“อาจารย์อา ได้โปรด…” มองร่างที่อยู่ห่างออกไปสิบจั้ง หนานกงมั่วยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยค “ออมมือด้วย”
นับตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นเขามา เว่ยจวินมั่วก็ระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเห็นร่างที่พุ่งเข้ามาหาจึงไม่ได้แตกตื่นแต่อย่างใด คุณชายเสียนเกอเห็นสถานการณ์ รีบก้าวถอยหลังไปหลายสิบก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ เมื่ออ้อมหนีจากวงต่อสู้นั้นแล้วจึงมาหยุดอยู่ด้านข้างหนานกงมั่ว
เส้นทางคับแคบบนภูเขา ชายในอาภรณ์สีฟ้าครามและสีน้ำเงินกำลังต่อสู้ประมือกันอย่างดุเดือด จนคนมองอยู่รอบข้างต้องตาลาย ชายชราที่วรยุทธ์ต่ำที่สุดยกมือขึ้นกุมขมับ หันหน้าหนีบ่งบอกว่าไม่สนใจการต่อสู้ตรงหน้า
“เจ้าเด็กน้อย ไม่เจอกันไม่กี่เดือนวรยุทธ์พัฒนาไม่น้อย”
เว่ยจวินมั่วเบี่ยงตัวหลบกระบี่ที่พุ่งเข้ามา เอ่ยเสียงเรียบ “ขอบคุณเคล็ดวิชาวิทยายุทธที่อาจารย์อามอบให้”
อาจารย์อาส่งเสียงเย็น “น่าเสียดายที่อ่อนไปสักหน่อย มาให้ข้าตีสักครั้งเสียก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน”
เว่ยจวินมั่วเลิกคิ้ว “ขออาจารย์อาได้โปรดชี้แนะ”
“ชี้แนะหรือ” อาจารย์ยิ้มเย็น “พามั่วเอ๋อร์ติดตามเจ้าไปทั่วข้าจะไม่ถือสาเจ้า เจ้ายังกล้าพานางไปที่ที่มีโรคระบาด ตอนนี้ยัง…ต้องไปอยู่กับเจ้ายังชายแดนทุรกันดารนั่นอีก เจ้าว่าเจ้าสมควรถูกตีหรือไม่”
เว่ยจวินมั่วเงียบไม่เอ่ยวาจา
“ดูเหมือนเจ้าจะยอมรับแล้ว เช่นนั้นก็ว่าง่ายสักหน่อย” พลังของกระบี่ในมือพุ่งตรงออกไป ไอสังหารเข้มข้นแผ่กระจาย
หนานกงมั่วที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “ศิษย์พี่ จะไม่เป็นไรใช่หรือไม่” คุณชายเสียนเกอเลิกคิ้ว “จะเป็นอันใดได้ วางใจเถิด อาจารย์อาลงมือมีขอบเขต เว่ยจวินมั่วคิดจะสู้ตายก็ยังต้องใช้เวลา” หนานกงมั่วอดไม่ได้ยกมือขึ้นกุมขมับ เสียนเกอเหลือบตามองนาง เอ่ย “ทางที่ดีเจ้าปล่อยให้อาจารย์ระบายความโกรธนี้ออกมาเถิด ได้ข่าวว่าหลายเดือนมานี้ของพวกเจ้า อาจารย์โกรธไม่น้อย ตอนนั้นแทบอยากฆ่าเว่ยจวินมั่วให้ตาย” แม้รู้ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของเว่ยจวินมั่ว แต่ศิษย์ที่รักของเขาอยู่ตานหยางไม่เคยต้องลำบาก ใครจะรู้ว่าเมื่อแต่งออกไปแล้วกลับราวกับไปบุกน้ำลุยไฟ ยังกลายเป็นนักโทษที่ถูกตามสังหารหนีตายมายังทางเหนือ หากพวกเขาไม่มา โยวโจวและตานหยางระยะห่างหลายพันลี้ ต่อไปหากอยากเจอหน้าก็คงยาก ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าหากเกิดอันใดขึ้นมา ต่อให้อยากช่วยเหลือก็ไม่รู้ว่าเวลาจะเพียงพอหรือไม่
หนานกงมั่วละอายใจเล็กน้อย “ทำให้อาจารย์และอาจารย์อากังวลแล้ว”
ชายชราขยับมาอยู่ข้างหนานกงมั่ว ยิ้มตาหยี เอ่ย “ศิษย์รัก อย่าไปสนใจอาจารย์อาของเจ้าเลย เขาก็เป็นบ้าอยู่บ่อยๆ อาจารย์ข้าคิดว่าเจ้านั้นมีสายตาที่แหลมคม โยวโจวดีเพียงนี้ อาจารย์อยู่ตานหยางมาจนเบื่อแล้ว”
“อาจารย์ลุง” คุณชายเสียนเกอเลิกคิ้ว “เมื่อก่อนท่านไม่ได้เอ่ยเยี่ยงนี้มิใช่หรือ”
ชายชราโบกไม้โบกมือ กลอกตา เอ่ย “เด็กจะไปรู้อันใด ย้ายบ้านไม่ต้องใช้เงินหรือ”
“…” พวกเราปล่อยให้ท่านเงินขาดมือตั้งแต่เมื่อใดกัน
“อย่างน้อยตานหยางก็ไม่มีบ่อน้ำพุร้อนที่สบายเพียงนี้นี่” ชายชราถอนหายใจ
ฝั่งนี้พูดคุยกัน อีกด้านเว่ยจวินมั่วกำลังเพลี่ยงพล้ำให้ฝ่ายตรงข้าม เริ่มรับมือไม่ไหวแล้ว ครั้งก่อนร่วมมือกับหนานกงมั่วรับหนึ่งพันกระบวนท่าไม่แพ้ ครั้งนี้แม้วรยุทธ์ของเว่ยจวินมั่วจะพัฒนาแต่ระยะเวลาการรับมือนั้นสั้นกว่ามาก เห็นชัดว่าครั้งที่แล้วอาจารย์อาไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ นี่จะโทษเว่ยจวินมั่วไม่ได้ ทั้งสองต่างก็เก่งกาจไม่อาจมีใครเทียบได้ เห็นชัดว่าคนที่อายุมากจะได้เปรียบสักหน่อย มองเห็นเว่ยจวินมั่วกำลังจะบาดเจ็บเพราะกระบี่ของอาจารย์อา หนานกงมั่วอยากเข้าไปห้าม ทว่ากลับเห็นว่าอาจารย์อาขยับออกห่างเว่ยจวินมั่วแล้ว ลอยลงที่หน้าประตูเรือน
“จวินมั่ว”
เว่ยจวินมั่วเองก็ตามลงมาด้วย ใบหน้าเย็นชาซีดขาวเล็กน้อย หนานกงมั่วยื่นมือไปจับชีพจรของเขา ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ด้านหลังมีเสียงหยันจากอาจารย์อาดังขึ้น หนานกงมั่วหันกลับไป เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์อา วรยุทธ์ของจวินมั่วดีเหมือนเมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นหนุ่มใช่หรือไม่”
“ก็ไม่เลว” อาจารย์อาเลิกคิ้วเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตากลับมีแววชื่นชมพร้อมกับที่มีใครบางคนที่ไม่เป็นดั่งใจหวัง คุณชายเสียนเกอมีท่าทีไม่ใส่ใจ ยังคงยิ้ม เขาไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้ ขอเพียงปกป้องตนเองได้ก็เพียงพอแล้ว ทว่ากลับมีความสนใจต่อวิชาการแพทย์และอาการป่วยมากกว่า ดังนั้นเอ่ยได้ว่า เมื่อครั้งแรกคารวะอาจารย์เป็นศิษย์นั้นก็คารวะผิดแล้ว ปัญญาดี ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานได้
ชายชรายื่นศีรษะมาจากด้านหลังคุณชายเสียนเกอ มองสำรวจเว่ยจวินมั่วด้วยรอยยิ้มจนตาหยี เอ่ย “เจ้าเด็กเว่ย ครั้งก่อนอาจารย์ลืมให้ของขวัญกับเจ้า”
เว่ยจวินมั่วเอ่ย “อาจารย์ให้มาแล้วขอรับ” ครั้งแรกที่เจอ ชายชราก็มอบไข่มุกราตรีให้เขาหนึ่งเม็ด ชายชราจ้องเขาเขม็ง “ข้าบอกว่ายังไม่ให้ก็ยังไมให้สิ มีแต่รังเกียจของขวัญน้อยไหนเลยจะรังเกียจของขวัญมาก สิ่งนี้ให้เจ้าเก็บเอาไว้ให้ดีๆ รู้หรือไม่”
ของบางอย่างที่มีรูปร่างไม่ชัดเจนถูกโยนไปให้เว่ยจวินมั่ว หนานกงมั่วที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบก้าวขึ้นมารับเอาไว้ก่อน หยกหนึ่งชิ้นที่ถูกแกะสลักประณีตงดงาม ชายชรามอบให้แต่ละครั้งนั้นใจกว้างจนคุณชายฉังเฝิงอดไม่ได้ที่จะอิจฉาริษยา
หนานกงมั่วจนปัญญา เอ่ย “ท่านอาจารย์ ทุ่มเทเพียงนี้ท่านไม่เหนื่อยหรือ”
ลูบบนชิ้นยกเบาๆ กดเบาๆ ลงไปบนชิ้นหยก ทันใดนั้นอาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในชิ้นหยกก็พุ่งออกมาตกลงไปบนพื้นไม่ไกลออกไป
“ศิษย์อกตัญญู” ชายชรามองหนานกงมั่วอย่างคับแค้นใจ หนานกงมั่วถอนหายใจ “อาจารย์ ไม่ระวังอาจถึงชีวิตได้นะเจ้าคะ” บางทีอาวุธลับและยาพิษอย่างใดอย่างหนึ่งมันทำอันใดเว่ยจวินมั่วไม่ได้ ทว่าเมื่อสองอย่างทำงานร่วมกันนั่นก็ไม่แน่ หากเว่ยจวินมั่วไม่รู้ และคนอื่นมากดเข้าให้ นั่นคงตายสถานเดียว
ชายชราผู้นั้นหันกลับมา “นั่นเพราะเขาไร้ความสามารถ”
คุยเรื่องพวกนี้กับตาเฒ่านี่ช่างเป็นการสีซอให้ควายฟังเสียจริง หนานกงมั่วเองก็ไม่ได้คาดหวังกับสิ่งนี้นัก ทำเพียงหันกลับไปหาเว่ยจวินมั่ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ของขวัญที่อาจารย์มอบให้ ท่านเก็บไว้เถิด ของดีทั้งนั้น”
ชายชราไม่พอใจ กะพริบตาปริบๆ มองหยกชิ้นนั้น นั่นเป็นชิ้นหยกน่าภาคภูมิใจที่เขาใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะทำออกมาได้เลยนะ
เว่ยจวินมั่วยื่นมือไปรับ “ขอบคุณท่านอาจารย์”
ข้าไม่ได้อยากมอบมันให้เจ้าเลยสักนิด เอาคืนมา
เว่ยจวินมั่วเก็บชิ้นหยกไว้ในแขนเสื้อด้วยใบหน้านิ่งสงบ “ผู้น้อยได้เตรียมของขวัญไว้ให้ท่านทั้งสอง ขอท่านทั้งสองรับเอาไว้ด้วยเถิดขอรับ”
ใครบอกว่าคุณชายเว่ยเย็นชาไม่สนใคร นั่นเป็นเพราะไม่มีความจำเป็นให้เขาเข้าหาก็เท่านั้น แม้แต่หนานกงมั่วเองยังประหลาดใจ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเว่ยจวินมั่วเตรียมของขวัญเอาไว้ ความจริงหนานกงมั่วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาจารย์และอาจารย์อามาถึงโยวโจวแล้ว มองดูการตกแต่งและข้าวของเครื่องใช้ที่ครบครันในเรือน เห็นชัดว่าคุณชายเว่ยคงสั่งให้คนจัดหามาให้
องครักษ์หนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องของขวัญ เส้นทางบนเขาคับแคบ แต่คนเหล่านี้กลับเดินราวกับเป็นพื้นที่ราบเรียบ เห็นได้ว่าฝีมือย่อมไม่เลว
ชายชราหันหน้าหนีด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง ข้าไม่ชอบของขวัญที่เจ้าให้มาหรอกนะ
กล่องแต่ละกล่องถูกเปิดออก ชายชราหันกลับมาดูด้วยความสนใจเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่อาจละสายตาได้อีก ในกล่องนั้นมิใช่ทรัพย์สินมีค่าหรือผ้าแพรไหม ของแปลกประหลาดแต่อย่างใด แม้ของพวกนี้จะมีราคาแต่ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา เห็นชัดว่าคุณชายเว่ยเองรู้ดีว่าควรเอาใจผู้อาวุโสที่ไม่ชื่นชอบตนเองอย่างไร ในกล่องเต็มไปด้วยสมุนไพรราคาแพงหายาก ในโลกใบนี้แน่นอนว่าไม่มีใครร่ำรวยไปกว่าเชื้อพระวงศ์ โยวโจวเองก็ไม่มีใครมีอำนาจมีอิทธิพลมากไปกว่าจวนเยี่ยนอ๋อง แม้ว่าจวนเยี่ยนอ๋องอาจไม่มีตำราแพทย์หรือหมอที่ดีไปกว่าชายชราและคุณชายเสียนเกอ แต่ความสามารถในการเก็บรวบรวมยาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา