หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 532 ตัวเบี้ยที่ถูกทอดทิ้ง เยี่ยมนักโทษ (1)

ตอนที่ 532 ตัวเบี้ยที่ถูกทอดทิ้ง เยี่ยมนักโทษ (1)

ตอนที่ 532 ตัวเบี้ยที่ถูกทอดทิ้ง เยี่ยมนักโทษ (1)

ทุกคนหันไป คู่สามีภรรยาเดินจูงมือเคียงคู่กันออกมา หนานกงมั่วยืนอยู่ข้างเว่ยจวินมั่ว อาภรณ์สีครามคล่องแคล่ว รอยยิ้มเบิกบานราวกับดอกไม้ ดวงตาคู่สวยคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มมองหร่วนอวี้จือผู้ทรงคุณธรรม

หร่วนอวี้จือเบิกตากว้าง ราวกับลำคอพึ่งกลืนไข่ไก่ลงไปหนึ่งฟอง มองสองคนที่เดินเข้ามาหน้าแดงขึ้นมาพูดไม่ออกอยู่ชั่วขณะ ไหนเลยจะมีความยโสโอหังดังเช่นเมื่อครู่ ไม่ใช่เพราะว่าเขากลัวหนานกงมั่ว แต่เขาคาดไม่ถึงว่ายามนี้แล้วหนานกงมั่วยังคงสบายๆ ดูท่าทางสูงส่งอยู่แบบนี้ได้

ในความคิดของหร่วนอวี้จือ หนานกงมั่วที่เป็นจวิ้นจู่ผู้สูงส่งทว่ากลับกลายมาเป็นหญิงกบฏ นางคงสิ้นหวังไร้หนทาง ร้องห่มร้องไห้ สิ่งที่คิดและความเป็นจริงช่างแตกต่างทำให้เขาไม่ทันได้สติกลับมา

หนานกงมั่วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าหร่วน ท่านยังไม่ตอบคำถามของจวิ้นจู่อย่างข้าเลย ท่าน คิด จะทำเยี่ยงไรกับข้าหรือ”

ถูกสายตาเย้ยหยันของหนานกงมั่วมองมา คนของศาลต้าหลี่และกรมการตรวจตราที่มาด้วยกันต่างพร้อมใจก้มหน้าและก้าวถอยหลังไปกว่าครึ่งก้าว ดังนั้นจึงกลายเป็นหร่วนอวี้จือยืนอยู่ด้านหน้าสุด ทำให้คนที่มองเข้าใจได้ว่าเรื่องในวันนี้มีเขาเป็นผู้นำ แน่นอน…ความจริงแล้วก็ไม่ได้ผิดไปจากนั้นเลย

หร่วนอวี้จือยิ้มหยัน เชิดปลายคางขึ้น เอ่ย “หนานกงมั่ว หนานกงไหวถูกจับกุมข้อหากบฏ ตอนนี้ฝ่าบาทจับกุมตัวเอาไว้แล้ว เจ้าผู้เป็นบุตรีเชื้อสายหลักคนโตของหนานกงไหวจึงยากที่จะหลุดพ้นไปได้ ต้องกลับไปรับการไต่สวนที่ศาลต้าหลี่กับข้า”

“บังอาจนัก” หนานกงมั่วยิ้มเย็น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อยิ่งเสียยิ่งกว่าหร่วนอวี้จือ “ข้าเป็นจวิ้นจู่ที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้ง ขอเพียงฝ่าบาทไม่เคยถอดตำแหน่งเลยแม้เพียงวันเดียว ข้าก็ยังเป็นจวิ้นจู่แห่งอาณาจักรเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ เป็นเพียงเส่าชิงแห่งศาลต้าหลี่กล้าเอ่ยเรียกชื่อข้า ใครใช้ให้เจ้ามีความกล้าถึงเพียงนี้”

แน่นอนหร่วนอวี้จือไม่มีทางตื่นตกใจง่ายๆ มองหนานกงมั่วด้วยสายตาเหยียดหยาม เอ่ยเสียงเย็น “ใกล้ตายแล้วยังปากดีอีก”

เจ้าหน้าที่ด้านข้างต่างหน้าซีดเผือด หวาดกลัวจนตัวแทบหดหายไปแล้ว ในใจลอบด่าหร่วนอวี้จือ ตัวเองอยากรนหาที่ตายยังพาพวกเขามาด้วย จะล่วงเกินซิงเฉิงจวิ้นจู่ได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ เห็นหนานกงไหวถูกจับกุมไปแล้วฝ่าบาทยังไม่เอ่ยถึงซิงเฉิงจวิ้นจู่แม้เพียงครึ่งคำ ไม่ต้องเอ่ยถึงซิงเฉิงจวิ้นจู่มีคุณงามความดี อดีตฮ่องเต้แต่งตั้งขึ้นเป็นจวิ้นจู่ เอ่ยถึงเยี่ยนอ๋อง ฉีอ๋อง องค์หญิงฉังผิง คนไหนจะล่วงเกินได้ง่ายๆ ในตอนที่พวกเขายังไม่มีท่าทีใดๆ ฮ่องเต้เองก็ยังไม่มีรับสั่งให้ควบคุมตัวซิงเฉิงจวิ้นจู่ อย่าพึ่งกระตือรือร้นจะได้หรือไม่

สายตาเยือกเย็นของเว่ยจวินมั่วมองไปยังหร่วนอวี้จือ เนิ่นนานก่อนจะเอ่ย “ฝ่าบาทรับสั่งให้เจ้ามาควบคุมตัวอู๋สยาหรือ”

หร่วนอวี้จือไม่เรียกว่าเตี้ย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเว่ยจวินมั่วเขาก็เตี้ยกว่ามาก ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของสง่าราศีที่มีโดยชาติกำเนิด หร่วนอวี้จือพยายามเชิดหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับบุรุษตรงหน้า เอ่ยอย่างดุร้ายทว่าภายในนั้นสั่นไหว “ข้าเป็นขุนนาง แน่นอนต้องคอยแบ่งเบาภาระของฝ่าบาท”

“ดังนั้น ต่อให้เจ้าไม่มีรับสั่งก็พาคนมาบุกจวนเยี่ยนอ๋องเพื่อจับตัวชายาข้าอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของเว่ยจวินมั่วยังคงราบเรียบ คนด้านหลังของหร่วนอวี้จือก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ไม่มีรับสั่ง บุกจวนเยี่ยนอ๋อง จับตัว…พวกเขามีความกล้ามากเพียงใดจึงถูกหร่วนอวี้จือยุยงมายังจวนเยี่ยนอ๋องได้ เรื่องเช่นนี้ ต่อให้ต่อต้านเบื้องบนก็ไม่อาจทำได้

หร่วนอวี้จือกลับไม่คิดเช่นนั้น ยืดอกขึ้น เอ่ย “หนานกงไหวกบฏ ต้องรับโทษประหาร หนานกงมั่วที่เป็นบุตรีของหนานกงไหว แน่นอนต้องได้รับโทษไปด้วย ข้าเป็นขุนนางต้องแบ่งเบาภาระของฝ่าบาท เรื่องเล็กเพียงนี้ไยต้องรอให้มีรับสั่งเล่า”

“ข้าไม่รู้ว่าหนานกงไหวสมควรตายหรือไม่” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเนิบนาบ “แต่ว่าบุกรุกจวนเยี่ยนอ๋อง นั่นโทษถึงตาย เด็กๆ”

“ขอรับ” เซียวเชียนจย่งขานรับอย่างกระตือรือร้น

เว่ยจวินมั่วกวาดตามองเขาเล็กน้อย ออกคำสั่ง “เอาตัวไป ตัดหัวเสีย”

สีหน้าหร่วนอวี้จือพลันเปลี่ยน เห็นท่าทีของคนด้านข้างจึงเข้าใจทันทีว่าเว่ยจวินมั่วไม่ได้พูดเล่น มองทหารองครักษ์ที่เดินเข้าใกล้ตนมาเรื่อยๆ เอ่ยด้วยความหวาดกลัว “พวกเจ้ากล้าหรือ ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของราชสำนักนะ”

เซียวเชียนจย่งเอ่ยขึ้นท่าทางดีอกดีใจที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ “เจ้าหน้าที่ของราชสำนักอย่างนั้นหรือ บุกรุกจวนของเชื้อพระวงศ์อย่าว่าแต่เส่าชิงแห่งศาลต้าหลี่เล็กๆ เช่นเจ้าเลย ต่อให้เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก็โทษหนักไม่เบา”

“ไม่ พวกเจ้ากล้าหรือ พวกเจ้ากล้า… รีบช่วยข้า ช่วยข้าสิ…” หนึ่งในคนที่หร่วนอวี้จือพามากำลังจะก้าวขึ้นมาช่วยเขา ทว่าถูกสายตาเย็นชาของเว่ยจวินมั่วจับจ้องอยู่ ไม่รู้ทำไมเดิมทีผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องแห่งจิ้งเจียงผู้นี้มีชาติกำเนิดไม่ชัดเจน…หรือบางทีอาจมีชื่อเสียงไม่ดีเท่าใดนักทว่ากลับดูมีพลังอำนาจทำให้ผู้คนหวาดกลัว

“จวินมั่ว” หนานกงมั่วกระตุกชายเสื้อของเว่ยจวินมั่ว เอ่ยเสียงเบา

เว่ยจวินมั่วพยักหน้าเบาๆ บอกให้รู้ว่าในใจเขารู้ดี

“รายงานคุณชาย รายงานจวิ้นจู่ ซั่นจยาเซี่ยนจู่มาขอพบขอรับ” ด้านนอกประตู เสียงองครักษ์รีบรายงาน

“ไม่พบ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยปฏิเสธทันใด

ทหารองครักษ์ลังเลอยู่ชั่วครู่ เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ซั่นจยาเซี่ยนจู่…มีราชโองการจากฝ่าบาทมาด้วยขอรับ”

ราชโองการ แน่นอนว่าไม่พบไม่ได้ คนของศาลต้าหลี่และกรมการตรวจตราได้แต่ลอบถอนหายใจออกมา อดไม่ได้ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ แม้ว่าเว่ยซื่อจื่อยังไม่ได้สั่งสังหารพวกเขาทั้งหมด แต่มักรู้สึกว่าแม้วันนี้มีซั่นจยาเซี่ยนจู่มา พวกเขาก็คงไม่สามารถรอดพ้นไปง่ายๆ แน่

ในห้องโถงรับแขก จูชูอวี้รีบเดินเข้ามาพลางลอบด่าหร่วนอวี้จืออยู่ในใจ นางไม่คาดคิดว่าหร่วนอวี้จือจะบุกมาท้าท้ายเว่ยจวินมั่วและหนานกงมั่วถึงจวนเยี่ยนอ๋องโดยไม่มีรับสั่งจากฝ่าบาท ใครใช้ให้เขากล้าถึงเพียงนี้ หากไม่กลัวว่าทั้งสองจะโยนเรื่องนี้มาให้ตระกูลจู จูชูอวี้ไม่มีทางใส่ใจความเป็นความตายของหร่วนอวี้จืออย่างแน่นอน ยามนี้เก็บหร่วนอวี้จือไว้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว แม้เขาจะมีผลงานในราชสำนักบ้างแต่ก็สู้เรื่องที่เขาก่อขึ้นมาไม่ได้ ดูเหมือน…ควรตัดทิ้งได้แล้ว

จูชูอวี้อารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่ว่านางไม่ยอมปล่อยหร่วนอวี้จือ ทว่าคนในมือของนางที่ใช้การได้นั้นมีน้อยนิด ขอเพียงคนในมือนางมีเพียงพอใช้งาน หร่วนอวี้จือจะไปตายที่ใดนางจะไม่สนใจเลย

“คารวะซื่อจื่อ คารวะจวิ้นจู่” มองเห็นหนานกงมั่วสองคนเดินมา จูชูอวี้รีบลุกขึ้นทักทาย หนานกงมั่วสะบัดแขนเสื้อ เอ่ย “ซั่นจยาเซี่ยนจู่ไม่ต้องมากพิธี เซี่ยนจู่มาด้วยตนเอง ไม่รู้ว่าฝ่าบาทมีราชโองการอันใดเล่า หรือว่าคิดจับตัวหนานกงมั่วเช่นกัน” จูชูอวี้ฝืนยิ้ม “จวิ้นจู่ล้อเล่นแล้ว จวิ้นจู่และซื่อจื่อมีความดีความชอบช่วยฝ่าบาทปราบกบฏ ไหนเลยจะจับกุมเล่า”

หนานกงมั่วเลิกคิ้ว มองจูชูอวี้ด้วยรอยยิ้มขณะรอนางเอ่ยปาก

จูชูอวี้มองเว่ยจวินมั่วที่นั่งเงียบอยู่ด้านข้างชั่วครู่ ลอบถอนหายใจ เอ่ย “ฝ่าบาเกรงว่าจะเกิดเรื่องเข้าใจผิด เมื่อว่าราชการเสร็จสิ้นก็รีบออกราชโองการ ตั้งใจอภัยโทษให้จวิ้นจู่ไม่ให้ติดร่างแหไปด้วย”

หนานกงมั่วรับราชโองการมาดู วางไว้ด้านข้าง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอเซี่ยนจู่ช่วยขอบพระทัยฝ่าบาทแทนข้าด้วย”

“จวิ้นจู่เกรงใจแล้ว” จูชูอวี้เอ่ย เห็นว่าพวกหนานกงมั่วทั้งสองไม่มีท่าทีจะเอ่ยสิ่งใด จูชูอวี้จึงต้องเอ่ยด้วยตนเอง “ได้ยินว่าเมื่อครู่คนของศาลต้าหลี่และกรมการตรวจตราบุกมายังจวนเยี่ยนอ๋อง…ขอจวิ้นจู่และซื่อจื่ออย่าได้เอาความ พวกเขาเองก็…อยากช่วยแบ่งเบาภาระของฝ่าบาท” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ช่างเถิด เพียงแต่…แย่แล้ว เมื่อครู่ท่านให้คนตัดคอเขา…หร่วนอวี้จือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท