หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 207 การรับมือของตระกูลจู สองมือของเซียนซิ่วสุ่ย (2)

ตอนที่ 207 การรับมือของตระกูลจู สองมือของเซียนซิ่วสุ่ย (2)

คิ้วคมของเว่ยจวินปั๋วผูกกันแน่น เห็นได้ชัดว่ากำลังครุ่นคิดถึงปัญหาข้อนี้ แต่ทรัพย์สมบัติของตระกูลจูก็ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี เมื่อก่อนนั้นไม่มีโอกาส แต่ยามนี้โอกาสมาถึงตรงหน้าแล้วไม่คว้าไว้จะโง่หรือไม่

พระชายารองเฝิงกลับไม่พอใจ ส่งเสียงหยัน “สตรีไร้ยางอายเพียงผู้เดียว บุตรชายข้าชอบนางก็นับว่าเป็นบุญของนางแล้ว นางยังกล้าคิดบ่ายเบี่ยงอีกหรือ”

เว่ยจวินปั๋วครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เอ่ยขึ้น “ไม่ว่าอย่างไร เรื่องที่เราควรทำก็ต้องทำให้สำเร็จ ท่านแม่ อีกหน่อยส่งคนไปหารือเรื่องแต่งงานเถิด”

ชายารองเฝิงขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ตระกูลจูไม่ยินยอมหรอกหรือ”

เว่ยจวินปั๋วเอ่ย “ใครจะรู้กันเล่า ตระกูลจูจะมีท่าทีเช่นไรนั่นเป็นเรื่องของพวกเขา ในเมื่อมีเรื่องที่ทำให้หญิงสาวเสียชื่อเสียง พวกเราก็ควรไปแสดงความรับผิดชอบ มิฉะนั้นชื่อเสียงของน้องสามยิ่งแย่เข้าไปใหญ่” ชายารองเฝิงกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น “ทั้งหมดเป็นความผิดของเว่ยจวินมั่ว เห็นอยู่ว่าเพราะเขากับหนานกงมั่วกำลังใส่ร้ายเจ๋อเอ๋อร์” เว่ยจวินปั๋วขมวดคิ้ว เอ่ย “เว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วล้วนรับมือได้ยาก เราต้องระวังตัวเอาไว้บ้าง ต่อไปอย่าหาเรื่องเขาไปทั่ว”

เว่ยจวินเจ๋อพยักหน้าด้วยความโกรธ เขารู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อยที่ครั้งนี้คิดหาเรื่องหนานกงมั่ว ทำอันใดนางไม่ได้ไม่พอ ทั้งยังต้องเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย ขยับตัวเล็กน้อย บาดแผลด้านหลังพลันเจ็บแสบขึ้นมาจนต้องกัดฟันไว้

“ท่านอ๋องมาเจ้าค่ะ” ด้านนอก สาวใช้กล่าวรายงานด้วยท่าทางนอบน้อม

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเดินเข้ามาด้วยใบหน้าถมึงทึง สามแม่ลูกมองหน้ากันพลันเข้าใจ คิดว่าคงโมโหมาจากองค์หญิงอีกเป็นแน่ ทุกครั้งที่ไปหาองค์หญิงล้วนแล้วแต่มีอารมณ์เช่นนี้กลับมาทุกครั้ง สำหรับเรื่องนี้ชายารองเฝิงดูจะพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของจวิ้นอ๋องกับองค์หญิงยิ่งแย่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับนางมากขึ้น

“ท่านอ๋องเพคะ” ชายารองเฝิงเช็ดน้ำตาที่หางตาเบาๆ เดินเข้าไปรับหน้าทั้งน้ำตา

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องมองบุตรชายที่นอนหมอบอยู่บนเตียง ขมวดคิ้วถาม “ไม่ใช่ไม่เป็นไรแล้วหรือ ร้องไห้ทำไมกัน”

ชายารองเฝิงเอ่ยตอบน้ำตานองหน้า “แม้จะไม่ได้บาดเจ็บสาหัส แต่บาดแผลนี้…ความเจ็บปวดอยู่บนร่างของบุตร เจ็บอยู่ในหัวใจของมารดา ท่านอ๋องคงไม่มีทางเข้าใจได้” เห็นท่าทางน่าสงสารของนาง มองดูใบหน้าซีดเซียวของบุตรชาย จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องจึงถอนหายใจออกมา เอ่ย “เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว เจ้าไปก่อเรื่องที่เรือนรัชทายาท ไม่ถูกโบยจนตายก็นับว่าโชคดีมากแล้ว”

เว่ยจวินเจ๋อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ท่านพ่อ เห็นอยู่ว่าหนานกงมั่วหญิงผู้นั้นคิดให้ร้ายข้า”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “ใครใช้ให้เจ้าไม่มีความสามารถ ปล่อยให้นางวางแผนให้ร้ายเจ้าได้กันเล่า เจ้าคิดว่าข้าดูไม่ออกจริงหรือ ลักลอบกินไม่สำเร็จแล้วเจ้ายังคิดมาฟ้องข้างั้นหรือ” จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเองมิใช่คนโง่ แน่นอนว่าย่อมต้องดูออกว่าเรื่องในวันนี้เป็นเช่นไร เพียงแต่เขานั้นมีใจไม่เที่ยงตรง เมื่อเป็นเรื่องเว่ยจวินมั่วและเว่ยจวินปั๋วเว่ยจวินเจ๋อแล้ว จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องก็มีใจเอนเอียงเข้าข้างสองคนหลังโดยไม่คิดคำนึงถึงเหตุผล

ชายารองเฝิงเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ท่านอ๋อง เจ๋อเอ๋อร์สำนึกผิดแล้ว พวกเรากำลังหารือกันว่าจะทำเช่นไรกับตระกูลจู ท่านอ๋องคิดว่า…”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องโบกมือ กล่าว “เรื่องนี้ช่างเถิด เจ๋อเอ๋อร์ พรุ่งนี้เจ้าไปขอโทษเกาอี้ปั๋วซะ”

พวกเฝิงซื่อทั้งสามได้แต่นิ่งอึ้งไป เฝิงซื่อเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “ท่านอ๋อง เรื่องนี้ไยจึง…” แม้จะไม่ชอบจูชูอวี้ แต่เมื่อฟังคำพูดของบุตรชายคนโตแล้ว ชายารองเฝิงจึงคิดว่าการที่บุตรชายคนรองของนางแต่งตระกูลจูก็มิใช่เรื่องไม่ดีอันใด ตระกูลทางครอบครัวนางสู้องค์หญิงฉังผิงไม่ได้ ช่วยอันใดบุตรชายมิได้มากมายนัก แม้ตระกูลจูจะไม่ได้อยู่จุดสูงสุดในราชสำนัก แต่สำหรับเรื่องเงินทองแล้วคงช่วยเหลือได้มาก มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ดีมาก มีเงินปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งให้ยังได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นเพียงเชื้อสายรองเท่านั้น มีบุตรีคนโตของเกาอี้ปั๋วมาเป็นชายารอง บุตรชายของนางไม่มีทางลำบากแน่

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเหลือบมองนางอย่างหงุดหงิด “เจ้าจะไปรู้อันใด อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็เอาตามนี้ เด็กตระกูลจูผู้นั้น เจ้าคิดว่าเจ้าสามจะรับมือกับนางได้หรือ ไม่ถูกนางเล่นจนตัวกลมนั่นสิแปลก สตรีเช่นนั้นเอาเข้าบ้านคงได้วุ่นวาย ปั๋วเอ๋อร์ คิดให้รอบคอบเสียบ้าง” เว่ยจวินปั๋วหลุบตาลง เอ่ยตอบด้วยท่าทางสุภาพ “ลูกคิดไม่รอบคอบ ท่านพ่อได้โปรดอภัยด้วยขอรับ”

มองบุตรชายคนรองที่ตนให้ความเอ็นดูที่สุด ใบหน้าของจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องจึงอ่อนโยนขึ้น นั่งลงแล้วมองไปยังเว่ยจวินปั๋ว “การออกรบครั้งนี้พวกเจ้าก็มิได้มีผลงานอันใดมากนัก แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้มีประสบการณ์บ้าง ข้าคุยกับรัชทายาทแล้ว อีกไม่กี่วันเจ้าก็ไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่กรมกลาโหมเสีย เจ๋อเอ๋อร์ รอแผลเจ้าหายแล้วก็ไปที่กองทัพบ่อยๆ เถิด ไปยังจวนผู้บัญชาการกองทัพซ้าย ที่นั่นยังมีตำแหน่งว่าง”

เว่ยจวินปั๋วยังไม่ทันเอ่ยอันใด เว่ยจวินเจ๋อก็รีบขมวดคิ้วเอ่ยอย่างรังเกียจ “ท่านพ่อ เว่ยจวินมั่วเป็นถึงผู้บัญชาการข้าราชการขั้นสามแล้ว ท่านให้พี่รองไปเป็นเจ้าหน้าที่กระจอกนั่นจะดีหรือ เจ้าหน้าที่ระดับล่างขั้นห้า ทั้งยังของข้า…ขั้นเจ็ดใช่หรือไม่” จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องจ้องเขม็งอย่างไม่พอใจ เอ่ยตอบโต้ “ใครใช้ให้พวกเจ้าไม่มีผลงานในการศึกครั้งนี้เล่า เจ้าคิดว่าตำแหน่งพวกนี้สามารถยัดคนเข้าไปได้ง่ายๆ หรือ นี่เพราะข้าไปขอร้องรัชทายาทอยู่นานพระองค์จึงเห็นแก่หน้าข้า” ตำแหน่งในกรมนั้นประทานแก่เชื้อสายหลัก เชื้อสายรองไม่มีสิทธิ์ แน่นอนว่าอยากใช้เงินซื้อยศซื้อตำแหน่งก็ทำได้ แต่คนเช่นพวกเขาไม่รู้มีคนคอยจับจ้องอยู่มากเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่ซื้อได้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่มีอำนาจจริงจัง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นตำแหน่งที่ฟังแล้วไม่เลวทว่าความเป็นจริงนั้นเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอมที่มีไว้ยามเกษียณอายุเท่านั้น ของเล่นพวกนั้นเอามาแล้วจะมีประโยชน์อันใดกัน หรือว่าเว่ยจวินปั๋วและเว่ยจวินเจ๋อพึ่งยี่สิบก็เตรียมเกษียณแล้วอย่างนั้นหรือ แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งเล็กๆ แต่หากเว่ยจวินปั๋วคิดช่วงชิงตำแหน่งจวิ้นอ๋อง แน่นอนเขาไม่สามารถไปเป็นเจ้าหน้าที่กรมอื่นได้

เว่ยจวินปั๋วกลับสงบนิ่งได้ดีกว่าเว่ยจวินเจ๋อเล็กน้อย พยักหน้าตอบรับอย่างนอบน้อม “ลูกรู้แล้วขอรับ ขอบคุณท่านพ่อที่เป็นห่วงลูก”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องถอนหายใจ “ช่างเถิด ข้ารู้ว่าเจ้าลำบาก แต่กรมกลาโหมอย่างน้อยๆ ก็พอมีอำนาจจริงๆ เจ้ายังหนุ่มแน่น ขอเพียงมีความทะเยอะทะยานต้องเป็นใหญ่ได้อย่างแน่นอน”

“ลูกเข้าใจแล้วขอรับ”

ชายารองเฝิงไม่พอใจ เอ่ยเสียงเบา “ท่านอ๋อง ตระกูลจูนั่น…”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องขมวดคิ้ว “พอแล้ว เรื่องตระกูลจูอย่าได้เอ่ยถึงอีก อย่างไรเสีย เราไม่มีทางแต่งคุณหนูใหญ่ตระกูลจูเข้ามาอย่างแน่นอน”

ดวงตาเว่ยจวินปั๋ววาววับ เอ่ยถาม “ท่านพ่อ มีใครหลงรักคุณหนูใหญ่ตระกูลจูแล้วอย่างนั้นหรือขอรับ”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องยิ้มขมขื่น “เกรงว่าไม่ใช่ใครหลงรักคุณหนูใหญ่ตระกูลจูนี่สิ แต่มีคนหลงใหลในตระกูลจู” เว่ยจวินปั๋วเข้าใจในทันใด ท่านพ่อยอมให้เช่นนี้เห็นได้ชัดว่าคงไม่ธรรมดา พยักหน้าพลางเอ่ย “ลูกเข้าใจแล้วขอรับ เรื่องนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกก็พอแล้ว” เว่ยจวินเจ๋อนอนหมอบอยู่บนเตียง หมดความสนใจต่อเรื่องนี้ เดิมเข้าก็ไม่มีความสนใจต่อจูชูอวี้ แต่งกับนางไม่ได้ก็ไม่มีสิ่งใดน่าผิดหวัง เพียงแต่เฝิงซื่อรู้สึกปวดใจ ตระกูลจูมีเงินมากมายถึงเพียงนั้น โอกาสล่องลอยหายไปต่อหน้าต่อตา

เรือนชิงเฟิงที่อยู่อีกด้านของจวน เว่ยจวินมั่วนั่งหลุบตานิ่งสงบอยู่ริมหน้าต่าง ทว่าภายในห้องกลับมีบรรยากาศเย็นยะเยือก เสียงกร๊อบดังขึ้น ถ้วยชาที่แหลกละเอียดค่อยๆ ร่วงหล่นออกจากมือของเขา น้ำชาไหลไปตามซอกนิ้วเรียวลงสู่พื้นดิน คนที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้ หดตัวกลับคืนไปด้านหลัง ทำให้ตนเองนั้นมีตัวตนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท