ตอนที่ 543 ข่มขู่ (2)
คนคนนั้นพูดไม่ออกทันใด แน่นอนว่าไม่ใช่ ต่อให้เว่ยจวินมั่วสังหารคนสำคัญมากเพียงใด แน่นอนว่าอย่างไรก็ไม่อาจเทียบได้กับโทษกบฏ แต่ว่า…ฝ่าบาทสั่งให้เขาฟังให้ชัดเจนว่าจวิ้นจู่และคุณชายเว่ยพูดจาอันใดกัน หนานกงมั่วเม้มริมฝีปากยิ้มบาง เอ่ย “ข้ารู้ว่าท่านเองก็ฟังคำสั่งจากเบื้องบน ข้าไม่ทำให้ท่านลำบากใจ ดังนั้นเจ้าจะยืนอยู่ตรงนี้เองหรือเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับข้าแล้วให้ข้าทุบเจ้าให้สลบ”
“จวิ้นจู่ ท่านเอ่ยเช่นนี้ไม่ใช่ทำให้ข้าลำบากหรือขอรับ ข้าไม่กล้า…”
หนานกงมั่วยิ้มบาง “เจ้าดูเองแล้วกันว่าควรตอบอย่างไร ต่อให้พูดไม่ถูกข้าก็ไม่เปิดโปงเจ้าหรอก” กลิ่นที่ติดตามอยู่ด้านหลังหนานกงมั่ว ยกห่อผ้าขึ้นมาและวางลงไปในมือของเขา ชายคนนั้นเบิกตากว้าง ลังเลอยู่ชั่วครู่จึงเปิดห่อผ้าออกห่อผ้าเล็กๆ มีตั๋วเงินอยู่ เพียงมองจำนวนเงินในนั้นก็อดใจเต้นแรงขึ้นมาไม่ได้ คุกหลวงแห่งนี้ ความจริงมีค่าสินบนมาไม่บ่อยนัก อย่างอื่นไม่ต้องเอ่ยถึง นักโทษที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักโทษประหาร สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ที่จะมาเดินเล่นยามว่าง คนทั่วไปต่อให้มีเงินก็เข้ามาไม่ได้ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ใครกันจะอยากมาที่นี่ ต่อให้มาแล้ว พวกเขาก็ย่อมไม่กล้ารับเงินจากคนเหล่านั้น
หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ย “ข้าเพียงอยากคุยกับท่านพี่เพียงไม่กี่ประโยค ไม่มีเรื่องใหญ่อันใด เจ้ารีบรับไปก็พอแล้ว วางใจเถิด ข้าไม่ปล้นคุกหลวงแน่”
คนคนนั้นรู้สึกเครียดขึ้นมา ยิ้มแห้งสองครั้ง เอ่ย “จวิ้นจู่ล้อเล่นแล้ว จวิ้นจู่เชิญด้านในขอรับ” จวิ้นจู่ผู้นี้อีกทั้งคุณชายเว่ยที่ถูกขังอยู่ด้านในนั้นล้วนไม่ได้รับมือง่ายๆ เปิดทางให้ดีกว่าสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับนาง เขายังเคยได้ยินว่าในมือของคุณชายท่านนี้ยังมีสำนักมือสังหารอีกด้วย แม้แต่คนติดตามของจวิ้นจู่ดูแล้วยังมีไอสังหารแผ่ออกมา
หนานกงมั่วพยักหน้าพึงพอใจ หันกลับไปหาหลิ่ว เอ่ย “หลิ่ว เจ้าอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนใต้เท้าผู้นี้”
“เจ้าค่ะ จวิ้นจู่” หลิ่วตอบรับ
ในห้องขัง เว่ยจวินมั่วนั่งหลับตาอยู่ตรงนั้น ทว่าเซียวเชียนจย่งที่อยู่ด้านข้างกลับเดินไปเดินมา รอบขอบตาของเขาเต็มไปด้วยรอยคล้ำสีดำ เห็นชัดว่าเมื่อคืนนั้นนอนไม่หลับแต่อย่างใด ได้ยินเสียงประตูเปิดออก เซียวเชียนจย่งหันกลับไปด้วยความยินดีเป็นที่สุด “พี่สะใภ้ ท่านมาช่วยพวกข้าออกไปอย่างนั้นหรือ”
หนานกงมั่วมองสำรวจเขา เอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าช่างมีอนาคต ออกจากเรือนวันเดียวสามารถพาตัวเองมาอยู่ในคุกหลวงได้”
“พี่สะใภ้…” เซียวเชียนจย่งก้มหน้าอย่างละอายใจ หนานกงมั่วเดินมาถึงประตูห้องขัง ดึงเข็มสั้นออกมาจากปิ่นทองบนศีรษะ ทำบางอย่างกับกุญแจห้องขังอยู่ชั่วครู่ แม่กุญแจทองแดงขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงไปบนพื้น เซียวเชียนจย่งตื่นตกใจ “พี่สะใภ้ ท่านจะปล้นคุกหลวงหรือ” พี่สะใภ้เยี่ยมไปเลย ดวงตาคุณชายเซียวสามพราวระยับ
หนานกงมั่วเดินเข้ามาด้านใน เขกหัวเขาเบาๆ หนึ่งครั้ง “อย่าโง่ได้หรือไม่ ข้าโง่หรือถึงต้องเข้าวังมาปล้นคุกหลวง” หากมีเพียงนางและเว่ยจวินมั่วนางจะไม่รังเกียจเลยหากต้องแหกคุกหลวงสักครั้ง แต่ยังต้องเดือดร้อนทั้งครอบครัวกลุ่มใหญ่ หากพวกนางหนีไปแล้ว เซียวเชียนชื่อสามพี่น้องคงต้องติดอยู่ในจินหลิงไปตลอดชีวิต
เว่ยจวินมั่วลุกขึ้นมา มองหนานกงมั่ว เอ่ยเสียงเบา “อู๋สยา ลำบากเจ้าแล้ว”
หนานกงมั่วกลอกตา “เซียวเชียนจย่งข้าไม่ว่าอันใดหรอก แต่ว่าคุณชายเว่ย ท่านฝีมือโหดเหี้ยมอำมหิตมาตลอดมิใช่หรือ ไยจึงพาตัวเองเข้ามาเล่นอยู่ในคุกหลวงได้เล่า” เว่ยจวินมั่วเหลือบตามองเซียวเชียนจย่งที่น่าสงสารด้านข้าง “ถ้าข้าไม่พาตัวเองมาอยู่ที่นี่ เขาก็คงพาตัวเองไปตายแน่” เซียวเชียวจย่งก้มหน้าต่ำไม่เอ่ยอันใดอีก แน่นอนเขารู้ว่าพี่ชายมาอยู่ที่นี่เพราะเขาเอง มิเช่นนั้นพี่ชายก็สามารถหนีออกไปได้ก่อนที่คนเหล่านั้นจะพุ่งเข้ามา หากไม่ใช่เพราะเขาร้องเสียงดังด้วยความตกใจ บางที…
“อีกทั้ง เดิมทีเป้าหมายครั้งนี้ก็พุ่งมาที่ข้าอยู่แล้ว” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ นอกจากจวนคังอ๋องแล้ว เซียวเชียนจย่งก็ไม่ได้มีความแค้นหรือเป็นศัตรูกับใคร หรือแม้แต่เห็นแก่บิดาของเขา คนทั่วไปก็ไม่มีใครกล้าสร้างความลำบากให้เขาอยู่แล้ว สุดท้ายแล้วเป้าหมายเรื่องนี้อยู่ที่ใครเว่ยจวินมั่วรู้ดีอยู่แก่ใจ
หนานกงมั่วกุมขมับ เอ่ย “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
คิ้วคมของเว่ยจวินมั่วขมวดมุ่น เอ่ย “มีคนวางยาในเหล้า ไร้สีไร้กลิ่น ฤทธิ์ยาค่อนข้างรุนแรง ตอนนั้นข้าสลบไป พอตื่นขึ้นมา ผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋องก็ตายไปแล้ว”
เซียวเชียนจย่งเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เอ่ยอย่างขี้ขลาด “เป็นข้าที่เทเหล้าให้พี่ชายขอรับ” หนานกงมั่วถอนหายใจอย่างจนใจ สามารถทำให้อันธพาลน้อยที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินกลายเป็นลูกสะใภ้ตัวน้อยๆ ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จับมือเว่ยจวินมั่วขึ้นมาตรวจชีพจร คิ้วเรียวของหนานกงมั่วขมวดมุ่น ร่างกายของเว่ยจวินมั่วสูงใหญ่ เดิมทีเพียงยาสลบไม่สามารถทำอันใดเขาได้ นอกจากนี้เขายังเป็นมือสังหาร การป้องกันพิษแน่นอนเขารู้วิธี แต่เว่ยจวินมั่วก็ยังหลงติดกับคนอื่น นี่แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงเซียวเชียนจย่งเป็นคนรินเหล้าอย่างแน่นอน อีกทั้งพิษนั้นคงจะร้ายแรงจริงๆ
ไม่เจอดังที่คาดเอาไว้ หนานกงมั่วครุ่นคิดก่อนจะเอ่ย “บนโลกใบนี้ ยาสลบไร้สีไร้กลิ่นมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น แต่ล้วนแล้วแต่หาได้ยาก แม้แต่ในมือข้าเองยังไม่มี แต่การใส่ไว้ในเหล้าแล้วทำให้คนไม่อาจสัมผัสได้นั้นง่ายมาก อย่างไรกลิ่นเหล้าก็แรงอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าเป็นคนที่ไวต่อกลิ่นเหล้าหรือมีความสนใจต่อเหล้า เช่นนั้นยังพอเบี่ยงเบนได้ บวกกับ…ขณะนั้นต่างก็ดื่มเหล้า อีกทั้งยังเป็นเซียวเชียนจย่งที่รินให้เอง อย่างไรก็ไม่นับว่าพลาด เป็นจวินมั่วที่สลบไปก่อนหรือ” ประโยคสุดท้ายนั้นหันไปถามเซียวเชียนจย่ง
เซียวเชียนจย่งพยักหน้า ลังเลเล็กน้อย “ไยจึงเป็นพี่ชายที่สลบลงไปก่อน ไม่ใช่ว่าวรยุทธ์ยิ่งสูง… ข้ากับพี่ชายดื่มเหล้าจากกาเดียวกัน หรือว่ายาพิษอยู่ในจอกหรือ”
หนานกงมั่วส่ายหน้า “ยาสลบ…จริงๆ แล้วนั่นคงไม่ใช่ยาพิษ อีกทั้ง…ในยุทธภพมียาหลายชนิดที่มีผลเฉพาะกับผู้มีวรยุทธ์เท่านั้น นั่นหมายความว่ายิ่งวรยุทธ์สูงยิ่งจะล้มได้ง่าย เช่นนั้น ผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋องเล่า”
เซียวเชียนจย่งส่ายศีรษะอย่างงุนงง ตอนที่เขาสลบไปผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันอ๋องยังคงนั่งอยู่
“ไยเจ้าจึงไปที่ซินเย่ว์หยวน” หนานกงมั่วเอ่ยถาม
เซียวเชียนจย่งตอบอย่างละอาย “ผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋องบอกข้าว่าจะพาไปเจอกับโหลวซินเย่ว์นางโลมอันดับหนึ่งแห่งจินหลิง เดิมข้าไม่อยากไป แต่พวกเขาบอกว่า…พวกเขาบอกว่า…สุดท้ายข้าจึงไปด้วย” มองท่าทางเขินอายของเขา หนานกงมั่วพลันเดาได้ว่าผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋องพูดอันใด ถอนหายใจออกมาเบาๆ หนานกงมั่วเงยหน้าขึ้นไปหาเว่ยจวินมั่ว เอ่ยถาม “ท่านคิดเห็นเช่นไร”
เว่ยจวินมัวหลุบตาลง เอ่ย “ยาเป็นฝีมือของผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋อง อย่างน้อย…พวกเขาก็รู้” แต่พวกเขาไม่คิดว่า สิ่งที่ต้องชดใช้หลังจากเว่ยจวินมั่วสลบไปแล้วจะเป็นชีวิตของพวกเขาเอง
“เซียวเชียนเยี่ย” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ว่า เซียวเชียนเยี่ยโน้มน้าวออกคำสั่งกับผู้สืบทอดโจวอ๋องและอันจวิ้นอ๋องได้หรือ”
เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องออกคำสั่ง เพียงส่งคนไปเอ่ยอันใดบางอย่างข้างหูพวกเขาสักหน่อยก็พอแล้ว ไม่แน่ คนโง่ทั้งสองนั่นอาจจะคิดเพียงเรื่องสนุกเท่านั้น” คุณชายเว่ยมีวรยุทธ์เหนือชั้นกว่าใคร ผู้คนไม่น้อยต่างรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มโจวอ๋องนั้นเมื่อครั้งยังเด็กก็เคยรังแกเขาทว่าถูกเขาเอาคืน หากมีโอกาสเอาคืนเว่ยจวินมั่ว ก็เพียงพอให้ผู้สืบทอดโจวอ๋องได้โอ้อวดบ้าง