หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 223 ไต้ซือเนี่ยนหย่วนผู้โชคร้าย (2)

ตอนที่ 223 ไต้ซือเนี่ยนหย่วนผู้โชคร้าย (2)

“อย่างไรหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

เนี่ยนหย่วนเงียบไปชั่วครู่ “ก็คงจะ…น่าเบื่อกระมัง”

“…” ชีวิตของหญิงชนชั้นสูง ส่วนมากนั้นน่าเบื่อ

เนี่ยนหย่วนยิ้มมองหนานกงมั่ว เอ่ย “แต่อาตมาคิดว่าคุณหนูหนานกงคงไม่ลำบากเรื่องนี้ หากไม่ชอบก็ไม่ต้องฟังก็ได้”

“ขอบคุณไต้ซือที่ให้คำแนะนำเจ้าค่ะ” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน สามเณรท่านหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามา เอ่ยกับเนี่ยนหย่วนด้วยท่าทีนอบน้อม “ท่านอาจารย์อา องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทมาคารวะขอรับ ท่านเจ้าอาวาสให้มาตามอาจารย์อาขอรับ” เนี่ยนหย่วนขมวดคิ้ว หันกลับไปมองหนานกงมั่ว “เช่นนั้นงั้นเชิญคุณหนูหนานกงตามสบายเถิด อาตมาต้องขอตัวแล้ว”

“ไต้ซือเดินระวังด้วยเจ้าค่ะ”

มองเนี่ยนหย่วนหมุนตัวเดินออกไป หนานกงมั่วจึงยักไหล่เดินมุ่งหน้ากลับเรือนพัก เมื่อเทียบกับจินหลิงแล้วที่นี่นั้นสงบสุขกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความวุ่นวายในจวนฉู่กั๋วกงช่วงก่อนที่นางจะจากมา ยิ่งทำให้หนานกงมั่วรู้สึกสงบขึ้นมามากทีเดียว

“คุณหนู” เดินมาถึงหน้าประตู หมิงฉินกำลังยืนรออยู่ด้านหน้า เมื่อมองเห็นนางก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับ จือซูเอ่ยเรียก “คุณหนู…”

“มีอันใดหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถาม

“องค์รัชทายาท…”

หนานกงมั่วยิ้ม เอ่ย “เรื่องที่องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทมาหรอกหรือ ข้ารู้แล้วล่ะ”

หมิงฉินเอ่ย “ไม่เพียงแต่องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทมาเจ้าค่ะ เย่ว์จวิ้นอ๋อง พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องและคุณหนูรองก็มาด้วยเจ้าค่ะ”

คิ้วสวยของหนานกงมั่วขมวดมุ่น “บังเอิญถึงเพียงนี้เลยหรือ”

หมิงฉินเอ่ย “ได้ยินมาว่าพระชายารัชทายาทอยากขอพรให้เด็กในครรภ์ของพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องเจ้าค่ะ องค์รัชทายาทจึงพาเย่ว์จวิ้นอ๋องมาด้วย” หนานกงมั่วยิ้ม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไยหนานกงซูจึงมาด้วยเล่า” หากครอบครัวขององค์รัชทายาทคิดจะแสดงความรักให้ผู้คนเห็น คงต้องไม่นำเอาเชื้อสายรองมาด้วยมิใช่หรือ นี่ไม่รู้ว่ากำลังแสดงความรักหรือกำลังทำให้พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องมีโทสะกันแน่

หมิงฉินยักไหล่บ่งบอกว่าไม่รู้เช่นกัน จือซูเอ่ย “คุณหนู พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องก็ช่างเถิด พระชายารัชทายามาด้วยตนเอง คุณหนูต้องไปถวายพระพรหรือไม่เจ้าคะ”

หนานกงมั่วถอนหายใจ “ต้องไปสักหน่อย” หากไม่รู้ก็ช่างเถิด หากรู้แล้วยังไม่ไปถวายพระพร เมื่อแพร่งพรายออกไปผู้คนจะว่าเอาได้ว่าแม้แต่พระชายารัชทายาทยังไม่อยู่ในสายตา

หนานกงมั่วเดินไปถึง องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทกำลังพูดคุยอยู่กับเจ้าอาวาส ทว่าเซียวเชียนเยี่ย หยวนซื่อ และหนานกงซูยืนรออยู่ด้านนอก ห่างจากพระมหาวิหารไม่ไกลมีโต๊ะหินและเก้าอี้หินวางอยู่ หยวนซื่อลูบหน้าท้องที่เริ่มนูนออกมาให้เห็นเบาๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้านข้างมีเซียวเชียนเยี่ยนั่งอยู่ ด้านข้างของเซียวเชียนเยี่ยมีหนานกงซูที่มีรูปร่างและหน้าตางดงามยืนอยู่ เพราะการตั้งครรภ์ทำให้พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ทว่าสีหน้ากลับไม่เรียกว่าดีได้ จากนั้นหันกลับไปมองหนานกงซูที่กำลังยักคิ้วหลิ่วตาส่งให้กันกับเซียวเชียนเยี่ย หนานกงมั่วคิดอยู่ในใจ หากนางเป็นหยวนซื่อนางจะตบหน้าหนานกงซูแรงๆ สักฉาด จากนั้นหันกลับไปใช้เท้าถีบเซียวเชียนเยี่ยต่อ

รับอนุภรรยาเข้าจวนมาในตอนที่ภรรยาเอกยังท้องอยู่ก็ช่างเถิด ซ้ำยังมาพลอดรักกันต่อหน้าภรรยาเอกในสถานที่เช่นนี้ กลัวหยวนซื่อลืมเรื่องที่เกิดขึ้นบนหลังเขาเมื่อครั้งที่แล้วหรืออย่างไร

หนานกงมั่วเดินเข้ามา ดวงตาหนานกงซูวาววับ เอ่ยด้วยเสียงหวาน “บังเอิญทีเดียว พี่สาวก็อยู่ที่วัดต้ากวงหมิงหรือเจ้าคะ”

หนานกงมั่วไม่ชายตามองนางด้วยซ้ำ เดินผ่านไปอยู่อีกฝั่ง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถวายพระพรเย่ว์จวิ้นอ๋อง พระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องเพคะ”

หนานกงซูชะงัก ใบหน้าเจื่อนมองไปยังเซียวเชียนเยี่ย กัดฟันอยู่เงียบๆ

เซียวเชียนเยี่ยลุกขึ้น “ที่แท้ก็เป็นซิงเฉิงจวิ้นจู่นี่เอง ได้ยินว่าออกมาไหว้พระถือศีล ที่แท้ก็อยู่ที่วัดต้ากวงหมิงนี่เอง”

หนานกงมั่วกลอกตาอยู่ในใจ วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในจินหลิงก็คงมีเพียงวัดต้ากวงหมิงและวัดต้าเป้าเอิน คุณหนูสูงศักดิ์ในจินหลิงหากต้องออกเรือนก็ต้องมาถือศีลที่สองวัดนี้กันทั้งนั้น มีอะไรน่าแปลกใจกัน หยวนซื่อเงยหน้าขึ้นมามองทุกคน เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จวิ้นจู่เชิญนั่งก่อนเถิด”

“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” หนานกงมั่วกล่าวขอบคุณ นั่งลงฝั่งขวามือของหยวนซื่อ

เซียวเชียนเยี่ยมองหนานกงซูที่มีใบหน้าน่าสงสาร เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อจวิ้นจู่มาแล้ว ซูเอ๋อร์ เจ้าก็นั่งลงคุยกันเถิด”

ดวงตาของหนานกงซูสว่างวาบ ยิ้มเขินอาย “ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ” จากนั้นนั่งลงตรงข้ามกับหนานกงมั่ว หยวนซื่อก้มหน้าก้มตาดื่มชาอยู่เงียบๆ ราวกับมองไม่เห็นสถานการณ์ตรงหน้า หนานกงมั่วยื่นมือไปหยุดมือของหยวนซื่อที่กำลังยกกาน้ำชาขึ้น เอ่ยเสียงเบา “พระชายากำลังมีครรภ์ ลดการดื่มชาสักนิดเถิดเพคะ”

หยวนซื่อชะงัก ไม่นานจึงเผยรอยยิ้มออกมมา เอ่ยตอบ “ขอบคุณจวิ้นจู่ที่เอ่ยเตือน” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “จวิ้นจู่หมายความว่า พระชายากำลังมีครรภ์ ดื่มชาให้น้อยลงบ้าง งั้นเดี๋ยวข้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดให้เจ้าดีหรือไม่ หรือให้สาวใช้ไปตุ๋นน้ำแกงให้หรือไม่”

หยวนซื่อเอ่ยเสียงเรียบ “ลำบากท่านอ๋องแล้ว น้ำสะอาดก็เพียงพอแล้วเพคะ”

หนานกงมั่วมองคู่สามีภรรยาที่ใบหน้าและหัวใจไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็ถูก ใบหน้าอบอุ่นอ่อนโยนหันมาหาตนเอง ทว่าอีกด้านกลับมีสตรีอีกคน ความอ่อนโยนเช่นนี้เกรงว่าคงไม่มีสตรีคนใดรับได้หรอก

หนานกงซูนั่งอยู่อีกฝั่ง มองใบหน้าเรียบนิ่งของหยวนซื่อ มุมปากยกยิ้มขึ้นมา ไม่นานจึงดึงความสนใจมาหยุดที่หนานกงมั่ว เอ่ยถาม “อีกสองวันพี่ใหญ่จะเข้าพิธีแต่งงานแล้ว ซูเอ๋อร์ยังไม่ทันยินดีกับพี่สาวเลย”

หนานกงมั่วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ยามนี้ก็ยังไม่สาย”

หนานกงซูเอ่ยอย่างเสียดาย “พิธีแต่งงานของพี่สาว ฐานะของซูเอ๋อร์…คงไปร่วมด้วยไม่ได้ ขอพี่สาวโปรดให้อภัยด้วยเจ้าค่ะ” เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว ตบหลังมือหนานกงซูเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ได้อย่างไรกัน ในเมื่อเป็นพิธีแต่งงานของพี่สาวเจ้า พระชายาจะไม่มีน้ำใจถึงเพียงนั้นเลยหรือ ถึงยามนั้นเจ้าติดตามพระชายาไปก็พอแล้ว”

มุมปากของหนานกงมั่วกระตุกขึ้นอย่างอดไม่ได้ เจ้านี่เข้าวังไปเข้าเฝ้าแล้วมิใช่หรือ ฮ่องเต้สั่งสอนเขาจัดการเรื่องการเมืองการปกครองทว่าไม่สั่งสอนเขาจัดการความสัมพันธ์ของชายาหรอกหรือ เพียงแต่ ในเรื่องชายาเอกชายารองนี้ฝ่าบาทกับเซียวเชียนเยี่ยนั้นราวกับทางสองเส้น ฮ่องเต้นั้นเคารพและให้เกียรติฮองเฮาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วังหลังต่อให้มีหญิงงามเพียงใดก็อย่าได้มาเทียบเท่ากับฮองเฮา แม้ฮองเฮาที่จากไปแล้วจะมิได้สวยสดงดงามก็ตาม ทว่าเซียวเชียนเยี่ยกลับใส่ใจชายาเอกแย่เสียกว่าอนุภรรยาด้วยซ้ำ ปฏิบัติต่อชายาเอกราวกับเป็นแม่บ้านและผู้สืบทอดตระกูลเท่านั้น มีเพียงอนุภรรยาที่เป็นความรักที่แท้จริง

ในขณะที่กำลังรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่รู้จะพูดคุยสิ่งใด องค์รัชทายาทและพระชายารัชทายาทก็เดินออกมาจากพระมหาวิหาร เมื่อมองเห็นหนานกงมั่วพระชายารัชทายาทจึงชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นจึงยิ้มออกมา “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ก็อยู่ที่นี่หรือ”

“ถวายพระพรองค์รัชทายาท ถวายพระพรพระชายารัชทายาทเพคะ” หนานกงมั่วลุกขึ้นถวายพระพร

องค์รัชทายาทกำลังเข้าสู่วัยชรา แม้จะเคยลำบากเมื่อครั้งยังหนุ่ม ทว่าหลายสิบปีมานี้ก็ดูแลปรนนิบัติร่างกายจนดูมีกลิ่นอายของเชื้อพระวงศ์บ้างแล้ว แตกต่างจากเยี่ยนอ๋องที่เกิดมาพร้อมกับความสุภาพเยือกเย็น องค์รัชทายาทกลับดูสง่างามและสงบเสงี่ยมกว่า เพียงแต่ใบหน้านั้นดูซูบผอมและซีดเซียว มีรอยคล้ำบางๆ ใต้ดวงตา คาดว่าคงเกิดจากการปล่อยตัวมากเกินไป ในสภาพนี้…เซียวเชียนเยี่ยควรจะเรียกเขาว่าท่านปู่เซียวเสียมากกว่า

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท