หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 536 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็วางใจแล้ว (3)

ตอนที่ 536 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็วางใจแล้ว (3)

ตอนที่ 536 พวกเขาดูไม่สบายนัก ข้าก็วางใจแล้ว (3)

หนานกงมั่วหันกลับมามองเขา ยิ้มจนตาหยี “อ้อ มาดูว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

“เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเป็นเยี่ยงไร” จิ้นจั๋วเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

“เห็นว่าพวกเขาไม่สบายนัก ข้าก็วางใจแล้ว” หนานกงมั่วเอ่ยตอบท่าทางจริงจัง

“ชั่วร้าย”

“น้อมรับคำชม” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“คารวะจวิ้นจู่” ห่างออกไปไม่ไกล องครักษ์วังหลวงไม่กี่คนเดินเข้ามา แสดงความเคารพ หนานกงมั่วเลิกคิ้วถาม “มีเรื่องอันใด”

คนที่เป็นหัวหน้าเอ่ย “ฝ่าบาทเชิญจวิ้นจู่เข้าวังขอรับ”

“เรื่องอันใดหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถาม ชายหนุ่มท่าทีลำบากใจ “เอ่อ…ข้าน้อยไม่ทราบ แต่ยามนี้คุณชายเว่ยเองก็อยู่ในวังขอรับ”

หนานกงมั่วพยักหน้า “เอาล่ะ เจ้านำทางไปเถิด”

“จวิ้นจู่เชิญขอรับ”

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่ตกใจเลยแม้เพียงนิด” เดินเคียงข้างหนานกงมั่ว จิ้นจั๋วเอ่ยกระซิบ หนานกงมั่วเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “มีอันใดน่าตกใจ ยามนี้…เรื่องราวทั้งหมดจบลงแล้ว ตาเฒ่าเต่าหดหัวอยู่ในกระดองเหล่านั้นหากไม่ให้พวกเขาออกมากระโดดโลดเต้นสักหน่อยจะแสดงถึงการมีอยู่ของพวกเขาได้อย่างไรกัน”

“เจ้ารู้ว่าเพราะเหตุใดอย่างนั้นหรือ”

หนานกงมั่วเพียงอือออตอบรับ ไม่ได้เอ่ยตอบอีก จิ้นจั๋วเองก็ไม่ใส่ใจ อย่างไรเขาเพียงรับหน้าที่ดูแลความปลอดอภัยของหนานกงมั่วเท่านั้น นี่เป็นเรื่องสบายๆ เพราะคุณหนูใหญ่หนานกงเดิมก็ไม่ต้องการการคุ้มกันอันใด ทว่าเช่นนี้ยังสามารถทำให้เว่ยจวินมั่วติดหนี้เขาได้ ไม่มีเรื่องใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว

องครักษ์ที่เดินตามหลังก้มหน้าก้มตาไม่เอ่ยสิ่งใด พวกข้าไม่ได้ยินอันใดทั้งสิ้น

ห้องทรงอักษรมีคนมากมายยืนอยู่อย่างหาได้ยาก กลุ่มชายชราอายุห้าสิบปีเป็นอย่างน้อยกับคุณชายเว่ยผู้งามสง่าและหล่อเหลาอายุราวยี่สิบต้นๆ กระทั่งยังมีชายหนุ่มอีกไม่กี่คนอยู่ด้วย ความรู้สึกถึงการมีตัวตนช่างน้อยนิดยิ่งนัก ชายชราที่วางท่าทางมีคุณธรรมเหล่านี้กลายเป็นฉากหลังไปเสียแล้ว

เซียวเชียนเยี่ยนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรด้านหน้า มองดูความวุ่นวายในห้องทรงอักษรอยู่เงียบๆ ส่วนใหญ่ทอดสายตามองไปยังเว่ยจวินมั่วที่อยู่เงียบราวกับกำลังคิดอันใดอยู่

เซียวเชียนเยี่ยกระแอมไอ ทุกคนเงียบลงในบัดดล แล้วจึงเอ่ย “จวินมั่ว เมื่อครู่ข้ากับบรรดาขุนนางได้หารือกันถึงการตัดสินหนานกงไหวแล้ว”

เว่ยจวินมั่วมองเซียวเชียนเยี่ยเงียบๆ เซียวเชียนเยี่ยจึงจำต้องตอบเอง “หนานกงไหวสมคบคิดกบฏ ตามหลักแล้วต้องสังหารเก้าชั่วโคตร เพียงแต่ข้าพึ่งขึ้นครองบัลลังก์ ด้วยเมตตาธรรม อีกทั้งหนานกงไหวยังเคยมีความดีความชอบเคยติดตามอดีตฮ่องเต้ร่วมก่อตั้งประเทศ จึงทำเพียงถอดตำแหน่งฉู่กั๋วกง คนที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้จะถูกประหารชีวิต บ่าวไพร่ทั้งหมดตระกูลหนานกงขายออกให้หมด นอกจากนี้ตระกูลเมิ่งเคยช่วยเหลืออดีตฮ่องเต่มีคุณงามความดี ปกป้องชีวิตของเมิ่งฮูหยินหนานกงฮูหยิน หนานกงฮุยแยกเรือนออกไปแล้ว ยามนี้ไปอยู่ชายแดนกับท่านแม่ทัพกุยฮว่าไม่ถือเอาความ หนานกงชวี่คอยช่วยเหลือข้าก็ไม่ถือสาเอาความ…”

“ฝ่าบาท ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ” เซียวเชียนเยี่ยยังไม่ทันเอ่ยจบ ด้านล่างพลันมีคนก้าวออกมาพร้อมเอ่ยขึ้นเสียงหนัก “ทูลฝ่าบาท เรื่องของหนานกงชวี่ยังต้องหารือกันอีกนะพ่ะย่ะค่ะ”

เห็นชัดว่าเซียวเชียนเยี่ยคิดไม่ถึงว่าจะมีคนต่อต้านทว่าไม่โกรธ เอ่ยถามอย่างใจเย็น “ท่านโจวมีอันใดชี้แนะอย่างนั้นหรือ”

โจวเซียงประสานมือขึ้นมาน้อมคำนับ เอ่ยเสียงดัง “หนานกงมั่วทำลายครอบครัวเพื่อเห็นแก่ความชอบธรรมเป็นความจงรักภักดี แต่ว่า…บุตรทรยศบิดา ไม่เรียกว่ากตัญญู หนานกงไหวผู้นี้จริงอยู่มีความผิด แต่เขายังมีบุญคุณที่เลี้ยงดูหนานกงชวี่มา หนานกงชวี่ไม่เกลี้ยกล่อมบิดา ซ้ำยังรวบรวมหลักฐาน แอบรายงานต่อฝ่าบาท เห็นได้ว่าเขาไร้มนุษยธรรม อาณาจักรเซี่ยปกครองด้วยความภักดีและกตัญญู คนอกตัญญูเช่นนี้จะให้อภัยได้เยี่ยงไร”

เซียวเชียนเยี่ยชะงัก ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ว่าท่าน เรื่องการกบฏของเซียวฉุน หนานกงชวี่มีคุณงามความดีใหญ่หลวง”

โจวเซียงโบกปัดมือ เอ่ย “ภักดีต่อฝ่าบาทเป็นเรื่องภายใน แต่ไม่เพียงพอจะลบล้างความผิดอกตัญญูนี้ของหนานกงชวี่ได้ หากใครๆ ต่างก็ทำเช่นนี้ โลกใบนี้ยังจะมีคำว่ากตัญญูอยู่อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเชียนเยี่ยเงียบลง ความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากละเว้นโทษหนานกงชวี่มากนัก เรื่องนี้หนานกงชวี่ทำเพื่อเขา หากไม่ม้าใจเลยก็คงน่าปวดใจ เห็นได้ชัดว่าโจวเซียงนั้นรู้จักเซียวเชียนเยี่ยเป็นอย่างดี เพียงไม่กี่ประโยคก็แก้ไขความลำบากใจของเขาได้ หากปล่อยหนานกงชวี่ไป เช่นนั้นโลกใบนี้ก็คงมีข้ออ้างทำลายครอบครัวเพื่อคุณธรรมอย่างนั้นหรือ

เซียวเชียนเยี่ยครุ่นคิด เอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หนานกงชวี่ก็ผ่อนโทษหนักเป็นเบาเถิด จวินมั่ว เจ้ามีความเห็นเช่นไร”

เว่ยจวินมั่วหลุบตาลง เอ่ยเสียงเรียบ “แน่นอนว่าเป็นไปตามพระประสงค์ของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” เขาคงไม่คิดว่าเซียวเชียนเยี่ยเรียกเขามาเพื่อฟังว่าจะตัดสินหนานกงชวี่อย่างไรหรอก เรื่องสำคัญนั้นอยู่ด้านหลัง

เซียวเชียนเยียนหัวเราะพึงพอใจ เอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หนานกงชวี่ก็เนรเทศหนึ่งพันลี้เถิด นอกจากนี้ จวินมั่ว…ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยากหารือเรื่องซิงเฉิงจวิ้นจู่”

เว่ยจวินมั่วเงยหน้าขึ้นมา “อู๋สยาหรือ นางมีเรื่องอันใดพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเชียนเยี่ยยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด หันหมิ่นที่อยู่ด้านข้างก็อดใจรอไม่ไหว เอ่ยขึ้น “คุณชายเว่ย ซิงเฉิงจวิ้นจู่เป็นบุตรีคนโตของหนานกงไหว ตามหลักแล้วต้องถูกจับขังคุกไปด้วย ถึงฝ่าบาทจะมีเมตตา เกรงว่าคงยากจะเลี่ยงโทษเนรเทศนี้ไปได้” เว่ยจวินมั่วเงยหน้าขึ้น มองไปยังขุนนางที่อายุกว่าครึ่งร้อยตรงหน้า เอ่ยเสียงเย็น “อู๋สยาเป็นจวิ้นจู่ที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้ง ฐานะสูงส่ง ใต้เท้าหันคิดอยากจะเนรเทศก็เนรเทศได้หรือ นอกจากนี้ อู๋สยาออกเรือนมานานแล้ว ฝ่าบาทเองก็มิได้ตรัสว่าความผิดของหนานกงไหวเป็นโทษเก้าชั่วโคตรนี่”

หันหมิ่นถูกดักทางจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำทะมึน เอ่ยเสียงสูง “หนานกงมั่วก็ยังมีความผิด แล้วจะเป็นสะใภ้ขององค์หญิงฉังผิง เชื้อพระวงศ์ได้เยี่ยงไร”

“เจ้าต้องการอย่างไร” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถาม

หันหมิ่นเชิดหน้าขึ้น เอ่ย “ขอคุณชายเว่ยละทิ้งสตรีผู้มีโทษติดตัว เพื่อเป็นเกียรติต่อเชื้อพระวงศ์”

ได้ยินเช่นนั้น เซียวเชียนเยี่ยหัวใจสั่นไหว ไม่รู้คิดเช่นไรจึงไม่ได้เอ่ยปากห้ามหันหมิ่น

“ละทิ้งอย่างนั้นหรือ” เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว เอ่ยเน้นชัดเพียงสองคำก็ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว บรรดาขุนนางผู้น้อยรู้สึกชื่นชมอยู่ในใจ สมแล้วที่เป็นขุนนางที่เคยล่วงเกินแม้กระทั่งอดีตฮ่องเต้ เผชิญหน้ากับความเยือกเย็นของคุณชายเว่ยยังไม่สะทกสะท้าน

แน่นอนใช่ว่าหันหมิ่นจะไม่สะทกสะท้าน เพียงแต่ประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมายังหนักกว่าเรื่องเล็กเท่าเส้นขนนี้มาก บวกกับแนวความคิดแปลกๆ จึงไม่หวาดกลัวต่อท่าทางไร้ความปรานีของเว่ยจวินมั่ว ความแน่วแน่นี้แม้แต่เซียวเชียนเยี่ยที่เป็นฮ่องเต้เกรงว่าคงไม่มี

“นั่นเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว” หันหมิ่นเอ่ย “แม้ซิงเฉิงจวิ้นจู่จะเคยเป็นที่โปรดปรานของอดีตฮ่องเต้ ทว่าตอนนี้นางมีความผิด ทรยศต่อความเมตตาของฝ่าบาท ควรเข้าวัดสวดมนต์เพื่อชำระล้างความผิด”

“ใต้เท้าหัน จวิ้นจู่อย่างข้ามีความแค้นอันใดกับท่านหรือไม่ จึงทำให้ท่านต้องมากำหนดชีวิตแทนข้าเช่นนี้” ทางด้านนอก เสียงเย็นของหนานกงมั่วดังขึ้น องครักษ์เข้ามารายงาน “ฝ่าบาท ซิงเฉิงจวิ้นจู่ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” เซียวเชียนเยี่ยพยักหน้า “เชิญซิงเฉิงจวิ้นจู่เข้ามา”

หนานกงมั่วท่าทางนิ่งสงบ เดินมาจากด้านนอก หยุดยืนอยู่ด้านข้างเว่ยจวินมั่ว “หนานกงมั่วถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”

“ซิงเฉิงจวิ้นจู่ไม่ต้องมากพิธี” เซียวเชียนเยี่ยรีบเอ่ย

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน