หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 527 การตายของเซียวฉุน ตัวเบี้ย (2)

ตอนที่ 527 การตายของเซียวฉุน ตัวเบี้ย (2)

ตอนที่ 527 การตายของเซียวฉุน ตัวเบี้ย (2)

มือข้างหนึ่งของเว่ยจวินมั่วคว้าไทเฮาเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีแม้แต่ความตื่นตระหนกหรือแปลกใจ ราวกับไม่ได้กำลังเผชิญหน้ากับห่าลูกธนู ทว่าราวกับเป็นลมเย็นที่พัดผ่านยามราตรี ระหว่างนั้นกระบี่อ่อนในมือพลันหมุนวนกลายเป็นดอกไม้สีเงินวิจิตรตระการตา ลูกธนูที่พุ่งเข้าหาพลันร่วงหล่นลงกับพื้นราวกับเผชิญหน้ากับเกาะกำบังที่ไร้รูปร่าง ระยะเวลาเพียงชั่วพริบตา เว่ยจวินมั่วก็พาไทเฮามาอยู่ด้านหลังโล่กำบังที่ถูกตั้งเป็นแนวได้ หนานกงมั่วรีบเข้าไปรับ “จวินมั่ว บาดเจ็บหรือไม่”

เว่ยจวินมั่ววางไทเฮาลง ส่ายศีรษะและยื่นมือไปจับมือของหนานกงมั่วเอาไว้ เอ่ยปลอบโยนเสียงเบา “ไม่เป็นไร”

หนานกงชวี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างมองทั้งสองที่ทำราวกับอยู่กันเพียงสองคน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางขึ้นมา

เห็นว่าไทเฮาปลอดภัย เซียวเชียนเยี่ยจึงถอนหายใจออกมา ทว่าเมื่อมองเว่ยจวินมั่วที่ยืนอยู่ข้างหนานกงมั่วก็รู้สึกเสียดายอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้

มักอดคิดว่าเว่ยจวินมั่วเป็นศัตรูไม่ได้ บางครั้งแม้แต่เซียวเชียนเยี่ยเองยังรู้สึกประหลาด คำสั่งสอนจากเสด็จปู่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ สถานะของเว่ยจวินมั่วอย่างไรก็ไม่อาจทำอันใดเขาได้ โน้มน้าวให้เขามาเป็นพวกมีประโยชน์กว่าการบีบเขาให้ไกลห่าง ทว่าเพียงมองเห็นเว่ยจวินมั่ว เขามักอดที่จะมองเป็นศัตรูไม่ได้ ราวกับว่า…เป็นศัตรูกันตั้งแต่กำเนิด ต้องมีสักวันไม่เจ้าตายก็ข้าตาย

และเพราะความรู้สึกเช่นนี้ เมื่อครู่เขาจึงรีบออกคำสั่งยิงธนู จนกระทั่งความปลอดภัยของมารดาตนเองก็ไม่ไยดี แน่นอนเซียวเชียนเยี่ยเองก็ไม่ได้ละเลยต่อสายตาสงสัยของทุกคนที่มองมายังเขา

“เสด็จแม่ ฮองเฮา…พวกท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” เซียวเชียนเยี่ยลุกขึ้นมา เดินเข้าไปถามไถ่ด้วยความห่วงใย

ใบหน้าของไทเฮาเรียบนิ่ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคืนนี้มีเรื่องตกใจและเหนื่อยล้าหรือว่าเพราะมีเหตุผลอื่น สีหน้าของฮองเฮาซีดขาว พิงอยู่ในอ้อมแขนของเอ้อกั๋วกง ส่ายหน้าด้วยความยากลำบาก เอ้อกั๋วกงประคองบุตรี เพราะอายุมากมือที่เคยถือดาบถือธนูจึงสั่นเบาๆ โดยไม่อาจควบคุมได้ หันไปมองหนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วที่เดินเคียงข้างกันเข้ามา เอ่ย “จวิ้นจู่ ซื่อจื่อ ขอบคุณมาก…”

หนานกงมั่วส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ท่านกั๋วกงกล่าวหนักแล้ว ฮองเฮาไม่เป็นอันใดนะเพคะ”

ฮองเฮาส่ายหน้า ฝืนยิ้มออกมา ไม่นานใบหน้าก็แสดงความเจ็บปวดออกมา “อื้อ…เจ็บ…”

หนานกงมั่วกลับไม่แปลกใจ เอ่ยเสียงเข้ม “ฮองเฮาจะคลอดแล้ว” หากผ่านเรื่องราวทั้งหมดในคืนนี้แล้วฮองเฮาสามารถอยู่รอดปลอดภัยโดยไม่เกิดอันใดขึ้นนั่นต่างหากที่เป็นเรื่องแปลก สามารถยืนหยัดมาถึงตอนนี้นั่นเป็นเพราะฮองเฮาเกิดในตระกูลแม่ทัพ ร่างกายและนิสัยจึงแข็งแกร่งก็เท่านั้น “ตามหมอหลวงเถิด”

เซียวเชียนเยี่ยพยักหน้า โบกมือออกคำสั่งให้คนพาฮองเฮาส่งไปยังด้านหน้า โดยทั่วไปพระชายาต้องคลอดอยู่วังหลัง แต่ตอนนี้วังหลังยังอยู่ในมือของเซียวฉุน ฮองเฮาจึงต้องไปยังตำหนักด้านหน้าแล้ว

ไทเฮามองเซียวเชียนเยี่ยด้วยสายตาเรียบนิ่ง เอ่ย “ฮ่องเต้ เดี๋ยวมารดาจะไปดูฮองเฮาเอง”

เซียวเชียนเยี่ยเองก็รู้ว่าเวลานี้มิใช่เวลามัวมาเอ่ยสิ่งใด จึงทำเพียงพยักหน้า เอ่ย “รบกวนเสด็จแม่แล้ว”

ไทเฮาไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อ หมุนตัวเดินตามคนที่พาฮองเฮาออกไป

องค์ชายผู้สืบทอดบัลลังก์อาณาจักร์เซี่ยที่ยิ่งใหญ่คนต่อไปกำลังจะถือกำเนิดแล้ว แต่ใบหน้าของทุกคนกลับไม่ได้มีความยินดี มาถึงยามนี้ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีอันใดต้องพูดจากันอีกแล้ว

ลิ่นฉังเฟิงเหาะลงมาจากบนหลังคา หันไปยิ้มหยันให้กับเซียวฉุน “ผู้สำเร็จราชการแทน ต้องขอโทษด้วย ทำลายแผนการของท่านอีกแล้ว”

“ลิ่นฉังเฟิง เว่ยจวินมั่ว” เซียวฉุนกัดฟัน หันกลับไปเย้ยหยันเซียวเชียนเยี่ย “ที่แท้ฮ่องเต้ก็ไร้ความสามารถถึงขั้นต้องไปร่วมมือกับคนในยุทธภพแล้ว อีกทั้งยังเป็น…ฮ่าๆ ข้าเองก็อยากรู้ หากเหล่าขุนนางผู้มีอำนาจในจินหลิงรู้ว่าบุตรชายสุดที่รักขององค์หญิงฉังผิงเป็นหัวหน้าสำนักมือสังหาร ไม่รู้จะมีท่าทีเช่นไร”

วังจื่อเซียวสังหารขุนนางของราชสำนักไปไม่น้อย ต่อให้มิใช่คนหรือเพื่อนของขุนนาง ก็หลีกเลี่ยงที่จะรู้สึกเศร้าโศกต่อการตายไม่ได้

ลิ่นฉังเฟิงเลิกคิ้ว ยิ้มจนตาหยี เอ่ย “ท่านผู้สำเร็จราชการแทนคงจะเข้าใจผิดแล้ว วังจื่อเซียวหรือ…ดูเหมือนว่าจะเป็นของข้า”

เซียวฉุนแสยะยิ้ม เอ่ย “ลิ่นฉังเฟิง เจ้ามันก็แค่ตัวละครที่เป็นตัวแทนขายชีวิตก็เท่านั้น คู่ควรมาพูดกับข้าหรือ”

ใบหน้าของลิ่นฉังเฟิงบิดเบี้ยวขึ้นมาโดยไม่อาจห้ามได้ หันไปมองหนานกงมั่วด้วยความคับแค้นใจ ไอ้แก่นี้ใกล้จะตายแล้วยังหาเรื่อง อยากต่อยเขาแรงๆ สักครั้งจริงๆ หันกลับมา คุณชายฉังเฟิงยังคงมีท่าทีร่าเริง “ข้าผู้น้อยอย่างไรก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหลายสิบปี แต่ข้าดูแล้วว่าคนใหญ่คนโตอย่างท่านอ๋อง…หึๆ”

หนานกงมั่วกุมขมับ คุณชายฉังเฟิงท่านเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใครนักหรอก

หนานกงมั่วถอนหายใจอยู่ภายใน ดังนั้นจึงบอกว่าคืนนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างนั้นหรือ แต่ไม่เป็นไร เดิมทีเซียวเชียนเยี่ยเองก็รู้เรื่องของวังจื่อเซียวอยู่แล้ว เซียวฉุนจะเอ่ยออกมาหรือไม่ก็ไม่แตกต่างอันใดมากนัก อีกทั้งเซียวเชียนเยี่ยเองรู้ดีว่าพวกเขามีวังจื่อเซียวอยู่ในมือ เวลานี้ซ่อนเอาไว้มีแต่จะทำให้เซียวเชียนเยี่ยคิดว่าพวกเขามีใจปิดบัง

“ท่านอ๋องเอ่ยถึงเรื่องพวกนี้ คิดอยากถ่วงเวลาหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถามเสียงเรียบ “ยามนี้…ถ่วงเวลาไปนานแล้วจะมีความหมายอันใดเล่า”

เซียวฉุนคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้ม มองไปยังหนานกงมั่ว “มีชีวิตอยู่ต่ออีกสักหน่อยก็นับว่าดี ยิ่งไปกว่านั้น…ข้าคิดว่าคืนนี้ข้าจะไม่ตายนะ” เซียวเชียนเยี่ยยิ้มเย็น “เซียวฉุน เจ้ายังคิดเพ้อฝันอีกหรือ ข้าบอกแล้ว…ว่าต้องมีสักวันที่จะคืนทุกอย่างกลับไปที่ตัวเจ้า”

เซียวฉุนมองไปที่เซียวเชียนเยี่ย เลิกคิ้ว เอ่ย “จะว่าไป ฝ่าบาทควรขอบคุณข้าจึงจะถูก หากไม่ใช่เพราะข้า พระองค์จะ…ได้เยี่ยงไร”

“หุบปาก” เซียวเชียนเยี่ยโกรธเกรี้ยวขึ้นมา

เซียวฉุนยักไหล่ไม่เอ่ยสิ่งใด เซียวฉุนไม่สนใจเขา หันไปเอ่ยกับหนานกงมั่วด้วยรอยยิ้ม “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ พวกเรามาคุยกันสักหน่อยเถิด เจ้ากับเว่ยซื่อจื่อปล่อยข้าไป ข้ารับรองว่า…”

“ขออภัยด้วย หม่อมฉันไม่เชื่อการรับรองใดๆ ของศัตรู” หนานกงมั่วเอ่ยตอบ

เซียวฉุนลูบจมูกเบาๆ เอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็…”

“แต่ว่า หม่อมฉันจะให้โอกาสพระองค์สักครั้งก็ได้” หนานกงมั่วเอ่ยต่อ ใบหน้าของเซียวฉุนเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา ราวกับคิดเอาไว้แล้วว่าอย่างไรหนานกงมั่วก็จะยอมทำข้อตกลง มองหนานกงมั่วด้วยรอยยิ้ม รอประโยคถัดไปของนาง หนานกงมั่วจึงเอ่ย “ข้าส่งท่านอ๋องออกไปจากวังหลวงได้ แต่ว่า…จะออกจากจินหลิงเช่นไร…”

“จะออกจากจินหลิงอย่างไรเป็นเรื่องของข้า ไม่ลำบากจวิ้นจู่เป็นกังวล” เซียวฉุนเอ่ยตอบตรงไปตรงมา

“ซิงเฉิงจวิ้นจู่” เซียวเชียนเยี่ยจ้องเขม็งไปยังหนานกงมั่ว เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจต่อการตัดสินใจเองของหนานกงมั่ว หนานกงมั่วยักไหล่ “ฝ่าบาท หากต้องการให้เลือดไหลเป็นสายน้ำหม่อมฉันไม่ขัดข้อง เพียงแต่…พระองค์เหมือนจะไม่มีเวลาแล้ว” โต้เถียงกันมานานเพียงนี้ ยามนี้ห่างจากรุ่งสางไม่มากนัก แม้เซียวเชียนเยี่ยจะสามารถเลื่อนการว่าราชการได้ แต่เซียวเชียนเยี่ยไม่มีทางห้ามไม่ให้คนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้แน่

เซียวเชียนเยี่ยหน้าตึง “ปล่อยเซียวฉุนไปไม่ได้”

“ฝ่าบาท” ในที่สุดเว่ยจวินมั่วก็เอ่ยปาก “เรื่องนี้พวกกระหม่อมจัดการแทนพระองค์ กระหม่อมนึกว่า…ได้ทำข้อตกลงกับพระองค์แล้ว”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท