หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 463 แต่งตั้ง (1)

ตอนที่ 463 แต่งตั้ง (1)

ตอนที่ 463 แต่งตั้ง (1)
องค์หญิงฉังผิงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเซียวเชียนเยี่ย มองเขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “ที่แท้ ฝ่าบาทยังรู้ว่าวังหลังเป็นสถานที่ที่ไม่ใช่ใครจะเข้าออกได้ตามอำเภอใจหรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เสด็จอาและฝ่าบาทมาทำอันใดที่นี่ ที่แห่งนี้ น่าจะเป็นตำหนักพระสนมของเสด็จพ่อมิใช่หรือ” นอกจากนี้…องค์หญิงฉังผิงยื่นมือออกมา ในมือนั้นเป็นป้ายอาญาสิทธิ์สีทองระยิบระยับ เอ่ยต่อ “ข้าเป็นองค์หญิง เข้าวังมาจุดธูปให้กับเสด็จพ่อจึงมาเยี่ยมพระสนม ไม่จำเป็นต้องรายงานต่อฝ่าบาทด้วยตนเอง”

ในมือขององค์หญิง คือป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่อดีตฮ่องเต้ประทานให้แก่หนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่ว อดีตฮ่องเต้สวรรคต แต่งานยังจัดการไม่เรียบร้อย ป้ายทองอาญาสิทธิ์จึงยังอยู่กับหนานกงมั่วมิได้ส่งคืน

เซียวเชียนเยี่ยถูกองค์หญิงฉังผิงขัดขวาง สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย

หนานกงมั่วเดินเข้าไปประคองพระสนมหลินกุ้ยเฟย เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระสนมไปนั่งอยู่ที่พื้นได้เยี่ยงไรเพคะ คงไม่ใช่ว่าพระศพของอดีตฮ่องเต้ยังไม่ทันเย็นก็มีคนไม่เคารพต่อพระสนมในอดีตฮ่องเต้หรอกใช่หรือไม่”

เซียวเชียนเยี่ยตวัดสายตาเย็นเยียบมองหนานกงมั่ว “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ พระสนมหลินกุ้ยเฟยสร้างข่าวลือทำให้วังหลังต้องวุ่นวาย สมควรได้รับโทษ จวิ้นจู่อย่าได้เข้ามายุ่ง”

หนานกงมั่วยิ้มหวาน น้ำเสียงยังคงสงบนิ่ง “อ้อ ไม่รู้ว่าพระสนมปล่อยข่าวลือเรื่องใดหรือเพคะ ขอฝ่าบาทชี้ให้ชัดแจ้ง อีกทั้งอธิบายให้ขุนนางในราชสำนักเข้าใจไปพร้อมกันจึงจะถูก มิเช่นนั้น พระศพของอดีตฮ่องเต้ยังไม่ทันได้ลงดิน ฝ่าบาทก็ประทานโทษประหารแก่พระสนมในอดีตฮ่องเต้แล้ว เกรงว่าคงไม่อาจหยุดคำครหาได้”

เซียวฉุนก้าวขึ้นมาด้านหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “วาจานี้ของจวิ้นจู่ก็ไม่ถูก เดิมพระสนมร่วมฝังไปกับฮ่องเต้นั้นมีมาแต่โบราณ ไหนเลยจะเป็นที่ครหาได้”

หนานกงมั่วคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มมองคนตรงหน้า เอ่ย “แต่ว่า เมื่อครู่หม่อมฉันได้ยินว่าฝ่าบาทกล่าวว่าพระสนมมีความผิด หรือว่ามีใครอาศัยการฝังไปพร้อมกับฮ่องเต้มาทำร้ายพระสนมหรือ เพียงแต่ไม่รู้ หากอดีตฮ่องเต้มีวิญญาณ จะจากไปอย่างสงบได้หรือไม่”

ฟังคำพูดของหนานกงมั่ว หางตาของเซียวเชียนเยี่ยพลันกระตุกอย่างห้ามไม่ได้ มือกำแน่นเส้นเลือดปูดโปนเด่นชัด การตายของอดีตฮ่องเต้และองค์รัชทายาท แม้ไม่ใช่ความต้องการของเขาแต่เขากลับกินปูนร้อนท้อง ยามนี้ถูกหนานกงมั่วเอ่ยขึ้นมา ยิ่งนึกถึงความรักและความเมตตาที่อดีตฮ่องเต้เคยมีให้แก่ตน ยิ่งรู้สึกละอายขึ้นมาในใจ

องค์หญิงฉังผิงเอ่ยเสียงเข้ม ฝ่าบาท พระสนมหลินกุ้ยเฟยช่วยฝ่าบาทดูแลจัดการเรื่องในวังหลังมากว่าหลายปี ไม่มีความดีความชอบก็ยังมีคุณความชอบ ขอฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองด้วยเถิด”

เซียวเชียนเยี่ยกัดฟัน “นี่เป็นเรื่องในวังหลวง ขอเสด็จอาอย่าได้ก้าวก่าย”

สีหน้าองค์หญิงฉังผิงทะมึนลง เอ่ยเสียงเข้ม “ไยฝ่าบาทจึงประทานโทษประหารแก่พระสนม บอกมาได้หรือไม่ มิเช่นนั้น ข้าคงต้องเชิญเชื้อพระวงศ์ข้าราชบริพารบู๊บุ๋นทั้งหลายมาร่วมหารือแล้ว”

“องค์หญิง” เซียวเชียนเยี่ยยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใด พระสนมหลินกุ้ยเฟยพลันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มบาง “ขอบคุณองค์หญิงและซิงเฉิงจวิ้นจู่ที่ออกหน้าแทนข้า แต่ไม่เป็นไร หนึ่งราชวงศ์หนึ่งขุนนาง ไยต้องลำบากเหล่าขุนนางพวกนั้น ฝ่าบาทอยากได้ชีวิตของข้า รีบเอาไปเถิด ยิ่งไปกว่านั้น…ข้าเองก็อยากรู้ว่าฝ่าบาทจะตอบคำถามของผู้คนเยี่ยงไร หึหึ…ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยังไม่ทันขึ้นครองราชย์ก็สังหารพระสนมในเสด็จปู่ของตน…อดีตฮ่องเต้มักบอกว่าฝ่าบาทมินิสัยลังเลไม่เด็ดขาด ข้ากลับคิดว่าฝ่าบาทโหดเหี้ยมยิ่งกว่าอดีตฮ่องเต้มากทีเดียว”

“พระสนม” หนานกงมั่วเอ่ย มือข้างหนึ่งรีบจับไปที่ข้อมือของพระสนมหลินกุ้ยเฟย น่าเสียดายที่มันสายไปแล้ว เพียงสัมผัสเลือดพลันไหลซึมออกมาจากมุมปากของพระสนมหลินกุ้ยเฟย ร่างของพระสนมหลินกุ้ยเฟยล้มลงไปกับพื้น หนานกงมั่วรีบยื่นมือเข้าไปประคองร่างของนาง

“พระสนม”

พระสนมหลินกุ้ยเฟยมองหนานกงมั่ว ยิ้มบาง เอ่ย “จวิ้นจู่ไม่ต้องเสียใจ…ตั้งแต่วันที่ฝ่าบาทสวรรคต ข้าก็เตรียมตัวมาหลายวันแล้ว ข้า…ไร้โอรสไร้ธิดา ฝ่าบาทไปแล้ว วันเวลาต่อจากนี้ก็คงมีแต่ความอ้างว้าง มิสู้…ตายตามไปเถิด”

“ไยพระสนมต้องทำเช่นนี้” หนานกงมั่วประคองพระสนมหลินกุ้ยเฟย เอ่ยเสียงกระซิบ แน่นอนนางรู้ว่าพระสนมหลินกุ้ยเฟยฆ่าตัวตายไม่ใช่เหตุผลเพียงเท่านี้แน่

พระสนมหลินกุ้ยเฟยยิ้มบาง เลือดสีแดงไหลออกมาจากริมฝีปากไม่หยุด “เดิมทีคิดว่า…จะได้ตายไปอย่างอ้างว้างอยู่ในตำหนักนี้ ยามนี้มีเจ้าที่เสียใจเพราะข้าเท่านี้ข้าก็ดีใจแล้ว แม้เราจะเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ว่า…ข้าช่างอิจฉาเจ้าเหลือเกิน ต่อไป…ต้องระวังตัวด้วย…”

รอยยิ้มบนใบหน้าของพระสนมค่อยๆ เลือนหาย เสียงเบาลงเรื่อยๆ ดวงตาปิดลงช้าๆ

“ฝ่าบาท…หวงเอ๋อร์…แม่มาแล้ว…”

การกระทำของพระสนมหลินกุ้ยเฟยที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้ทุกคนรับมือไม่ทัน แม้แต่เซียวเชียนเยี่ยและเซียวฉุนที่อยากให้พระสนมหลินกุ้ยเฟยตายก็ยังไม่คาดคิดว่าพระสนมจะด่วนจากไปเช่นนี้ พระสนมที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่โดดเด่นเป็นที่สะดุดตากลับมินิสัยเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งกว่าสตรีทั่วไปบนโลกใบนี้มากทีเดียว

ทั่วทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ องค์หญิงฉังผิงมองไปยังพระสนมหลินกุ้ยเฟยที่ไร้ลมหายใจนอนอยู่บนพื้น ความโกรธพาดผ่านเข้ามาในดวงตา เอ่ยเสียงเย็น “ฝ่าบาท เสด็จอา ตอนนี้พวกท่านพอใจแล้วหรือไม่”

แม้ไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อพระสนมหลินกุ้ยเฟย แต่อย่างน้อยพระสนมหลินกุ้ยเฟยก็เป็นเพียงคนเดียวหลังจากอดีตฮองเฮาจากไปที่นางสามารถพูดคุยได้ ยามนี้เสด็จพ่อพึ่งจากไป พระสนมก็ถูกบีบให้ตาย องค์หญิงฉังผิงรู้สึกโกรธแค้นอยู่ในใจ

เซียวฉุนหัวเราะออกมาสองครั้ง เอ่ยเสียงเรียบ “องค์หญิงฉังผิงพระองค์หมายความเช่นไร ข้าไม่ได้ไปบังคับให้พระสนมต้องตายนะ”

เซียวเชียนเยี่ยจ้องมองเซียวฉุนด้วยความโกรธ ความหมายของเซียวฉุนก็คือเป็นเขาคนเดียวที่บีบบังคับให้พระสนมของเสด็จปู่ต้องตายอย่างนั้นหรือ องค์หญิงฉังผิงไหนเลยจะไม่เข้าใจความหมายของพวกเขา ทำเพียงมองทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เอ่ย “ผู้สำเร็จราชการแทนและฝ่าบาทคิดจะทำอันใด คงไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะยุ่งได้แล้ว ข้าเพียงอยากรู้ พระสนมพูดอันใดในสิ่งที่ไม่ควร จนทำให้ฝ่าบาทไม่ไว้หน้ากันถึงเพียงนี้”

สีหน้าของเซียวเชียนเยี่ยเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว แน่นอนว่าเขาไม่อาจเอ่ยบอกว่าพระสนมหลินกุ้ยเฟยบอกว่าเขาทำให้เสด็จพ่อและเสด็จปู่ต้องตาย ทำได้เพียงเอ่ย “เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของราชสำนัก เสด็จอาเป็นสตรีอย่าได้ถามให้มากความ”

องค์หญิงฉังผิงจ้องมองพวกเขาเนิ่นนาน ก่อนพยักหน้าพลางเอ่ย “ได้ ฝ่าบาทสั่งสอนถูกแล้ว ข้ารู้แล้ว เช่นนั้น…โรคระบาดที่เกิดขึ้น ขอถามฝ่าบาท จวินเอ๋อร์ของข้าจะกลับมาได้เมื่อไร ฝ่าบาทคงไม่คิดว่านี่ก็เป็นเรื่องของราชวงศ์หรอกใช่หรือไม่ โรคระบาดเป็นเรื่องของราชสำนักนั้นไม่ผิด แต่จวินเอ๋อร์เป็นบุตรชายของข้า ข้าในฐานะที่เป็นองค์หญิง ขอฝ่าบาทเรียกตัวเขากลับมาโดยเร็ว เพื่อข้าจะได้ไม่ต้องกังวล ขอฝ่าบาททรงอนุญาต”

แน่นอนเซียวเชียนเยี่ยไม่มีทางยอมให้เว่ยจวินมั่วกลับมา เขาแทบอยากให้เว่ยจวินมั่วตายอยู่ที่หลิงโจว แม้รู้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยแต่อย่างน้อยเรื่องที่หลิงโจวก็สามารถขังเว่ยจวินมั่วได้สักพัก อีกไม่นานเหล่าผู้สืบทอดของผู้ปกครองเมืองทั้งหลายก็มาถึงจินหลิงแล้วเซียวเชียนเยี่ยไม่ต้องการให้เว่ยจวินมั่วกลับมาเพิ่มความวุ่นวายอีก ยิ้มออกมา เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยเสียงอ่อนโยน “เสด็จอา น้องชายไปหลิงโจวเป็นพระบัญชาจากเสด็จปู่ นั่นเพราะมีความเชื่อใจต่อน้องชาย ยามนี้เสด็จปู่ไม่อยู่ แต่เรื่องที่พระองค์ทรงบัญชาคิดว่าน้องชายคงไม่คืนคำ นี่นับเป็นการกตัญญูต่อเสด็จปู่ พระองค์ว่าใช่หรือไม่”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท