หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 245 ยาวกว่าสิบลี้และคืนแต่งงาน (3)

ตอนที่ 245 ยาวกว่าสิบลี้และคืนแต่งงาน (3)

จวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องได้รับการตกแต่งห้องโถงใหม่ทั้งหมด องค์หญิงฉังผิงนั่งอยู่ในห้องโถง พูดคุยกับทุกคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีเยี่ยนอ๋องเซียวโยวนั่งอยู่ด้านข้าง ที่นั่งถัดมาเป็นพระชายารัชทายาทและองค์หญิงเจ็ดองค์หญิงหลิงอี๋ เห็นได้ชัดว่าวันนี้องค์หญิงฉังผิงนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ นั่งพูดคุยกับเยี่ยนอ๋องและองค์หญิงหลิงอี๋ด้วยรอยยิ้ม ผู้คนต่างพบว่าองค์หญิงผู้ไม่ปรากฏตัวมาเนิ่นนานหลายปีซึ่งมีอายุใกล้สี่สิบแล้วยังคงดูสง่างามและอ่อนเยาว์

“ได้ยินมาว่าเมื่อครู่ซิงเฉิงจวิ้นจู่และเว่ยซื่อจื่อมีการต่อสู้ที่หน้าจวนฉู่กั๋วกง ไม่คิดว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่จะเก่งทั้งบุ๋นและบู๊” สตรีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น เรื่องราวที่จวนฉู่กั๋วกงแน่นอนว่าไม่นานก็ถูกส่งมาถึงยังจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง หากไม่ใช่เพราะมีข่าวตามมาว่าไม่เป็นไรแล้ว องค์หญิงฉังผิงคงรอไม่ไหวส่งคนไปช่วยเป็นแน่

องค์หญิงฉังผิงหัวเราะ เอ่ย “จวินเอ๋อร์ของเราเป็นคนไม่ละเอียดอ่อน อู๋สยามีวรยุทธ์นับว่าเป็นเรื่องดี ทั้งสองจะได้มีสิ่งที่เหมือนกันใช่หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น อู๋สยาเกิดมาในจวนแม่ทัพ มีวรยุทธ์ย่อมเป็นเรื่องปกติ” เช่นสตรีที่เกิดในรุ่นขององค์หญิงฉังผิงนั้นแน่นอนว่าต้องมีทักษะการต่อสู้บ้าง เพียงแต่หากต้องเทียบกับหนานกงมั่วคงสู้ไม่ได้ ทว่าหลายปีหลังจากก่อตั้งประเทศ สตรีในห้องหอทั้งหลายล้วนอ่อนหวานบอบบาง น้อยมากจะมีทักษะการต่อสู้ “พี่สาม ท่านว่าถูกต้องหรือไม่เพคะ”

เยี่ยนอ๋องเอ่ย “ไม่ผิดเลย อู๋สยานั้นเก่งกว่าเจ้ามาก”

องค์หญิงฉังผิงเองมิได้โกรธ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ อู๋สยาหลานสะใภ้ผู้นี้ต้องถูกใจพี่สามแน่”

ได้ยินเช่นนั้น ผู้คนพากันคิดอยู่ในใจว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่ผู้นี้ช่างมีชีวิตดีเหลือเกิน ไม่เพียงแม่สามีชอบ แม้แต่เยี่ยนอ๋องยังให้ความสำคัญ ฉีอ๋องนั้นเห็นดีเห็นงามกับเยี่ยนอ๋องมาแต่ไหนแต่ไร ต่อไปที่พึ่งของซิงฉิงจวิ้นจู่ยิ่งมั่นคงมากขึ้น

“ฉู่กั๋วกงดูจะรักจวิ้นจู่มากทีเดียว สินเจ้าสาวนี้…เกรงว่าทั่วทั้งจินหลิงคงไม่มีสตรีในห้องหอผู้ใดจะสู้ได้” ประโยคนี้มีความริษยาอยู่บ้าง แต่ถึงริษยาเพียงใดมันก็คือความจริง หากจวนฉู่กั๋วกง จวนเอ้อกั๋วกงจะร่ำรวยนั้นก็ยังพอเป็นไปได้ ครอบครัวธรรมดาทั่วไปหากคิดจะเตรียมสินเจ้าสาวแบบหนานกงมั่วเกรงว่าบ้านคงได้ว่างเปล่าเป็นแน่ สินเจ้าสาวของหนานกงมั่วเมื่อเทียบกับของพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องแล้วถือว่าไม่เลวเลย ความจริงคนพวกนี้ไม่รู้ ที่พวกเขามองเห็นนั้นเป็นเพียงภายนอก หากเอาที่ดินและตั๋วเงินในนั้นมานับ สินเจ้าสาวของหนานกงมั่วยังมีมากกว่าของพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องหลายเท่า

องค์หญิงหลิงอี๋ยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าฉู่กั๋วกงต้องรักบุตรีมาก เพียงแต่…ข้าจำได้ว่าก่อนเมิ่งซื่อจากไปนางได้เก็บมรดกกว่าครึ่งเอาไว้เป็นสินเจ้าสาวให้บุตรี ตอนนั้นคงมีเซี่ยฮูหยินเป็นพยานด้วยสินะ” เซี่ยฮูหยินยิ้ม พยักหน้าพลางเอ่ย “องค์หญิงกล่าวถูกต้องแล้วเพคะ เมื่อครั้งนั้นสินเจ้าสาวที่ถูกเก็บไว้มีไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อรวมกับส่วนที่ฉู่กั๋วกงมอบให้ สินเจ้าสาวของซิงเฉิงจวิ้นจู่จึงมีมากเช่นนี้” แม้จะวิจารณ์หนานกงไหวอยู่บ้าง ทว่าเซี่ยฮูหยินก็ต้องชื่นชมที่หนานกงไหวนั้นมอบสมบัติที่ภรรยาเก็บไว้ให้บุตรีไปทั้งหมดอย่างซื่อสัตย์

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ฮูหยินฉู่กั๋วกงนั้นเป็นผู้สืบทอดคนสุดท้ายของตระกูลเมิ่ง มีเหตุผลเป็นไปได้” ตระกูลเมิ่งมีชื่อเสียงเคียงคู่มากับตระกูลเซี่ย แน่นอนว่าต้องร่ำรวย หลายคนเริ่มรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้จับจองบุตรีตระกูลหนานกงให้กับลูกหลานของตนเอง มิเช่นนั้นสินเจ้าสาวมากมายนับไม่ถ้วนพวกนี้คงตกเป็นของตระกูลตนเอง ถึงแม้จะไม่เอ่ยถึงสิ่งเหล่านี้ คุณหนูหนานกงผู้นี้ก็ได้รับความโปรดปรานจากองค์หญิงฉังผิงและเยี่ยนอ๋องอยู่ดี แสดงว่าต้องมีความสามารถไม่ธรรมดา การจะเป็นนายหญิงของตระกูลใหญ่ต้องมีฝีมือและแผนการที่ดี ยามนี้ดูๆ ไปแล้วคุณหนูที่เติบโตมาจากชนบทผู้นี้มิได้ด้อยเลยแม้แต่น้อย

“ซื่อจื่อช่างโชคดี” ผู้คนต่างกล่าวชื่นชม องค์หญิงฉังผิงปลื้มปีติอย่างยิ่ง ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือเท็จ คำชมนี้มาจากความสัตย์จริง แต่เกรงว่าคงมีบ้างที่ริษยาอยู่ในใจ แม้ผู้คนจะรู้ดีว่าผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงจะมิได้เป็นที่โปรดปรานของจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องนัก แต่เขาได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ทั้งยังมีลุงทั้งสองคอยสนับสนุน ต่อให้อนาคตมิได้สืบทอดตำแหน่งต่อ มีสมบัติขององค์หญิงฉังผิงและสินเจ้าสาวของซิงเฉิงจวิ้นจู่ เว่ยซื่อจื่อก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้ว ดูเหมือนการกลับชาติมาเกิดก็เป็นวิชาความรู้อีกแบบหนึ่ง ไม่เพียงต้องเลือกบิดาที่ดี ยังต้องเลือกมารดาที่ดีอีกด้วย หากโชคดีขึ้นมาสักหน่อยก็จะได้ภรรยาที่ดีไปอีก

“ซื่อจื่อมาแล้วเจ้าค่ะ” ที่ด้านนอกมีคนเอ่ยรายงานเสียงดังด้วยความยินดี ความจริงไม่ต้องรายงาน เสียงประทัดด้านนอกก็ดังนำเข้ามาก่อนแล้ว องค์หญิงฉังผิงลุกขึ้นพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เร็ว ให้คนไปตามท่านอ๋องเข้ามา เตรียมคำนับฟ้าดิน”

“เจ้าค่ะ องค์หญิง”

ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ทุกคนลุกขึ้นเตรียมพร้อมร่วมพิธีมงคล จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเดินเข้ามาในชุดจวิ้นอ๋อง ทว่าใบหน้าแข็งกระด้างไม่เหมือนพ่อที่บุตรชายกำลังจะแต่งงาน บรรดาแขกเหรื่อแม้จะเข้าใจความคิดของเขา แต่ยังรู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างไม่รู้กาลเทศะแม้แต่น้อย หากเจ้าไม่ยอมรับเว่ยซื่อจื่อตั้งแต่แรกก็ควรปลดองค์หญิงฉังผิงเสีย ต่อให้ฮ่องเต้โกรธเพียงใดก็คงเห็นแก่บิดาของท่าน ฮ่องเต้ไม่มีทางประหารเจ็ดชั่วโคตรท่านแน่นอน แต่ในเมื่อยอมรับไปแล้ว ต่อให้รู้สึกไม่พอใจเพียงใดก็ไม่ควรแสดงออกชัดเจนถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เป็นลุง เพียงมองใบหน้าไม่พอใจของฉีอ๋องก็รู้ได้แล้ว หากนี่มิใช่พิธีมงคล ด้วยนิสัยของฉีอ๋องเกรงว่าคงได้ถีบส่งไปสักที

ใบหน้าขององค์หญิงฉังผิงเข้มขึ้น กวาดตามองจิ้งเจียงจวิ้นอ๋อง หันกลับไปเอ่ยกับเยี่ยนอ๋อง “พี่สาม ท่านขึ้นมานั่งเถิดเพคะ”

ไม่เพียงคนอื่นๆ เยี่ยนอ๋องเองก็ชะงัก “น้องห้า มันไม่เหมาะสม” การไหว้ฟ้าดินที่ใดกันให้ลุงไปนั่งด้วย องค์หญิงฉังผิงเอ่ยเสียงเรียบ “ลุงก็เป็นดั่งผู้ให้กำเนิด มีอันใดไม่เหมาะสมกัน” ฉีอ๋องที่อยู่ด้านข้างมุกปากกระตุก มองน้องสาวด้วยความน้อยใจ หรือว่าลุงนั่นไม่มีส่วนของเขาบ้างหรือ น้องห้าลืมเขาได้เยี่ยงไร

จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องสีหน้าไม่น่ามองขึ้นมา เฝิงซื่อที่อยู่ด้านข้างแอบดึงเขาไว้เบาๆ แน่นอนว่าเฝิงซื่อย่อมไม่อยากให้จิ้งเจียงจวิ้นอ๋องรับการคำนับจากคู่บ่าวสาว เมื่อถูกแพร่งพรายออกไปจะทำให้ชาติกำเนิดของเว่ยจวินมั่วถูกเอ่ยถึงมากยิ่งขึ้น หากองค์หญิงฉังผิงทำให้ท่านอ๋องโกรธเพื่อรักษาหน้าตาของตนเอง นางเองก็ยินดีให้มันสำเร็จ

เยี่ยนอ๋องใบหน้าเรียบนิ่ง กวาดตามองทุกคน ในที่สุดจึงพยักหน้า “ช่างเถิด น้องหก เชิญจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องนั่ง”

“พ่ะย่ะค่ะ พี่สาม” ฉีอ๋องยิ้มจนตาหยีเดินขึ้นไปด้านหน้า ผลักจวิ้นอ๋องไปอยู่ตรงหน้าเก้าอี้ด้านข้าง ยื่นมือไปกดไหล่ให้เขานั่งลง เดิมพิธีตรงหน้าจัดเก้าอี้ไว้สองตัว ยามนี้ถูกเพิ่มขึ้นเป็นสามตัวแล้ว เยี่ยนอ๋องนั่งอยู่ตรงกลาง ด้านข้างเป็นองค์หญิงฉังผิง เก้าอี้ของจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องกลับถูกวางอยู่ด้านข้างรองลงไป บรรดาแขกลอบคิดอยู่ในใจ ท่าทางของฉีอ๋องและเยี่ยนอ๋องในครั้งนี้เกรงว่าคงเป็นการแสดงออกให้เห็นว่าไม่พอใจจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องเพียงใด

เป็นเพราะองค์หญิงฉังผิง ความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนอ๋อง ฉีอ๋องและจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องนั้นจึงเย็นชามาโดยตลอด แต่ทั้งสองไม่ได้อยู่จินหลิงจึงไม่มีเรื่องอันใด ยามนี้ในพิธีมงคลของหลานชาย เว่ยหงเฟยยังแสดงสีหน้าบูดบึ้ง อ๋องทั้งสองจึงไม่คิดจะไว้หน้าเขาแล้ว

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท