หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 52 ของขวัญจากหอไต้เย่ว์

ตอนที่ 52 ของขวัญจากหอไต้เย่ว์

คิดจะใช้เงินตบหน้าคนอย่างหนานกงมั่วงั้นหรือ ตาของเจิ้งซื่อคงมองพลาดไปแล้ว หากนาง หนานกงมั่ว อยากใช้เงินทุบใครล่ะก็ นางสามารถทุบคนในจวนหนานกงให้ตายได้เกือบครึ่งเลยก็ว่าได้

ยิ่งไปกว่านั้น…คิดจะใช้หนึ่งพันตำลึงมาแลกกับกิจการที่ควรเป็นของหนานกงชิงอย่างนั้นหรือ ฝันสวยเกินไปหรือไม่

“คุณ…คุณหนูใหญ่” หญิงที่ดูเป็นหัวหน้าพยายามเก็บรักษาท่าทางอวดดี เอ่ยขึ้น “ฮูหยินกล่าวว่าคุณหนูใหญ่พึ่งกลับมา คงต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงให้บ่าวนำเงินหนึ่งพันตำลึงมาให้คุณหนูใช้เจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วตอบด้วยท่าทีเกียจคร้าน “อ้อ เจ้าคิดจะให้ข้ายกกล่องเงินพวกนี้ไปซื้อของหรืออย่างไรกัน เจ้าจะยกหรือให้ข้ายก”

“ดูคุณหนูใหญ่เอ่ยสิเจ้าคะ เพราะฮูหยินกลัวว่าคุณหนูใหญ่จะใช้เงินลำบาก จึงได้เปลี่ยนเป็นเงินสิบตำลึงทองให้ ไม่มากหรือน้อยเกินไป พอดีกับคุณหนูใหญ่ได้ใช้จ่ายเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วหัวเราะ “เช่นนั้นหรือ พอดีเลย…ข้าพึ่งสั่งของจากหอไต้เย่ว์เอาไว้ สั่งไว้เก้าร้อยตำลึง เจ้าช่วยข้าเอาเงินพวกนี้ไปจ่ายที จำไว้ด้วยว่า เจ้าต้องไปผู้เดียวเท่านั้น”

สีหน้าหญิงนางนั้นเปลี่ยนทันใด ฝืนยิ้มออกมาพลางเอ่ย “คุณหนูใหญ่ล้อเล่นแล้ว คุณหนูใหญ่พึ่งกลับมาจะ…”

“ไร้มารยาท คุณหนูใหญ่จะใช้เงินเยี่ยงไรต้องรายงานเจ้าด้วยหรือ” จือซูที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเสียงเข้ม

หญิงผู้นั้นมีท่าทีไม่พอใจ “หนึ่งพันตำลึงเป็นจำนวนเงินที่เหล่าคุณหนูสามารถใช้ไปได้อีกหลายปี คุณหนูใหญ่พึ่งกลับมาวันเดียวก็…” เกือบเอ่ยออกมาตามตรงแล้วว่าหนานกงมั่วใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเกินตัว

หนานกงมั่ววางหนังสือลงบนโต๊ะพลางลุกขึ้นด้วยท่าทางเกียจคร้าน “ข้าเคยบอกแล้ว บ่าวรับใช้ในจวนนี้ยังจำเป็นต้องสอนมารยาทอีกมากทีเดียว หากไม่รู้คงคิดว่าพวกนางต่างหากที่เป็นคุณหนูของจวน ข้านั้นเป็นสาวใช้ สตรีในจวนนั้นมีทั้งน้อยใหญ่ มีแม่นมคอยสั่งสอนและมีคนคอยชี้แนะ คนที่เป็นบ่าวก็ควรทำหน้าที่ของบ่าว”

“เจ้า…คุณหนูใหญ่ ข้าเป็นแม่นมของคุณชายรองนะ” หญิงผู้นั้นถลึงตาโต เอ่ยด้วยท่าทีไม่พอใจ แม้แต่คุณชายรองอยู่ต่อหน้านางยังเกรงอกเกรงใจ คุณหนูใหญ่…สมแล้วที่เติบโตมาในชนบท

“ที่แท้เจ้าก็คือแม่นมของพี่รอง ข้านึกว่าเจ้าเป็นแม่นมของพ่อข้าเสียอีก” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเย็น “แม่นมหลาน ให้คนเอาของพวกนี้คืนไปให้ท่านพ่อ บอกว่าลูกพึ่งได้เงินหนึ่งพันตำลึงมา จึงอยากกตัญญูต่อท่าน อย่าลืมบอกกับท่านพ่อด้วยว่าชื่อเสียงของจวนฉู่กั๋วกงนั้นสำคัญ แบกมาเป็นกล่องเป็นกล่องมาที่จวนข้าเช่นนี้ คนนอกคงจะคิดว่าตระกูลหนานกงนั้นเอาเปรียบเชื้อสายรอง”

“เจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่” แม่นมหลานรับคำ เรียกสาวใช้เข้ามายกกล่องออกไป

“ช้าก่อน” หญิงผู้นั้นเริ่มกระวนกระวาย หากให้คนนำเงินพวกนี้ไปวางต่อหน้านายท่าน มีหรือนายท่านจะไม่รู้ว่านี่หมายถึงสิ่งใด ฮูหยินคงไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร “คุณหนูใหญ่ ฮูหยินนั้นหวังดีต่อคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ทำเช่นนี้จะไม่เห็นแก่น้ำใจของฮูหยินบ้างหรือเจ้าคะ”

หนานกงมั่วแสยะยิ้ม “ข้ากตัญญูต่อบิดาก็นับเป็นน้ำใจ เจ้ารั้งไว้เช่นนี้เพื่อไม่ยอมให้ข้าแสดงความกตัญญูต่อบิดางั้นหรือ”

“คุณหนูใหญ่ล้อเล่นแล้ว ไหนเลยนายท่านจะขาดเงินจำนวนเล็กน้อยเพียงนี้ คุณหนูใหญ่ใช้เองเถิดเจ้าค่ะ”

หนานกงมั่วหลุบตาลงต่ำ เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เช่นนั้นก็เอาของกลับไปเสีย หรือจะให้ข้ายกไปให้ท่านพ่อล่ะ เจ้าคิดเอาเองก็แล้วกัน จริงสิ…บอกฮูหยินของเจ้าด้วย ของของผู้อื่นอย่าทำเหมือนมันเป็นของตนเอง ฝันไว้เยอะสมองจะฝ่อเอาได้ รีบคืนบัญชีมาให้ข้า เพื่อไม่ให้ต้องอับอายไปกว่านี้”

หญิงผู้นั้นทำได้เพียงฝืนยิ้มตอบรับ พาคนขนย้ายเงินพวกนั้นหนีกลับไป หลังบ้านของตระกูลหนานกงนั้นมีการต่อสู้กันอยู่ไม่น้อย ทว่าเห็นได้ชัดว่าหนานกงมั่วไม่เหมือนสตรีอื่นๆ ในจวน วิธีการทั้งหยาบและตรงไปตรงมา พวกเขาเดาไม่ออกว่าคุณหนูใหญ่ผู้นี้มีความกล้าหาญหรือมีแผนการอันใดอยู่

เมื่อฟังรายงานของบ่าวจบสิ้น เจิ้งซื่อจึงโมโหแทบระเบิดออกมา หนานกงมั่วนั้นรับมือยากกว่าใครที่นางเคยเจอมา หลายปีมานี้เจิ้งซื่อยิ่งใหญ่คับจวน ไม่มีคนที่ใหญ่กว่านาง หนานกงไหวเองก็ตามใจนาง เหล่าอนุพวกนั้นยิ่งไม่ใช่คู่ปรับของนาง ดังนั้นเมื่อเจอหนานกงมั่วที่ไม่สนกติกาใดๆ เช่นนี้ แวบแรกนางจึงทำอะไรไม่ทันคิด หากนางใจเย็นลงอีกนิด คงไม่มีทางส่งเงินหลายกล่องเช่นนี้ไปยังเรือนจี้ชั่งเป็นแน่

ครั้งนี้ถูกหนานกงมั่วตำหนิกลับมาอย่างไม่ไว้หน้า เจิ้งซื่อจึงจำต้องใจเย็นลงมาบ้าง

ก้มหน้าคิดอยู่ชั่วครู่ รอยยิ้มมุมปากเจิ้งซื่อจึงยกขึ้น เอ่ยว่า “ไปเชิญฮูหยินของคุณชายใหญ่มาที”

ชั่วครู่นั้น หญิงด้านข้างชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยว่า “ฮูหยิน ความหมายของท่านคือ?” เจิ้งซื่อยิ้มเย็น “อย่างไรเสียฮูหยินของคุณชายใหญ่ก็ต้องเป็นผู้ดูแลจวนฉู่กั๋วกงในอนาคต เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้นางไปสู้กับหนานกงมั่ว ข้าไม่มีบุตรชาย ต่อไปซูเอ๋อร์ต้องออกเรือน ข้าจะต้องการสิ่งของมากมายไปเพื่ออันใดกันเล่า”

ไม่นานหญิงนางนั้นก็เข้าใจความหมายของเจิ้งซื่อได้ ยิ้มพลางเอ่ย “ฮูหยินช่างฉลาดหลักแหลมนัก”

เจิ้งซื่อส่งเสียงหยัน “ข้าจะรอดู หนานกงมั่วจะสู้กับข้าได้ถึงไหนกันเชียว”

อีกด้านในห้องหนังสือเรือนลี่ฉินของหนานกงชวี่ หนานกงฮุยกำลังจ้องหนานกงชวี่เขม็งด้วยความโกรธ หนานกงชวี่เปิดหนังสือในมือด้วยท่าทางนิ่งสงบ เหลือบตาขึ้นมามองน้องชายบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใด หนานกงฮุยเริ่มทนไม่ไหว เอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ ท่านคิดสิ่งใดอยู่กันแน่”

หนานกงชวี่ขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าทำไมหรือ”

หนานกงฮุยส่งเสียงในลำคอ “มั่วเอ๋อร์ต้องการเอากิจการของมารดากลับแล้วมีสิ่งใดไม่ถูกต้อง นั่นเป็นสิ่งที่มารดาเก็บไว้ให้นาง ท่านไม่ช่วยนางก็ช่างเถิด ไยยังเข้าข้างเจิ้งซื่อ…”

“ระวังวาจาของเจ้าด้วย” หนานกงชวี่เอ่ย “ท่านแม่เป็นผู้ดูแลตระกูลหนานกง นางช่วยมั่วเอ๋อร์ดูแลกิจการพวกนั้นก็สมควรแล้ว…”

“ไร้สาระ” หนานกงฮุยเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด “หรือท่านไม่เห็นชีวิตของมั่วเอ๋อร์ที่ตานหยาง นางเป็นผู้ดูแลครอบครัวได้เยี่ยงไร นางก็แค่จอมวายร้ายก็เท่านั้น แสร้งทำดีกับเรา ซ้ำยังรังแกมั่วเอ๋อร์ หากไม่ใช่ครั้งนี้…มั่วเอ๋อร์จะต้องทนลำบากไปอีกนานเพียงใดกัน”

“แล้วเจ้าจะทำเช่นไร” หนานกงชวี่วางหนังสือในมือ เอ่ยเสียงราบเรียบพลางจ้องมองเขา

“ก็ต้องให้นางเอากิจการของท่านแม่กลับมา” หนานกงฮุยเอ่ยออกไปตามที่คิด หนานกงชวี่เอ่ยตอบ “เจ้าคิดว่าเอากลับมาแล้วมั่วเอ๋อร์จะดูแลมันได้หรือ น้องรอง เจ้าลืมแล้วหรือว่าจวนนี้ใครเป็นคนดูแล”

หนานกงฮุยชะงัก พลันไม่เข้าใจในสิ่งที่หนานกงชวี่บอก หนานกงชวี่เอ่ยต่อ “เพียงฮูหยินเอ่ยออกมาเพียงประโยคเดียว ท่านพ่อก็ตอบรับ เจ้าคิดว่าท่านพ่อไม่เข้าใจความหมายของฮูหยินงั้นหรือ หากเป็นเช่นนี้ ท่านพ่อก็คงไม่ได้เป็นถึงตำแหน่งฉู่กั๋วกงหรอก” หนานกงฮุยเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “ความหมายของท่านคือ ท่านพ่อไม่อยากมอบกิจการเหล่านั้นให้มั่วเอ๋อร์งั้นหรือ เพราะเหตุใดกันเล่า สินสมรสของมารดาควรเป็นของบุตรีก็ถูกแล้วมิใช่หรือ”

“ผู้ใดจะรู้กันเล่า…บางทีท่านพ่ออาจจะคิดว่ามั่วเอ๋อร์นั้นยังเด็กเกินไปก็ได้” หนานกงชวี่กล่าวเสียงเรียบ “มั่วเอ๋อร์คือน้องสาวของข้า ข้าจะเอาเปรียบนางอย่างนั้นหรือ เจ้าวางใจ สินสมรสของมั่วเอ๋อร์จะต้องทำให้ผู้คนทั้งเมืองหลวงต้องอิจฉา”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท