หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 45 ชูอวี้แห่งตระกูลจู

ตอนที่ 45 ชูอวี้แห่งตระกูลจู

คุณชายฉังเฟิงกลอกตา “ข้าอยากจะทิ่มดวงตาของข้าให้แตกเสียจริง” แสดงความรักอะไรกัน น่าเกลียดเป็นที่สุด

เซี่ยเพ่ยหวนปิดปากยิ้มหัวเราะ “มั่วเอ๋อร์และเว่ยซื่อจื่อช่างเหมาะสม ฝ่าบาททรงมีสายพระเนตรที่ดียิ่งนัก”

“เว่ยซื่อจื่อ” ที่ด้านหลัง หญิงสาวท่าทางเหมือนสาวใช้กำลังวิ่งเข้ามาหาเว่ยจวินมั่วด้วยท่าทางรีบร้อน ทั้งสี่คนที่กำลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่จึงหันกลับไปมอง คิ้วสวยของหนานกงมั่วเลิกขึ้น จำได้ว่านางเป็นหนึ่งในสาวใช้ของสตรีที่ตกลงไปในน้ำเมื่อสักครู่

เห็นได้ชัดว่านางเป็นสาวใช้เคียงกาย ดูมีความรู้อยู่บ้าง เมื่อเห็นสายตาสำรวจจากทั้งสี่คนกลับไม่มีแววตระหนกแม้แต่น้อย เอ่ยอย่างนอบน้อม “นายท่านต้องการแสดงความขอบคุณเว่ยซื่อจื่อที่ช่วยคุณหนูเอาไว้ จึงได้จัดเลี้ยงเพื่อขอบคุณ ขอเรียนเชิญเว่ยซื่อจื่อด้วยเจ้าค่ะ”

เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว เอ่ยด้วยท่าทางนิ่งสงบ “ไม่ต้องหรอก”

สาวใช้ชะงักไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเว่ยจวินมั่วจะปฏิเสธออกมาตรงๆ เช่นนี้ ราวกับไม่ได้ไตร่ตรองเลยแม้แต่น้อย นางจึงเอ่ยออกมาด้วยท่าทางลำบากใจว่า “คุณหนูใหญ่เปรียบเสมือนไข่มุกเม็ดงามของท่านปั๋ว ซื่อจื่อทรงช่วยชีวิตเอาไว้จะไม่ตอบแทนได้เช่นไรเจ้าคะ” เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้วไม่เอ่ยตอบคำใด ทว่ากลับก้าวเดินมายังด้านหน้า หยุดยืนเคียงข้างหนานกงมั่ว เอ่ยเสียงเบา “อู๋สยา”

“หืม” นี่อะไรกัน หนานกงมั่วเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้า แววตาสงสัย

เพื่อคลายความสงสัยให้นาง เว่ยจวินมั่วก้มลงไปใกล้ จ้องหญิงสาวตรงหน้านิ่ง เขียนคำอ้อนวอนให้ปรากฏในดวงตาคู่นั้น

นี่ก็เป็นเงื่อนไขงั้นหรือ หนานกงมั่วเลิกคิ้ว ต้องมีความดีสักหน่อยจึงจะทำอันใดได้สะดวกสินะ

เว่ยจวินมั่วยกมือขึ้นมา นิ้วมือบางสัมผัสริมฝีปากสีชมพูสวยของนางเบาๆ เอ่ยขึ้น “อู๋สยา คนกันเองคิดมากเกินไป ไม่ดี”

ใครเป็นคนกันเองกับเจ้ากัน หนานกงมั่วแทบอยากตะโกนด่าทอเขา ทว่ามือของอีกคนนั้นราวกับมีกระแสไฟทำให้นางทำได้เพียงยื่นมือออกไปดันมือเขาออกเท่านั้น จ้องมองเขาเขม็ง หันกลับไปมองสาวใช้ที่ยืนมองพวกเขาด้วยท่าทางตกตะลึง “กลับไปรายงานท่านปั๋ว ข้ากับจวินมั่วยังมีเรื่องต้องคุยกัน งานเลี้ยงก็ยกเลิกไปเถิด อีกอย่าง…พิธีไหว้บรรพบุรุษครั้งนี้เป็นความรับผิดชอบของหวงจั่งซุน หากเกิดอันใดขึ้นคงมิใช่เรื่องดี เว่ยจวินมั่วเพียงช่วยแบ่งเบาเสด็จพี่ของเขาเพียงเท่านั้นไม่นับว่าเป็นบุญคุณอันใด ขอท่านเกาอี้ปั๋วและคุณหนูจูไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”

แม้หนานกงมั่วจะเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเว่ยจวินมั่ว อย่างไรก็เป็นเพียงคู่หมั้นคู่หมาย การออกหน้าแทนเว่ยจวินมั่วเช่นนี้นับว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะไม่ควร ทว่าเว่ยจวินมั่วที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ราวกับเห็นด้วย ผู้อื่นคงว่าอันใดมิได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บิดาของหนานกงมั่วคือฉู่กั๋วกง ผู้ที่คอยติดตามออกรบเคียงข้างกับฝ่าบาท อีกทั้งตอนนี้หนานกงไหวยังมีตำแหน่งสูงส่ง กลับกัน จวนเกาอี้ปั๋วนั้นนอกจากมีเงินแล้วก็ไม่มีสิ่งใดจะสู้กับจวนฉู่กั๋วกงได้เลย หากทำให้หนานกงมั่วขุ่นเคืองใจ เกรงว่าคุณหนูและท่านปั๋วก็คงไม่ช่วยนาง

หันไปมองเว่ยจวินมั่วที่มีท่าทีเรียบนิ่งด้วยท่าทีไม่พอใจ ลิ่นฉังเฟิงดูสนุกสนาน และเซี่ยเพ่ยหวนกำลังยิ้มทว่าดูไม่ออกถึงความคิดที่อยู่ข้างใน สาวใช้ทำได้เพียงส่งเสียงไม่พอใจอยู่ในลำคอเบาๆ จากนั้นจึงเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ บ่าวก็ไม่ขอรบกวนซื่อจื่อและคุณหนูหนานกงแล้วเจ้าค่ะ บ่าวลาแล้วเจ้าค่ะ”

มองแผ่นหลังของสาวใช้ที่เดินห่างออกไป ไม่นานหนานกงมั่วจึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ “เมื่อครู่ข้า…ใช้อำนาจรังแกใครแล้วหรือไม่”

เซี่ยเพ่ยหวนปิดปากหัวเราะ “หากบิดาของเจ้ามิใช่หนานกงไหว เรื่องคงไม่ง่ายเพียงนี้หรอก” ดังนั้นใครๆ ต่างก็อยากปีนป่ายขึ้นที่สูงกันทั้งนั้น ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าแพรหรืออาหารเลิศรส แต่เพราะยิ่งยืนอยู่สูงเท่าใดยิ่งยืนได้ตัวตรงมากขึ้นเท่านั้น มีชีวิตได้อิสระมากยิ่งขึ้น

ในกระโจมที่ไม่เป็นที่สะดุดตามากแห่งหนึ่ง หญิงสาวหน้าตาสะสวยในอาภรณ์สีเหลืองกำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะ นิ้วเรียวบรรเลงกู่ฉิน[1]พริ้วไหว ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าขมวดคิ้ว เอ่ยถาม “ชูเอ๋อร์ เว่ยจวินมั่วเป็นเพียงชายที่มีชาติกำเนิดไม่ชัดเจน ใครจะรู้ว่าตำแหน่งจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องจะตกเป็นของเขาหรือไม่ เหตุใดเจ้าจึงปักใจต่อเขาเช่นนี้”

หญิงสาวเชยตาขึ้น มองชายวัยกลางคนตรงหน้า ยิ้มบางๆ ตอบ “ท่านพ่อ ท่านยังไม่เชื่อสายตาของข้าอีกหรือ ท่านเชื่อข้าเถิด เว่ยจวินมั่วผู้นี้…มิใช่ผู้ที่จะอยู่เฉยแน่ ยิ่งไปกว่านั้น เขามีเยี่ยนอ๋องและฉีอ๋องคอยสนับสนุน คนไร้ประโยชน์เยี่ยงจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องยังนับเป็นศัตรูเขาได้อีกหรือเจ้าคะ”

ชายวัยกลางคนเอ่ย “ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ฝ่าบาททรงพระราชทานสมรสให้แก่เขาและคุณหนูใหญ่หนานกงแล้ว เรามิอาจท้าทายต่ออำนาจของจวนฉู่กั๋วกง” เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาจึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา ฝ่าบาทยังคงเชื่อมั่นต่อผู้ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพระองค์เท่านั้น ตระกูลจูของเขาคอยสนับสนุนเรื่องทุนทรัพย์ ทว่าสุดท้ายก็ยังสู้ผู้ที่นำทหารออกรบอย่างฉู่กั๋วกงเอ้อกั๋วกงไม่ได้ เมื่อก่อตั้งแคว้นแล้ว ตระกูลจูของเขายิ่งไม่มีความสำคัญเลย หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทยังนึกถึงคุณความดีของเขาที่คอยสนับสนุนเรื่องทุนทรัพย์จึงแต่งตั้งเขาเป็นเกาอี้ปั๋วนั้น เกรงว่าต่อให้ตระกูลจูจะมีเงินมากมายเพียงใดก็คงไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาแม้แต่เพียงเล็กน้อย

หญิงสาวกลับไม่ร้อนใจ เพียงยิ้มบางๆ “ท่านพ่อคิดสิ่งใดอีกเจ้าคะ เราจะไปท้าทายต่ออำนาจของฉู่กั๋วกงได้เช่นไรกัน ลูกเป็นเพื่อนกับคุณหนูรองของฉู่กั๋วกงเชียวนะเจ้าคะ”

“อย่างไรเสียเจ้าก็สนใจเว่ยจวินมั่วผู้นั้น…” ชายวัยกลางคนนิ่งไป ไม่กล้าเอ่ยคำนั้นออกมา

หญิงสาวหยุดคิดอยู่ชั่วครู่ ยิ้มบางพลางเอ่ยว่า “ท่านพ่อเองก็หัวโบราณ ดูหมิ่นเว่ยซื่อจื่อดังเช่นคนเหล่านั้นด้วยหรือ ความจริง…ไม่ว่าบิดาผู้ให้กำเนิดเขาจะเป็นใคร เพียงแค่เขาสามารถคว้าตำแหน่งจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องมาได้ก็ถือว่าเข้าใกล้ได้อีกก้าว…นั่นจะเป็นอันใดไปล่ะเจ้าคะ ใครกล้าแตะต้องเขาบ้างเล่า หลายปีมานี้…แม้เมืองจินหลิงจะมีข่าวลือเลวร้ายมากเพียงใด จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องกล้าปลดเขาออกจากตำแหน่งซื่อจื่อหรือไม่ แค่มีเยี่ยนอ๋องและฉีอ๋องอยู่ ผู้ใดก็มิอาจแตะต้องเว่ยจวินมั่วได้”

“ใกล้เข้าไปอีกก้าวอย่างนั้นหรือ” หัวใจของชายวัยกลางคนผู้นั้นกระตุก หากหมายถึงตำแหน่งจวิ้นอ๋อง เข้าใกล้กว่านั้นก็เป็นตำแหน่งชินอ๋องแล้ว แม้เว่ยจวินมั่วจะเป็นหลานของฝ่าบาทก็ตาม ทว่ากลับนับเป็นหลานนอกสกุล ตำแหน่งจวิ้นอ๋องนั้นนับว่าสูงที่สุดแล้ว ตำแหน่งชินอ๋องคงไม่กล้าคิด ได้แต่ส่ายหัว ชายผู้นั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าอย่าเอาความคิดพวกนี้มาหลอกข้าเลย เอ่ยถึงเรื่องนี้แล้ว หวงจั่งซุนจะไม่ดีกว่าหรอกหรือ” หวงจั่งซุนมีตำแหน่งเป็นจวิ้นอ๋องแล้ว ต่อไปก็คือรัชทายาท สุดท้ายคือฮ่องเต้ แม้เว่ยจวินมั่วจะได้เป็นจวิ้นอ๋อง หากเมื่อเทียบกับตำแหน่งฮ่องเต้ในอนาคต อย่างไรเสียก็ยังแตกต่าง

แววตาของหญิงสาวฉายแววไม่พอใจเล็กน้อย “ท่านพ่อ ชายาเอกของหวงจั่งซุนคือคุณหนูตระกูลหยวนแห่งแคว้นเอ้อ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงงาสในจวนมีสตรีมากมายที่มาจากตระกูลใหญ่…เกรงว่าปีนี้คุณหนูรองตระกูลหนานกงเองก็คงจะแต่งเข้าไปเป็นแน่ หากลูกเข้าไปด้วยจริงๆ จะเอาสิ่งใดไปสู้กับคนมีอำนาจเหล่านั้นได้ ตระกูลจูของเราก็คงไม่ต่างจากครั้งเมื่อก่อตั้งแคว้นนี้ขึ้น สละทรัพย์สินส่วนตัว สุดท้ายก็อยู่ได้แค่ปลายแถว”

“เรื่องนี้…” ชายผู้นั้นมีท่าทีลังเล เขาหวาดกลัวต่ออดีตที่ผ่านมาไม่น้อย

“เพียงแค่ข้าได้แต่งเข้าจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง เยี่ยนอ๋องและฉีอ๋องต้องจัดตำแหน่งที่เหมาะสมให้พี่น้องของข้าเพื่อไว้หน้าแก่เว่ยซื่อจื่อ โดยเฉพาะเยี่ยนอ๋องผู้ปกครองโยวโจว เพียงพี่ชายได้แสดงความสามารถต่อหน้าเยี่ยนอ๋อง ต่อไปเส้นทางการเข้าสู่ราชสำนักของเราก็จะราบรื่น แต่หากเป็นหวงจั่งซุน…ท่านพ่อ หวงจั่งซุนและรัชทายาทมีชายาแล้ว มีจวนฉู่กั๋วกงจวนเอ้อกั๋วกงคอยสนับสนุน พวกเขาไม่ขาดอำนาจ พวกเขาขาดเพียงเงิน ท่านคิดว่าตระกูลจูมีเพียงเงินให้พวกเขาสูบ หรือมีทั้งเงินและอำนาจให้พวกเขาจะดีกว่ากันเล่า”

[1] กู่ฉิน พิณจีนโบราณ มี 7 สาย

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท