ตอนที่ 435 องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ (2)
หนานกงมั่วโบกปัดมือบ่งบอกว่าไม่เป็นไร สองฝ่ายอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ หากพวกเขาสามารถสืบข่าวของเซียวฉุนได้ เช่นนั้นเกรงว่าเซียวฉุนเองก็คงสืบข่าวการป่วยของเว่ยจวินมั่วได้เช่นกัน อย่างไรเสียคนของหอธาราในมือของเซียวฉุนก็ไม่ได้มีไว้เป็นเครื่องประดับ
เว่ยจวินมั่ววางหนังสือในมือ ขมวดคิ้วขึ้น เขาเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ แต่กลับคิดไม่ออกว่ามีอันใดแปลกไปตรงไหน แต่ตามหลักแล้วทั้งสองคนนี้ไม่มีทางยอมแพ้ไปง่ายเพียงนี้เป็นแน่ เพราะหากยอมแพ้นั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำจะถูกเปิดเผยต่อหน้าฝ่าบาทและราชสำนัก ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นเซียวเชียนเยี่ยหรือเซียวฉุนก็ไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้แน่ นอกเสียจาก…เซียวฉุนจะมั่นใจว่าเรื่องนี้ทำอันใดพวกเขาไม่ได้ แต่ว่าเรื่องใหญ่เพียงนี้จะมั่นใจได้เยี่ยงไรว่าจะไม่เป็นไรกันเล่า
มองคิ้วคมของเว่ยซื่อจื่อที่กำลังขมวดมุ่น หนานกงมั่วจึงลุกขึ้นเดินไปนั่งลงที่ขอบเตียง “ท่านไม่ต้องคิดอันใดมาก อาการบาดเจ็บภายในยังไม่ดี ไม่ต้องคิดมาก”
เว่ยจวินมั่วจับมือของนางเอาไว้ ส่ายศีรษะ ขมวดคิ้วเบาๆ “ไม่รู้ทำไม ข้ามักมีความรู้สึกไม่ดีบางอย่าง อู๋สยา เจ้าว่า…เป็นเพราะเหตุผลใดกัน ที่ถึงแม้เรื่องราวในเขาลั่วหยางจะถูกเปิดเผยแต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา”
หนานกงมั่วส่ายศีรษะ ยิ้ม “เป็นไปได้เยี่ยงไร เรื่องใหญ่เพียงนี้…นอกเสียจากเซียวฉุนหรือเซียวเชียนเยี่ยเป็นฮ่องเต้เสียเอง”
“…” ห้องทั้งห้องเงียบลงทันใด ทั้งสองมองตากันเนิ่นนาน หนานกงมั่วสูดหายใจเข้าลึกอย่างอดไม่ได้ “คงไม่ใช่หรอกกระมัง เซียวเชียนเยี่ยคิดจะ…” ปลงพระชนม์ฮ่องเต้หรือ
เว่ยจวินมั่วส่ายหน้า “เซียวเชียนเยี่ยไม่มีความกล้าเพียงนั้น แต่ว่า…เซียวฉุนนั้นไม่แน่” เมื่อครุ่นคิด เว่ยจวินมั่วค้ำมือกับเตียงพยายามลุกขึ้น “ไม่ได้ ข้าต้องกลับเมืองหลวงสักหน่อยแล้ว”
“อะไรกัน” หนานกงมั่วกดเขาลงไป เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “ท่านกลับเมืองหลวงอะไรกัน ร่างกายของท่านในยามนี้เกรงว่าเพียงครึ่งทางก็ไปไม่ถึงด้วยซ้ำ บาดเจ็บหนักก็อยู่นิ่งๆ เสีย”
“อู๋สยา” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเข้ม “หากเป็นดั่งพวกเราคาดเดาจริง…ลิ่นฉังเฟิงไม่มีทางรับมือได้ จดหมายฉบับนั้นไม่มีทางไปถึงมือฝ่าบาทแน่ เซียวฉุนวางแผนมากว่าหลายปี เพียงเขาลงมือจริงๆ…” ผลที่ตามมาคงไม่อาจจินตนาการได้ หนานกงมั่วกลอกตา “ผลที่ตามมาแน่นอนว่าข้ารู้ หากให้เซียวเชียนเยี่ยขึ้นครองบัลลังก์จริงพวกเราก็ซวยน่ะสิ” ความสัมพันธ์ของพวกเขากับเซียวเชียนเยี่ย สิ่งแรกที่เซียวเชียนเยี่ยคิดจะทำหลังจากขึ้นครองบัลลังก์นั่นคือการกำจัดพวกนางอย่างไรเล่า แต่ตอนนี้เว่ยจวินมั่วบาดเจ็บหนักนั่นก็เป็นเรื่องจริง หากปล่อยให้เขาดึงดันกลับจินหลิง ไม่แน่อาจได้ตายตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยซ้ำ
ส่งเสียงอยู่ในลำคอ หนานกงมั่วเอ่ย “เดี๋ยวข้าจะกลับไปเอง”
“ไม่ได้” เว่ยจวินมั่วปฏิเสธโดยไม่ลังเล เอ่ย “เจ้าอยู่ที่หลิงโจวคอยจัดการเรื่องในหลิงโจว หากสถานการณ์ยากจะควบคุม ให้รีบหนีไปกับคุณชายเสียนเกอและอาจารย์ของเจ้า ไปอยู่ที่โยวโจว”
“หากท่านไม่อยู่ ข้าไปโยวโจวแล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า” หนานกงมั่วเอ่ย หากเกิดอันใดขึ้นกับเว่ยจวินมั่ว ด้วยนิสัยของเยี่ยนอ๋อง คิดว่าเขาจะช่วยเขาดูแลแม่ม่ายหรือ อย่าล้อเล่นไปหน่อยเลย หากเยี่ยนอ๋องไม่เข้าใจว่านางทอดทิ้งสามีเพื่อเอาตัวรอดแล้วมาโกรธนาง เท่านั้นก็นับว่าไม่เลวแล้ว เว่ยจวินมั่วถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา เอ่ย “ข้าจะให้คนส่งจดหมายไปให้เสด็จลุง อู๋สยา เชื่อฟัง”
“ไม่ฟัง” หนานกงมั่วเอ่ยตอบโดยไร้ความลังเล
เว่ยจวินมั่วหรี่ตาลง ยื่นมือออกไปสกัดจุดหนานกงมั่วอย่างรวดเร็ว หากเป็นยามปกติหนานกงมั่วไม่มีทางหลบหลีกได้ทัน แต่ตอนนี้ร่างกายของเว่ยจวินมั่วได้รับบาดเจ็บหนัก และตำแหน่งที่นั่งของทั่งสองคนก็ไม่เหมาะให้เขาได้ลงมือ หนานกงมั่วหมุนตัวหลบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเข็มสามเล่มที่ซ่อนอยู่ระหว่างนิ้วพลันทะยานออกไป ลอยพุ่งเข้าหาจุดลมปราณของเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วสะบัดมือปัดเข็มหล่นลงไปแล้วกำลังจะลุกขึ้น หนานกงมั่วสะบัดแขนเสื้อผงควันสีขาวลอยพุ่งออกมา เว่ยจวินมั่วตกใจ รู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้งเป็นอย่างมาก ทว่าเพียงการหยุดชะงักเล็กน้อยนั่น เข็มเล่มหนึ่งก็ทะยานออกมาจากมือของหนานกงมั่วปักเข้าที่จุดลมปราณของเว่ยจวินมั่ว เว่ยจวินมั่วหลับตา สลบไปทันใด
เก็บเข็มเงินกลับคืน หนานกงมั่วส่งเสียงหยัน เอ่ย “แม้แต่ข้ายังเอาชนะไม่ได้ ยังจะเดินทางอะไรอีก”
ฝังและหลิ่วยืนเหงื่อตกอยู่ไม่ไกล จวิ้นจู่ เห็นได้ชัดว่าท่านฉวยโอกาสอยู่นะ หากไม่ใช่เพราะคุณชายกลัวว่าจะทำให้ท่านต้องเจ็บตัว ไหนเลยจะง่ายเพียงนี้กันเล่า
หนานกงมั่วสะบัดแขนเสื้อ หันมาเอ่ยกับทั้งสองคน “รีบไปเก็บของสักหน่อย ข้าจะกลับเมืองหลวง หลังจากข้าไปได้สามวันค่อยไปเอายาถอนพิษกับศิษย์พี่”
ฝังลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ยถาม “จวิ้นจู่ นี่เป็นเพียงการคาดเดาของท่านกับคุณชาย มันจะ…”
หนานกงมั่วเอ่ย “หากข้าและจวินมั่วต่างก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน เจ้าว่าความเป็นไปได้มีมากเพียงใด”
ฝังถอนหายใจ ผู้คนในราชสำนักเหล่านี้ช่างวุ่นวายเสียจริง
“นี่ นี่มันอันใดกัน เพิ่งเดินเข้ามาก็ได้ยินว่าด้านในกำลังต่อสู้อย่างนั้นหรือ” คุณชายเสียนเกอปรากฏตัวที่หน้าประตู กวาดตามองเว่ยซื่อจื่อที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียง เลิกคิ้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่มันอันใดกันหรือ มั่วเอ๋อร์ คงไม่ใช่ว่าทนไม่ไหวจึงใช้กำลังกับเว่ยซื่อจื่อหรอกใช่หรือไม่” เขาว่าแล้ว ความอ่อนโยนอ่อนหวานของศิษย์น้องตนเองนั้นเป็นเพียงเรื่องเล่าปากต่อปากก็เท่านั้น
ฝังและหลิ่วยกยิ้มมุมปาก จากนั้นหันไปมองคุณชายของตนที่นอนสลบไสลไม่ได้สติ อย่าว่าเลย…ก็ค่อนข้างเหมือน
หนานกงมั่วมองไปยังศิษย์พี่ของตนอย่างพูดไม่ออก เอ่ย “ไยศิษย์พี่จึงยอมออกมาแล้วเล่า มีความคืบหน้าใดหรือ”
คุณชายเสียนเกอพยักหน้าเบาๆ “ปรุงยาได้แล้ว แต่ผลจะออกมาเป็นเช่นไรอย่างไรก็ต้องทดลองจึงจะรู้ได้ นอกจากนั้น ยามที่เดินเข้ามาก็ได้รับข่าวร้ายมาข่าวหนึ่ง อยากฟังหรือไม่”
หนานกงมั่วนั้นไม่มีความหวังอยู่แล้ว เอ่ย “โรคระบาดกระจายวงกว้างแล้วหรือ”
คุณชายเสียนเกอถอนหายใจ พยักหน้า “เพิ่งได้รับข่าวมา ผิงโจวและหลิงโจวที่อยู่ใกล้สุดเริ่มพบโรคติดต่อแล้ว เพียงแต่ยังไม่หนักเท่ากับเขาลั่วหยาง เห็นได้ว่า การเกิดโรคนี้คงเป็นเพราะหินแร่นั่น เพียงปะปนกับเชื้อโรคก็กลายเป็นโรคระบาดได้ แต่เมื่ออยู่ห่างจากเหมืองก็เปลี่ยนเป็นอ่อนลง เพียงแต่…ตามที่ข้าคาดการณ์เอาไว้คงต้องระบาดไปถึงรุ่นที่สี่จึงจะไม่มีอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นตอนนี้…ยังคงยุ่งยากอยู่”
หนานกงมั่วเอ่ย “เช่นนั้นคงต้องลำบากศิษย์พี่ดำเนินการต่อ รออีกสองวันให้เขาตื่นขึ้นมาค่อยหารือกับเขาเป็นอย่างไร ข้าต้องกลับจินหลิงก่อนสักหน่อย”
คุณชายเสียนเกอย่นคิ้ว เอ่ย “เจ้าจะกลับจินหลิงไปทำไมยามนี้ ยังตีเขาจนสลบด้วย ตอนนี้สถานการณ์ที่นี่จึงจะสำคัญถึงชีวิตมิใช่หรือ”
หนานกงมั่วถอนหายใจ เอ่ย “จินหลิงอาจจะเกิดเรื่องแล้ว จวินมั่วยังบาดเจ็บหนัก ข้าต้องกลับไปดู”
คุณชายเสียนเกอคว้านางเอาไว้ “ไม่ได้ เว่ยจวินมั่วยอมต่อสู้กับเจ้าไม่ยอมให้เจ้ากลับไป เห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ” เมืองจินหลิง หากเกิดเรื่องจริงก็คงไม่ใช่เรื่องเล็ก คุณชายเสียนเกอไม่อยากสนใจว่าคนจินหลิงจะเป็นเช่นไร ขอเพียงน้องสาวของตนไม่เป็นไรก็พอแล้ว คนอื่นจะตายใครเขาจะสน “วรยุทธ์ของเจ้า มิสู้ช่วยข้าศึกษาการป่วยนี้ แม้ว่าข้าทำเองจะไม่มีปัญหา แต่หากปรุงยาออกมาได้ไวขึ้นสักวันก็จะลดจำนวนคนตายได้บ้าง ถูกหรือไม่”
“ศิษย์พี่” หนานกงมั่วกดเสียงต่ำ จ้องคุณชายเสียนเกอเขม็ง