ตอนที่ 521 ต่อสู้ (3)
“หุบปาก!” เซียวเชียนเยี่ยมองเซียวฉุนด้วยอารมณ์โมโห กัดฟันแล้วจึงเอ่ย “บัลลังก์ของเรา คือบัลลังก์ที่เสด็จปู่เขียนราชโองการมอบให้เราด้วยตัวเอง ได้ครอบครองบัลลังก์อย่างไม่ถูกต้องอันใดกัน”
“ช่างเสแสร้งเก่งเสียจริง” เซียวฉุนเอ่ยอย่างเรียบเฉย ราวกับหยอกล้อหนูตัวน้อยในกำมือ ไม่มีความกลัวที่ตัวเองเสียเปรียบและอาจถูกตัดหัวได้ทุกเมื่อ “เสด็จพี่ที่แสนดีของข้า แล้วยังมีหลายชายที่แสนดี ล้วนแต่สวรรคตเพราะเจ้าร่วมมือกับข้าไม่ใช่หรือ หากไม่ใช่เช่นนั้น เจ้าจะได้ขึ้นสู่บัลลังก์รวดเร็วเพียงนี้ได้เช่นไร”
“เจ้าใส่ร้ายเรา!” เซียวเชียนเยี่ยพิโรธเป็นอย่างมาก กวาดมองผู้คนที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกว่าทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและดูถูกเหยียดหยาม เขาเข้าใจความคิดของเซียวฉุน เซียวฉุนเพียงต้องการทำลายชื่อเสียงของเขา แต่ว่าเขาหุบปากเซียวฉุนไม่ได้
“ฆ่าคนทรยศนี้ให้ข้า!” เซียวเชียนเยี่ยตะโกน
“ฝ่าบาท…” หยวนชุนมองดูฮองเฮาที่ถูกองครักษ์ควบคุมตัวไว้ตรงหน้า การเชื่อฟังพระบัญชาของฝ่าบาทเมื่อก่อนหน้านี้นั้นเป็นคนละเรื่อง บุตรีอยู่ตรงหน้าเขา จะให้ไม่สนใจความเป็นความตายของบุตรีย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
หนานกงไหวเดินเข้าไป ชักดาบออกมาจ่อลำคอฮองเฮาแล้วเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “เอ้อกั๋วกง โปรดคิดให้ดี”
หยวนชุนตกตะลึง เบิกตากว้างจ้องมองหนานกงไหวแล้วจึงเอ่ย “ข้าคิดว่า…เจ้าจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้” ไม่ว่าเขากับหนานกงไหวจะไม่พอใจกันเพียงใด ทว่าเขาก็ชื่นชมในความสามารถของหนานกงไหว คิดไม่ถึงว่าอายุขนาดนี้แล้ว หนานกงไหวจะทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้ได้
หนานกงไหวเงียบ เดินมาถึงขั้นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ถอยกลับไปไม่ได้
เซียวเชียนเยี่ยมองหนานกงไหวด้วยสายตาเย็นชา “ฉู่กั๋วกง เสด็จปู่ไว้ใจคนผิด เจ้าคิดว่า…ใช้ฮองเฮาข่มขู่เรา คืนนี้พวกเจ้าก็จะรอดเช่นนั้นหรือ” หนานกงไหวยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “กระหม่อมไม่อยากทำให้ฝ่าบาทลำบากพระทัย แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีอันใดต้องเอ่ยแล้ว ฝ่าบาท…ฮองเฮากำลังตั้งพระครรภ์ ตั้งพระครรภ์โอรสเพียงหนึ่งเดียวของฝ่าบาท เกรงว่าพระสนมจูตอนนี้คงจะ…กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทคิดให้ดีเถิด”
เซียวเชียนเยี่ยหัวเราะหยัน “ต่อไปเรายังจะมีโอรสอีกมากมาย ใช้เรื่องนี้ข่มขู่เรา พวกเจ้าคิดผิดแล้ว”
“แต่กระหม่อมคิดว่า…ต่อไปฝ่าบาทคงไม่มีโอรสอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของเซียวเชียนเยี่ยเปลี่ยนไป “เจ้าหมายความว่าอย่างไร” หนานกงไหวหันไปมองเซียวฉุน เซียวฉุนยิ้มด้วยความพอใจ เห็นได้ชัดว่าเขาพอใจกับผลงานชิ้นเอกของตัวเอง “โง่เขลาเสียจริง ฉู่กั๋วกงก็หมายความว่าต่อไปเจ้าไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว”
“เจ้าวางยาพิษเราหรือ” เซียวเชียนเยี่ยตะโกนเสียงดัง
เซียวฉุนยิ้มหยันอย่างภาคภูมิใจ “ในเมื่อจะใช้ฮองเฮาและเด็กในท้องเป็นตัวประกัน แล้วข้าจะไม่วางแผนให้สมบูรณ์ได้เช่นไร”
เซียวเชียนเยี่ยสับสน ไม่แน่ใจว่าควรเชื่อวาจาของเซียวฉุนหรือไม่ “เจ้าวางยาพิษเราตั้งแต่เมื่อไหร่”
เซียวฉุนเอ่ย “ตอนอยู่ที่หลิงโจว”
เซียวเชียนเยี่ยพยายามระงับอารมณ์โมโหในใจ กัดฟันเอ่ย “เจ้าต้องการอันใด”
เซียวฉุนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ปล่อยข้ากลับผิงโจว และแน่นอนว่า…หนานกงไหวต้องกลับไปกับข้าด้วย”
“ฝันไปเถิด” เซียวเชียนเยี่ยเอ่ย เซียวฉุนทำลายชื่อเสียงของเขาเพียงนี้ แล้วยังอยากออกไปจากจินหลิง ยิ่งไปกว่านั้นจะพาหนานกงไหวไปด้วย ด้วยอิทธิพลในกองทัพของหนานกงไหว หากปล่อยทั้งสองออกไปจริงๆ เกรงว่าเซียวฉุนคงจะเป็นฮ่องเต้เองจริงๆ
เซียวฉุนเองก็ไม่ได้หวังให้เซียวเชียนเยี่ยตอบตกลงในทันที ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “เช่นนั้น…ก็เลือกว่าจะสังหารไทเฮาหรือฮองเฮาก่อนดี”
เซียวเชียนเยี่ยเงียบไป แน่นอนว่าเขาเลือกไม่ได้ ไม่ว่าจะเลือกใครก็ผิด
ทั้งวังหลวงเงียบสงัดลงในบัดดล สายตาของทุกคนมองไปยังสตรีทั้งสองที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ไทเฮาหลับตาลงด้วยความเหน็ดเหนื่อย แล้วลืมตาขึ้นอีกขึ้นด้วยดวงตาที่แน่วแน่ “ฝ่าบาท เซียวฉุนเอ่ยจริงหรือไม่เพคะ การสวรรคตของอดีตฮ่องเต้และเสด็จพ่อของท่าน…”
เซียวเชียนเยี่ยรีบเอ่ย “เสด็จแม่ ท่านอย่าฟังคนทรยศผู้นี้เอ่ยเหลวไหล เขาใส่ร้ายเรา!”
ไทเฮาพยักหน้าแล้วเอ่ย “เอาล่ะ ในเมื่อท่านเอ่ยเช่นนี้เสด็จแม่ต้องเชื่อท่านอยู่แล้ว เสด็จแม่จะได้มีหน้าไปพบกับเสด็จปู่และเสด็จพ่อของเจ้า” เอ่ยจบ ไทเฮาก็พุ่งเข้าไปยังดาบในมือขององครักษ์ที่อยู่ข้างหลังอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“เสด็จแม่”
“ไทเฮา”
ฟิ้ว
มีลมพุ่งเข้ามาปะทะ ดาบในมือขององครักษ์ถูกปัดกระเด็นออกไปทันที ถึงแม้ลำคอของไทเฮาจะมีรอยแผลแต่นางยังมีชีวิตอยู่ เซียวเชียนเยี่ยตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น เห็นว่าไทเฮาไม่เป็นอันใด ก็หายใจเข้าด้วยความโล่งอก ทว่าไม่รู้ว่าจะดีใจหรือผิดหวัง
เซียวฉุนกวาดตามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ก้มหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ เว่ยซื่อจื่อ ในเมื่อมาแล้วยังจะหลบๆ ซ่อนๆ ทำไมกัน”
ร่างสองร่างเหาะลงมาจากหลังคาไกลๆ ราวกับนกสองตัวที่โบยบินในยามค่ำคืน
“พวกเจ้าจริงๆ ด้วย วันเช่นนี้จะขาดซิงเฉิงจวิ้นจู่กับเว่ยซื่อจื่อได้เยี่ยงไร” เซียวฉุนหัวเราะ
หนานกงมั่วยืนข้างเว่ยจวินมั่ว ยิ้มบางๆ “ท่านอ๋องชมเกินไปแล้ว ที่จริงพวกเราไม่ได้อยากวิ่งไปวิ่งมายามค่ำคืนเช่นนี้เพคะ น่าเสียดาย…ท่านอ๋องไม่ให้โอกาสพวกเราพักผ่อนอยู่ที่เรือน” เซียวฉุนเอ่ย “จวิ้นจู่กล่าวเกินไปแล้ว หากพวกเจ้าไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น ใครจะห้ามพวกเจ้าได้ ตอนนี้…พวกเจ้าจะอยู่ข้างใครอย่างนั้นหรือ”
“มั่วเอ๋อร์!” หนานกงไหวเอ่ยเสียงเคร่งขรึม
หนานกงมั่วหลับตาลงแล้วยิ้มเล็กน้อย “แต่งงานออกเรือนไปแล้วต้องเชื่อฟังสามี ท่านพี่อยู่ฝั่งไหน ข้าก็ต้องอยู่ฝั่งนั้น”
“จวิ้นจู่ช่างเป็นแบบอย่างชายาที่ดี” เซียวฉุนเย้ยหยัน
เว่ยจวินมั่วมองดูสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้าเงียบๆ เอ่ย “ไม่รู้ว่าฝ่าบาทและผิงชวนจวิ้นอ๋องจะแก้ไขสถานการณ์เช่นไร อีกเพียง…หนึ่งชั่วโมง ก็จะถึงเวลาราชสำนักเช้าแล้ว”
เซียวฉุนยิ้มหยัน “ราชสำนักเช้าหรือ อีกหนึ่งชั่วโมงหากข้ายังจัดการเซียวเชียนเยี่ยไม่ได้ หรือข้าพ่ายแพ้ เกรงว่าราชสำนักเช้าคงจะมีคนรอดชีวิตไม่มากนัก”
“ท่านอ๋องมีแผนจริงๆ ด้วย ทำร้ายขุนนางในราชสำนักอย่างนั้นหรือ”
“ในเมื่อไร้ประโยชน์ต่อข้า เช่นนั้นก็ไปตายเสียให้หมด!” เซียวฉุนยิ้มชั่วร้าย
หนานกงมั่วถอนหายใจแล้วไม่เอ่ยสิ่งใดอีก
หนานกงไหวมองไปยังหนานกงมั่ว เอ่ยว่า “มั่วเอ๋อร์ ข้าคือบิดาของเจ้า” หนานกงมั่วยิ้มบาง “ถูกต้อง แต่ว่า…ท่านพ่อ ข้าจะเสียสละชีวิตของตัวเองให้ท่านได้เช่นไรเจ้าคะ”
“เจ้าคิดว่า หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น เซียวเชียนเยี่ยจะปล่อยเจ้าไปเช่นนั้นหรือ” หนานกงไหวกัดฟันเอ่ย
เซียวเชียนเยี่ยไม่มีทางปล่อยนางไปแน่นอน ไม่ได้เกี่ยวกับหนานกงไหว แต่ว่า… “หากข้าช่วยท่าน คืนนี้ข้าต้องซวยแน่นอน”
หนานกงไหวเอ่ย “หากเจ้าช่วยข้า พวกเราต้องหนีออกไปจากวังหลวงได้แน่นอน ใครจะหยุดเราได้”