ตอนที่ 461 ความโศกเศร้าของพระชายารัชทายาท (2)
“เสด็จแม่ ขอพระองค์ช่วยลูกด้วย” เซียวเชียนเยี่ยจับมือพระชายารัชทายาทเอ่ยวิงวอน “เสด็จแม่ท่านเชื่อลูก การตายของเสด็จพ่อและเสด็จปู่ไม่เกี่ยวอันใดกับลูก ลูก ต่อให้ลูกอยากได้บัลลังก์มากเพียง แต่ก็ไม่กล้าทำเรื่องบ้าๆ อย่างนั้นได้”
พระชายารัชทายาทลูบใบหน้าบุตรชายทั้งน้ำตา หลับตาลงอย่างเจ็บปวด บุตรชายของตนตนเองนั้นรู้จักดี หากบอกว่าเซียวเชียนเยี่ยสามารถสังหารเสด็จปู่สังหารเสด็จพ่อเพื่อราชบัลลังก์ พระชายารัชทายาทเองก็ไม่เชื่อ ที่เอ่ยถามไปเช่นนั้นเพราะสิ่งที่นางคิดนั้นทำให้นางตื่นตระหนก ดังนั้นจึงเอ่ยปากหลอกเขาเพียงเท่านั้น
“เรื่องมาถึงขั้นนี้…จะทำอย่างไรได้เล่า” พระชายารัชทายาทเอ่ยพึมพำ
เซียวเชียนเยี่ยกุมมือพระชายารัชทายาท เอ่ยอย่างร้อนรน “เสด็จแม่ ลูกจะแก้แค้นให้เสด็จพ่อและเสด็จปู่ ขอร้องท่าน…ให้เวลากับลูกสักนิด อีกทั้งวังหลวง…”
พระชายารัชทายาทถอนหายใจออกมาเบาๆ “ช่างเถิด เรื่องวังหลังเจ้าไม่ต้องกังวล มารดารู้ว่าควรจัดการเยี่ยงไร เพียงแต่เรื่องในราชสำนัก เชียนเยี่ย…มารดาไม่รู้เรื่องพวกนี้ และไม่รู้จะช่วยเจ้าได้เยี่ยงไร ดังนั้น เจ้าจะต้องทำให้ดีที่สุด” เซียวเชียนเยี่ยลอบถอนหายใจ พยักหน้าหนักๆ “ลูกรู้พ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยเสด็จแม่ที่ชี้แนะ”
บนสนทนาเพียงสั้นๆ พระชายารัชทายาทกลับรู้สึกราวกับว่าใช้พลังงานไปจนหมดสิ้น หว่างคิ้วขมวดมุ่นเห็นชัดถึงความเหนื่อยล้า ยกมือขึ้นนวดหัวคิ้ว พระชายารัชทายาทเอ่ย “ช่างเถิด มารดาเหนื่อยแล้ว จะกลับไปพักก่อน เจ้าเองก็พักผ่อนให้ดี หลายวันมานี้ลำบากเจ้าแล้ว”
“ลูกไปส่งเสด็จแม่กลับพ่ะย่ะค่ะ” เซียวเชียนเยี่ยรีบเอ่ย
พระชายาโบกปัดมือปฏิเสธเซียวเชียนเยี่ย หมุนตัวเดินออกไปจากประตูของห้องทรงพระอักษรเดินมาถึงท้องพระโรงใหญ่ เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีเทา หยาดน้ำตาไหลลงมาจากขอบตาของพระชายารัชทายาท
ในคำพูดของเซียวเชียนเยี่ยมีหลายอย่างที่ไม่เป็นความจริง ใช่ว่าพระชายารัชทายาทจะไม่รู้ แต่เพราะเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าเซียวเชียนเยี่ยจะเล่นบทบาทใดในเรื่องการจากไปขององค์รัชทายาทและอดีตฮ่องเต้ นางผู้เป็นมารดาจึงทำได้เพียงเลือกที่จะปกป้องดูแลบุตรชายของตนเอง พ่อลูกพี่น้องทำร้ายกันเอง นี่ก็คือครอบครัวราชวงศ์
มองพระชายารัชทายาทเดินจากไป ใบหน้าของเซียวเชียนเยี่ยทะมึนลงทันใด
“เด็กๆ” ขันทีอายุราวๆ ยี่สิบกว่าเดินเข้ามาด้านใน เอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม “ฝ่าบาท”
เชียวเชียนเยี่ยเสียงเข้ม “ให้คนไปสืบมา เสด็จแม่ไปพบใครบ้าง”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
เวลาไม่ถึงสองเค่อ ขันทีที่ออกไปก็กลับเข้ามาอีกครั้ง เอ่ยเสียงเบา “ทูลฝ่าบาท สองวันมานี้…นอกจากบรรดาเหนียงเหนียงแล้ว ก็มีเพียง…พระสนมหลินกุ้ยเฟยแห่งตำหนักหย่งอันพ่ะย่ะค่ะ”
“พระสนมหลินกุ้ยเฟยหรือ” เซียวเชียนเยี่ยย่นคิ้วสงสัย เป็นหลานที่อดีตฮองเฮาโปรดปราน แน่นอนเซียวเชียนเยี่ยเองก็เคยเจอกับพระสนมหลินกุ้ยเฟย เพียงจำได้ว่าพระสนมผู้นี้นับตั้งแต่ที่องค์ชายสิบเก้าจากไปก็ไม่สนใจอันใดแล้ว เดิมทียังปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเฉยชา จะไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ได้เยี่ยงไร
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของเซียวเชียนเยี่ยมีไอสังหารพาดผ่าน หรือว่าเป็นพระสนมหลินกุ้ยเฟยบอกกับเสด็จแม่อย่างนั้นหรือ หรือว่านางไปรู้อันใดมา แต่ว่า…ต่อให้นางรู้ว่าการตายของอดีตฮ่องเต้เกี่ยวข้องกับเซียวฉุน แล้วนางรู้เรื่องเขาได้เยี่ยงไร
ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เซียวเชียนเยี่ยจึงลุกขึ้น เอ่ย “ไปตำหนักหย่งอัน”
ขันทีด้านข้างชะงัก รีบเอ่ยห้ามเซียวเชียนเยี่ย “ฝ่าบาทได้โปรดไตร่ตรองด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวเชียนเยี่ยเลิกคิ้ว ขันทีรับใช้รีบเกลี้ยกล่อม “ฝ่าบาท ไท่กุ้ยเฟย[1]เป็นพระสนมในอดีตฮ่องเต้ ตามกฏแล้ว…ฝ่าบาทไม่อาจไปพบได้นะพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ที่ยังหนุ่มไม่สามารถพบนางสนมของฮ่องเต้พระองค์ก่อนที่อายุต่ำกว่าห้าสิบได้ นี่เป็นกฎที่มีมาทุกยุคทุกสมัย อย่างไรเสีย นางสนมในวังหลวงน้อยมากที่หน้าตาไม่สะสวย หากใกล้ชิดกันนานไป ฮ่องเต้หนุ่มไม่อาจอดกลั้นได้ เลี่ยงยากที่จะเกิดเรื่องอื้อฉาวจนทำให้ราชวงศ์ต้องแปดเปื้อน
เซียวเชียนเยี่ยใช่ว่าจะไม่รู้กฎข้อนี้ เพียงลืมไปชั่วขณะเท่านั้น ถูกขันทีรับใช้เอ่ยเตือน จึงนั่งลงช้าๆ นวดขมับอย่างปวดหัว พระชายาหยวนซื่อยามนี้กำลังตั้งครรภ์ไม่อาจทำงานหนักได้ นางสนมอื่นๆ ก็ใช้การไม่ได้ พลันรู้สึกทำอันใดไม่ถูกขึ้นมาทันใด
“ทูลฝ่าบาท ผู้สำเร็จราชการแทน…ผู้สำเร็จราชการแทนไปยังตำหนักหย่งอันแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ด้านนอก ข้าหลวงคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน แม้องครักษ์ในวังหลวงจะอยู่ในกำมือของเซียวฉุน แต่อย่างไรเซียวเชียนเยี่ยก็เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ยังมีคนของอดีตฮ่องเต้และองค์รัชทายาท รวมไปถึงเส้นสายของเซียวเชียนเยี่ยที่หล่อเลี้ยงเอาไว้ เซียวฉุนเองไม่สามารถส่งองครักษ์ติดตามเซียวเชียนเยี่ยตลอดเวลา ยามนี้เซียวเชียนเยี่ยอยู่ในวังหลวงก็มีอำนาจไม่น้อย
ได้ยินเช่นนั้น เซียวเชียนเยี่ยรีบลุกขึ้นมาทันที พิโรธขึ้นมา เอ่ย “เซียวฉุน เขาคิดจะทำอันใด” หากบอกว่าเซียวเชียนเยี่ยไปพบพระสนมของอดีตฮ่องเต้ไม่เหมาะสม ยามนี้เซียวฉุนบุกไปยังตำหนักของพระสนมในอดีตฮ่องเต้โดยไม่บอกกล่าวกับฮ่องเต้พระองค์ใหม่หรือไทเฮาเลยสักนิด หากแพร่งพรายออกไปเซียวเชียวเยี่ยผู้เป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด
ข้าหลวงที่อยู่ด้านข้างลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ย “พวกเราเองยังสืบได้ว่าไท่กุ้ยเฟยไปหาไทเฮา เกรงว่า…ฝั่งผู้สำเร็จราชการเองก็คงปิดไม่มิดพ่ะย่ะค่ะ” ด้วยอำนาจในวังของเซียวฉุน ไม่แน่อาจรู้แล้วว่าพระสนมเอ่ยสิ่งใดกับไทเฮา
เซียวเชียนเยี่ยส่งเสียงหยัน เอ่ยเสียงเข้ม “ไปดู”
เขาไม่สนใจกฎ เซียวเชียนเยี่ยทนไม่ไหวต้องการรู้ว่าพระสนมหลินกุ้ยเฟยเอ่ยสิ่งใดบ้าง แน่นอนไม่มีทางปล่อยให้คนตกไปอยู่ในมือของเซียวฉุน
เมื่อเซียวเชียนเยี่ยเดินนำผู้คนตรงไปถึงตำหนักหย่งอัน ด้านในก็มีเสียงดังออกมา เซียวเชียนเยี่ยก้าวเข้าประตูไป พลันได้ยินเสียงเย็นของพระสนมหลินกุ้ยเฟย “ฝ่าบาทไม่อยู่แล้ว ต่อให้ข้าตายแล้วจะมีผลอย่างไร”
เซียวเชียนเยี่ยตกใจ รีบสาวเท้าเข้าไปด้านใน ในห้องโถงใหญ่ เซียวฉุนนั่งอยู่ตำแหน่งเหนือสุดมองไปยังพระสนมหลินกุ้ยเฟยอย่างเย็นชา พระสนมหลินกุ้ยเฟยล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าเล็กซีดเซียว ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเซียวฉุนอย่างโกรธแค้น ด้านข้างพระสนมหลินกุ้ยเฟยมีนางกำนัลคุกเข่าอยู่ด้านข้าง
“เสด็จปู่รอง นี่มันอันใดกัน” เซียวเชียนเยี่ยก้าวเข้าไปด้านใน กวาดตามองทุกคนเอ่ยถามเสียงเรียบ
เซียวฉุนเลิกคิ้ว “ฝ่าบาทมาได้เยี่ยงไร”
เซียวเชียนเยี่ยจ้องมองเซียวฉุน เอ่ย “เสด็จปู่รองเองก็มาแล้ว เชียนเยี่ยจะไม่มาได้อย่างไร” “ไยข้าจึงรู้สึกว่าวาจาของฝ่าบาทนั้นมีอันใดซ่อนอยู่
เซียวเชียนเยี่ยแค่นเสียงเย็น เอ่ยโดยไม่เกรงใจ “เสด็จปู่รอง เขตพื้นที่วังหลังห้ามมิให้คนนอกเข้า เสด็จปู่รองเข้าออกวังหลังตามอำเภอใจเช่นนี้ หากแพร่งพรายออกไปคงไม่ดีต่อชื่อเสียงของพระองค์”
เซียวฉุนหัวเราะเสียงดัง “ฝ่าบาทคิดมากไปแล้ว กระหม่อมอายุมากเพียงนี้ปล่อยวางแล้ว ยังต้องกังวลชื่อเสียงอันใดอีกหรือ”
เซียวเชียนเยี่ยลอบกัดฟันอยู่เงียบๆ เจ้าไม่ห่วงชื่อเสียงข้ายังต้องห่วงชื่อเสียงของพระสนมวังหลังอยู่ เซียวเชียนเยี่ยเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเซียวฉุนนั้นตั้งใจ การเข้าออกวังหลังตามใจชอบเช่นนี้ไม่เพียงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา อีกทั้งยังทำให้เหล่าขุนนางได้เห็นว่าผู้สำเร็จราชการแทนนั้นมีอำนาจเหนือฮ่องเต้อย่างไร
[1] ไท่กุ้ยเฟย เป็นตำแหน่งของพระสนมหลินกุ้ยเฟย หมายถึงตำแหน่งที่มีศักดิ์เป็นกุ้ยเฟยในฮ่องเต้พระองค์ก่อน