หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 135 ดาบหงหมิง หญิงงามอันดับหนึ่ง (2)

ตอนที่ 135 ดาบหงหมิง หญิงงามอันดับหนึ่ง (2)

ขยับยิ้มให้กับกระจกทองเหลืองตรงหน้า รอยยิ้มของหญิงสาวในกระจกดูมีความร้ายกาจและเย็นชามากขึ้น เรียกได้ว่าปลอมตัวได้ยอดเยี่ยม แม้มิใช่การเปลี่ยนหน้ากลายเป็นอีกคน แต่ต่อให้เจ้าเอาใบหน้าที่เหมือนกันไปโผล่ต่อหน้าผู้คน คนอื่นก็ไม่อาจเอาสถานะทั้งสองมาเชื่อมโยงกันได้

เพียงคำเดียวเท่านั้น ก็คือ ปลอมตัว

จากบุคลิกสู่การแสดงออก จากน้ำเสียงสู่ท่วงท่า อากัปกิริยาสู่สายตา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแสร้งทำออกมาอย่างไร้ที่ติ และบังเอิญที่หนานกงมั่วเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เดิมทีหากมาในสถานที่เช่นนี้ปลอมตัวเป็นชายหนุ่มจะเหมาะสมกว่า ทว่าอย่างไรเสีย…ความอ่อนหวานเป็นสุสานของสุภาพบุรุษ มีหญิงงามอันดับหนึ่งแน่นอนว่าต้องสามารถดึงดูดบุรุษได้เป็นอย่างดี แต่น่าเสียดาย แม้ว่าหนานกงมั่วที่อายุสิบหกปีนั้นไม่นับว่าเตี้ย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนสูงของบุรุษโดยทั่วไปแล้วยังนับว่าตัวเล็กกงว่าอยู่มาก ซ้ำยังติดในเรื่องของใบหน้าอีกด้วย หากแต่งออกมาแล้วบอกว่าอายุสิบสองสิบสามปีต้องมีคนเชื่ออย่างแน่นอน นางสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อปลอมตัวได้ แต่แบบนั้นย่อมเสี่ยงต่อการถูกผู้มีฝีมือด้านการปลอมตัวจับได้เช่นกัน ดังนั้นหนานกงมั่วจึงเลือกแต่งเป็นหญิงสาวชุดดำผู้เย็นชาและลึกลับเพราะดูเหมาะกว่า

จริงอยู่ที่นางมิมีความสนใจต่อสาวงามอันดับหนึ่ง แต่ใครบอกกันเล่าว่านางมิมีความสนใจต่อดาบหงหมิงและเงินหมื่นตำลึงทอง

ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังเข้ามา หนานกงมั่วเม้มปากเป็นรอยยิ้มหวาน หยิบหมวกขึ้นมาสวมอีกครั้ง ผู้มาใหม่มองเห็นหนานกงมั่วก็ชะงักไปเล็กน้อย รีบเอ่ย “คารวะจอมยุทธ์หญิง”

“มีเรื่องอันใด” หนานกงมั่วเอ่ยถามเสียงเรียบ

ชายผู้นั้นไม่ได้คิดว่าหนานกงมั่วไร้มารยาท เพียงยิ้มแล้วเอ่ยบอก “เจ้าสำนักของข้าชื่นชมต่อวรยุทธ์ของแม่นางมาก เรือนด้านหลังจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่นั่น หวังว่าแม่นางจะไม่ปฏิเสธ”

หนานกงมั่วก้มหน้าไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ เลิกคิ้วพลางเอ่ย “เจ้าสำนักจินต้องการคุยอันใดกับข้าหรือ”

ชายผู้นั้นชะงักไป ดึงสติกลับมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “คงปิดแม่นางมิได้แล้ว เจ้าสำนักมีข้อแลกเปลี่ยนอยากหารือกับแม่นาง หวังว่าแม่นางจะให้เกียรติลองคุยสักนิดขอรับ”

หนานกงมั่วมองสำรวจเขาอยู่ชั่วครู่ เอ่ยตอบ “ท่านช่างเจรจาเสียจริง”

“จอมยุทธ์หญิงเอ่ยชมแล้ว จอมยุทธ์หญิงเชิญ”

หนานกงมั่วพยักหน้า “พอดี ข้าเองก็อยากรู้จักเจ้าสำนักกลเจ็ดดาวเช่นกัน” ชายผู้นั้นได้ยินดังนั้นจึงชะงักไป แม่นางผู้นี้น่าจะไม่เคยเจอเจ้าสำนักของพวกเขามาก่อน กล่าวเช่นนี้…คิดจะพึ่งพาพวกเขา หรือว่ามีความขุ่นเคืองใจต่อพวกเขากันเล่า

