ตอนที่ 359 คำสั่งล่าวิญญาณ (2)
จูชูอวี้กล่าวว่า “เขาเป็นถึงผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียง แล้วยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังคุ้มกันเมืองหลวงอีก แต่กลับมีความเกี่ยวข้องกับสำนักมือสังหาร…”
กงอวี้เฉินเอ่ยเบาๆ “เจ้าอย่าทำเช่นนี้ดีกว่า หากเกิดสิ่งใดขึ้น…ข้าจะไม่ลืมลากเจ้าไปด้วยกันหรอก อีกอย่าง การคุ้มกันภายในตระกูลจูของเจ้า หญิงผู้นั้นเพียงลำพังก็สามารถลอบเอาชีวิตเจ้าได้อย่างสบายๆ แล้ว นางอยู่ในอันดับสิบเจ็ดของวังจื่อเซียว ซึ่งวังจื่อเซียวมีมือสังหารที่มีฝีมือเทียบเท่านางหรือแม้กระทั่งเก่งกาจกว่านางถึงยี่สิบแปดคนด้วยกัน”
จูชูอวี้เม้มปากไม่ได้เอ่ยถ้อยคำใด ยามนี้นางไม่ได้เป็นศัตรูกับเว่ยซื่อจื่อและซิงเฉิงจวิ้นจู่แล้ว นางเพียงคิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น
“ท่านเจ้าสำนัก เอาตัวมาแล้วขอรับ”
ชายชุดดำเอาตัวหร่วนอวี้จือขึ้นมาบนเขาแล้วโยนลงกับพื้น เอ่ยอย่างเคารพนอบน้อม หร่วนอวี้จือเหลือบมองคนทั้งสอง เมื่อเขาเห็นจูชูอวี้ใบหน้าก็ปรากฏความประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้เอ่ยถามออกมา เพียงแต่โค้งคำนับให้ทั้งสองคนด้วยอย่างสุภาพ “ขอบคุณท่านทั้งสองที่ช่วยชีวิตข้า”
กงอวี้เฉินพ่นลมหายใจเบาๆ เอ่ยว่า “คนที่ต้องการช่วยเจ้าคือเสี่ยวอวี้ ไม่ได้เกี่ยวกับข้า”
หร่วนอวี้จือมิได้สนใจคำเยาะเย้ยและดูถูกในน้ำเสียงของเขา มองไปยังจูชูอวี้แล้วจึงเอ่ย “ไม่รู้ว่า…เหตุใดคุณหนูจูจึงช่วยข้าไว้” จูชูอวี้ยิ้มพลางเอ่ยตอบนิ่งๆ “ข้าช่วยเจ้า…แน่นอนว่าข้าเห็นถึงความสามารถของเจ้า หวังว่าเจ้าจะรับใช้ตอบแทนข้า คุณชายหร่วน เจ้าคิดเห็นเช่นไร”
หร่วนอวี้จือหัวเราะเยาะตัวเองแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ข้าน้อยเป็นเพียงขอทาน จะเอาสิ่งใดไปตอบแทนคุณหนูจูได้เล่า”
จูชูอวี้เอ่ยว่า “ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้รับราชการแล้ว แต่เจ้าก็ยังสามารถทำอย่างอื่นได้ เจ้าอยากอยู่ในสภาพนี้ไปตลอดชีวิตหรือ”
หร่วนอวี้จือกัดฟัน แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการอยู่ในสภาพเช่นนี้อีกต่อไป ที่ผ่านมาเขาเคยชินกับชีวิตสุขสบายและอิสระไปแล้ว ตอนนี้ชีวิตตกต่ำเหมือนกับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน ตราบใดที่เขายังมีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะไม่ยอมแพ้!
“คุณหนูจูต้องการให้ข้าทำสิ่งใด”
จูชูอวี้ยิ้มน้อยๆ เอ่ยตอบ “คุณชายหร่วนสามารถสอบราชการได้ทั่นฮวา[1]ด้วยตนเอง แน่นอนว่าความรู้ความสามารถเป็นสิ่งที่ดี พอดีว่ามีคนตระกูลจูจำนวนไม่น้อยเลยที่จะเข้าสอบชุนเหวย[2]ในปีหน้า”
หร่วนอวี้จือขมวดคิ้ว เอ่ย “ท่านต้องการให้ข้าสอนคนของตระกูลจูหรือ”
จูชูอวี้ยิ้มอ่อน “แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเท่านี้ คุณชายหร่วนต้องสอนประสบการณ์ให้พวกเขาด้วย หากสามารถเก็งข้อสอบได้ด้วยจะดีมาก หากหนึ่งในพวกเขาสามารถสอบได้ คุณชายก็จะได้เป็นอาจารย์ของพวกเขา อีกอย่างเรื่องในตระกูลจูข้าก็พอออกความเห็นได้บ้าง คุณชายหร่วนยินดีจะเข้ามาเป็นองครักษ์ผู้ช่วยในตระกูลจูหรือไม่เล่า”
จูชูอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยต่อไปอีก “ยามนี้อาจต้องขอให้คุณชายหร่วนไม่เปิดเผยตัวตนสักระยะหนึ่งก่อน แต่เมื่อวันข้างหน้าเราทำงานสำเร็จแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่คุณชายหร่วนได้รับทุกอย่างคืน”
หร่วนอวี้จือตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าจูชูอวี้ต้องการทำสิ่งใด แต่เมื่อมองไปยังกงอวี้เฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองชายชุดดำที่ยืนอยู่ไม่ไกลเขาก็รู้ได้ว่าเรื่องราวนั้นไม่ง่ายดายแน่ เกรงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลจูจะไม่ใช่คุณหนูที่อ่อนโยนสง่างามมากความสามารถที่ผู้คนพบเห็นในยามปกติเสียแล้ว แต่จะสำคัญอย่างไร ยิ่งซ่อนตัวได้ลึกล้ำมากเท่าใด พลังอำนาจของตระกูลจูก็ยิ่งใหญ่มากเท่านั้น และหมายความว่าแผนการของตระกูลจูนั้นก็คงต้องยิ่งใหญ่มากเช่นกัน ยามนี้คนที่สูญเสียเกือบทุกสิ่งและถูกทุกคนทรยศเช่นเขาจะเหลือสิ่งใดให้สูญเสียได้อีก
“คุณหนูจูบอกข้าได้หรือไม่…ว่าใครกันที่ต้องการสังหารข้า”
จูชูอวี้ก็เอ่ยตอบอย่างไม่ปิดบัง “เว่ยจวินมั่ว แต่เจ้ายังแก้แค้นเขาไม่ได้ในเวลานี้”
จริงด้วยสินะ
หร่วนอวี้จือไม่แปลกใจ เมื่อเห็นชายผู้เย็นชาเมื่อยามบ่ายเขาก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและหวาดกลัวราวกับว่าจะถูกฆ่าทิ้ง เขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดของจูชูอวี้นัก เพียงกำหมัดแน่นแล้วเอ่ย “ยามนี้ข้าไร้ซึ่งปัญญาไปแก้แค้นเขาใช่หรือไม่”
จูชูอวี้พยักหน้าแล้วจึงเอ่ยตอบ “ใช่ แต่วันข้างหน้า…ใครว่าไม่มีโอกาสเล่า”
หร่วนอวี้จือพยักหน้า ยิ้มให้จูชูอวี้แล้วเอ่ย “ตกลง ข้ารับปาก! จากนี้ก็ขอฝากตัวกับคุณหนูใหญ่ด้วย”
จูชูอวี้ไม่แปลกใจ เพียงแต่ขมวดคิ้วกับรอยยิ้มหลงตัวเองของหร่วนอวี้จือ แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าต้องการผู้ช่วยที่เก่งสมคำร่ำลือมิใช่อย่างอื่น ข้าหวังว่าคุณชายหร่วนจะเข้าใจ”
นัยน์ตาหร่วนอวี้จือพยายามปกปิดความอัปยศ หุบยิ้มลงแล้วเอ่ยอย่างนอบน้อม “ขอรับ คุณหนู”
เมื่อเห็นชายชุดดำพาตัวหร่วนอวี้จือออกไป กงอวี้เฉินก็เลิกคิ้วถาม “เสี่ยวอวี้ รสนิยมของเจ้าช่างวิเศษนัก คนอย่างหร่วนอวี้จือ ในสายตาผู้หญิงอย่างพวกเจ้า น่าจะเป็นคนสารเลวที่ทุกคนพร้อมสังหารมิใช่หรือ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับข้าแล้ว เจ้าน่าจะชอบเขามากกว่า”
จูชูอวี้ยิ้มเยาะกล่าวตอบ “การถูกผู้ชายหลอกลวงนั่นเป็นเพราะพวกนางโง่เง่าเอง หากไม่เชื่อในถ้อยคำหวานซึ้ง ใครจะหลอกลวงพวกนางได้ เจ้าคิดว่า…หร่วนอวี้จือมีปัญญาหลอกข้าได้หรือ”
กงอวี้เฉินยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เอ่ยว่า “แต่การเก็บคนเช่นนั้นไว้ใกล้ตัวก็น่าอึดอัดใจมิใช่หรือ” เจ้าสำนักหอธาราคิดว่าหอธาราก็มิใช่สถานที่ที่ประเสริฐแต่อย่างใด ทว่าสำหรับคนอย่างหร่วนอวี้จือแล้ว คนส่วนใหญ่ในสำนักแห่งนี้คงรังเกียจและเหยียดหยามเช่นกัน
จูชูอวี้เอ่ยเสียงเรียบ “อย่างไรเขาก็เป็นถึงบัณฑิตทั่นฮวา ลักษณะนิสัยของหร่วนอวี้จือนั้นอาจจะไม่ดี แต่ความรู้ความสามารถของเขาก็ถือว่าไม่เลวเช่นกัน มิเช่นนั้นเขาจะหลอกลวงตระกูลฉินได้เยี่ยงไร ยามนี้เขาถูกศัตรูล้อมไว้ทุกด้าน เรายื่นมือเข้าช่วยยังคิดว่าเขาจะไม่ซื่อสัตย์กับเราอีกหรือ อีกอย่าง ต่อให้เขามีใจเป็นอื่น ตอนนี้ใครจะต้องการตัวเขาเล่า”
“ฮ่า ฮ่า…ข้าจะรอดู” กงอวี้เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในห้องหนังสือของเรือนพำนัก เว่ยจวินมั่วเงยหน้าขึ้นมองไปยังหลิ่วที่ใบหน้าซีดเซียว แล้วจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย “แสดงว่า…ล้มเหลวหรือ”
หลิ่วก้มศีรษะลงด้วยความละอาย สังหารลูกไก่ในกำมืออย่างหร่วนอวี้จือยังไม่สำเร็จ เป็นสิ่งที่นางเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
“เหตุผล” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถาม
หลิ่วเอ่ยตอบเสียงเข้ม “อยู่ดีๆ คนของหอธาราก็เข้ามายุ่ง คนจากหอธาราสามคนมาช่วยมันไป…ข้าทำให้ท่านขายหน้า ได้โปรดอภัยให้ด้วยเจ้าค่ะ”
“หอธารา?” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เว่ยจวินมั่วก็เอ่ยเสียงต่ำ “เจ้าไปเถิด”
หลิ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม “คุณชาย ข้าจะทำงานให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด”
เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบเรียบๆ “เจ้าไม่ต้องทำสิ่งใดแล้ว ในเมื่อกงอวี้เฉินเข้ามายุ่งย่าม การสังหารหร่วนอวี้จือจึงไม่ง่ายอีกต่อไป อีกอย่าง…เกรงว่าตอนนี้หร่วนอวี้จือคงจะถูกซ่อนตัวไว้แล้ว แค่หร่วนอวี้จือคนเดียวไม่คุ้มหรอก ประกาศออกไป ข้ามีคำสั่งล่าวิญญาณหร่วนอวี้จือ”
หลิ่วตกใจแล้วเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เจ้าค่ะ”
คำสั่งล่าวิญญาณเป็นคำสั่งพิเศษภายในวังจื่อเซียว ตราบใดที่มีผู้ได้รับคำสั่งล่าวิญญาณ มือสังหารทั้งหมดในสำนักจะไล่ล่าสังหารคนผู้นั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสังหารได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามคำสั่งนี้มิได้บังคับและมีผลใช้อย่างไร้กำหนดเวลา แต่หากเป็นคำสั่งสังหารนั่นหมายความว่าทุกคนในวังจื่อเซียวจะต้องสังหารคนผู้นั้นโดยไม่ต้องสนเรื่องใด เพียงแต่ตั้งแต่ก่อตั้งวังจื่อเซียวขึ้นมา คำสั่งสังหารยังไม่เคยถูกใช้มาก่อน คำสั่งล่าวิญญาณจึงเป็นคำสั่งสูงสุดที่ถูกนำมาใช้แล้ว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคำสั่งล่าวิญญาณนั้นไม่หนักแน่น ใช่ว่ามีหรือไม่มีก็ได้ มือสังหารของวังจื่อเซียวนั้นมีอยู่ทุกที่ เว้นเสียแต่จะโชคดีไม่เจอมือสังหารเหล่านั้น มิเช่นนั้นใครจะรู้ว่าเมื่อใดจะมีใครออกมามอบคมมีดคมดาบให้ นอกจากนี้แม้มือสังหารระดับพระกาฬอย่างยี่สิบแปดกลุ่มดาวจะไม่สนใจรางวัลจากคำสั่งล่าวิญญาณมากนัก แต่ยังมีมือสังหารระดับรองที่รอการเลื่อนตำแหน่งอยู่ไม่น้อย เมื่อลองคิดดูแล้ว คุณชายคงจะไม่ถูกชะตาหร่วนอวี้จืออยู่มากทีเดียว
——————
[1] ทั่นฮวา บัณฑิตจิ้นซื่อของจีนที่สอบได้อันดับที่สาม
[2] ชุนเหวย การสอบเข้ารับราชการ ซึ่งจัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