หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 202 จวนจะสำเร็จ (1)

ตอนที่ 202 จวนจะสำเร็จ (1)

เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยด้วยท่าทางนอบน้อม “เซี่ยสามไม่เคยเห็นเด็กสาวผู้นี้มาก่อน เพียงแต่เมื่อครู่อยู่หน้าประตูได้ยินคุณชายเว่ยสามเรียกนางว่าอวี้เอ๋อร์ จวิ้นจู่และแม่นางคนอื่นๆ เองก็ได้ยินเพคะ”

หย่งชังจวิ้นจู่ส่งเสียงหยันเบาๆ เป็นการยืนยันว่าที่เซี่ยสามกล่าวนั้นถูกต้อง องค์หญิงหลิงอี๋ยิ้มอย่างมีเลศนัย “อวี้เอ๋อร์…อวี้เอ๋อร์[1]…ข้าจำได้ คุณหนูใหญ่ตระกูลจูชื่อจูชูอวี้ใช่หรือไม่”

จูชูอวี้ใบหน้าเรียบตึงซีดขาวไร้สีเลือดทันที รีบเงยหน้าขึ้นมา “องค์หญิงหลิงอี๋ ได้โปรดระมัดระวังวาจาด้วยเพคะ”

องค์หญิงหลิงอี๋หัวเราะขึ้นมา “ระมัดระวังวาจาอย่างนั้นหรือ หรือว่าเด็กสาวผู้นี้มิใช่สาวใช้ของเจ้า หากไม่มีอันใด เจ้าปกปิดชื่อของนางไปทำไม เว่ยสาม เจ้าว่ามาสิ…เรื่องวันนี้มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่” เว่ยจวินเจ๋อมึนงง ไหนเลยจะเอ่ยสิ่งใดออกมาได้ ทว่าเด็กสาวคนนั้นพลันเงยหน้าขึ้น กัดฟันเอ่ย “รายงานองค์หญิง บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ มีคนวางแผนให้ร้ายบ่าวเพคะ”

องค์หญิงหลิงอี๋ไม่พอใจ “ใครจะมีเวลาว่างมาใส่ร้ายสาวใช้เช่นเจ้ากัน”

ดวงตาของจูชูอวี้ราบเรียบ เอ่ยขึ้น “รายงานองค์หญิง อีกฝ่ายต้องการดึงหม่อมฉันให้ติดร่างแหไปด้วยเพคะ ขอองค์หญิงให้ความกระจ่างด้วย”

เว่ยจวินเจ๋อที่อยู่ด้านข้างได้สติขึ้นมา รีบเอ่ย “มารดาให้อภัยด้วย จวินเจ๋อถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ ขอมารดาและพระชายารัชทายาทให้ความเป็นธรรมกับจวินเจ๋อด้วย”

พระชายารัชทายาทปวดหัวกับทั้งสามคนที่เอ่ยโต้เถียงกันไปมา เอ่ยขึ้นด้วยโทสะ “เงียบซะ เรื่องราวเป็นเช่นไรเดี๋ยวข้าจะสืบเอง พวกเจ้าบอกว่ามีคนให้ร้ายพวกเจ้า ข้าอยากจะรู้นัก ใครจะให้ร้ายพวกเจ้ากัน”

ทั้งสามมองสบตากัน เว่ยจวินเจ๋อกัดฟันเอ่ย “เป็นหนานกงมั่วพ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนตระหนก พระชายารัชทายาทมองไปยังองค์หญิงฉังผิง องค์หญิงฉังผิงมองไปยังเซี่ยเพ่ยหวนและหย่งชังจวิ้นจู่ หย่งชังจวิ้นจู่เอ่ย “ท่านอา พวกเราไปที่นั่นเพราะจะไปหาซิงเฉิงจวิ้นจู่จริงเพคะ แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของซิงเฉิงจวิ้นจู่แล้ว” เซี่ยเพ่ยหวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “เป็นหย่งชังจวิ้นจู่และคุณหนูจูที่บอกว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่มาทางนี้ พวกเราจึงตามมาด้วย”

องค์หญิงฉังผิงและองค์หญิงหลิงอี๋มองไปยังจูชูอวี้ จูชูอวี้ก้มหน้าลง เอ่ยเสียงเบา “หม่อมฉันเองก็ได้ยินคนอื่นบอกมาว่าจวิ้นจู่เดินมาทางนี้เพคะ”

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น” น้ำเสียงเข้มดังขึ้นหน้าประตู จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเดินเข้ามาพร้อมกับพระชายารองเฝิง พระชายารองเฝิงมองเห็นเว่ยจวินเจ๋อคุกเข่าอยู่บนพื้นเข้าก็ตื่นตระหนก เอ่ยเรียกขึ้นทันใด “เจ๋อเอ๋อร์ เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า”

“พระชายารัชทายาท องค์หญิง นี่มันอันใดกันหรือ” จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ

องค์หญิงหลิงอี๋หัวเราะ “เกิดอันใดขึ้นอย่างนั้นหรือ จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องดูเอาเองไม่เป็นหรืออย่างไร”

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องชะงัก พึ่งเห็นสภาพของเว่ยจวินเจ๋ออย่างชัดเจน เป็นผู้ชายด้วยกันมีหรือจะดูไม่ออกว่าเกิดสิ่งใดขึ้น สีหน้าของจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องพลันแปรเปลี่ยน แววตาดุดันจ้องเว่ยจวินเจ๋อเขม็ง เอ่ยเสียงดัง “ลูกสารเลว นี่มันเรื่องอันใดกัน” เมื่อเห็นจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องมาถึง เว่ยจวินเจ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา ก่อนจะรีบตรงเข้าไปกอดขาร้องห่มร้องไห้ “ท่านพ่อ ลูกถูกให้ร้าย มีคนวางแผนใส่ร้ายลูก ลูกถูกใส่ร้ายนะขอรับ”

“ผู้ใดกล้าให้ร้ายเจ้า” พระชายารองเฝิงเอ่ยถามเสียงดัง “เด็กดี รีบบอกพ่อเจ้าไป ใครใจร้ายใจดำมาคิดร้ายต่อเจ้า ท่านอ๋องจะจัดการให้เจ้าเอง”

“เป็นหนานกงมั่ว” เว่ยจวินเจ๋อกัดฟันเอ่ย “เป็นหนานกงมั่วที่นัดลูกมาที่นี่ ลูกไม่รู้ว่าสลบไปได้เช่นไร จากนั้น…จากนั้นก็…”

พรวด! เซี่ยเพ่ยหวนที่ยืนอยู่ด้านหลังองค์หญิงฉังผิงหลุดหัวเราะออกมา เอ่ยถาม “ในเมื่อคุณชายสามกล่าวเช่นนี้ ไม่รู้ว่า…อวี้เอ๋อร์เป็นแม่นางที่มาจากไหนกันเล่า ทั่วทั้งจินหลิง คนที่มีคำว่าอวี้อยู่ในชื่อมีไม่เยอะเท่าใดนัก” องค์หญิงฉังผิงจ้องมองเว่ยจวินเจ๋อด้วยสายตาเยือกเย็น จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องกลับไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ กัดฟันเอ่ย “หนานกงมั่ว เป็นถึงซิงเฉิงจวิ้นจู่ ช่าง…ไม่รู้ว่า…”

“หุบปาก” องค์หญิงฉังผิงเอ่ยเสียงเย็น “ท่านอ๋องอาศัยจังหวะที่คนไม่อยู่ คิดจะเอาความผิดสาดใส่นางก็ได้อย่างนั้นหรือ แต่ท่านอ๋องลืมแล้วหรือ แม้อู๋สยาไม่อยู่ แต่ข้ายังอยู่ที่นี่” สายตาเยือกเย็นขององค์หญิงฉังผิงกวาดไปมอง กระดูกสันหลังของเว่ยจวินเจ๋อเย็นวาบอย่างห้ามไม่ได้ ก้มหน้าลงไปด้วยจิตใจที่ไม่สงบ

“นี่องค์หญิงหมายความเช่นไร” จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องก็โกรธไม่น้อย เอ่ยย้อนถาม “หนานกงมั่วทำเรื่องเช่นนี้ องค์หญิงยังคิดจะปกป้องอีกหรือ”

“เขาบอกว่าอู๋สยาก็ต้องเป็นอู๋สยาหรือ มีใครเห็นหรือไม่”

“หรือว่าเจ๋อเอ๋อร์กำลังใส่ร้ายนางอยู่เล่า”

องค์หญิงฉังผิงแสยะยิ้ม “คนที่ถูกพวกเขาพี่น้องใส่ร้ายนั้นมีน้อยงั้นหรือ”

“เอาล่ะ” ฟังพวกเขาโต้เถียงกันไปมา เรียวคิ้วของพระชายารัชทายาทยิ่งขมวดแน่น “เรียกซิงเฉิงจวิ้นจู่มาถามก็รู้แล้ว จะทะเลาะกันทำไม”

กำลังจะเอ่ยรับสั่ง ทหารองครักษ์ก็รีบรายงาน “รายงานพระชายารัชทายาท ซิงเฉิงจวิ้นจู่และผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

“โอ้ พวกเขาอยู่ด้วยกันหรือ” พระชายารัชทายาทมีสีหน้าอ่อนโยนลง กล่าวขึ้นทันใด “ให้พวกเขาเข้ามาเร็ว”

ไม่นานหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วก็เดินตามหลังกันเข้ามา พระชายารัชทายาทมองสำรวจทั้งสองคน หญิงสาวงดงามหมดจด บุคลิกโดดเด่น ชายหนุ่มสุขุมเยือกเย็น ใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางของทั้งคู่นั้นดูสงบ ดวงตากลมโตของหนานกงมั่วเต็มไปด้วยความแปลกใจ ทั้งสองนั้น หนึ่งคนอยู่ในอาภรณ์สีขาว อีกคนอยู่ในอาภรณ์สีฟ้าคราม เดินเคียงคู่กันเข้ามาช่างดูเหมาะสมกันยิ่งนัก

หนานกงมั่วเอ่ย “เมื่อครู่สาวใช้บอกว่ากำลังตามหาอู๋สยา มิรู้ว่าพระชายารัชทายาทมีรับสั่งใดหรือเพคะ”

พระชายารัชทายาทมองไปยังหนานกงมั่วพลางเอ่ย “ก่อนหน้านี้ซิงเฉิงจวิ้นจู่ได้มาที่ลี่สุ่ยเซวียนหรือไม่”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “มาเพคะ ก่อนหน้านี้เจอสาวใช้อยู่ในสวน บอกว่าเซี่ยสามรอหม่อมฉันอยู่ที่ลี่สุ่ยเซวียน หม่อมฉันจึงมาที่นี่ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่เจอแม้แต่เงาของเซี่ยสาม สาวใช้คนนั้นยกน้ำชามาให้แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย หม่อมฉันรออยู่ชั่วครู่จึงลุกออกไปตามหา จากนั้น…ก็ไปเจอเข้ากับเว่ยซื่อจื่อเพคะ”

พระชายารัชทายาทเอ่ย “หมายความว่า เจ้าอยู่กับเว่ยซื่อจื่อตลอดเลยงั้นหรือ”

เว่ยจวินมั่วก้าวขึ้นมาด้านหน้า “เสด็จป้า จวินมั่วกับอู๋สยาชมดอกไม้อยู่ที่หอหลิงเซียวด้านหน้าตลอด มีหลายคนเป็นพยานได้ เสด็จป้าเรียกคนมาถามดูเถิด” สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังรายงานว่าเจอทั้งสองอยู่ที่หอหลิงเซียวจริงๆ ในตอนนั้นมีแขกมากมายกำลังพูดคุยกันอยู่บริเวณหอหลิงเซียว

พระชายารัชทายาทมองทั้งสามที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า “พวกเจ้ามีอันใดจะพูดอีก”

จูชูอวี้เอ่ย “พระชายารัชทายาท ถึงซิงเฉิงจวิ้นจู่จะอยู่กับเว่ยซื่อจื่อก็มิได้หมายความว่าจะมิได้เป็นผู้ให้ร้ายคุณชายเว่ยสามและสาวใช้ของหม่อมฉันนะเพคะ”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “ให้ร้ายหรือ ไม่รู้ว่า…คุณหนูจูกำลังพูดถึงอันใดอยู่หรือ เจ้ากับข้าไม่มีความขัดแย้ง ไยข้าต้องใส่ร้ายสาวใช้ของเจ้าด้วย” จูชูอวี้เอ่ยเสียงเรียบ “ไยซิงเฉิงจวิ้นจู่จึงเลี่ยงงานหนักไปทำงานเบา ที่ข้าพูดถึงยังมีคุณชายเว่ยสามอีกด้วยนะเจ้าคะ” หนานกงมั่วยิ้มบางๆ “อย่าพึ่งเอ่ยเช่นนั้นเลย จวิ้นจู่ ข้าขอเอ่ยถามสักเรื่อง…ได้โปรดตอบด้วย ไยสาวใช้ของคุณหนูจูจึงมาอยู่ที่ลี่สุ่ยเซวียนได้เล่า”

สายตาของทุกคนหันมองไปที่จูชูอวี้โดยพร้อมเพรียง หากบอกว่าหนานกงมั่วมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ยังพอมีเหตุผล แต่สาวใช้เคียงกายหลานเอ๋อร์ผู้นี้ปลีกตัวออกจากเจ้านายตนเองมาสมสู่กับชายอื่นอยู่ที่นี่ เรื่องนี้คงยากจะเข้าใจได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงก่อนหน้านี้เรื่องที่จูชูอวี้พยายามปกปิดชื่อของสาวใช้ผู้นี้ เพียงชั่วครู่เดียวสายตาที่ทุกคนมองไปยังจูชูอวี้เริ่มแปลกออกไป ยังนึกย้อนไปถึงชื่ออวี้เอ๋อร์ที่ออกมาจากปากเว่ยจวินเจ๋อร์นั่นด้วย…

——————————–

[1] อวี้เอ๋อร์…อวี้เอ๋อร์… (玉儿… 喻儿…) ในต้นฉบับตัวจีนสองตัวนี้เป็นคนละคำกันแต่ออกเสียงเหมือนกัน

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท