Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1840 สามหมัดของชาวนา

ตอนที่ 1840 สามหมัดของชาวนา

อยากตายอย่างไร

ประโยคเดียวสี่คำสั้นๆ

ในเวลานี้กลับเหมือนฟ้าคำรามสายหนึ่ง ก้องสะท้อนในหัวของทุกคน ทำให้พวกเขาอึ้งตาค้าง แทบจะไม่กล้าเชื่อ

นี่คือประโยคแรกที่ชายวัยกลางคนผิวคล้ำแดดดูคล้ายชาวนาคนนั้นพูดหลังจากมาถึง เสียงต่ำลึกราบเรียบ ไร้ซึ่งอำนาจบารมีให้เอ่ยถึง

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกเหลวไหลและปุบปับเกินไปอยู่ดี

ชายชราในชุดคลุม มหาจักรพรรดิที่ชื่อเสียงโจษจันฟ้าดารา ฉายาจักรพรรดิกระบี่วายุ กิตติศัพท์เลื่องลือทั่วหล้าสามหมื่นปี ฝีมือเทียมฟ้า ปราณกระบี่ชั่วนิรันดร์

ภิกษุเฒ่าตู้คง จอมมุนีระดับจักรพรรดิแห่งแดนกษิติครรภ์ ฝึกฝนสองร่างฌานสว่างมืดมิด หนึ่งร่างแยกเป็นสอง เทียบเท่ากับระดับจักรพรรดิสองคน!

หากเป็นปกติทั่วไปใครจะกล้าไม่ยำเกรงพวกเขา

ทว่ายามนี้ชายวัยกลางคนผิวคล้ำแดดที่หน้าตาธรรมดา แต่กลับพูดจาไม่ธรรมดา!

ถามระดับจักรพรรดิสองคนว่าอยากตายอย่างไร

บ้าระห่ำเกินไปแล้วชัดๆ!

ขนาดเด็กหนุ่มชุดป่านยังสูดหายใจเฮือก ในใจลอบร้องอุทานว่าสุดยอดไม่หยุด ต่อให้บิดาตนอยู่ที่นี่ ก็ยังพูดประโยคที่เผด็จการเต็มเปี่ยมเช่นนี้ออกมาไม่ได้กระมัง

แววตาหญิงชรามีประกายแสงว่ายเวียน และตกตะลึงด้วยเช่นกัน

 ฮ่าๆๆ 

ชายชราในชุดคลุมแหงนหน้าขึ้นฟ้าระเบิดหัวเราะ อาภรณ์โบกสะบัด ผมเคราปลิวไสว กลิ่นอายทั่วร่างพุ่งทะยานเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน มาดแห่งจักรพรรดิกระบี่วายุยามนี้สำแดงออกมาหมดจรด

 กี่ปีมาแล้ว เป็นข้าเก็บตัวนานเกินไปไม่เคยปรากฏสู่โลก ถึงได้ทำให้ผู้คนดูเบาเพียงนี้เชียวหรือ 

แววตาชายชราในชุดคลุมลุ่มลึก เงาร่างดั่งเทพ เจตกระบี่ไร้ทัดเทียมประหนึ่งเขาถล่มคลื่นยักษ์โหมซัด แผ่กระจายทั่วฟ้าดาราแถบนี้

 ดูเบา? 

ชายวัยกลางคนที่คล้ายชาวนาขบคิดเล็กน้อยก่อนส่ายหน้ากล่าว  เจ้าผิดแล้ว ข้าไม่เคยดูเบาผู้อื่น แต่เจ้า… ทำให้ข้าไม่สามารถประเมินค่าสูงได้จริงๆ 

รอยยิ้มของชายชราในชุดคลุมพลันหุบลงทันที  อย่างนั้นหรือ 

ชายชาวนาวัยกลางคนตอบอย่างจริงจัง  ใช่ 

เส้นเลือดตรงหน้าผากของชายชราในชุดคลุมโผล่ขึ้นมารางๆ หน้าอกอัดอั้น ท่าทางจริงจังของชาวนาวัยกลางคนนั่นดูไม่เหมือนหัวเราะเยาะ แต่กลับทำให้ผู้คนอึดอัดยิ่ง

จะบอกว่าเขาวางตัวไม่ดี แต่ก็ดันไม่ได้จองหองแต่อย่างใด คำพูดเข้มขรึมเยือกเย็น สีหน้าท่าทางก็จริงจังยิ่ง ความรู้สึกนี้ทำเอาคนโกรธจนกระอักเลือด

 ไม่ต้องพูดไร้สาระ ลงมือย่อมเห็นฝีมือแท้จริง! 

ทันใดนั้นภิกษุเฒ่าตู้คงลงมือ เงาร่างสองสาย หนึ่งอาบชโลมแสงธรรมมืดมิด อีกหนึ่งปลดปล่อยแสงสว่างแผ่กว้างไร้ขอบเขต

ตูม!

กลางฟ้าดินเสียงธรรมดุจสายฟ้า ห้วงอากาศปั่นป่วน

ระดับจักรพรรดิลงมือจะน่ากลัวปานใด

ขณะนี้อู้หมิง จินเทียนเสวียนเยวี่ยรู้สึกเพียงว่าทั่วร่างเบาหวิว ถูกเคลื่อนย้ายออกจากที่นั้น ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนสักนิด

และในที่นั้นก็เห็นร่างธรรมขาวหนึ่งดำหนึ่งสูงใหญ่หาใดเปรียบสองร่าง คับแน่นจักรวาล ปากประกาศเสียงธรรม ราวกับหมายจะทับถล่มเวิ้งฟ้า

 โอม! 

เสียงสวดท่องธรรมดังขึ้น ยานลมกรดที่กว้างใหญ่ราวกับผืนแผ่นดินลอยได้ เวลานี้จู่ๆ ก็จอดเงียบๆ อยู่กลางฟ้าดารา อีกทั้งดวงดาวที่กระจายตัวอยู่ในความว่างเปล่าโดยรอบล้วนสั่นโคลงขึ้นมาอย่างรุนแรง

 นะโม! 

เสียงธรรมก้องกระหึ่มสนั่นหวั่นไหว ก็เห็นภิกษุเฒ่าตู้คงร่างมืดมิดเงื้อหมัดโจมตีออกไป แสงมรรคไหลพุ่งดุจธารสวรรค์

ส่วนภิกษุเฒ่าตู้คงร่างสว่างฝ่ามือกำคทาขักขระ โจมตีพาดขวางออกไป

ชั่วขณะเดียวฟ้าดินพลิกผัน ห้วงอากาศพังครืน

อานุภาพแห่งระดับจักรพรรดิสำแดงสู่โลกหล้าในเวลานี้!

 ข้าเพียงแค่อยากให้พวกเจ้าเลือกวิธีตายมาหนึ่งอย่าง ไม่ได้คิดจะทำลายที่นี่ 

บุรุษผิวคล้ำแดดที่เหมือนชาวนาขมวดคิ้ว น้ำเสียงขรึมเคร่ง

ไม่เห็นเขาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ทว่าต้นไม้โบราณที่เขียวชอุ่มต้นแล้วต้นเล่าแตกหน่อหยั่งรากขึ้นมาจากความว่างเปล่า กิ่งใบอุดมสมบูรณ์ แผ่ขยายไปยังความว่างเปล่าโดยรอบทั่วสี่ทิศแปดทาง แสงมรรคนับไม่ถ้วนปลิวว่อน

ชั่วพริบตายานลมกรดก็ถูกต้นไม้โบราณต้นนั้นบดบัง ฟ้าดาราละแวกใกล้เคียงล้วนถูกกิ่งก้านเขียวชอุ่มปิดครอบด้วยเช่นกัน

มองจากไกลๆ กลางห้วงฟ้าประหนึ่งปรากฏป่าทึบโบราณแห่งหนึ่งขึ้นมากะทันหัน ใบไม้แต่ละใบล้วนใหญ่กว่าดวงดาว!

และพร้อมกันนั้นชายชาวนาวัยกลางคนจู่ๆ ก็สาวเท้าไปเบื้องหน้า ปล่อยสามหมัดออกมาในพริบตา!

ตูม!

ท่ามกลางการปะทะสะท้านฟ้าดิน ภิกษุเฒ่าตู้คงร่างมืดมิดสั่นเทิ้ม แสงธรรมมืดมิดทั่วฟ้าสลายหายไปทันควัน

ริมฝีปากของเขากระอักเลือด หัวคิ้วขมวดมุ่น ฉายแววตกใจ

หมัดแรกของชายชาวนาวัยกลางคน อานุภาพดั่งกวาดล้างศัตรูให้สิ้นซาก ซัดโจมตีเขาบาดเจ็บ

เคร้ง!

หมัดที่สอง คทาขักขระของภิกษุเฒ่าตู้คงร่างสว่างส่งเสียงครวญรุนแรง เกิดรอยปริแตก

และร่างฌานของเขาสายนี้ ถูกพลังหมัดอันน่าสะพรึงซัดถอยตรงๆ ทุกก้าวที่ถอยไป แสงธรรมสว่างไสวบนตัวก็จะสลายหายไปส่วนหนึ่ง

ยามที่ถอยก้าวที่เก้า แสงสว่างทั่วร่างเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดสลัวหาใดเปรียบ ใบหน้าผุดประกายแสงเขียวคล้ำขึ้นมาพักหนึ่ง

หมัดที่สองนี้อานุภาพดุจภูเขาถล่มคลื่นยักษ์โหมซัด เข่นฆ่าทั่วหล้า ทนทานไม่ขยับ!

ตูม!

ยามหมัดที่สามซัดออกไป

ร่างฌานสองสายของภิกษุเฒ่าตู้คงต่างหน้าเปลี่ยนสี รวมร่างกันอย่างไม่ลังเลสักนิด ลงมือด้วยกัน สำแดงอภินิหารยิ่งใหญ่

 ประทับลักษณ์มังกรจรัสแสง! 

 วิชาขุมมืดสยบนรก! 

ก็เห็นกลางห้วงอากาศราวกับมีลักษณ์ดึกดำบรรพ์เหยียบฟ้าดารามาเยือน ดวงดาวแตกกระจาย เปล่งแสงสว่างไร้ขอบเขต อึงอลวัฏจักร

พร้อมกันนั้นมีบัวสีดำดอกหนึ่งเบ่งบานอยู่เหนือนรกสีเลือด กลางเกสรกระหน่ำยิงแสงธรรมมหาศาลออกมา!

พูดอย่างไม่เกินจริง หากไม่มีพลังของชายชาวนาป้องกัน ลำพังแค่พลังระดับจักรพรรดิเช่นนี้ก็สามารถซัดระเบิดห้วงอากาศแห่งนี้ ทำให้วัฏจักรจมดิ่ง สรรพชีวิตดับสลายได้แล้ว

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นภิกษุเฒ่าตู้คงก็ไม่สามารถต้านหมัดที่สามนี้ได้

ตูม!

ลักษณ์เทพดึกดำบรรพ คลื่นควันสลายไป

บัวสีดำที่สยบนรกสีเลือดอยู่พลันเหี่ยวเฉาร่วงโรยในพริบตา

และร่างฌานทั้งสองของภิกษุเฒ่าตู้คงก็ถูกพลังหมัดกำราบอย่างหนักหน่วง กระแทกลงกับพื้น ทำเอาเขารับแขกสั่นสะเทือนรุนแรง

ฮูม…

ร่างฌานทั้งสองของเขาพลันหลอมรวมเป็นหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าฝืนประคองไม่ไหวแล้ว ใบหน้าชราขาวซีดเผือดสี ถูกกดทับลงกับพื้นแน่นหนา ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน

สามหมัด!

ตัดสินแพ้ชนะ!

ขณะที่ฝุ่นควันสลายไป ทั่วทั้งที่นั้นล้วนถูกสะเทือน

ยานลมกรดถูกต้นไม้โบราณที่ครอบฟ้าบังอาทิตย์ปิดครอบ ไม่ได้รับความเสียหาย กระทั่งแม้แต่เขารับแขกลูกนี้ก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน

แต่จอมมุนีระดับจักรพรรดิอย่างภิกษุเฒ่าตู้คงกลับถูกสามหมัดกำราบ ล้มคว่ำลุกไม่ขึ้น!

ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นจนปิดม่าน เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น

และตั้งแต่ต้นจนจบชายชาวนาวัยกลางคนก็ออกหมัดเพียงสามครั้ง!

ระดับจักรพรรดิน่าสะพรึงเพียงใด

ในสายตาผู้ฝึกปราณ นั่นก็คือผู้อยู่ในจุดสูงสุด ราวกับไม่มีสิ่งที่ทำไม่ได้ สามารถสะเทือนใต้หล้า บารมีสะท้านสิบทิศ!

และภิกษุเฒ่าตู้คงก็ไม่ใช่ระดับจักรพรรดิธรรมดาทั่วไป เขาที่ครอบครอง ‘สองร่างฌานสว่างมืดมิด’ ยามเมื่อต่อสู้อย่างแท้จริงก็เหมือนระดับจักรพรรดิสองคนลงมือพร้อมกัน

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังแพ้อยู่ดี

แพ้แบบเละไม่เป็นท่า!

ภาพเช่นนี้ทำให้หลินสวินยังต้องเบิกตากว้าง จิตใจสะท้านสะเทือน

กล่าวให้ถูกคือ การต่อสู้ครั้งนี้ ด้วยปราณระดับเขาไม่สามารถมองเงื่อนงำอะไรออกเลย และไม่สามารถรับรู้นัยเร้นลับสูงสุดที่บรรจุอยู่ในพลังระดับจักรพรรดินั่นด้วยเช่นกัน

ถึงขั้นที่หากไม่มีพลังของชายชาวนาวัยกลางคนคอยปกป้องคุ้มครอง พริบตาที่เพิ่งเริ่มเปิดศึก เขาก็คงถูกพลังระดับจักรพรรดิอันน่าสะพรึงนั่นกวาดฆ่าตายคาที่แน่

แต่หลินสวินรู้ดียิ่ง การที่สามารถกำราบภิกษุเฒ่าตู้คงได้ง่ายๆ ย่อมไม่ใช่พวกระดับจักรพรรดิธรรมดาทั่วไปจะทำได้!

พวกอู้หมิงสั่นเทิ้มไปทั้งตัว จิตใจล้วนสะท้านไหว นิ่งงันอยู่ตรงนั้นอย่างสิ้นเชิง

จอมมุนีตู้คง ในใจพวกเขาก็เสมือนบุคคลสูงสุดที่ไร้ศัตรูทัดเทียม ทว่ายามนี้กลับถูกสามหมัดกำราบแล้ว!

จินเทียนเสวียนเยวี่ยสีหน้าขาวซีด จิตใจโหวงเหวง

ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำเอานางเองก็ประสบแรงโจมตีหาใดเปรียบเช่นกัน

เด็กหนุ่มชุดป่านขยี้ตา พึมพำเลื่อนลอย  ท่านยาย ท่านพ่อของข้าร้ายกาจเหมือนเขาหรือไม่ 

หญิงชรานิ่งเงียบไปอย่างหาได้ยาก

เพราะในใจนางเองก็ไม่อาจสงบนิ่ง ระลอกคลื่นโหมกระหน่ำซัดสาด

เพราะเป็นระดับจักรพรรดิถึงยิ่งเข้าใจว่าพลังของระดับนี้น่าสะพรึงปานใด ระดับจักรพรรดิสองคนสู้กัน เว้นแต่จะห่างชั้นกันลิบลับ หาไม่ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายได้

ทว่ายามนี้ตู้คงกลับถูกสามหมัดกำราบ!

นี่หมายความว่าพลังของชาวนาคนนั้นไม่เพียงแต่สูงกว่าช่วงใหญ่ แต่ยังเหนือกว่าตู้คงอย่างสมบูรณ์ใช่หรือไม่

 ในฐานะผู้บำเพ็ญธรรม ยามลงมือกลับไม่มีความเมตตา ไม่สนความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตในที่นี้ มิน่าผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ของพวกเจ้าถึงได้แต่ติดอยู่ในโลกมืด 

เสียงของชายชาวนาขรึมเคร่ง เรียบนิ่งไม่ผิดแปลก ยังคงมีท่าทางของชาวไร่ชาวนาคนหนึ่ง ทว่ายามนี้เมื่อมองเขาอีกครั้ง ทุกสายตาล้วนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

 เจ้าเป็นใคร เหตุใดบนทางเดินโบราณฟ้าดาราถึงไม่เคยได้ยินชื่อมหาจักรพรรดิอย่างเจ้ามาก่อน 

บนพื้นเสียงของภิกษุเฒ่าตู้คงแหบพร่า

 ข้า? 

ชายชาวนาขบคิดจริงจังค่อยกล่าวว่า  คนทำนา 

พรวด!

ภิกษุเฒ่าตู้คงโกรธจนกระอักเลือดออกมาตรงๆ คนทำนา? คนทำนามีหรือจะมีพลังต่อสู้ระดับนี้ได้

คนอื่นๆ ต่างก็อึ้งค้าง

สามหมัดก็สามารถกำราบระดับจักรพรรดิคนหนึ่งได้ จะเป็นชาวนาที่ทำนาคนหนึ่งได้หรือ

แต่หลินสวินเชื่อ

เพราะเขารู้ว่าก่อนศิษย์พี่เก้าเก่ออวี้ผูจะฝึกปราณ ก็เป็นแค่คนตัดไม้ซื่อๆ บนภูเขาคนหนึ่งเท่านั้น

ทว่าหลังจากศิษย์พี่เก่ออวี้ผูฝึกปราณ กลับสามารถรังสรรค์ ‘คัมภีร์มหามรรคหวงถิง’ ออกมา สามารถกดกำราบจน ‘จักรพรรดิอสูรมารตู๋เทียน’ บรรพชนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งยังโงหัวไม่ขึ้นในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ!

‘นี่ เป็นศิษย์พี่คนไหนอีก’

ความคิดของหลินสวินโลดแล่น

 ข้าไม่เคยโกหกใคร 

ราวกับสัมผัสได้ว่าทุกคนไม่เชื่อ ชายชาวนาจึงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง  เพียงแต่สิ่งที่ข้าปลูกก่อนหน้านี้เป็นพืชผลในไร่นา สิ่งที่ปลูกตอนนี้เป็นวัตถุมหามรรคบางอย่าง 

ทุกคนต่างอึ้งงัน รู้สึกเหลวไหลและแปลกพิกลยิ่ง

ชาวไร่ชาวนาคนหนึ่งสามารถก้าวสู่ระดับจักรพรรดิเหนือสุดได้หรือ

ใครจะไปเชื่อ!

ภิกษุเฒ่าตู้คงที่ถูกกำราบอยู่บนพื้นรู้สึกเพียงแน่นหน้าอก กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง เขารู้สึกว่าชายชาวนากำลังหยามเกียรติเขาอยู่ชัดๆ!

แม้แต่ในใจหลินสวินก็ยังทอดถอนใจไปพักหนึ่ง ศิษย์พี่คนนี้… ช่างเป็นคนซื่อสัตย์ซะจริง…

เพียงแต่ตอนที่คนซื่อสัตย์พูดความจริง มักจะทำร้ายจิตใจผู้คนได้ง่ายดายเสมอ

ในที่นั้นมีเพียงชายชราในชุดคลุมที่นิ่งเงียบโดยตลอด สีหน้าวูบไหวไม่หยุด ไม่เอื้อนเอ่ยวาจา

เขาไม่ได้ขยับ การได้เห็นสภาพอนาถของภิกษุเฒ่าตู้คงทำเอาเขาไม่กล้าลงมือวู่วามอีก

ชั่วขณะหนึ่งจึงไม่รู้ว่าจะสู้หรือจะถอยดี

 เจ้าอยากตายอย่างไร 

และยามนี้ชายชาวนาก็คล้ายมองข้ามชายชราในชุดคลุม สายตามองไปทางภิกษุเฒ่าตู้คงที่ถูกกำราบอยู่บนพื้น

 หากฆ่าข้า แดนกษิติครรภ์ก็จะเคลื่อนไหวด้วยเหตุนี้ แต่หากสหายยุทธ์ไว้ชีวิตข้าสักครั้ง ต่อไปแดนกษิติครรภ์ของข้าย่อมไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับท่านทั้งสองอีก 

ภิกษุเฒ่าตู้คงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เปล่งเสียงแหบพร่าออกมา

ระดับจักรพรรดิคนหนึ่งกำลังวิงวอนร้องขอ!

ภาพเหตุการณ์เช่นนี้คนในที่นี้มีหรือจะเคยพบเจอ ชั่วขณะหนึ่งภายในใจล้วนพลิกตลบไม่หยุด ที่แท้ระดับจักรพรรดิก็กลัวตายเหมือนกันหรือ

 เป็นไปไม่ได้ 

ชายชาวนาส่ายหน้า สีหน้าราบเรียบไม่ยอมให้กังขา

ภิกษุเฒ่าตู้คงหัวใจหนักอึ้ง

คนอื่นๆ ในที่นี้ไม่มีใครไม่ตึงเครียด หัวใจล้วนแขวนลอยอยู่ที่คอหอย

 หากเป็นเช่นนี้ ภายหน้าพวกเจ้าต้องประสบเคราะห์ยากหลีกหนีเป็นแน่! 

เสียงของตู้คงแหบพร่า

ขนาดมดแมลงยังรักตัวกลัวตาย นับประสาอะไรกับคนที่ผ่านความลำบากตรากตรำมามากมายกว่าจะแจ้งมรรคเป็นจักรพรรดิ

ยังไม่ทันสิ้นเสียง ร่างของเขาก็ระเบิดกลายเป็นเงาแสงสีดำนับไม่ถ้วน กรีดทะลวงห้วงอากาศ พุ่งไปยังความว่างเปล่าโดยรอบสี่ทิศแปดทาง

 

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท