หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 123 ชายสวมหน้ากากลึกลับ (1)

ตอนที่ 123 ชายสวมหน้ากากลึกลับ (1)

องค์หญิงฉังผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อนาคตเจ้าเองก็ต้องมีลูกสะใภ้ เอ๊ะ…ไยจึงยังไม่ยกน้ำชามาเล่า” องค์หญิงฉังผิงพึ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมิได้ยกน้ำชามาให้แขก เฝิงซื่อรีบเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอกเพคะ พวกเราเพียงมาถวายพระพรองค์หญิง เดี๋ยวจะกลับแล้วเพคะ” เมื่อเห็นแล้วว่าคงทำอันใดหนานกงมั่วมิได้ เฝิงซื่อจึงไม่มีใจจะอยู่ต่อ เตรียมกลับไปวางแผนใหม่อีกรอบ เจ๋อเอ๋อร์ ปั๋วเอ๋อร์ของนางต่างหากที่เป็นสายเลือดที่แท้จริงของท่านพี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางให้เว่ยจวินมั่วที่ไม่รู้เป็นตัวประหลาดจากไหนมาแย่งตำแหน่งจวิ้นอ๋องไปได้แน่

องค์หญิงฉังผิงเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เคยเห็นพวกเจ้ารีบร้อนถึงเพียงนี้ แค่จะดื่มชากับข้าก็ไม่มีเวลาแล้วหรือ”

ทั้งสองกระอึกกระอักไม่กล้าเอ่ย คิดในใจ เจ้าต้องการให้พวกเราดื่มชาด้วยตั้งแต่เมื่อใดกัน ทุกครั้งที่มาถวายพระพรล้วนไม่แยแส ถามคำตอบคำ หรือว่ามีลูกสะใภ้แล้วจึงอารมณ์ดีอย่างนั้นหรือ

เฝิงซื่อเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จะมาดื่มชากับองค์หญิงบ่อยๆ เพคะ”

ด้านนอก สาวใช้ยกน้ำชามาวางลงตรงหน้าเฝิงซื่อและหันซื่อ หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระชายารองเฝิงและอนุหันลองดูได้ นี่เป็นชาที่ข้านำกลับมาจากตานหยาง ได้ยินพ่อค้าบอกว่า…ชานี้ถูกเก็บมาจากป่าลึกในเฉียนโจว เป็นชาชั้นสูง ไม่ว่าจะชงไปกี่ครั้งก็ยังมีกลิ่นหอมจางๆ อีกทั้งยิ่งชงก็ยิ่งหอมด้วยนะเจ้าคะ”

เฝิงซื่อยิ้ม “น่าแปลกแล้ว มีชาเช่นนี้ด้วยหรือ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเฉียนโจวจะมีชาที่มีชื่อเสียงเช่นนี้อยู่ด้วย”

หนานกงมั่วยิ้มพลางกล่าวตอบ “เฉียนโจวเป็นสถานที่ที่ดี แน่นอนว่าต้องมีชาชั้นยอด เพียงแต่หายากเหลือเกินเจ้าค่ะ”

เฝิงซื่อยกถ้วยชาขึ้นมา กลิ่นหอมประหลาดลอยเข้ามาเตะปลายจมูก หันซื่อเอ่ยขึ้น “หอมดีจริง” ยกชาขึ้นจิบไปหนึ่งอึก เผยยิ้มออกมา “คุณหนูหนานกงช่างสรรหาของดีๆ ให้แก่องค์หญิง” เฝิงซื่อมีท่าทีแปลกไปเล็กน้อย หนานกงมั่วจึงเอ่ยขึ้นเบาๆ “พระชายารองเฝิงมีอันใดหรือเจ้าคะ หรือคิดว่าชานี้ไม่ดีหรือเจ้าคะ”

เฝิงซื่อฝืนยิ้ม “ไม่หรอก ข้าเพียงไม่เคยเห็นใบชาที่มีกลิ่นหอมประหลาดเช่นนี้มาก่อน”

“หากพระชายารองชอบ ข้าจะส่งไปให้เจ้าค่ะ” เมื่อเห็นว่าเฝิงซื่อดื่มเข้าไปแล้ว รอยยิ้มของหนานกงมั่วจึงงดงามมากขึ้น หันไปเปิดกล่องด้านข้าง “ชาหอมนี้ หากจับคู่กับกลิ่นหอมของธูปทองหยกน้ำแข็งที่องค์หญิงมอบให้ นั่นคงจะสุขสมไม่น้อย” ว่าแล้วจึงปักธูปหอมลงในกระถางธูปด้านข้าง

องค์หญิงฉังผิงเหลือบมองด้วยรอยยิ้ม “เจ้าชอบ ก็เอากลับไปด้วยก็ได้” แน่นอนว่านางย่อมรู้ว่าการกระทำของหนานกงมั่วนั้นไม่ปกติ ทำเพียงนั่งมองการกระทำของหนานกงมั่วอยู่เงียบๆ

ใบหน้าของเฝิงซื่อซีดขาว กวาดตามองของในมือหนานกงมั่วอย่างกระวนกระวาย รีบลุกขึ้น “องค์หญิง ร่างกายหม่อมฉันไม่สบายเท่าใดนัก คงต้องขอตัวลาแล้วเพคะ”

องค์หญิงฉังผิงมองนางเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ช่างเถิด เจ้ากลับไปเถอะ”

เฝิงซื่อกลับไปแล้ว แน่นอนว่าหันซื่อเองก็มิกล้าอยู่ต่อ กล่าวด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจเพียงสองประโยคก็เดินออกไป มองพวกนางเดินออกไป หนานกงมั่ววางธูปหอมลงเบาๆ รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าก็จางหายตามไปด้วย เหลือไว้เพียงความเยือกเย็นเท่านั้น

องค์หญิงฉังผิงโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนออกไป มองหนานกงมั่วจากนั้นถอนหายใจออกมา “มั่วเอ๋อร์ เล่าให้ข้าฟังเถิด นี่มันเรื่องอันใดกัน”

หนานกงมั่วเอ่ยถาม “องค์หญิงมองออกแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ”

องค์หญิงฉังผิงขมวดคิ้ว ส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ พวกนางไม่กล้าฆ่าข้า ยิ่งไปกว่านั้นการวางยา…หากข้าตายเพราะถูกวางยา…ปิดบังเอาไว้ไม่ได้แน่” แม้เสด็จพ่อจะรู้สึกละอายต่อจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องในเรื่องครั้งนั้น แต่อย่างไรนางก็เป็นองค์หญิง ธิดาของฝ่าบาท หากนางถูกวางยาจนตาย เสด็จพ่อไม่มีทางปล่อยจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเอาไว้แน่

หนานกงมั่วเอ่ย “ยาพิษชนิดนี้…ไม่ถึงขั้นตาย แต่เมื่อใช้ร่วมกันกับเครื่องหอมขององค์หญิงแล้วจะทำให้ร่างกายขององค์หญิงอ่อนแอลง ค่อยๆ ดูเหมือนป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น…ยาพิษชนิดนี้ทำลายรูปลักษณ์ของสตรีอย่างรุนแรง โชคดีที่องค์หญิงยังถูกพิษในช่วงเวลาสั้นๆ ยังไม่มีผลใดๆ เจ้าค่ะ”

“เฝิงซื่อหรือ หากเป็นเช่นนี้เมื่อครู่ไยนางจึงลนลาน แสดงออกเปิดเผยให้เห็นชัดเจนเลยหรือ” องค์หญิงฉังผิงเอ่ยถาม นางรู้มาตลอดว่าเฝิงซื่อมีจิตใจโหดร้าย เพียงแต่เป็นเพราะฐานะองค์หญิงของนางจึงทำให้เฝิงซื่อลงมือทำอันใดมิได้ เมื่อครั้งเว่ยจวินมั่วอยู่ในวัยห้าขวบนั่นเป็นช่วงที่เฝิงซื่อเป็นที่โปรดปราน เฝิงซื่อได้ใจจึงข่วนใบหน้าเว่ยจวินมั่วจนเกิดบาดแผลบนหน้าเล็กๆ ของเว่ยจวินมั่ว เดิมทีคิดว่าองค์หญิงฉังผิงที่เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในเรือนไม่กล้าออกมาพบหน้าใครไหนเลยจะโกรธเกรี้ยวขึ้นมาได้ กลับสั่งโบยเฝิงซื่อต่อหน้าคนทั้งจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องอย่างรุนแรง จนเกือบโดนขับออกจากจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องไปด้วยซ้ำ สุดท้ายอดีตชายาจวิ้นอ๋องจึงต้องเข้าวังเข้าเฝ้าฮองเฮาเพื่อขออภัยโทษ เรื่องนี้จึงจบลง ตั้งแต่ตอนนั้นเฝิงซื่อจึงรู้ว่าไม่ว่าความสัมพันธ์ของเว่ยหงเฟยและองค์หญิงจะจืดจางเพียงใด อย่างไรนางก็เป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ มิใช่คนที่คนที่มีชาติกำเนิดธรรมดาเช่นนางจะไปโค่นล้มได้

หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “เพราะชาถ้วยนั้น หม่อมฉันใช้เลือดขององค์หญิง อีกทั้งยังผสมยาลงไปอีก กลิ่นและรสชาติของยาจึงเข้มข้นกว่าพิษที่องค์หญิงได้รับกว่าร้อยเท่า นางดื่มชาไปแล้ว เพียงสูดดมกลิ่นธูปหอมเข้าไปไม่ถึงชั่วยาม พรุ่งนี้ใบหน้ารูปลักษณ์ของนางก็จะถูกทำลายจนสิ้น นางจะไม่ลนลานได้เช่นไรเพคะ” แม้ว่าเฝิงซื่อจะอายุไม่น้อย กระทั่งหลานก็มีแล้ว แต่เมื่อเป็นสตรีมีหรือจะไม่สนใจรูปลักษณ์ของตนเอง ดังนั้นต่อให้ถูกองค์หญิงฉังผิงสงสัย เฝิงซื่อก็ยังคงรีบหนีกลับไปอยู่ดี

“มั่วเอ๋อร์คิดว่ายาพิษนี้เป็นฝีมือของเฝิงซื่องั้นหรือ” องค์หญิงฉังผิงเอ่ยถาม

หนานกงมั่วตอบ “ต่อให้นางมิใช่คนทำก็คงหนีความผิดไม่พ้น เพียงแต่…เมื่อครู่หม่อมฉันมิได้โกหก ยาพิษชนิดนี้เกิดในป่าลึกของเฉียนโจว และมิใช่ยาที่แพทย์ทั่วไปจะหาได้ เฝิงซื่อ…”

องค์หญิงฉังผิงส่ายหน้า “เฝิงซื่อไม่ใช่คนเฉียนโจว และคงไม่มีความรู้ด้านการแพทย์” หากมียาพิษร้ายแรงเช่นนี้จริง เฝิงซื่อก็คงไม่มาใช้เอาตอนนี้ และคงไม่ใช้กับตัวนาง ต่อให้นางตาย จวินเอ๋อร์ก็ยังเป็นซื่อจื่อของจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง พึ่งจะมาทำลายนางในตอนนี้ มิสู้ลงมือกับจวินเอ๋อร์ตั้งแต่เขายังไม่โตไม่ดีกว่าหรือ

หนานกงมั่วเองเห็นด้วยกับความคิดขององค์หญิงฉังผิง ก่อนหน้านี้ยามที่นางเอ่ยถึงถิ่นกำเนิดของยาพิษ เฝิงซื่อกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ ต่อมาได้กลิ่นธูปหอมแล้วใบหน้าจึงเปลี่ยนสี กลิ่นของยาพิษชนิดนี้มีเอกลักษณ์ เพียงเคยได้กลิ่นไปแล้วหนึ่งครั้งก็จะไม่มีวันลืมได้ เห็นได้ชัดว่าเฝิงซื่อไม่รู้ที่มาของยาพิษชนิดนี้

“ยังมีคนอยู่เบื้องหลังเฝิงซื่อ” หนานกงมั่วเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ

องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจเบาๆ “หลายปีมานี้ข้าเองมิได้จัดการอันใด ไม่คิดว่า…พวกเขาจะมีความกล้าขึ้นมามากถึงเพียงนี้ มั่วเอ๋อร์ ครั้งนี้โชคดีที่มีเจ้า” หนานกงมั่วเอ่ยถาม “องค์หญิงไม่คิดจะจัดการกับเฝิงซื่อหรือเพคะ” องค์หญิงฉังผิงส่ายหน้า ยิ้มบางๆ “ยังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังของเฝิงซื่อ อย่าพึ่งแหวกหญ้าให้งูตื่นดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น…เฝิงซื่อคือมารดาของเว่ยจวินเจ๋อและเว่ยจวินปั๋ว อีกทั้งยังเป็นญาติผู้น้องของเว่ยหงเฟย เว่ยหงเฟยคงไม่ยอมให้ใครจัดการนางได้ง่ายๆ ในมือของเว่ยหงเฟย…ยังมีป้ายทองพระราชทานอภัยโทษ[1]ที่เสด็จพ่อประทานเป็นรางวัลแก่เขาอยู่”

——————————————-

[1] ป้ายทองพระราชทานอภัยโทษ (丹书铁劵) ป้ายที่ฮ่องเต้มอบให้เป็นของรางวัลแก่คนที่มีความดีความชอบ สามารถใช้ละเว้นโทษได้เวลาถูกสั่งลงโทษหรือประหารชีวิต

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท