ตอนที่ 453 กวนประสาท (2)
หมิงฉินปิดปากยิ้ม “แน่นอนเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างซื่อจื่อและพระชายาซื่อจื่อดี ดังนั้นคนอื่นจึงรู้ว่าเรื่องที่พระชายาซื่อจื่อเห็นด้วย แปดส่วนซื่อจื่อล้วนเห็นด้วยทั้งนั้น ยามนี้ซื่อจื่อไม่อยู่ แน่นอนทุกๆ อย่างล้วนเป็นพระชายาซื่อจื่อที่ตัดสินใจ” หนานกงมั่วชะงัก มองหมิงฉินด้วยความไม่แน่ใจ “เป็นเช่นนั้นหรือ” ที่แท้ในสายตาของคนในจินหลิง ความสัมพันธ์ของนางกับเว่ยจวินมั่วดีเพียงนั้นเลยหรือ
หมิงฉินยิ้ม เอ่ย “แน่นอนสิเจ้าคะ ซื่อจื่อและพระชายาซื่อจื่อแม้แต่ออกไปต่างเมืองยังไม่ห่างกันนั่นไม่นับว่าดีหรือ ในเมืองจินหลิงใช่ว่าจะไม่มีคู่สามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ไม่เคยมีคุณชายท่านไหนที่ยอมให้ภรรยาเดินทางออกจากบ้านไปไกลเพียงนี้จะเจ้าคะ ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้ข้างกายของซื่อจื่ออย่าว่าแต่นางสนมหรืออนุ แม้แต่สาวใช้อุ่นเตียงก็ยังไม่มี เมืองจินหลิงไม่รู้ว่ามีสตรีมากเพียงใดที่อิจฉา”
นึกถึงบางคนที่อยู่ไกลถึงหลิงโจว หนานกงมั่วอดไม่ได้ยิ้มร่าออกมา “เอาล่ะ ไปเตรียมตัวเถิด ไปจวนฉู่กั๋วกง จะว่าไป นานแล้วที่ข้าไม่ได้เจอท่านพ่อ”
“…” น้ำเสียงของพระชายาซื่อจื่อไม่เหมือนกำลังคิดถึงฉู่กั๋วกงเลยสักนิด
คนที่หนานกงไหวส่งมานั้นค่อนข้างจงรักภักดีในหน้าที่ของตนเอง ราวกับกลัวว่าหนานกงมั่วจะไม่กลับไปกับเขา ยังคงยืนรอหนานกงมั่วกลับไปด้วยกัน เมื่อหนานกงมั่วเดินออกมายังประตูจึงตกใจ ไม่นานถึงลอบถอนหายใจออกมา ไม่ว่านายท่านจะตามคุณหนูใหญ่กลับไปทำไม เพียงหนานกงมั่วยอมกลับไปกับพวกเขา พวกเขาทำภารกิจสำเร็จก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
เดือนสองเดือนไม่ได้เห็น จวนฉู่กั๋วกงยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ตั้งแต่หนานกงฮุยแต่งงานและย้ายออกไป เจ้านายที่แท้จริงของจวนฉู่กั๋วกงคงเหลือเพียงหนานกงไหวและหนานกงชวี่แล้ว ส่วนเฉียวเฟยเยียนสามแม่ลูก แม้จะรู้แล้วว่าเฉียวเชียนหนิงและเฉียวเย่ว์อู่ต่างก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของหนานกงไหว หนานกงไหวก็ไม่มีความกล้าเปลี่ยนแซ่ให้กับพวกเขาหรือบันทึกชื่อเข้าในผังวงศ์ตระกูล เช่นนี้ทั้งสามคนก็ยังอาศัยอยู่ในจวนฉู่กั๋วกงอย่างไม่มีสถานะเช่นเดิม แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต่างออกไป เดิมหนานกงไหวไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อลูกฝาแฝดของเฉียวเฟยเยียนนัก อย่างมากก็เพียงรักใครแล้วจึงรักคนของเขาด้วยก็เท่านั้น ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง แน่นอนว่าต้องดีเป็นร้อยเท่าพันเท่า ยิ่งไม่สามารถยอมรับทั้งสองอย่างเปิดเผย อีกทั้งเฉียวเย่ว์อู่ต้องเผชิญเรื่องร้ายเพราะหนานกงซูยิ่งทำให้หนานกงไหวรู้สึกละอายใจ ดังนั้นจึงดีกับทั้งสองมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มีสิ่งใดดีๆ ล้วนส่งไปยังเรือนของทั้งสอง ราวกับลืมไปแล้วว่าเขายังมีบุตรชายอีกสองคนและบุตรสาวเชื้อสายรองที่เขาเฝ้ารักและเอ็นดูมาสิบกว่าปี
เข้ามาในจวนฉู่กั๋วกง คนแรกที่หนานกงมั่วเจอไม่ใช่หนานกงไหวหรือหนานกงชวี่ ยิ่งไม่ใช่เฉียวเฟยเยียนสามแม่ลูกที่โอ้อวดออกหน้าไม่ได้ แต่เป็นหลินซื่อที่ไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
“น้องสาว” หลินซื่อกระตือรือร้น อีกทั้งยังรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อมองไปยังหนานกงมั่ว
หนานกงมั่วมองสำรวจหลินซื่อ พบว่าพี่สะใภ้ใหญ่ผู้นี้ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มีบางเรื่องไม่มีใครสั่งสอนต่อให้ตนเองอยากเปลี่ยนแปลงก็ยังมีขีดจำกัด หนานกงชวี่คุณชายใหญ่เชื้อสายหลักจวนฉู่กั๋วกงแต่งภรรยาเช่นนี้ โดนเจิ้งซื่อทำให้ลำบากแล้ว หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ แล้วจึงเอ่ย “พี่สะใภ้ ไม่เจอกันนานสบายดีหรือเจ้าคะ”
หลินซื่อกำผ้าเช็ดหน้า ยิ้มเจื่อน เอ่ย “ยามนี้ในจวนเป็นแบบนี้ จะดีได้เช่นไรเล่า”
หนานกงมั่วเลิกคิ้ว หลินซื่อเอ่ย “น้องสาวเองก็รู้เรื่องของท่านพ่อและเฉียวซื่อ ท่านพี่เองก็ไมสนใจพวกเขา ยามนี้ท่านพ่อนับวันยิ่งรักเอ็นดูพวกเขาทั้งสาม แม้แต่อำนาจการปกครองเรือน…ก็เป็นของเฉียวซื่อแล้ว” เอ่ยถึงตรงหนี้ หลินซื่อกัดฟันอย่างอดไม่ได้ นางแต่งเข้าจวนฉู่กั๋วกงมาหลายปี เป็นฮูหยินน้อยของจวนฉู่กั๋วกงอย่างถูกต้องตามทำนองครองธรรม แต่อำนาจปกครองเรือนกลับตกไม่ถึงมือนาง เมื่อก่อนยกให้เจิ้งซื่อดูแลก็ช่างเถิด ยามนี้เฉียวเฟยเยียนเป็นใครกัน เป็นเพียงหญิงม่ายเท่านั้น ยังกล้าจัดการดูแลจวนฉู่กั๋วกงที่กว้างใหญ่ ซ้ำยังวางตัวเป็นนายหญิงใหญ่จวนฉู่กั๋วกง ช่างน่ารังเกียจ นางกล้าออกจากเรือนหรือ ไม่กลัวน้ำลายคนนินทาท่วมตายหรืออย่างไร
หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “พี่ใหญ่ไม่ว่าอย่างไรหรือ”
หลินซื่อถอนหายใจ เอ่ย “ไม่รู้ท่านพี่คิดอันใดอยู่ เรื่องใหญ่โตเพียงนี้กลับไม่เอ่ยอันใดเลยแม้เพียงคำเดียว ข้าดูแล้วท่านพ่อราวกับอยากยกจวนฉู่กั๋วกงให้สามแม่ลูกนั่น ข้าเองก็ร้อนใจแทนท่านพี่ จึงอยากมาบอกกับน้องสาว ให้น้องสาวช่วยเกลี้ยกล่อมท่านพี่ด้วย”
“พี่สะใภ้วางใจ เฉียวซื่อสามแม่ลูกสถานะไม่ชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรท่านพ่อก็ไม่อาจยกตำแหน่งฉู่กั๋วกงให้เฉียวเชียนหนิงได้ ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ท่านพ่อนำเฉียวเชียนหนิงบันทึกลงในผังวงศ์ตระกูล ก็ยังเป็นเชื้อสายรองอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นบุตรนอกเรือนอีกด้วย” เพียงแต่ ทรัพย์สินส่วนตัวของหนานกงไหวนั้นเก็บไว้ให้ใครผู้ใดยังไม่แน่
“น้องสาวกล่าวถูกแล้ว” หลินซื่อปรบมือยิ้มออกมา สายตาที่มองไปยังหนานกงมั่วราวกับทั้งสองมิได้เป็นพี่สะใภ้กับน้องสาวที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีต่อกัน แต่เป็นราวกับพี่น้องที่รักใคร่และสนิทสนมกันมาก
หนานกงมั่วยิ้มบาง ก้มหน้าดื่มชา ก่อนจะเอ่ยถาม “ท่านพ่อเรียกข้ากลับมา ไยกลับมาแล้วจึงไม่เจอท่านพ่อเล่า”
หลินซื่อส่ายศีรษะ “ท่านพ่อเหมือนจะเข้าวังไปแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าผู้สำเร็จราชการแทนหรือว่า…ฮ่องเต้พระองค์ใหม่เรียกตัวเข้าเฝ้า” หนานกงไหวเองก็คงไม่คิดว่าหนานกงมั่วจะกลับมาเลยทันที เมื่อมีธุระในวังจึงเข้าวังไปแล้ว แม้เพียงประโยคเดียวก็ยังไม่ฝากฝังเอาไว้ อย่างไรเมื่อก่อน หนานกงมั่วรับปากจะกลับมาแต่ก็ไม่ได้กลับมาทันที
“เช่นนี้…ผู้สำเร็จราชการแทนและฮ่องเต้ต่างเรียกท่านพ่อเข้าพบแยกกันหรือ”
หลินซื่องุนงง นางไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้นัก แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นนางเองก็พอรู้อยู่บ้าง พยักหน้าพลางเอ่ย “หลายวันก่อน ฮ่องเต้และผู้สำเร็จราชการแทนต่างก็เรียกตัวท่านพ่อไปเข้าเฝ้าหลายครั้ง” หนานกงมั่วเองก็รู้ว่าคงไม่อาจถามสิ่งใดจากหลินซื่อได้มากความนัก จึงเปลี่ยนมาเอ่ยถามหาหนานกงซวี่ “ช่วงนี้พี่ชายสบายดีหรือไม่”
หลินซื่อเบ้ปาก เอ่ย “ใครจะรู้เล่า เขาทำอันใดมีหรือจะบอกข้า ทุกวันออกแต่เช้ากว่าจะกลับมาก็ค่ำ ใครจะรู้ว่าเขากำลังทำสิ่งใดอยู่”
หนานกงมั่วหลุบตาลง เอ่ยเสียงเรียบ “พี่สะใภ้ช่วยใส่ใจพี่ใหญ่บ้างเถิด หากเขามีเรื่องอันใดเขาต้องบอกกับท่านแน่”
เอ่ยถึงเรื่องนี้หลินซื่อก็อยากบ่นไม่น้อย แค่นเสียงในลำคอ เอ่ย “ข้าไม่ใส่ใจเขาเมื่อไรกันเล่า ตั้งแต่แต่งงานมาก็คอยใส่ใจดูแลอย่างระมัดระวัง แต่เขาเคยไว้หน้าข้าเมื่อไร น้องสาว พี่สะใภ้…ช่าง…” เอ่ยไปเอ่ยมา น้ำตาของหลินซื่อก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หนานกงมั่วไม่เชี่ยวชาญเรื่องระหว่างสามีภรรยามากนัก ทำเพียงก้มหน้าดื่มชา ปล่อยให้หลินซื่อบ่นไปชั่วครู่ เห็นว่าหนานกงมั่วไม่ต่อความด้วยก็รู้สึกเบื่อหน่าย จึงต้องเบ้ปากและปิดปากไป ดวงตาที่มองไปยังหนานกงมั่วนั้นมีความคับแค้นใจขึ้นมา เข้าใจว่าหนานกงมั่วเข้าข้างพี่ใหญ่ของตน
หนานกงมั่วรู้สึกน่าขัน อย่าว่าแต่ความสัมพันธ์ของนางและหลินซื่อแย่แล้ว ต่อให้เป็นความสัมพันธ์น้องสาวพี่สะใภ้ทั่วไป จะเข้าข้างพี่ชายของตนนั้นเป็นส่วนใหญ่ แน่นอน ตัวนางไม่นับว่าเข้าข้างหนานกงชวี่ เรื่องระหว่างสามีภรรยานางเป็นเพียงคนนอก