ด้านหลังโรงเตี๊ยมมีเรือนเล็กๆ จัดเตรียมไว้ให้เหล่าชนชั้นสูงที่ออกไปไหนก็มีผู้ติดตามเป็นขบวนเหล่านั้น คนของสำนักกลเจ็ดดาวเดินนำเข้ามาที่เรือนหลังหนึ่งในนั้น เพียงเดินเข้ามาก็มีคนตรงเข้ามาต้อนรับและเชิญเข้าไปหาจินผิงอี้ทันที มองดูท่าทางนอบน้อมของทุกคน หนานกงมั่วอดที่จะถอนหายใจออกมามิได้ จินผิงอี้ปกครองเจียงตงได้เพราะเขามีความสามารถมากจริงๆ น่าเสียดาย…กลับมีบุตรชายที่ไม่ได้เรื่อง แต่ตอนนี้คงไม่เป็นไรแล้ว อย่างไรเสียบุตรชายผู้นั้นของเขาก็ตายไปแล้ว จินผิงอี้ยังสามารถใช้โอกาสที่เขาอายุยังไม่มาก ลองพยายามอีกสักนิด ไม่แน่ว่าอาจจะมีใหม่ที่ดีกว่าบุตรชายคนนั้นของเขาเสียด้วยซ้ำ

แน่นอนว่างานเลี้ยงครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในห้องโถง จะเรียกว่างานเลี้ยงก็ไม่ถูกนัก ที่นี่มีเพียงสี่ห้าโต๊ะเพียงเท่านั้น แต่ละคนยังไม่สนิทชิดเชื้อกันถึงขั้นสามารถดื่มร่วมโต๊ะกันได้ ดังนั้นจินผิงอี้จึงจัดงานเลี้ยงโดยให้หนึ่งคนใช้หนึ่งโต๊ะเล็ก เมื่อเดินเข้าไป พลันมองเห็นจินผิงอี้นั่งอยู่โต๊ะหลัก ด้านข้างมีหญิงงามสองคนคอยพัดวีให้เขา ท่าทางกำลังมีความสุข

บุตรชายพึ่งตายยังมีความสุขได้เพียงนี้ จินผิงอี้คงมิได้มองว่าเขาขัดหูขัดตาอยู่ก่อนแล้วใช่ไหม

“แม่นางมาถึงแล้ว เชิญนั่งก่อนเถิด เพียงแต่…ไม่รู้ว่าแม่นาง…” จินผิงอี้มองไปที่หมวกคลุมของนาง คำพูดหยุดไว้เพียงเท่านั้น หนานกงมั่วเองมิได้ใส่ใจ ยกมือขึ้นไปถอดหมวกออกเผยให้เห็นใบหน้างดงาม คนที่อยู่ร่วมในสถานการณ์นี้ต่างพากันตกตะลึงไปตามๆ กัน เดิมทีพวกเขาคิดว่าแม่นางผู้นี้เอาแต่สวมหมวกปิดบังใบหน้า คิดว่าคงหน้าตามิน่ามอง อย่างไรเสียการใช้ชีวิตในยุทธภพก็แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป จริงอยู่ที่หากเป็นสตรีทั่วไปคงพึงพอใจที่จะอวดให้ผู้อื่นเห็นรูปโฉมอันงดงาม บุรุษเองก็มักจะให้เกียรติแก่สตรีที่งดงามเสมอ ทว่าไม่คิดว่าหญิงสาวไม่เพียงมีวรยุทธ์สูงส่งกลับยังมีใบหน้างดงามเป็นที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับนางแล้ว หญิงงามที่เลื่องลือกันนั้นก็กลายเป็นธรรมดาไปเลย

เพียงแต่มิรู้ว่า…เมื่อเทียบกับหญิงงามอันดับหนึ่งอย่างจังอู๋ซินที่ร่ำลือกันนั้นจะเป็นเยี่ยงไร หลายคนแอบคิดอยู่ในใจ

ความจริงจังอู๋ซิน หญิงงามอันดับหนึ่งผู้นี้พึ่งเป็นที่เลื่องลือไม่นานมานี้เท่านั้น กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเจอนางเลย หรือบางทีอาจเพราะยังมิมีใครเคยได้เห็นจึงทำให้เป็นที่เลื่องลือกันมากขึ้นไปอีก จังติ้งฟังกล้าใช้คำว่าหญิงงามอันดับหนึ่ง คาดว่าหน้าตาคงจะไม่ธรรมดากระมัง แต่คนส่วนใหญ่ที่มานั้นก็มาเพื่อดาบหงหมิงและเงินหมื่นตำลึงทองเสียมากกว่า

ไม่นานจินผิงอี้ก็ได้สติกลับมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่าแม่นางไม่เพียงฝีมือยอดเยี่ยม ซ้ำยังงดงามเพียงนี้ ไม่เคยปรากฏนามในยุทธภพมาก่อน ช่างเป็นเรื่องน่าแปลกใจเสียจริง ไม่ทราบว่า แม่นางมีนามว่าอย่างไร”

หนานกงมั่วนั่งลง เอ่ยเสียงเรียบ “เมิ่งเย่ว์”

“ที่แท้คือแม่นางเมิ่งนี่เอง” จินผิงอี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม ดูไม่ออกว่าเขาเชื่อที่หนานกงมั่วเอ่ยหรือไม่

หนานกงมั่วหยิบถ้วยน้ำชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบเบาๆ เอ่ยถาม “เจ้าสำนักจินมีเรื่องอันใด เอ่ยมาตามตรงเถิด”

เห็นนางเอ่ยเช่นนี้ จินผิงอี้ก็ไม่ลังเล กล่าวว่า “แม่นางมาปรากฏตัวที่เฉินโจวในเวลานี้ คิดว่าคงเป็นการเชิญจากแม่ทัพจังเช่นกันใช่หรือไม่”

หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ เอ่ยเสียงราบเรียบ “ถูกแล้ว ข้าต้องการดาบหงหมิง”

จินผิงอี้ชะงัก ไม่คิดว่านางจะเอ่ยตอบตรงๆ เช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮ่าๆ ไม่คิดว่าแม่นางจะมีใจปรารถนาถึงเพียงนี้ แต่ว่า…ข้ามองว่าแม่นางคงมิใช่ผู้ที่จะใช้ดาบหรอก ใช่หรือไม่”

หนานกงมั่วยังคงยิ้ม “ใช้ไม่ใช้ดาบนั่นเป็นเรื่องของข้า คงไม่ต้องให้เจ้าสำนักจินต้องกังวล”

แม้ว่าจินผิงอี้จะชอบวางอำนาจ แต่ก็อดทนกับคนได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่โกรธทว่ากลับยิ้มออกมา “ข้าล่วงเกินแล้ว เดิมที…ข้าอยากร่วมมือกับแม่นาง แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะมิได้เสียแล้ว” เมิ่งเย่ว์ผู้นี้ไม่ใช้ดาบ แต่เขาจินผิงอี้นั้นเป็นยอดฝีมือเรื่องดาบ ดาบหงหมิงนั้นพานพบได้ ทว่ากลับยากจะได้มาครอบครองไว้

บันทึกต้งหมิงจี้[1]กล่าวไว้ว่า หวงตี้[2]เก็บทองแดงมาจากเขาโส่ว ทว่าฝ่ายชายนั้นได้จากไปแล้ว ส่วนฝ่ายหญิงยังคงอยู่[3] หวงตี้นั้นกังวลว่าจะมีคนได้ดาบไปจึงคิดทำลายให้สิ้น ทว่าดาบกลับกลายเป็นนก บินหนีไปได้ ดาบหงหมิงมีชื่อเสียงเทียบเท่ากับดาบเซวียนหยวนของหวงตี้ ดาบที่ซึ่งหวงตี้กังวลจนคิดทำลายทิ้งไป แม้ยามนี้จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ว่าดาบเซวียนหยวนอยู่ที่ใดก็ตาม ทว่าดาบหงหมิงยังคงวนเวียนอยู่บนโลก ของล้ำค่าเช่นนี้ จินผิงอี้ผู้ทะเยอทะยานจะไม่อยากมีไว้ในครอบครองได้เช่นไร

หนานกงมั่วเพียงเลิกคิ้วแต่มิได้เอ่ยสิ่งใด เห็นได้ชัดว่าไม่ใส่ใจคำพูดของจินผิงอี้

จินผิงอี้มองหญิงสาวชุดดำตรงหน้าแล้วก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย เงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ย “แม่นางเมิ่ง เจ้าตัวคนเดียวคิดจะทำภารกิจของจังติ้งฟังให้สำเร็จมันไม่ง่ายเลย มิสู้เจ้าร่วมมือกับข้าไม่ดีกว่าหรือ”

——————————————————————

[1] บันทึกต้งหมิงจี้ บันทึกรวบรวมเรื่องเล่าในสมัยราชวงศ์ฮั่น

[2] หวงตี้ หรือจักรพรรดิเหลือง เป็นหนึ่งในกษัตริย์ตามตำนานจีนและวีรบุรุษทางวัฒนธรรม

[3] ฝ่ายชายในที่นี่หมายถึงดาบเซวียนหยวน ส่วนฝ่ายหญิงหมายถึงดาบหงหมิง

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท