ตอนที่ 306 ความจริงของการบาดเจ็บ (3)
“…” คุยกับคนบ้านี่ช่างทำให้รู้สึกคันฟันเหลือเกิน
เมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้านั้นใกล้จะโกรธจริงๆ แล้ว เว่ยจวินมั่วจึงเอ่ยเปลี่ยนหัวข้อขึ้นมาทันใด “อู๋สยาอยากได้ผลหลิงหลงมิใช่หรือ ข้านำกลับมาแล้ว” เป็นเช่นนั้น ความสนใจของหนานกงมั่วจึงถูกเบี่ยงเบนทันที เว่ยจวินมั่วหยิบกล่องที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา ด้านในมีเนื้อผลไม้แวววาวสองชิ้นวางอยู่ ดูเหมือน…ราวกับผลไม้แช่แข็งที่โปร่งใส เพียงแต่ สวยและน่าหลงใหลยิ่งกว่าผลไม้แช่แข็ง ยังมีกลิ่นหอมชวนน้ำลายสออีกด้วย
อารมณ์ขุ่นมัวมาตลอดทั้งคืนของหนานกงมั่วพลันร่าเริงขึ้นมา ไม่เสียแรงที่นางตั้งใจเล่นละครซ้ำยังกระอักเลือดออกมาถึงสองครั้ง แม้จะเป็นสองชิ้นเล็กๆ แต่การช่วงชิงสองชิ้นออกมาจากมือฝ่าบาทนั้นมิใช่เรื่องง่าย นางกล้าพนันเลยว่าตอนที่ฮ่องเต้แบ่งสองชิ้นนี้ให้ในใจคงกำลังหลั่งเลือดอยู่เป็นแน่ น่าเสียดายของเล่นชิ้นนี้ไม่อาจเก็บไว้ได้ มิเช่นนั้นเก็บไว้ขูดรีดศิษย์พี่และอาจารย์อา ไม่รู้จะแลกของล้ำค่ามาได้กี่ชิ้น
หยินช้อนเงินออกมา หนานกงมั่วตักชิ้นเนื้อผลไม้ขึ้นมาหนึ่งชิ้นส่งไปชิดริมฝีปากของเว่ยจวินมั่ว “กิน”
เว่ยจวินมั่วยกคิ้ว หนานกงมั่วเอ่ยอย่างทะนงตัว “มองอะไร ข้าดูเหมือนคนต้องบำรุงหรือ” ผลหลิงหลงมีไว้ทำอะไร เอามาใช้เป็นยาบำรุงชั้นดี นางมีหมอเทวดาคอยช่วยดูแลร่างกาย อีกทั้งยาหายากทุกชนิดที่บรรดาคุณหนูคุณชายยากที่จะหามาได้คุณหนูใหญ่หนานกงมีไม่เคยขาด ยังต้องบำรุงอะไรอีกหรือ ดังนั้นสำหรับนางแล้วผลหลิงหลงนอกจากเป็นผลไม้หายากแล้วก็ไม่มีประโยชน์อันใดมากนัก
“เจ้าทำเพื่อข้าหรือ” เว่ยจวินมั่วชะงัก เอ่ยถามเสียงเบา
หนานกงมั่วเสียงเสียงหึเบาๆ เอ่ย “อย่าลืมสำนึกในบุญคุณด้วย ถ้าใช้วรยุทธมารังแกข้าอีก ระวังข้าจะวางยาท่านให้ตาย”
เว่ยจวินมั่วก้มลงอ้าปากรับช้อนเงินนั้น กินผลหลิงหลงเข้าไป สมแล้วที่ผลหลิงหลงเป็นของล้ำค่า เพียงเข้าปากก็ละลาย ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปตามกระแสเลือดในร่างกาย เดิมทียาที่คุณชายเสียนเกอจัดให้ก็ทำให้ร่างกายเขาดีขึ้นมากกว่าห้าหกส่วนแล้ว แม้ผลหลิงหลงจะไม่ส่งผลทางการรักษามากนัก ทว่ามันมีผลต่อเส้นลมปราณที่ได้รับบาดเจ็บมานานอย่างน่าประหลาด รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเป็นพิเศษ
หัวใจของเว่ยจวินมั่วกระตุกวูบ ยกมือหยิบเอาช้อนเงินในมือของหนานกงมั่ว หนานกงมั่วนึกว่าเขาจะกินด้วยตนเองจึงวางช้อน ทว่าไม่คิดว่าเว่ยจวินมั่วจะตักมาป้อนเข้าปากนาง หนานกงมั่วชะงัก ผลหลิงหลงเพียงเข้าปากก็ละลาย ต่อให้นางอยากจะคายออกมาเพียงใดก็คงไม่ทันแล้ว ยังไม่ทันได้ตอบสนองพลันสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนที่หยดลงมา หนานกงมั่วยัดกล่องหยกในมือไปไว้ในมือของเว่ยจวินมั่ว ยกมืออุดจมูกและวิ่งออกไป “เว่ยจวินมั่ว ข้าต้องฆ่าท่านให้ได้ รอก่อนเถิด”
ร่างกายของแม่นางหนานกงไม่รู้ว่าดีขนาดไหน หลายวันมานี้ถูกองค์หญิงฉังผิงลากไปกินของบำรุงอยู่ตลอด ถือเสียว่าเป็นของว่าง ตอนนี้ถูกเว่ยจวินมั่วป้อนผลไม้วิเศษอย่างผลหลิงหลงต่อให้หนานกงมั่วมีวรยุทธก็มิอาจรับไหว ความรู้สึกนั้นก็คงจะเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปที่จู่ๆ ก็ดื่มชาโสมป่าหลายพันปีถ้วยใหญ่ลงไป
เว่ยจวินมั่วมองภรรยาที่วิ่งหนีออกไป จากนั้นหันกลับมามองรอยเลือดที่หยดลงบนแขนเสื้อของตนเอง ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมาแบบที่หาได้ยากยิ่ง เขานึกว่าอู๋สยาอยากให้เขารักษาอาการบาดเจ็บนางจึงไม่กล้ากิน อย่างไรอู๋สยาก็ดูมีท่าทีอยากได้มันขนาดนั้น ใครจะรู้ว่า…อู๋สยาจะกินมันไม่ได้จริงๆ แน่นอน เว่ยซื่อจื่อไม่มีทางยอมรับแน่นอนว่าเขาไม่ชอบที่ภรรยาของเขามองว่าเขานั้นอ่อนแอ
กลืนกินผลหลิงหลงที่เหลืออยู่ลงไปจัดการกับพลังลมปราณในร่างกายเรียบร้อย เว่ยซื่อจื่อจึงพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปตามหาภรรยาของตนเอง หรือว่า…ควรไปหาอาหารหรือยาที่ช่วยลดไฟในร่างกายของอู๋สยาก่อนดีนะ
ข่าวพระชายาซื่อจื่อบาดเจ็บหนักเพราะช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไม่นานพลันกระจายไปทั่วจวนจวิ้นอ๋อง พระชายาซื่อจื่อกลับถึงจวนและกระอักเลือดอีกครั้งก็ถูกกระจายออกไปด้วยเช่นกัน จนกระทั่งมันถูกแพร่งพรายออกไปด้านนอก จวนรัชทายาทยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น ของดีๆ มากมายถูกส่งมายังเรือนซูอวิ๋นไม่หยุด อาการป่วยขององค์รัชทายาทดีขึ้นฮ่องเต้ก็ยิ่งดีใจเป็นที่สุด ถึงขั้นพระราชทานอภัยโทษเพื่อเป็นโชคลาภแก่องค์รัชทายาท นอกจากนี้ผู้ที่ช่วยชีวิตองค์รัชทายาทเองก็ได้รับรางวัลไปด้วย รางวัลใหญ่หนึ่งในนั้นคือพระชายาผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงและจวนเกาอี้ปั๋วผู้นำโอสถทิพย์มาถวาย
หนานกงมั่วก็ช่างเถิด เดิมนางก็อยู่ในตำแหน่งจวิ้นจู่ พระชายาซื่อจื่ออยู่แล้ว ฮ่องเต้ไม่อาจเลื่อนขึ้นให้นางได้อีกแล้ว เพียงเพิ่มเมืองในการปกครองและเงินครัวเรือนให้แก่หนานกงมั่วกว่าสองร้อยเมือง เช่นนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของหนานกงมั่วก็ไม่ต่างอันใดกับองค์หญิงแล้ว แม้มีคนจำนวนไม่น้อยจ้องอิจฉาตาร้อน แต่ว่ายามนี้ในเมืองหลวงนี้มีองค์หญิงเพียงสองคน หนึ่งคือองค์หญิงฉังผิงแม่สามีของนาง อีกหนึ่งคนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนาง ยิ่งไปกว่านั้นนางช่วยชีวิตองค์รัชทายาทนั่นเป็นความสามารถของนาง แน่นอนว่าไม่มีใครพูดอะไรได้ แม้กระทั่งกลุ่มคนที่เอาแต่นินทาอยู่ที่วี่ทุกวันก็ไม่มีคำใดจะเอ่ยได้ ช่วยชีวิตองค์รัชทายาท อย่าว่าแต่เพิ่มเมืองเลย ต่อให้แต่งตั้งขึ้นเป็นองค์หญิงก็สมควรอย่างยิ่ง
ฮ่องเต้ยังประทานรางวัลแก่ตระกูลจูมากมายด้วยเช่นกัน แม้ตำแหน่งของเกาอี้ปั๋วจะไม่ได้เลื่อนขั้น แต่ลูกหลานของตระกูลจูกลับได้เข้ารับราชการ คุณหนูใหญ่ตระกูลจูผู้นำโอสถทิพย์มาถวายถูกแต่งตั้งให้เป็นเซี่ยนจู่[1]มีนามว่าซั่นจยา ผ่านไปไม่กี่วัน ก็มีข่าวการแต่งงานของหย่งชังจวิ้นจู่กับคุณชายใหญ่ตระกูลจูออกมา ทันใดนั้นคนทั่วทั้งจินหลิงก็รู้สึกได้ถึงการเติบโตของตระกูลจูขึ้นมา เพราะตระกูลจูกลายเป็นมีชื่อเสียง ส่วนหนานกงมั่วผู้ช่วยชีวิตองค์รัชทายาทนั้นกลับนิ่งเงียบ ผู้คนจึงละความสนใจจากนางไป
“นี่ ไยท่านถึงยังไม่ไปเข้าเวร” ในเรือนซูอวิ๋น หนานกงมั่วนอนอิงหมอนมองดอกเบญจมาศนอกหน้าต่างด้วยท่าทางเกียจคร้าน ยกมือขึ้นไปสะกิดชายหนุ่มด้านข้าง เว่ยจวินมั่วจับมือเล็กของนางเอาไว้ เอ่ย “ภรรยาของข้าป่วย ข้าก็ต้องอยู่บ้านดูแลภรรยา” ตั้งแต่กินผลหลิงหลงเข้าไป ใบหน้าหล่อเหลาของเว่ยจวินมั่วยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยซีดขาว ยามนี้ก็ยังซีดขาวเย็นชาอยู่ ทว่ากลับรู้สึกชุ่มชื้นราวกับหยก
หนานกงมั่วย่นจมูก หากไม่ใช่เพราะเจ้าบ้านี่มากเรื่อง ร่างกายของนางคงจะดีกว่านี้ เลือดกำเดาไหลอะไรกัน…
“ได้ยินมาว่าช่วงนี้ตระกูลจูดูมีชื่อเสียงและมีอำนาจขึ้นมาอย่างนั้นหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถาม เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว “เช่นนั้นแล้วอย่างไร” หนานกงมั่วกัดฟัน “ท่านอย่าลืมสิ ท่านยังมีศัตรูคู่อาฆาตอยู่นะ” เรื่องในจวนรัชทายาทครั้งที่แล้วมีกงอวี้เฉินยื่นเท้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ใครจะรู้ว่าเขายังใช้ประโยชน์จากตระกูลจูทำอะไรอีกหรือไม่
เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าวางใจเถิด เป้าหมายของกงอวี้เฉินไม่ใช่พวกเรา”
“…” ดูไม่ออกเลย นอกจากหาเรื่องเว่ยจวินมั่วแล้ว กงอวี้เฉินก็ไม่เคยทำอย่างอื่น บางทีนางก็อดคิดไม่ได้ว่ากงอวี้เฉินเกิดความโกรธแค้นขึ้นเพราะรักใครบางคน
ดวงตาสีม่วงเผยท่าทีจนปัญญาออกมา เว่ยจวินมั่วเอ่ย “สามปีก่อนข้าไปพังเรื่องของเขาโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นเขาจึงติดตามหาเรื่องข้ามาตลอด แต่ว่า…หากเขายังคิดจะทำอะไร คงไม่มีทางเอาแต่หาเรื่องวุ่นวาย ช่วงนี้ไม่เห็นเขาเลยมิใช่หรือ” แม้กระทั่งวันแต่งงานที่ถูกนัดแนะวันเวลาเอาไว้กงอวี้เฉินยังไม่โผล่มา
“กงอวี้เฉินคิดจะทำสิ่งใดกันแน่” หนานกงมั่วรู้สึกแปลกใจขึ้นมา เพราะรู้จักกันไม่มากนัก หนานกงมั่วจึงเดาไม่ออกจริงๆ ว่ากงอวี้เฉินคิดจะทำอันใด
————————-
[1] เซี่ยนจู่ ตำแหน่งองค์หญิงหรือท่านหญิง ขึ้นอยู่กับการสืบสายเลือดทางบิดากับจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เป็นตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิงลำดับที่ 4 ผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้ต้องเป็นพระธิดาในจวิ้นอ๋องกับพระชายาเอก หรือพระธิดาในผู้สืบทอดชินอ๋องกับพระชายาเอก