หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 314 ความอบอุ่นที่อบอวล (1)

ตอนที่ 314 ความอบอุ่นที่อบอวล (1)

ตอนที่ 314 ความอบอุ่นที่อบอวล (1)
หนานกงมั่วใช้เวลาไม่นาน เวลาไม่ถึงจิบชาหนึ่งถ้วย[1]ก็ลากเส้นสุดท้ายเรียบร้อย วางพู่กันในมือลงบนแท่นล้างพู่กัน

“ขายหน้าแล้ว ทุกท่าน”

กลุ่มคนที่เดิมกำลังพูดคุยกันรีบมุงเข้ามาทันใด ไม่มีความคาดหวังใดๆ เพียงดูว่าซิงเฉิงจวิ้นจู่จะทำรูปภาพนั้นให้ออกมาอย่างไรก็คงพอแล้วใช่หรือไม่

สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามิใช่เพียงดอกเบญจมาศในฤดูใบไม้ร่วงเหมือนเดิมแล้ว ด้านหลังดอกเบญจมาศยังมีเมือง มีหอ มีพระราชวัง เมืองกว้างใหญ่ไพศาลยังมีดอกเบญจมาศประดับเหลืองสดใส ดอกเบญจมาศของหยางฮุ่ยถิงยังคงเหมือนเดิมไม่ถูกแตะต้อง ทว่าภูเขาที่อยู่ห่างออกไป เมือง พระราชวัง อีกทั้งดอกเบญจมาศที่กระจายอยู่ทั่วเมืองทำให้บรรยากาศดูเปลี่ยนไป

เอ่ยตามตรง ทักษะฝีมือการวาดภาพของหนานกงมั่วไม่สู้หยางฮุ่ยถิง แต่การวาดฉากหลังของนางกลับสร้างความประหลาดใจได้อย่างคาดไม่ถึง

“ยังมีกลอนด้วย” มีคนเอ่ยขึ้น

ตัวอักษรสิงซู[2]เฉ่าซู[3]ถูกเขียนไว้ด้านบนซ้ายของภาพวาดไม่กี่บรรทัด ตัวอักษรของหนานกงมั่วไม่เรียกว่าสวยงามเมื่อเทียบกับสตรีอื่น ทว่าให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่และอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวอักษรที่บรรดาคุณหนูในห้องหอฝึกเขียนก็คือตัวอักษรบรรจงเล็ก น้อยนักจะเขียนสิงซูหรือเฉ่าซูได้

รอถึงใบไม้ร่วงแปดเดือนเก้า ดอกไม้บานแล้วตายจากไป

เบญจมาศงดงามไปทั่วฉังอาน ทั่วทั้งเมืองเหลืองทองอร่าม

กลุ่มคนเงียบไปชั่วครู่ ทุกคนพูดไม่ออกอยู่ชั่วขณะ

ภาพวาดของหนานกงมั่วมิได้โดดเด่นไปกว่าจูชูอวี้ บทกวีนี้ก็ไม่นับว่าดีเยี่ยม แต่เมื่ออยู่ในเมืองจินหลิงในยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกที่หาได้ยาก ยิ่งพลังที่ไม่ธรรมดานั้นไม่ใช่สตรีธรรมดาทั่วไปจะทำได้ “ดอกไม้บานแล้วตายจากไป” “ทั่วทั้งเมืองเหลืองทองอร่าม” พลังอำนาจและความงามอันลึกซึ้งทำให้คนต้องทึ่งอยู่ในใจ เดิมหยางฮุ่ยถิงและจูชูอวี้แข่งฝีมือและทักษะการวาดภาพ ซิงเฉิงจวิ้นจู่ยอมรับว่าตนเองนั้นไม่ถนัด ทว่ากลับสามารถวาดออกมาได้ถึงเพียงนี้ แล้วยังสามารถเขียนกลอนเช่นนี้ออกมาได้ ความลึกซึ้งนั้นไปไกลกว่าจูชูอวี้มาก ต่อให้เป็นคนที่ชื่นชมจูชูอวี้มากเพียงใดก็ไม่อาจออกมาเย้ยหยันหรือดูหมิ่นได้

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนที่อยู่ตรงนี้นอกจากคนที่ปะปนเข้ามาแล้ว นอกนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มสาวที่มีฝีมือยอดเยี่ยมในจินหลิง พวกเขาไม่ใช่คนไร้เหตุผล ชื่นชมความสามารถของจูชูอวี้ก็ไม่อาจปฏิเสธความสามารถของหนานกงมั่วด้วยเช่นกัน ซิงเฉิงจวิ้นจู่ไม่ถนัดวาดภาพ ให้นางมาแข่งกับจูชูอวี้นับว่าบังคับนางแล้ว หลายคนรู้สึกละอายอยู่ในใจ

สำหรับสิ่งนี้ หนานกงมั่วกลับไม่สนใจเท่าใดนัก เดิมตัวนางก็มิใช่คนที่มีความสามารถโดดเด่น ยืมบทกลอนคนอื่นมาใช้ต่อให้ถูกชื่นชมเพียงใดก็คงไม่อาจดีใจถึงไหนได้

จูชูอวี้มองหนานกงมั่วอย่างตกตะลึง แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งทว่าความประหลาดใจที่อยู่ในใจนั้นยากจะปกปิดได้ ขณะเดียวกันก็ยิ่งรู้สึกโกรธแค้นเว่ยจวินเจ๋อที่ก่อเรื่องมากยิ่งขึ้นไปอีก เจ้ามีความแค้นต่อซิงเฉิงจวิ้นจู่ก็หาที่ระบายสิ กลับมาทำลายเรื่องของข้าได้ ทางที่ดีอย่าให้ข้าได้มีโอกาส แม้ในใจจะมีร้อยความคิด ทว่าใบหน้าของจูชูอวี้ยังคงเรียบนิ่ง ก้าวเดินขึ้นไป เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้จวิ้นจู่ก็มีความสามารถยอดเยี่ยม ชูอวี้เลื่อมใสยิ่งนัก”

เห็นนางยอมรับความพ่ายแพ้อย่างใจกว้าง ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งรู้สึกดีต่อนางขึ้นมามาก แม้แต่องค์หญิงหลิงอี๋ที่มองนางไม่ถูกตายังต้องยอมรับ นี่ไม่ใช่จิตใจหรือความอดทนของสตรีวัยสิบแปดปีทั่วไปที่จะมีได้ หากไม่มีอะไรผิดเพี้ยน อนาคตของสตรีผู้นี้ก็คงไม่ธรรมดาแน่

องค์หญิงหลิงอี๋ยิ้มบางๆ “ซั่นจยาเซี่ยนจู่ฝีมือยอดเยี่ยม แต่ซิงเฉิงจวิ้นจู่เองก็มีความสามารถ ไม่รู้ว่าทุกท่านคิดเห็นเช่นไร”

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นเริ่มหารือกันขึ้นมา บรรดาคุณหนูแน่นอนว่าต้องสนับสนุนหนานกงมั่ว แม้ทั้งสองล้วนน่าริษยา แต่เมื่อเทียบกันแล้วหนานกงมั่วที่เป็นพระชายาผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียง บุตรีคนโตเชื้อสายหลักตระกูลหนานกง เห็นได้ชัดว่าความไม่พอใจที่มีต่อจูชูอวี้ย่อมต้องมีมากกว่า ตอนนี้หนานกงมั่วนับว่าเป็นผู้มีชื่อเสียงที่สุดในจินหลิงนั้นไม่ผิด แต่ชื่อเสียงของนางนั้นไม่เกี่ยวข้องกับบรรดาคุณหนูในห้องหอแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นสนามรบหรือการช่วยชีวิตองค์รัชทายาท ต่อให้สู้ไม่ได้พวกนางยังสามารถปลอบใจตัวเองได้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกนางถนัด แต่จูชูอวี้ไม่เหมือนกัน แม้ว่าเมื่อก่อนจูชูอวี้จะมีชื่อเสียงว่าเป็นสตรีผู้มีความสามารถ เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้คนรู้สึกว่ากำลังซ่อนความสามารถเอาไว้ภายใน อีกทั้งชื่อเสียงของนางยังเหยียบหยางฮุ่ยถิงขึ้นไปได้ แน่นอนว่าสามารถดึงความรู้สึกเป็นศัตรูจากหลายคนได้เป็นอย่างดี ครั้งนี้จูชูอวี้สามารถเหยียบหยางฮุ่ยถึงได้ ครั้งหน้าจะไม่อาจเหยียบตนเองได้หรือ

ทว่าฝั่งบุรุษนั้นมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนสนับสนุนจูชูอวี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือหรือความลึกซึ้งก็สมควรได้ที่หนึ่ง บางคนชื่นชอบหนานกงมั่ว แม้ว่าทักษะฝีมือจะไม่เก่งกาจ แต่เรียกได้ว่าสามารถโอ้อวดได้ อย่างไรเสียนางเองก็ไม่ถนัด หากเอ่ยถึงพลังอำนาจ จูชูอวี้นั้นด้อยกว่า ชั่วพริบตาสองฝั่งก็ถกเถียงกันอย่างหาข้อยุติไม่ได้

จูชูอวี้รู้สึกเสียดายอยู่ในใจ ทว่าทำสิ่งใดไม่ได้ เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว นางผู้เป็นแม่งานไม่ออกมาจัดการก็คงแย่ไปกันใหญ่ ดังนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จวิ้นจู่ช่างลึกซึ้ง ทรงพลังอำนาจ ชูอวี้ไม่อาจเทียบได้ ต้องคำนับแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้น แม้แต่สตรีที่ไม่พอใจที่นางเหยียบย่ำหยางฮุ่ยถิงขึ้นไปยังต้องพยักหน้าอยู่ในใจ ในใจของสตรีจะคดเช่นไรนั่นไม่สำคัญ อย่างไรย่อมต้องรู้จักล่าถอย ความอดทนของจูชูอวี้ทุกคนมองออกอย่างชัดเจน ยอมถอยสักก้าวชื่อเสียงของนางก็ไม่ได้ด้อยลงมากเท่าใดนัก หากยืนหยัดจะชิงตำแหน่งที่หนึ่งให้ได้ เช่นนั้นจะทำให้มองว่าเป็นผู้น้อยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

หนานกงมั่วยิ้มบาง “ซั่นจยาเซี่ยนจู่กล่าวหนักไปแล้ว หากเอ่ยถึงทักษะหนานกงมั่วยังห่างไกลอยู่มาก เพียงยืมภาพวาดของคุณหนูหยางและบทกลอนมาเท่านั้น หยิบยืมของคนอื่นมาไม่อาจน้อมรับได้จริงๆ”

ดวงตาขององค์หญิงหลิงอี๋ขยายขึ้นเล็กน้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าช่างถ่อมตนยิ่งนัก เอ่ยเช่นนี้แล้วของรางวัลจากข้าก็ไม่อาจมอบให้ใครได้อย่างนั้นหรือ”

หนานกงมั่วยิ้ม ตอบ “ได้เยี่ยงไรเพคะ เดิมทีมั่วเอ๋อร์ก็ไม่มีความสามารถด้านนี้ หากจะบอกว่าหม่อมฉันวาดได้ดี ต่อไปหม่อมฉันคงไม่กล้าออกจากบ้านแล้วหรือเพคะ ยิ่งไปกว่านั้น มีสตรีและบุรุษอีกมากมายนั่งอยู่ที่นี่ เสด็จน้าจะไม่รู้ได้เยี่ยงไรว่าอันไหนดีกว่าเพคะ” องค์หญิงหลิงอี๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เอ่ย “จะว่าไปก็มีเหตุผล ช่างเถิด เจ้าไม่ต้องมาแย่งรางวัลกับคุณหนูคุณชายทั้งหลายเลย เดี๋ยวกลับไปจวินมั่วเจ้าเด็กคนนั้นจะไม่พอใจเอาได้”

หนานกงมั่วเองก็ไม่อาย ยิ้มร่า “เสด็จน้าสั่งสอนได้ถูกแล้วเพคะ”

ทุกคนกลับมาถึงศาลาริมน้ำ บรรยากาศราวกับสงบลง ทว่าความจริงแล้วบรรยากาศนั้นเปลี่ยนไป หยางฮุ่ยถิงถูกตระกูลหยางพาตัวกลับไปแล้ว คุณหนูคนอื่นๆ นั้นจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หนานกงมั่วมองจูชูอวี้ที่ยืนยิ้มบางอยู่กับฮูหยินท่านหนึ่งอยู่ไกลๆ นับตั้งแต่นี้ต่อไป ชื่อเสียงของสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของจินหลิงย่อมที่จะแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น เพียงแต่จูชูอวี้ที่เหยียบบรรดาคุณหนูเหล่านี้ขึ้นไปไม่เคยคิดเลยหรือว่าต่อไปนางจะอยู่ร่วมกับคุณหนูเหล่านี้เช่นไร หรือจูชูอวี้นั้นไม่เห็นบรรดาคุณหนูสูงศักดิ์เหล่านี้อยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว

————————

[1] จิบชาหนึ่งถ้วย ช่วงเวลาตั้งแต่น้ำชาถูกยกเข้ามาจากนั้นค่อยๆ จิบจนหมด หมายถึงเวลาราว 10-15 นาที

[2] สิงซู หรืออักษรสิงซู เป็นอักษรรูปแบบหนึ่งของอักษรจีน พัฒนามาจากอักษรลี่ซู เป็นรูปแบบที่อยู่ระหว่างอักษรข่ายซูและอักษรเฉ่าซู โดยจะอ่านได้ง่ายกว่าอักษรเฉ่าซู และเขียนออกมาได้รวดเร็วกว่าอักษรข่ายซู

[3] เฉ่าซู หรืออักษรเฉ่าซู หรืออักษรหวัด คืออักษรที่เขียนด้วยความรวดเร็วและหวัด โดยพัฒนามาจากอักษรลี่ซูแบบหวัด

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท