“จวนฉู่กั๋วกงไม่มีเงินหรือ”
มีเงินก็ไม่ใช่จะใช้จ่ายเช่นนี้ เจิ้งซื่อบ่นอยู่ในใจ ใบหน้ากลับมองหนานกงมั่วเรียบนิ่ง หนานกงไหวขมวดคิ้วเอ่ย “ไปรับเงินที่บัญชีเถิด”
ทำงานไม่สำเร็จ จูหลี่ก็ไม่กล้าอยู่นาน รีบวางกล่องผ้าไหมแล้วถอยออกไป ความเงียบเข้าปกคลุมห้องโถงไปชั่วขณะ ไม่นานหนานกงซูจึงเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ “พี่สาวช่างใจกว้าง เงินหนึ่งพันห้าร้อยตำลึงจ่ายออกไปง่ายๆ เช่นนั้น” เดือนที่แล้วนางเจอเครื่องประดับงดงามชุดละห้าร้อยตำลึงท่านพ่อยังบ่นว่านางใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่เลย
หนานกงไหวส่งเสียงในลำคอ มองไปยังหนานกงมั่วที่ใบหน้าเรียบนิ่ง “จวนฉู่กั๋วกงมีกิจการใหญ่โตก็จริง แต่เจ้าจะใช้เงินสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นนี้มิได้ สตรีเช่นเจ้าซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับก็พอแล้ว ซื้อของเล่นเช่นนี้มาทำไมกัน เมื่อครู่มีคนนอกอยู่ข้าจึงไม่สั่งสอนเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าทำถูกแล้วหรือ”
หนานกงมั่วหาวออกมา เอ่ยอย่างเกียจคร้าน “อีกไม่กี่วันข้าจะไปคารวะนายหญิงใหญ่เซี่ย ไม่ต้องมีของขวัญหรอกหรือ”
หนานกงไหวชะงัก เอ่ยด้วยท่าทางไม่พอใจ “หากจะให้ เจ้าก็ไปเลือกหาที่คลังเก็บของก็ได้ ด้านนอกนั้นจะซื้ออะไรดีๆ ได้ หากต้องซื้อจริงๆ ก็แจ้งล่วงหน้าและไปรับเงินที่บัญชี พาคนไปด้วยไม่ได้หรืออย่างไร”
“เลือกงั้นหรือ แจ้งล่วงหน้าหรือ ให้คนยกเป็นกล่องๆ ไปที่เรือนข้า แล้วให้ข้ายกเงินเป็นกล่องๆ ออกไปซื้อของหรืออย่างไร เช่นนั้นต้องพาคนไปกี่คนกัน หนึ่งพันห้าร้อยตำลึงคงต้องยกกี่กล่องกันเล่า” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเย็น
หนานกงไหวขมวดคิ้ว “เจ้ากล่าวสิ่งใดอยู่”
หนานกงฮุยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น “ข้าเองก็กำลังจะคุยกับท่านพ่อ บัญชีทำงานกันเช่นไรก็มิอาจรู้ได้ ให้คนยกกล่องเงินหนึ่งพันตำลึงไปที่เรือนจี้ชั่ง บอกว่ากลัวยามมั่วเอ๋อร์ต้องใช้แล้วจะไม่มีเงินทอน” ก่อนหน้านี้เขามาที่ห้องหนังสือเพื่อพบบิดา ทว่าบิดากลับไม่อยู่
หนานกงไหวชะงัก ดวงตาแฝงไปด้วยความโกรธ มองไปที่เจิ้งซื่อ เจิ้งซื่อร้อนใจรีบเปลี่ยนหัวข้อ “คุณหนูใหญ่ เรากับตระกูลเซี่ยไม่มีความสัมพันธ์อันใดต่อกัน แม้ท่านจะรู้จักกับคุณหนูเซี่ยแต่ก็ไม่จำเป็นต้อง…”
“ไม่ใช่ตระกูลเราไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ย แต่เป็นท่านหว่านฮูหยินต่างหากที่ไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ย ตระกูลเซี่ยมีความสัมพันธ์อันดีต่อตระกูลของมารดา เชื่อมสัมพันธ์กันมามากมาย เช่นนี้ยังไม่นับว่ามีความสัมพันธ์ แล้วเช่นไรเล่าจึงจะนับเป็นความสัมพันธ์ได้” หนานกงมั่วเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า “ท่านพ่อ ยามนี้มิใช่ครั้งอดีตที่ต้องทำศึกสงคราม ความสัมพันธ์ของตระกูลหนานกงในเมืองจินหลิงยังต้องจัดการหรือไม่ อนาคตของพี่ชายทั้งสองต้องสนใจหรือไม่ นายหญิงที่แม้แต่ประตูวังยังเข้าไปไม่ได้จะแบกรับภาระของจวนฉู่กั๋วกงได้จริงหรือ”
“หนานกงมั่ว เจ้าหมายความเช่นไร” หนานกงซูทนไม่ไหวกรีดร้องออกมา เหตุผลที่นางยังมีหน้ามีตาในจินหลิง เพราะนางเป็นคุณหนูเชื้อสายหลักจวนฉู่กั๋วกง ตอนนี้หนานกงมั่วกลับมาแล้วมิเพียงมาแย่งเกียรติเชื้อสายหลักของนางไป ซ้ำยังจะมาแย่งฐานะของนางไปด้วยงั้นหรือ หนานกงซูรู้ หากมารดาสูญเสียตำแหน่งภรรยาเอกจวนฉู่กั๋วกงไป นางก็จะกลายเป็นเชื้อสายรองที่ไม่มีอันใดเลย
หนานกงไหวใบหน้าทะมึนจ้องไปยังหนานกงมั่ว เจิ้งซื่อโกรธจนใบหน้าของนางเปลี่ยนสีและสั่นคลอน หนานกงมั่วมองหนานกงไหวอย่างแปลกใจ ฐานะของเจิ้งซื่อไม่เหมาะสมในการเชื่อมสัมพันธ์ของจวนฉู่กั๋วกง หนึ่งเพราะฝ่าบาทไม่โปรดให้แต่งตั้งอนุขึ้นแทนตำแหน่งภรรยาเอก สองเพราะครอบครัวของเจิ้งซื่อไร้ซึ่งอำนาจ ไม่สิ ครอบครัวเจิ้งซื่อมิได้ไร้ซึ่งอำนาจ ทว่านางไม่มีแม้แต่ครอบครัว นับได้ว่ามีที่มาไม่ชัดเจน ดังนั้นหลายปีมานี้จวนฉู่กั๋วกงจึงอยู่อย่างกระอักกระอ่วนเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นตระกูลใหญ่ ทว่ากลับมีความสัมพันธ์เฉพาะกับคนชั้นสองเพียงเท่านั้น แต่หนานกงไหวกลับไม่ไตร่ตรองถึงเรื่องเปลี่ยนชายาเอก หรือว่า…จะเป็นรักแท้
“มีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถาม แววตาเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความสงสัย ราวกับกำลังถามหนานกงไหวว่านางทำสิ่งใดผิดไป
“เอาล่ะ” หนานกงไหวกล่าวด้วยท่าทางหงุดหงิด “เจ้าเป็นสตรีสนใจอันใดมากมาย ต่อไปอยากซื้อสิ่งใดก็ไปรับเงินจากบัญชีก็พอแล้ว” วาจาของหนานกงไหวราวกับบอกเป็นนัยว่าต่อไปหนานกงมั่วสามารถใช้เงินได้ตามใจ สิ่งนี้แม้แต่เจิ้งซื่อหรือหนานกงชวี่ที่เป็นผู้สืบทอดสกุลยังไม่มีอำนาจเช่นนี้ แต่ขณะเดียวกัน หนานกงไหวก็ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนายหญิงของจวน
เช่นนี้หนานกงมั่วไม่นับว่าผิดหวัง หากหนานกงไหวไตร่ตรองเรื่องนี้ เจิ้งซื่อคงมิได้อยู่ในตำแหน่งนายหญิงมานานถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นต่อไปจวนฉู่กั๋วกงก็มิได้มอบให้นางดูแลต่อเสียหน่อย นางจะสนใจไปทำไมกัน ครั้งนี้ที่เอ่ยขึ้นมาก็เพื่อกีดขวางเจิ้งซื่อก็เท่านั้น
หนานกงมั่วยังมิทันทำอันใด ผู้อื่นก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว หนานกงซูลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงด้วยความโกรธ เอ่ยขึ้น “นี่มันเรื่องอันใด ท่านพ่อ เรื่องอันใดกันที่พี่สาวพึ่งกลับมาถึงก็สามารถใช้เงินได้ตามใจชอบ แค่ซื้อของไปเรื่อยยังจ่ายไปตั้งพันห้าร้อยตำลึง ท่านพ่อกลับไม่ต่อว่าสักคำ ทั้งจวนของเราหนึ่งเดือนก็คงใช้ไม่เท่าพี่สาวจ่ายในวันเดียวหรอก ท่านพ่อลำเอียงเช่นนี้ หรือว่าซูเอ๋อร์มิใช่บุตรีของท่านพ่อ หรือว่าพี่ใหญ่พี่รองก็ไม่ใช่บุตรชายของท่าน ท่านพ่อต้องการแค่พี่สาวเพียงผู้เดียวเช่นนั้นหรือ”
หนานกงชวี่และหนานกงฮุยมิได้เอ่ยสิ่งใด ภรรยาของหนานกงชวี่กลับมีสีหน้าไม่น่ามอง กับหนานกงมั่วผู้นี้นางมิได้มีความโกรธเกลียดใดๆ ทว่าก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหนานกงซู ตอนนี้เพียงไม่คุ้นชินกับน้องสาวร่วมมารดาของสามีเพียงเท่านั้น อย่างไรเสีย เมื่อเอ่ยถึงญาติใกล้ชิด หนานกงมั่วก็นับว่าใกล้ชิดกับนางมากกว่า ทว่าเมื่อเอ่ยถึงความสัมพันธ์ กับหนานกงซูก็นับว่าดีกว่าอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้หลินซื่อเองบอกไม่ถูกว่าคิดเช่นไรกับหนานกงมั่วผู้นี้ แม้พ่อสามีรักบุตรีนั้นไม่เกี่ยวอันใดกับนาง แต่เมื่อได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างก็ยากจะเลี่ยงความริษยา ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครั้งเจิ้งซื่อเลือกคู่ให้แก่หนานกงชวี่ เลือกภรรยาให้เขาแต่งงาน แน่นอนว่าไม่ใช่ตระกูลใหญ่ เดิมหลินซื่อนั้นเป็นเพียงบุตรีคนรองของตระกูลนักปราชญ์อย่างตระกูลหลิน ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ในจินหลิงเพียงเท่านั้น บิดาที่มีตำแหน่งสูงสุดในตระกูลยังเป็นเพียงขุนนางขั้นสาม เมื่อเทียบกับชาวบ้านทั่วไปนับว่าดีกว่ามาก แต่เมื่อเทียบกับตระกูลอันดับหนึ่งอย่างตระกูลหนานกงนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
ครั้งที่เจิ้งซื่อเลือกภรรยาให้หนานกงชวี่ก็ใช้ความคิดไม่น้อย ครอบครัวจะโดดเด่นมากมิได้ หากโดดเด่นเกินไปก็ยากจะควบคุม แต่จะแย่มากไม่ได้ ตระกูลหลินแม้มิได้ยิ่งใหญ่ ชีวิตครอบครัวเรียบง่าย เป็นครอบครัวที่ดี นายท่านหลินเองก็มีใจเที่ยงตรง และในด้านรูปร่างหน้าตา ความรู้ นิสัยใจคอของหลินซื่อนั้นไม่มีที่ติ หญิงสาวเองก็ต้องการปกครองหลังจวนฉู่กั๋วกงเช่นกัน เสียแต่ว่าขาดคนชี้แนะ หากได้ฝึกฝนเป็นเวลาหลายปีย่อมจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เห็นได้ชัดว่าหลินซื่อไม่มีโอกาสเช่นนี้เลย
ไม่ต้องกล่าวถึงดูแลจวน หลายปีมานี้แม้แต่จัดการเรื่องเล็กน้อยเจิ้งซื่อยังไม่แบ่งให้นางแม้แต่เล็กน้อย เดิมหลินซื่อคิดว่าเพียงแต่งเข้าจวนฉู่กั๋วกงแล้วจะได้เฉิดฉาย ให้พี่น้องในตระกูลหลินได้อิจฉา ผู้ใดจะคิดว่าจะได้เพียงไม่กี่สิบตำลึงในแต่ละเดือน ดูแลเรือนเล็กๆ ของตนเองเพียงเท่านั้น หากไม่เปรียบเทียบก็ช่างเถิด ตอนนี้มีผู้ที่กลับมาแล้วใช้เงินเยี่ยงเทน้ำเทท่า ในใจของหลินซื่อจะยังดีอยู่ได้เยี่ยงไร