หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 522 ความจริงที่ตระกูลเมิ่งถูกกวาดล้าง

ตอนที่ 522 ความจริงที่ตระกูลเมิ่งถูกกวาดล้าง

ตอนที่ 522 ความจริงที่ตระกูลเมิ่งถูกกวาดล้าง

หนานกงมั่วพิจารณามองหนานกงไหวตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับกำลังคิดว่าเขาเอ่ยจริงหรือล้อเล่น จากนั้นจึงส่ายหน้า “ขอโทษท่านพ่อด้วย ข้าทำไม่ได้เจ้าค่ะ”

“ว่าไงนะ”

หนานกงมั่วหยิบจดหมายออกมาจากแขนเสื้อ ถอนหายใจ “ว่ากันว่าเสือร้ายไม่กินลูกตัวเอง แต่เกรงว่าท่านพ่อแม้แต่เสือร้ายก็สู้ไม่ได้ คนเช่นนี้จะให้ข้าเชื่อท่านได้เยี่ยงไร” เห็นจดหมาย สีหน้าของหนานกงไหวพลันเปลี่ยนไป มองหนานกงมั่วด้วยสายตาเย็นชา ได้ยินบทสนทนาของหนานกงไหวสองพ่อลูก เซียวเชียนเยี่ยก็ยิ้มขึ้นมาได้บ้าง “เว่ยซื่อจื่อ ซิงเฉิงจวิ้นจู่ ช่วยเราจัดการคนทรยศทั้งสอง เราจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างงาม”

เชื่อคำเอ่ยของราชวงศ์ ไม่สู้เชื่อว่าบนโลกใบนี้มีผียังจะดีเสียกว่า

หนานกงมั่วหัวเราะแห้งในใจ จากนั้นก็เงยหน้ามองเว่ยจวินมั่ว

เว่ยจวินมั่วยืนกุมมือนาง อาภรณ์สีน้ำเงินพริ้วไสวแผ่วเบาท่ามกลางสายลมหนาว บนใบหน้างดงามมีเพียงความเย็นชาอันเงียบสงัด “ฝ่าบาทหมายความว่าให้กระหม่อมกับอู๋สยาจัดการทุกคนเช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”

หืม เซียวเชียนเยี่ยเอ่ยไม่ออก รู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ยอดฝีมือสองคนก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ ถึงแม้คนของสำนักวังจื่อเซียวจะมาในตอนนี้ ก็คงเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้ อย่างมากที่สุดก็แค่สามารถกำจัดศัตรูทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่า…ไทเฮาและฮองเฮา…เซียวเชียนเยี่ยไม่มีทางออกคำสั่งโดยไม่สนใจชีวิตของพวกนางทั้งสอง

ทันใดนั้น สถานการณ์ก็ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน มีเสียงต่อสู้ดังมาจากนอกวังหลวงเบาๆ หนานกงไหวและเซียวฉุนมีสีหน้าดีใจ เห็นได้ชัดว่าคนที่พวกเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้ากำลังลงมือแล้ว

“เกิดอันใดขึ้น” เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว

หยวนชุนขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหัวใจของเขาก็เต้นแรง มองไปยังหนานกงไหวด้วยสายตาราวกับสายฟ้าฟาดแล้วจึงเอ่อย “กองปัญจทิศคุ้มกันเมือง คือคนของเจ้าอย่างนั้นหรือ”

ใบหน้าอันเคร่งขรึมของหนานกงไหว ในที่สุดก็มีสีหน้าภาคภูมิใจ ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ถูกต้อง ผู้บัญชาการกองปัญจทิศคุ้มกันเมือง…เคยเป็นลูกน้องข้า และที่สำคัญก็คือข้าเคยช่วยชีวิตเขา ด้วยตำแหน่งที่เป็นถึงผู้บัญชาการกองปัญจทิศคุ้มกันเมือง รวมกับตราสัญลักษณ์ของข้า และตราประทับของผู้สำเร็จราชการแทน อยากควบคุมกองปัญจทิศคุ้มกันเมือง ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด”

เซียวเชียนเยี่ยและคนอื่นๆ สีหน้าแย่ลง แต่ในไม่ช้าหนานกงไหวก็หัวเราะไม่ออก มีเสียงดังมาจากข้างนอก “แต่ก็อาจไม่ได้ง่ายเช่นที่คิดนะขอรับ ท่านพ่อ”

ภายใต้ร่มเงาของวังหลวงที่ตั้งสูงตระหง่าน เงารูปร่างเพรียวบางและสูงโปร่งเดินเข้ามาทางฝูงชนเพียงลำพัง หนานกงชวี่ผู้ที่ไม่เคยโดดเด่น ถึงแม้เขาจะเป็นลูกชายคนโตของฉู่กั๋วกง แล้วยังเป็นสายเลือดเดียวที่หลงเหลืออยู่ของตระกูลเมิ่ง แต่มารดาของเขากลับเสียชีวิตไปเร็วนัก หนานกงไหวก็มิใช่คนที่รักและเอ็นดูลูกชายตัวเอง ดังนั้นหนานกงชวี่จึงไม่เคยมีโอกาสถูกเลี้ยงให้เป็นลูกผู้ลากมากดีที่เย่อหยิ่งในเมืองจินหลิงเลย

ทว่าในยามนี้ ไม่มีใครดูถูกหนานกงชวี่ แม้เขาจะสวมเสื้อสีน้ำเงินธรรมดาเช่นเดิม แม้แต่ทรงผมและรูปลักษณ์หน้าตาก็ไม่ต่างไปจากเดิม ภายใต้แสงจันทร์ อาภรณ์คลุมสีเทาทำให้ใบหน้าสง่างามของเขาซีดขาว

“เจ้าอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร” หนานกงไหวเบิกตากว้างราวกับเห็นคนที่น่ากลัว

หนานกงชวี่ก้มหน้าลง เดินเข้ามายืนอยู่ไม่ไกลจากเซียวเชียนเยี่ย เห็นการมาของหนานกงชวี่แล้ว เซียวเชียนเยี่ยก็อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย เอ่ยอย่างเย็นชา “ฉู่กั๋วกง ถึงแม้เจ้าจะอยากเป็นขุนนางกบฏ ทว่าลูกชายของเจ้ากลับจงรักภักดี สมแล้วที่เป็นทายาทของตระกูลเมิ่ง”

เส้นเลือดใหญ่บนหน้าผากของหนานกงไหวกระตุกเกร็ง

เซียวเชียนเยี่ยไม่ใส่ใจ เอ่ยว่า “ขุนนางหนางกง เมื่อครู่เจ้าหมายความว่าเช่นไร”

หนานกงชวี่ยื่นมือออกไป ในมือมีตราสัญลักษณ์ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์ย่อมไม่รู้จักว่ามันคือสิ่งใด ทว่าเซียวเชียนเยี่ยที่เป็นหวงจั่งซุนนั้นพอจะรู้อยู่บ้าง นั่นคือตราสัญลักษณ์ส่วนตัวของหนานกงไหว หนานกงชวี่เอ่ยอย่างเรียบเฉย “ท่านพ่อประมาทเกินไปแล้วขอรับ”

หนานกงไหวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ตราสัญลักษณ์ของข้าไปอยู่ในมือของเจ้าได้เยี่ยงไร” หนานกงไหวคิดไม่ถึงว่าหนานกงชวี่จะมีความสามารถเพียงนี้ ไม่แค่สามารถบอกให้เฉียวเย่ว์อู่ไปขโมยของในห้องหนังสือของเขา แล้วยังสามารถขโมยตราสัญลักษณ์ของเขามาได้ด้วย หนานกงชวี่เอ่ยอย่างใจเย็น “เพราะว่า… ในจวนฉู่กั๋วกง ยังมีคนที่เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ แล้วอีกอย่าง ในฐานะลูกชายคนโตของจวนฉู่กั๋วกง อยากหยิบสิ่งของใดในจวน ย่อมมิใช่เรื่องยากเย็นเพียงนั้น “ เหตุผลที่เฉียวเย่ว์อู่ไปขโมยกล่องไม้จันทน์สีเขียว ไม่ใช่เพราะเขาไปเอาเองไม่ได้ ทว่าเพราะเขาอยากหลอกใช้เฉียวเย่ว์อู่และหนานกงซู อีกทั้งเพื่อทำให้หนานกงไหวไม่สงสัย ทว่าวันนี้เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว หนานกงไหวจะสงสัยหรือไม่ย่อมมิใช่เรื่องสำคัญอีก

“ข้าประเมินเจ้าต่ำไป” หนานกงไหวกัดฟัน เขาประเมินบุตรชายผู้นี้ต่ำเกินไปจริงๆ เขาเงียบและสุขุมมาตั้งหลายปี ทำให้ตัวเองคิดว่าเขาเป็นคนรู้ความและควบคุมง่าย ทว่าจริงๆ แล้วเขาคือคนที่ซ่อนอยู่ในจวนฉู่กั๋วกง ไม่มีตราสัญลักษณ์ คนของกองปัญจทิศคุ้มกันเมืองไม่มีทางเคลื่อนไหว เช่นนั้น…เสียงข้างนอก…

“คนของกองปัญจทิศคุ้มกันเมืองได้รับคำสั่งของท่านพ่อแล้ว ดังนั้นตอนนี้พวกเขากำลังร่วมมือกับคนของหยาเหมินเขตอิ้งเทียนและค่ายเมืองหลวง ออกไปล้อมรอบกองทัพของท่านพ่อและผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่นอกวังหลวงแล้วขอรับ” หนานกงชวี่เอ่ยอย่างเฉยเมย

เห็นท่าทีโมโหของหนานกงไหวและเซียวฉุนแล้ว แม้แต่เซียวเชียนเยี่ยเองก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอกหนานกงชวี่ว่าทำได้ดีทีเดียว

เซียวเชียนเยี่ยท่าทางพอพระทัย “ทำได้ไม่เลว หลังจากเรื่องนี้…เรารับรองว่าตำแหน่งบรรดาศักดิ์ฉู่กั๋วกงจะเป็นของเจ้า”

หนานกงชวี่ยิ้มบาง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใส่ใจ ทว่าเพียงไม่รู้ว่าเขาไม่สนใจจวนฉู่กั๋วกงหรือไม่เชื่อวาจาของเซียวเชียนเยี่ยกันแน่

เซียวฉุนโมโหจนแทบบ้า เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดึงหนานกงไหวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเรื่องทั้งหมดก็พังเพราะหนานกงไหว นี่คือการสูญเสียใช่หรือไม่

“สหายหนานกง เจ้าช่างมีลูกชายที่ประเสริฐเสียจริ!” เซียวฉุนประชดประชัน

“เจ้าลูกเนรคุณ!” หนานกงไหวกัดฟัน

หนานกงชวี่ไม่ใส่ใจว่าหนานกงไหวจะเอ่ยอันใด เพียงเอ่ยตอบอย่างใจเย็น “ท่านพ่อ หยุดเถิดขอรับ”

“หยุดหรือ” หนานกงไหวราวกับได้ยินเรื่องตลก เอ่ยเสียงหยัน “หยุดเยี่ยงไร เจ้าไม่สู้ถามเซียวเชียนเยี่ยที่อยู่ข้างเจ้า หากข้าหยุด เขาจะปล่อยข้าไปหรือไม่” เซียวเชียนเยี่ยเงียบ บางครั้งความเงียบก็คือคำตอบอย่างหนึ่ง

“เจ้าเป็นบุตรชายของข้า เจ้าคิดว่าหากข้าตายไปแล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อันใด” หนานกงไหวจ้องมองหนานกงชวี่ “ฮุยเอ๋อร์ย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว หนานกงมั่วก็แต่งงานออกเรือนไปแล้ว ถึงแม้จะเกิดอันใดขึ้นกับข้าก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขา แต่เจ้าเล่า เจ้าคิดว่าฝ่าบาทจะไม่สืบสาวเอาความเพราะเห็นแก่ที่เจ้าจงรักภักดีเช่นนั้นหรือ ความเป็นพ่อลูก ถึงแม้ตระกูลจะถูกกวาดล้างไป หึๆ เจ้าคิดว่าขุนนางในราชสำนักจะปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ”

“อย่างนั้นแล้วจะทำไม” หนานกงชวี่เอ่ยอย่างเย็นชา

หนานกงไหวตกใจ มองหนานกงชวี่ด้วยสายตาสับสนและงุนงง เขาคิดว่าที่หนานกงชวี่เกลียดเขาเป็นเพราะเรื่องตำแหน่งบรรดาศักดิ์และเขาลำเอียงเข้าข้างแม่ลูกตระกูลเฉียว ทว่ายามนี้ท่าทีของหนานกงชวี่กลับทำให้เขาไม่แน่ใจแล้ว

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท