ตอนที่ 424 ข้าหลอกเขา (3)
ฝังพยักหน้าเงียบๆ หนานกงมั่วจึงสั่งการ เอ่ยว่า “รีบส่งม้าเร็วไปยังผิงโจวทันที สืบเรื่องราวของผิงโจวจวิ้นอ๋องมาให้หมดทุกเรื่องโดยละเอียด อีกทั้ง…รายงานฝ่าบาทสักหน่อย เดี๋ยวจะโทษว่าเราจัดการอะไรตามใจชอบ”
“ขอรับ จวิ้นจู่”
ในเรือนเล็กๆ อีกมุมหนึ่งของเมือง เซียวเชียนเยี่ยสีหน้าทะมึนนั่งอยู่บนตำแหน่งเหนือสุด จ้องเขม็งไปยังเหล่าบริพารทั้งหลายของเขา เอ่ยเสียงเข้ม “กี่วันแล้ว พวกเจ้ายังบอกข้าว่าอับจนหนทางอยู่อย่างนั้นหรือ” บรรดาข้าราชบริพารที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเองก็มีสีหน้าทะมึนด้วยเช่นกัน ชายที่เป็นหัวหน้าอายุราวๆ ห้าสิบถอนหายใจออกมา “จวิ้นอ๋องขออย่าได้พิโรธ มิใช่พวกเราไม่ทำเต็มที่…แต่เพราะว่าภูเขาลั่วหยางนั้นซับซ้อนเกินไป หากทำสิ่งใดบุ่มบ่ามอาจจะตายกันหมดได้ เกรงว่าคงแย่กว่าเดิมพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยเสียงเย็น “หรือว่าจะให้รอเยี่ยงนี้หรือ รอจน…สิ่งบ้าๆ ในเขาลั่วหยางนั่นออกมาหรือ ถึงตอนนั้นเราคงจบสิ้นเป็นแน่”
“เรื่องนี้…” ชายวัยกลางคนมีใบหน้าเคร่งเครียด “หากเราส่งทหารเข้าไปล่าสังหาร ทหารเหล่านั้นกว่าแปดส่วนอาจจะติดเชื้อเอาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้ก็มีคนไม่น้อยที่รับรู้ถึงสถานการณ์บนเขาแล้ว เกรงว่าต่อให้ประทานรางวัลใหญ่ก็คงไม่มีผู้ใดยอมเข้าไป”
เซียวเชียนเยี่ยเคาะลงบนโต๊ะด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เอ่ย “กล่าวเช่นนี้ ต้องวางเพลิงเท่านั้นหรือ”
ชายวัยกลางคนเอ่ย “วางเพลิงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ต่อให้เป็นเชื้อร้ายพิษร้ายเพียงใดเมื่อถูกไฟเผาก็ต้องมอดมลาย แต่ว่า…เราไม่รู้ว่าสัตว์ป่าด้านในได้รับเชื้อไปด้วยหรือไม่ หากได้รับเชื้อจะสามารถติดต่อถึงคนได้หรือไม่ เมื่อภูเขามอดไหม้…สัตว์ป่าอาจจะพากันหนีออกมา เข้าสู่ที่พักอาศัยของชาวเมือง ถึงตอนนั้น…”
เซียวเชียนเยี่ยลุกขึ้นทันใด เอ่ย “นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าคิดว่าต้องทำเยี่ยงไรเล่า”
“เรื่องนี้…” ชายวัยกลางคนเอ่ย “วิธีที่ดีที่สุดแน่นอนว่าต้องรักษาโรคนี้ให้หาย แต่ว่า…” โรคระบาดร้ายแรงไหนเลยจะมีวิธีรักษาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะโรคระบาดที่ตอนนี้พวกเขาเองยังไม่รู้ชัดว่ามันคือโรคอันใด จะว่าไปโชคชะตาของเซียวเชียนเยี่ยนั้นไม่ดีเท่าใดนัก หลังจากภัยพิบัติผ่านไป พื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมกลับไม่มีโรคระบาด แต่กลับไปเกิดโรคประหลาดในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน ช่วงปีนี้คงมิใช่ปีที่ดีของเซียวเชียนเยี่ย เซียวเชียนเยี่ยอยากให้ปีนี้ผ่านไปโดยไวเสียจริง
“พวกไร้ประโยชน์” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยด้วยความโกรธ
“พระองค์อย่าทรงโกรธ” จูชูอวี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มบางๆ เซียวเชียนเยี่ยหันกลับมามองนาง เอ่ยถาม “ซั่นจยาเซี่ยนจู่มีวิธีอันใดอย่างนั้นหรือ” จูชูอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ความจริง ใช่ว่าจะไม่มีวิธีนะเพคะ”
“เอ๋ ขอเซี่ยนจู่ได้โปรดชี้แนะ” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย
จูชูอวี้เอ่ย “ต้องการแก้ปัญหาคนที่อยู่ด้านในนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งใช้ไฟเผาไหม้ภูเขาไม่ได้ ตามที่ชูอวี้รู้ ผู้คนบนเขาล้วนอาศัยน้ำดื่มกินจากทะเลสาบราตรีในถ้ำหินปูนแห่งหนึ่งมิใช่หรือเพคะ ไม่ว่าใครก็ต้องกินข้าวดื่มน้ำใช่หรือไม่ เรื่องอาหารคงทำอันใดไม่สะดวก แต่ว่า…น้ำล้วนแล้วแต่มาจากที่เดียวกัน เพียงส่งคนไม่กี่คนขึ้นไปก็เพียงพอแล้ว ชูอวี้มีสูตรยาชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าสามารถป้องกันโรคระบาดได้ เพียงแต่ไม่เคยใช้มาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่”
ได้ยินเช่นนั้น หมอที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นต่างก็ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา รีบเอ่ยถาม “ซั่นจยาเซี่ยนจู่เอ่ยจริงหรือ”
จูชูอวี้ยิ้ม เอ่ย “ในเวลาเช่นนี้มีหรือจะกล้าเอ่ยไปเรื่อยเปื่อยได้อย่างไรเล่า ตระกูลจูและท่านอ๋อง หากผู้ใดรุ่งเรื่องก็จะรุ่งเรืองไปด้วยกัน ผู้ใดสูญเสียก็จะสูญเสียไปด้วยกัน หม่อมฉันจะทำร้ายพระองค์ได้หรือเพคะ”
เซียวเชียนเยี่ยเองคล้อยตามไปกับคำพูดของจูชูอวี้ “ข้าเชื่อใจความซื่อสัตย์ของจวนเกาอี้ปั๋วอยู่แล้ว เซี่ยนจู่ ยานั่น…” จูชูอวี้เอ่ยเสียงเบา “สูตรยามิได้อยู่กับหม่อมฉันเพคะ แต่หม่อมฉันพอจำได้อยู่บ้าง กลับไปหม่อมฉันจะเขียนมันออกมาให้พระองค์นะเพคะ”
“เซี่ยนจู่” ชายชราคนหนึ่งลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ยถาม “สูตรยาของเซี่ยนจู่…รักษาโรคระบาดได้หรือไม่ หากรักษาได้ ไม่แน่ว่าการระบาดครั้งนี้สามารถ…” จูชูอวี้ส่ายหน้าอย่างเสียดาย เอ่ยตอบ “สูตรยานี้เพียงป้องกันไม่ให้ติดโรค แต่คนที่ติดเชื้อไปแล้วนั้นไม่อาจรักษาให้หายได้”
เซียวเชียนเยี่ยมองสบตากับจูชูอวี้ ไม่ว่าโรคประหลาดนี้จะรักษาได้หรือไม่ คนที่อยู่บนเขาพวกนั้นจำต้องตายให้สิ้นซาก
เซียวเชียนเยี่ยโบกมือ เอ่ย “ช่างเถิด พวกเจ้ารีบกลับไปคิดหาวิธี ส่วนผู้คนที่อยู่บนเขา ข้าจะส่งคนไปจัดการเอง”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง” ทุกคนกล่าวตอบรับโดยพร้อมเพรียง หมอวัยกลางคนที่เดินรั้งท้ายอดไม่ได้หันกลับไปมองจูชูอวี้ที่นั่งอยู่อีกฝั่ง รู้สึกสั่นเทาขึ้นมาในใจ ซั่นจยาเซี่ยนจู่ผู้นี้มีนิสัยอ่อนหวานจิตใจกว้างขวาง น้ำเสียงนุ่มให้ความรู้สึกราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทว่าสตรีที่ดูบริสุทธิ์งดงามผู้นี้ เพียงเอ่ยออกมาคำเดียวกลับจะเอาชีวิตผู้คนในเขาหลายพันชีวิต
ในห้องเหลือเพียงจูชูอวี้และเซียวเชียนเยี่ยสองคน จูชูอวี้จึงเอ่ย “ซิงเฉิงจวิ้นจู่และเว่ยซื่อจื่อมาถึงแล้ว ท่านอ๋องมีแผนเช่นไรเพคะ”
ใบหน้าเซียวเชียนเยี่ยตึงขึ้น กัดฟันเอ่ย “พวกเราทำสิ่งใดมากมายในตอนนี้แล้วจะมีประโยชน์อันใด ในเมื่อเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วมาถึงแล้ว จะช้าจะเร็วเสด็จปู่ก็ต้องรู้เรื่องนี้ นอกเสียจาก…”
จูชูอวี้ส่ายหน้า เอ่ย “หม่อมฉันขอเตือนพระองค์อย่าคิดทำเช่นนั้น พระองค์อย่าลืม…วังจื่อเซียว…เมื่อครู่ได้รับข่าวจากสายสืบ ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ คนที่ซุ่มอยู่โดยรอบนั้นไม่รู้มีมากเท่าใด แต่คนที่เข้าพักโรงเตี๊ยมพร้อมกับหนานกงมั่วนั้นมีมากกว่าร้อย นักฆ่าฝีมือชั้นหนึ่งมากกว่าร้อยคน ต่อให้รับมือกับทหารมากมายของเรา แต่โอกาสคุ้มกันซิงเฉิงจวิ้นจู่และเว่ยจวินมั่วหนีไปนั้นง่ายมาก ถึงยามนั้น คงจะมีการล้างแค้นขึ้นจริงๆ แล้ว”
“เช่นนั้นจะทำเช่นไรเล่า” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยถาม
จูชูอวี้ยิ้มบาง เอ่ย “พระองค์ว่าวังจื่อเซียวที่มีเว่ยจวินมั่วเป็นเจ้านาย ทว่าไยลิ่นฉังเฟิงกลับได้เป็นเจ้าสำนักเล่า”
“เว่ยจวินมั่วเป็นถึงผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงจะเป็น…” เซียวเชียนเยี่ยชะงักไปชั่วครู่ สีหน้าฉายแววเข้าใจขึ้นมาทันที “เว่ยจวินมั่วมิกล้าให้ผู้ใดรับรู้ว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังของวังจื่อเซียว เสด็จปู่เกลียดที่สุดก็คือกลุ่มมือสังหาร หากเสด็จปู่รับรู้เข้า ต่อให้เป็นเสด็จอาฉังผิงก็ปกป้องเขาไม่ได้”
จูชูอวี้ยิ้มบาง เอ่ย “เป็นเช่นนี้เพคะ แต่ครั้งนี้เว่ยจวินมั่วกลับเรียกกำลังจากวังจื่อเซียวมากว่าครึ่ง หากมีคนอยากสืบไม่มีทางที่จะสืบไม่ได้ เขาปิดบังมากว่าหลายปี ไยตอนนี้จึงเผยจุดบกพร่องใหญ่ในยามนี้ เพียงเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของหนานกงมั่วเท่านั้น เห็นชัดว่าในใจของเว่ยซื่อจื่อนั้น ความปลอดภัยของซิงเฉิงจวิ้นจู่สำคัญกว่าสิ่งใด ดังนั้น เราจะไม่แตะต้องซิงเฉิงจวิ้นจู่ ใช้วังจื่อเซียวมาเป็นข้อต่อรองกับเว่ยซื่อจื่อ บางทีเขาอาจรับปากกับเราว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไป”
“นี่…” เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว ไม่วางใจเท่าใดนัก ให้คนที่ไม่ใช่คนของตนเองรู้ถึงจุดอ่อนของตน จะให้เขาวางใจได้เยี่ยงไร แน่นอนว่าจูชูอวี้รู้ถึงความคิดของเขา เอ่ยเสียงเรียบ “สังหารคนเพื่อปิดปากแน่นอนว่าเป็นการจัดการที่สมบูรณ์ น่าเสียดาย ตอนนี้พวกเราทำเช่นนั้นไม่ได้ ท่านอ๋องลองไตร่ตรองดูเถิด”
เซียวเชียนเยี่ยเองก็รู้ว่าจูชูอวี้กล่าวไม่ผิด จำต้องพยักหน้าตอบรับความคิดเห็นของจูชูอวี้