนเยี่ยหงุดหงิดเล็กน้อย ตลอดการเดินทางเซี่ยเพ่ยหวนเอาแต่หลบหน้าเขา เมื่อกลับถึงจินหลิงแล้วคงหาโอกาสเจอได้ยากเพราะกฏของตระกูลเซี่ยนั้นเข้มงวด อยากทำสิ่งใดก็คงจะเป็นไปได้ยากแล้ว หากเป็นคนอื่นเขาคงไม่สนใจ ทว่าเป็นเว่ยจวินมั่วเขาไม่สนใจไม่ได้ ทำได้เพียงเก็บความโกรธเอาไว้ “น้องชายมีสิ่งใดต้องการจะเอ่ยกับข้าหรือ”

สายตาเรียบนิ่งของเว่ยจวินมั่วถอนกลับมาจากทางที่หนานกงมั่วหายลับไป “คุณหนูรองหนานกงมา”

เซียวเชียนเยี่ยหันกลับไป หนานกงซูกำลังมุ่งตรงมาทางพวกเขา ใบหน้าคมของเซียวเชียนเยี่ยเข้มขึ้น หันกลับไปมองหนานกงมั่วและเซี่ยเพ่ยหวนก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว หากให้หนานกงซูรู้แผนการของเขาคงไม่เป็นการดี คงต้องปล่อยเซี่ยเพ่ยหวนไปก่อนแล้ว เซียวเชียนเยี่ยมองอย่างเสียดาย หันไปกล่าวกับเว่ยจวินมั่วด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจเจ้ามากที่เตือนข้า หากกลับจินหลิงแล้วคุณหนูหนานกงลำบากอันใดก็ให้มาหาพระชายาที่จวนของข้า” เอ่ยจบจึงเดินเข้าไปหาหนานกงซูด้วยรอยยิ้ม

ลับหลังเขาแล้ว ลิ่นฉังเฟิงก็ลูบปลายคางเอ่ยถามขึ้น “เจ้าว่า…เซียวเชียนเยี่ยคิดเช่นไร ล่อลวงหนานกงซู และยังมีคุณหนูเซี่ยสามอีก เขาไม่กลัวจะพลาดทั้งสองหรอกหรือ”

“ไม่หรอก” มองเซียวเชียนเยี่ยที่ยิ้มหวานอยู่กับหนานกงซู เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ

“ไม่งั้นหรือ หนานกงไหวกับเซี่ยหยวนใช่ว่าจะต่อกรด้วยได้ง่ายๆ” ลิ่นฉังเฟิงเอ่ย เมื่อสองคนนี้ทราบว่าเซียวเชียนเยี่ยกำลังเหยียบเรือสองแคมอยู่ เขายังจะมีวันที่ดีได้เช่นไร ขณะเดียวกัน หากทำให้สองตระกูลนี้ขุ่นเคือง ตำแหน่งของรัชทายาทคงมีปัญหาอย่างแน่นอน

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท