หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 316 ความอบอุ่นที่อบอวล (3)

ตอนที่ 316 ความอบอุ่นที่อบอวล (3)

ตอนที่ 316 ความอบอุ่นที่อบอวล (3)
สตรีผู้นั้นสวมเสื้อถักปักลายลูกไม้สีขาว กระโปรงสีเขียวอ่อนลายดอกไม้สีเขียว คลุมผ้าสีน้ำเงินบาง ดูเหมือนฐานะจะต่ำต้อยเมื่อเทียบกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ แต่ความทรงจำของหนานกงมั่วนั้นไม่เลว เรื่องเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน เพียงเป็นคนที่ได้เจอหน้าทักทายกันนั้นย่อมไม่มีทางลืมแน่ ครุ่นคิดถึงสตรีผู้เห็นใบหน้าไม่ชัดเจนผู้นี้แล้ว… นั่นคือบุตรีเชื้อสายรองของตระกูลเหลียน เหมือนจะชื่อว่าเหลียนเล่อหรู ก่อนหน้านี้เห็นนางเดินตามหลังแม่นางตระกูลเจี่ยงและตระกูลหยางอยู่เงียบๆ แม้แต่การแสดงความสามารถยังไม่เข้าร่วม ไม่คิดว่าจะมาโผล่ที่นี่กับหร่วนอวี้จือได้

ได้ยินน้ำเสียงหงุดหงิดของหร่วนอวี้จือ เหลียนเล่อหรูจึงไม่พอใจขึ้นมาบ้าง เอ่ยเสียงเบา “ทำไมหรือ กลัวว่าคุณชายใหญ่ตระกูลฉินจะเห็นหรือ ไต้เท้าหร่วนเมื่อครั้งมาเกี้ยวพาข้าไยจึงมิได้หงุดหงิดเยี่ยงนี้เล่า” ใบหน้าของหร่วนอวี้จือทะมึนขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเผยความร้ายกาจ เอ่ยอย่างมีโทสะ “พวกเราจบกันแล้ว เจ้ามาวุ่นวายเช่นนี้หมายความเช่นไร”

“หร่วนอวี้จือ ท่านช่างจิตใจโหดร้าย” เหลียนเล่อหรูดวงตาแดงก่ำเพราะวาจาไม่ไว้หน้าของเขา กัดฟันเอ่ย “ข้ารอมาสองปีแล้ว ท่านปีนป่ายไปถึงคุณหนูฉินสี่แล้วคิดอยากทิ้งขว้างข้า ไม่มีทางเสียหรอก”

“เสียงเบาสักหน่อยเถิด” หร่วนอวี้จือมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง เอ่ยเสียงเบา เหลียนเล่อหรูเองรู้ดีว่าหากมีคนพบเข้า ชื่อเสียงของตนเองก็จะป่นปี้เช่นกัน เพียงแต่นางถูกหร่วนอวี้จือทำให้โมโหจนขาดสติไป เมื่อได้สติกลับมาก็ตกใจขึ้นมาไม่น้อย ใบหน้าเจื่อนลงพยักหน้าเบาๆ

หร่วนอวี้จือมองสตรีตรงหน้าพร้อมถอนหายใจ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวหรู ไม่ใช่ว่าข้าอยากรังแกเจ้า เจ้ามีบุญคุณต่อข้าใหญ่หลวง ไยข้าจะจำไม่ได้…เพียงแต่ เจ้าก็รู้ว่าซีเอ๋อร์สุขภาพไม่แข็งแรง ถ้าหากเป็นเพราะ…ระหว่างเจ้ากับข้ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้น ตระกูลฉินไม่มีทางปล่อยพวกเราไปแน่”

เหลียนเล่อหรูนิ่งเงียบ แน่นอนนางรู้ดีถึงความแตกต่างของตระกูลฉินและตระกูลเหลียน อย่างอื่นไม่ต้องเอ่ยถึง ฉินซีเป็นบุตรีที่รักยิ่งของตระกูลฉิน ส่วนตัวนางนั้นเป็นเพียงเชื้อสายรองที่ไม่ได้รับความโปรดปรานเท่านั้น และตระกูลเหลียนไม่มีทางทำให้ตระกูลฉินต้องขุ่นเคืองเพราะนางเป็นแน่ รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันใด “เช่นนั้น…เช่นนั้นต้องทำเยี่ยงไรเล่า อวี้จือ…อย่าทิ้งข้านะ ข้า…หากเจ้าไม่ต้องการข้าแล้วข้าจะไปตายเสีย”

หร่วนอวี้จือดึงนางเข้าสู่อ้อมแขน เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หญิงโง่ ข้าจะทิ้งเจ้าได้เยี่ยงไร อย่ากังวลไปเลย…”

“แต่ว่า หลายวันมานี้ท่านไม่มาพบข้า” เหลียนเล่อหรูเอ่ย นางกังวลจริงๆ ที่หลายวันมานี้หร่วนอวี้จือไม่ยอมมาพบนาง มักบ่ายเบี่ยงอยู่เสมอ เห็นว่าพิธีแต่งงานของหร่วนอวี้จือและฉินซีใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหลียนเล่อหรูคิดว่าตนเองต้องทำอะไรสักอย่าง มิเช่นนั้นนางคงไม่กล้ามาหาหร่วนอวี้จือที่จวนเกาอี้ปั๋วเป็นแน่

หร่วนอวี้จือถอนหายใจ “ข้ายุ่งมากจริงๆ เจ้าก็รู้ว่าปีหน้าข้าก็จะได้ย้ายไปยังกรมขุนนาง นอกจากนี้…พิธีแต่งงานถูกกำหนดไว้ปลายปี มีเวลาไม่ถึงสองเดือน ข้าเองต้องเตรียมตัว…”

“เช่นนั้นข้าควรทำเยี่ยงไร” เหลียนเล่อหรูเอ่ยขึ้นมาอย่างร้อนใจ

หร่วนอวี้จือยกมือขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากแดงระเรื่อ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวหรู เจ้ารอข้าอีกสักพักได้หรือไม่ รอข้าเข้ากรมขุนนางแล้ว ข้าจะขอซีเอ๋อร์รับเจ้าเข้าจวน ข้าหร่วนอวี้จือไม่มีทางเอาเปรียบเจ้า” ไม่พูดไม่ได้เลยว่ารูปลักษณ์หน้าตาของหร่วนอวี้จือนั้นไม่เลวเลย ดูอ่อนโยนและงามสง่า มิได้งดงามหล่อเหลาไร้ที่ติเหมือนเว่ยจวินมั่ว แต่เพราะแบบนี้จึงมิได้ร้อนแรงเกินไปและเข้าถึงง่าย รูปลักษณ์ของเว่ยจวินมั่วนั้นงดงาม สมบูรณ์แบบ บวกกับดวงตาที่แตกต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นจึงมักให้ความรู้สึกห่างเหินและชวนให้หลงใหลในขณะเดียวกัน เพราะเหตุนี้ ต่อให้รูปลักษณ์ของหร่วนอวี้จือจะสู้เว่ยจวินมั่วไม่ได้ แต่ธารดอกท้อ[1]ของเขากลับดีกว่าเว่ยจวินมั่วมาก

บวกกับการเป็นบัณฑิตจึงให้ความรู้สึกสุภาพและเข้มงวด ยามที่เขาเอ่ยกับสตรีด้วยท่าทางอ่อนโยน มักให้ความรู้สึกว่าสิ่งที่เขาเอ่ยนั้นย่อมต้องเป็นความจริง

น้ำเสียงของเหลียนเล่อหรูอ่อนลงทันใด เอ่ยเสียงเบา “อวี้จือ ท่านอย่ารังแกข้านะ ข้ามีเพียงท่าน…”

“ไม่มีทางหรอก เชื่อข้า…”

หนานกงมั่วปิดหน้าต่าง ปิดกั้นฉากรักของชายหญิงคู่นั้นไว้ด้านนอก ใบหน้างดงามบูดบึ้งและโกรธเกรี้ยว เว่ยจวินมั่วมองนางนิ่งๆ เอ่ย “อู๋สยาเกลียดหร่วนอวี้จือเพราะเรื่องนี้หรือ คนเช่นนี้…มีไม่น้อยเลย” แม้ผู้ที่เล่าเรียนศึกษาภายนอกจะดูภูมิฐาน แต่น่าเสียดายที่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่เห็น เลวร้ายกว่าหร่วนอวี้จือใช่ว่าจะไม่มี คนเจ้าชู้แบบหร่วนอวี้จือ คิดจะเหยียบเรือหลายแคม พบเจอได้ไม่น้อยในเมืองจินหลิง

หนานกงมั่วแค่นเสียงหยัน “คนอื่นเป็นเยี่ยงไรไม่เกี่ยวอันใดกับข้า เพียงแต่ข้ารับปากกับใครคนหนึ่ง…ต้องสังหารเขา แต่ตอนนี้…ข้านึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้แล้ว ช่วยส่งคนไปตานหยางรับใครบางคนให้ข้าที”

“รับคนหรือ” เว่ยจวินมั่วเข้าใจในทันใด “หร่วนอวี้จือเองก็เป็นคนตานหยาง เขายังมีภรรยาอยู่ที่ตานหยางหรือ หรือว่าเป็นคู่หมั้น เช่นนั้นหรือ”

หนานกงมั่วยิ้มเย็น “น่ารังเกียจยิ่งกว่านี้อีก หากข้าปล่อยให้เขาตายง่ายๆ เช่นนั้นนับว่าข้าใจดีกับเขาเกินไป”

ยื่นมือไปคว้านางเข้าสู่อ้อมแขน ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังของนางเพื่อคลายความโกรธให้หญิงสาว น้อยครั้งที่เว่ยจวินมั่วจะเห็นหนานกงมั่วโกรธ แต่ครั้งนี้เขารู้ว่านางโกรธจริงๆ

“โกรธเพราะบุรุษผู้อื่น อู๋สยา ข้าไม่พอใจ”

หนานกงมั่วชะงัก เงยหน้าขึ้นมองบุรุษที่ยังคงมีใบหน้าเรียบนิ่ง รู้สึกจนปัญญาขึ้นมา ยกมือขึ้นไปบีบใบหน้าหล่อเหลา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านกำลังปลอบข้าอยู่หรือ ช่างปลอบโยนคนไม่เป็นเสียจริง” แต่ว่าความรู้สึกเมื่อมีคนปลอบยามโมโหนี่ไม่เลวเลยจริงๆ แม้ว่าคนผู้นั้นจะปลอบโยนใครไม่เป็นก็ตาม

“ข้าพูดความจริง” เว่ยจวินมั่วยกมือมาจับมือนางเอาไว้ เอ่ยจริงจัง

รอยยิ้มของหนานกงมั่วหายไป “เอาล่ะ เป็นความจริง แล้วอย่างไรเล่า”

“ข้ากำลังโกรธ ต้องชดเชย” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเบา ก้มลงไปจูบเบาๆ บนริมฝีปากที่เขาเฝ้าปรารถนามานาน หนานกงมั่วชะงัก ไม่ทันได้ระวังตัวจึงถูกเขาฉวยโอกาสไปไม่น้อย “อู๋สยา ข้าไม่เหมือนกับพวกเขา เชื่อข้า…”

“อืม…” หนานกงมั่วพยักหน้า เผชิญหน้ากับใครบางคนแล้วรู้สึกถึงความกดดันเบาๆ นางเริ่มจากระแวดระวังในช่วงแรก ค่อยๆ ผ่อนคลายจนกระทั่งคร้านจะต่อต้าน คาดว่า…อีกไม่นานใครบางคนก็คงจะบรรลุวัตถุประสงค์ นางกอดไหล่และขยับเข้าหาแผ่นอกกว้างของชายหนุ่ม หนานกงมั่วลอบพ่นลมหายใจอยู่เงียบๆ ความจริงนางเชื่อใจเขาตั้งนานแล้วใช่หรือไม่ แล้วยังกลัวอันใดอยู่อีก นางหนานกงมั่วกลายเป็นคนขลาดกลัวตั้งแต่เมื่อใดกัน

“ข้าเชื่อท่าน” หนานกงมั่วเอ่ยพึมพำ

“เว่ยจวินมั่ว”

“หืม” เว่ยจวินมั่วก้มหน้า มองหญิงสาวที่เปลี่ยนเป็นอ่อนหวานเพราะจูบเมื่อครู่ หนานกงมั่วกระซิบข้างใบหูของเขาเสียงเบา “เว่ยจวินมั่ว พวกเรา…เข้าหอกันเถิด”

ดวงตาสีม่วงหรี่ลง ชั่วครู่กว่าจะได้สติกลับมาและก้มลงมองสตรีในอ้อมแขนอีกครั้ง ดวงตาสีม่วงที่ลุ่มลึกอยู่แล้วเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นไปอีก ราวกับด้านในนั้นกำลังมีไฟร้อนแรงเผาไหม้อยู่ และราวกับสามารถระเบิดออกมาจากดวงตาสีม่วงคู่นั้นได้ทุกเมื่อ “อู๋สยา…เจ้าจะไม่เสียใจใช่หรือไม่”

———————-

[1] ธารดอกท้อ บทกวีของเถาหยวนหมิง กวีเอกสมัยราชวงศ์จิ้น เป็นบทกวีที่กล่าวถึงดินแดนในอุดมคติหรือยูโทเปีย ซึ่งเป็นเสมือนเมืองลับแลที่ตัดขาดจากโลกภายนอก

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท