หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 133 มาถึงเฉินโจวครั้งแรก (3)

ตอนที่ 133 มาถึงเฉินโจวครั้งแรก (3)

ฝังรู้สึกเย็นยะเยือก รีบส่งจดหมายที่หนานกงมั่วทิ้งเอาไว้ให้เขา เอ่ยอยู่ในใจ คุณหนูหนานกงท่านทำร้ายพวกเราแล้ว ท่านจะไปไหนบอกกับพวกเราและเอาพวกเราไปด้วยสิขอรับ

เว่ยจวินมั่วรับจดหมายมา เป็นลายมือของอู๋สยาจริงๆ จึงวางใจขึ้นมาบ้าง เงียบอยู่นานจึงเอ่ย “ข้ารู้แล้ว พวกเจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อน”

“แล้ว…คุณหนูหนานกง…” ฝังเอ่ยด้วยความกังวล คุณหนูหนานกงอยู่ข้างนอกคนเดียว หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น… “มิสู้ให้ข้าน้อยกับเวยไปตามหาคุณหนูหนานกงก่อนไหมขอรับ”

“ไม่ต้อง อู๋สยาฉลาด ฝีมือก็ไม่เลว ไม่มีทางถูกจับได้ง่ายๆ หรอก กลับกัน…หากพวกเจ้าไปตามหาแล้วถูกจับ จะทำให้นางตกอยู่ในอันตรายได้” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ยิ่งไปกว่านั้น…ต่อให้หาเจอ นางไม่ยอมกลับมากับพวกเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ฝีมือของพวกเจ้า…เอานางอยู่หรือ” หากดูแลได้ ก็คงไม่เป็นเช่นนี้ที่อู๋สยาหายไปแล้วพวกเขายังไม่รู้ เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว อู๋สยาฉลาดมาก วรยุทธ์ก็สูง ผู้อารักขาทั่วไปดูแลนางไม่ได้ หากนางต้องการไปที่ไหน ใครก็ห้ามนางไม่ได้

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝังจึงก้มหน้าอย่างละอายใจ

“ออกไปเถิด” เว่ยจวินมั่วโบกมือไล่

“ขอรับ ข้าน้อยลาแล้วขอรับ” ทั้งสองเอ่ย เดินไปถึงประตูทางออก ฝังหันกลับมามองเว่ยจวินมั่วที่กำลังเหม่อลอยไม่รู้คิดสิ่งใดอยู่ ได้แต่ลอบถอนหายใจอยู่ภายใน คุณหนู ท่านต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะขอรับ

ขณะนั้นหนานกงมั่วที่ถูงฝังเป็นห่วงกำลังเดินเล่นอยู่บนถนนในเมืองเฉินโจว แม้ยามนี้เมืองเฉินโจวจะเข้มงวด แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นห้ามคนเข้าออก อย่างไรเสียยามนี้จังติ้งฟังก็อยู่ที่เฉินโจว เขาเชิญจอมยุทธ์จากทั่วทุกสารทิศมาที่นี่ จะไม่พบเจอใครเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ และในฐานะมือสังหาร นางมีวิธีการมากมายที่จะลอบเข้าเมืองไปได้

ยามนี้หนานกงมั่วได้เปลี่ยนจากอาภรณ์สีฟ้าอ่อนมาเป็นชุดสีดำไปทั้งตัว เส้นผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นง่ายๆ ศีรษะนั้นมีหมวกสีดำคลุมเอาไว้ ดูแล้วเหมือนจอมยุทธ์หญิงทั่วไป ในเมืองมีจอมยุทธ์เดินกันขวักไขว่มากมาย เห็นได้ชัดว่าจังติ้งฟังนั้นมีความมั่นใจในตัวเองสูง ถึงแม้จะมีทหารคอยเฝ้าไปทั่วทุกซอกทุกมุมของถนนก็ตาม ทว่ากลับไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับจอมยุทธ์เหล่านี้

หนานกงมั่วเดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ยามนี้หูก่วงมีศึกสงคราม กิจการโรงเตี๊ยมแน่นอนว่าย่อมต้องมีข้อจำกัด นอกจากจอมยุทธ์ที่มีความกล้าหาญและพ่อค้าที่ติดอยู่ที่นี่แล้ว โรงเตี๊ยมแต่ละที่นั้นมีแขกเข้าพักแทบนับจำนวนได้ แม้แต่บนถนนก็ยังมีคนเดินเท้าไม่กี่คน ซ้ำยังมีท่าทีเร่งรีบอีกด้วย

“จอมยุทธ์…ท่านนี้ จอมยุทธ์เชิญด้านในขอรับ” ผู้จัดการร้านมองเห็นหนานกงมั่วก็ผงะไปก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในฉับพลัน เปิดประตูโรงเตี๊ยมออกมาต้อนรับ แม้จะเลี่ยงไม่ได้ต้องเจอกับบรรดาจอมยุทธ์ ทว่าในยามสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไรหากไม่ระวังก็อาจต้องตายทั้งครอบครัวอยู่แล้ว แม้ว่าการได้เห็นเหล่าจอมยุทธ์ที่มีกระบี่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาจะทำให้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม

หนานกงมั่วพยักหน้าเล็กน้อย “มีห้องว่างหรือไม่”

รอยยิ้มของผู้จัดการร้านขมขื่น ยิ้มออกมา “มีขอรับ มี แน่นอนว่ามี โรงเตี๊ยมของเรานับว่าเป็นโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเฉินโจว จอมยุทธ์เชิญด้านในขอรับ”

หนานกงมั่วพยักหน้า โยนเงินลงไปให้ “ขอหนึ่งห้อง ยกน้ำชามาให้ข้าด้วย”

“ขอรับ จอมยุทธ์เชิญด้านในขอรับ” ผู้จัดการร้านพานางเข้าไปด้านในห้องโถงแล้วเชิญให้นั่งลงที่โต๊ะว่าง จากนั้นค่อยไปเตรียมห้องพักและน้ำชาด้วยตนเอง

หนานกงมั่วนั่งลง มองผู้คนที่นั่งอยู่ในห้องโถง แตกต่างจากแขกที่เจอในโรงเตี๊ยมก่อนหน้านี้ ยามนี้ห้องโถงใหญ่มีคนนั่งอยู่เพียงหกเจ็ดโต๊ะเท่านั้น มาจำนวนน้อยสุดก็เห็นจะมีเพียงนางที่มาตามลำพัง ส่วนมากที่สุดก็แปดเก้าคน แต่ทั่วทั้งร้านกลับเงียบสงบ ไม่มีเสียงดังจอแจเลยสักนิด

“ท่านจอมยุทธ์ เชิญดื่มชาขอรับ”

“ขอบใจ” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ ยกกาน้ำชารินลงในถ้วยของตนเอง ดื่มน้ำชาด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย สายตาพลางสอดส่องไปทั่วภายใต้ผ้าคลุมใบหน้าที่ปกปิดเอาไว้ ในขณะที่นางกำลังมองสำรวจคนอื่น คนอื่นเองก็กำลังมองสำรวจนางเช่นกัน คนในยุทธภพ ส่วนมากต้องรู้จักกัน หรือไม่ก็ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง หากข่าวรวดเร็วหน่อยก็คงต้องรู้จักกันไปทั้งห้องโถงแห่งนี้ ทว่าหญิงสาวชุดดำตรงหน้า เพียงมองก็รู้ว่ามิใช่ธรรมดา ทว่าพวกเขากลับไม่มีใครเดาได้เลยว่านางเป็นใครมาจากไหน แต่กล้าเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยมเวลานี้ หากมิใช่คนที่ไม่รู้อะไรเลยก็ย่อมต้องเป็นยอดฝีมือ หญิงสาวตรงหน้านี้ ต่อให้ไม่มีใครมองเห็นใบหน้าของนาง แต่ก็ไม่มีใครคิดว่านางเป็นคนประเภทแรกเช่นกัน

“ท่าน…ท่านจอมยุทธ์ จอมยุทธ์ทั้งหลายเชิญด้านในขอรับ” ด้านนอกมีคนมาใหม่ ทุกคนละสายตาจากหนานกงมั่วหันกลับไปมองที่ประตูทางเข้า มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามา ผู้ที่เดินนำหน้าเข้ามาเป็นชายร่างผอมในอาภรณ์สีทองท่าทางคล่องแคล่ว ดวงตาฉายแววโหดเหี้ยมออกมา ดูเป็นคนที่พร้อมจะระเบิดอยู่ตลอดเวลา มิน่าผู้จัดการร้านถึงได้พูดจาติดขัด ทำได้เพียงยืนต้อนรับอยู่ตรงนั้น

ชายอาภรณ์สีทองกวาดตามองไปทั่วห้อง เดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะตรงกลางที่โดดเด่น คนที่ติดตามเขามารีบสั่งให้ผู้จัดการยกนำชามาให้

“เหอะ ข้าคิดว่าเป็นใครเสียอีก ที่แท้ก็เจ้าสำนักจินนี่เอง ได้ยินมาว่าบุตรชายของท่านถูกใครที่ไหนไม่รู้ฆ่าไปแล้วงั้นหรือ ไม่คิดว่าเจ้าสำนักจะมีกะจิตกะใจมาร่วมสนุกที่เฉินโจวด้วย คงมิใช่…ตั้งใจมาแต่งหญิงงามอันดับหนึ่งเพื่อไปสร้างผู้สืบทอดออกมาใหม่หรอกหนา” น้ำเสียงน่าเกลียดเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ

“หึ” ชายในอาภรณ์สีทองสีหน้านิ่งขึ้น ตะเกียบในมือตบลงบนโต๊ะเสียงดัง ก่อนตะเกียบจะพุ่งไปตามเสียงนั้น

“จินผิงอี้ นี่เจ้ากำลังอายจนโกรธแล้วหรือ” ชายร่างผอมบางใบหน้าคล้ายลิงยกมือขึ้นมารับตะเกียบเอาไว้ จ้องชายในอาภรณ์สีทองเขม็ง นัยน์ตาโสโครกนั้นเต็มไปด้วยแรงอาฆาต

ร่องรอยความเกลียดชังพาดผ่านในแววตาของชายในอาภรณ์สีทอง ทว่ากลับไม่ได้แสดงออกมาในเวลานั้น เขากวาดตามองชายใบหน้าคล้ายลิงผู้นั้นช้าๆ “บุตรชายของข้าถูกใครฆ่า ทำไมหรือ จิ๋วจื่อซิ่วซื่ออยากตามไปด้วยหรือ” คนรอบข้างชายในอาภรณ์สีทองชักกระบี่ออกมาช้าๆ ใบหน้าเข้มจ้องมองชายหน้าคล้ายลิงผู้นั้น

ชายวัยกลางคนที่โต๊ะด้านข้างเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ “เจ้าสำนักจิน คุณชายซือก็เป็นเช่นนี้ เจ้าสำนักจะไปสนใจเขาทำไมกันเล่า พวกเรามาที่เฉินโจวเพราะมีความปรารถนากันทั้งนั้นมิใช่หรือ”

ชายในอาภรณ์สีทองกวาดตามองชายวัยกลางคนผู้นั้น “จ้าวเหวินเฟิงแห่งสำนักหลานเย่ว์งั้นหรือ เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาออกหน้าแทนเขา ได้ยินชื่อเสียงว่าเหวินเฟิงหลบหนีเก่ง หรือเจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีรอดจากคมดาบของข้าได้” ชายวัยกลางคนชะงัก ในที่สุดก็นั่งลง เงียบไปราวกับเมื่อครู่ตนไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา ชายใบหน้าคล้ายลิงผู้นั้นมองจินผิงอี้ด้วยท่าทีหวาดระแวง เดิมทีในยุทธภพเขาก็มีชื่อเสียงเรื่องปากร้าย และเพราะปากของเขาจึงเคยถูกตัดนิ้วไปแล้ว ยามนี้ปากไวท้าทายต่อจินผิงอี้จึงอดเหงื่อตกอยู่ในใจไม่ได้

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท