หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 650 หมอที่มาใหม่ (1)

ตอนที่ 650 หมอที่มาใหม่ (1)

“หืม” ท่านหมอซือจ้องนางตาเขม็ง ราวกับว่าเตรียมจะโจมตีอยู่ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น

“ขอทางด้วย ท่านขวางทางข้าอยู่ หรือท่านจะเดินไปก่อน” วันๆ เอาแต่หาเรื่องชาวบ้านไปทั่ว คิดว่านางกินอิ่มแล้วว่างจนไม่มีอันใดทำงั้นหรือ

สีหน้าของท่านหมอซือถอดสีทันทีทันใด สบถเสียงในลำคอเบาๆ พร้อมกับสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินไปอีกทางทันที

ติงเสียวเถี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ หนานกงมั่วจ้องมองไปยังแผ่นหลังของท่านหมอซือพร้อมกับกระซิบด้วยความไม่พอใจ “ท่านหมอซือผู้นี้ช่างไร้มารยาทเสียจริง ฮูหยินไม่เคยไปหาเรื่องเขาสักหน่อย”

หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ย “คนบางคนก็จิตใจคับแคบยากซึ่งจะเยียวยารักษา เราไม่ต้องไปสนใจ”

“แต่ว่า เขาชอบไปนินทาว่าร้ายฮูหยินกับคนอื่นตลอดเลยนะขอรับ” ติงเสียวเถี่ยเอ่ยขึ้นด้วยความขุ่นเคือง หนานกงมั่วค่อนข้างรู้สึกแปลกใจ “หืม เขาไปเอ่ยอันใดหรือ” ติงเสียวเถี่ยจึงตอบกลับ “เขาบอกว่าฮูหยินเป็นสตรี แต่กลับติดตามสามีเข้ามาในกองทัพ ไร้ซึ่งยางอาย ยังบอกอีกว่า…ฮูหยินไม่มีความรู้ด้านการแพทย์เลยแม้แต่น้อย สมุนไพรห้ามเลือดฮูหยินก็ได้สูตรยามาจากที่อื่น แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขาอยู่ดี ฝีมือการแพทย์ของฮูหยินทุกคนในค่ายต่างก็ได้ประจักษ์กันถ้วนหน้า เอาเป็นว่า…เขาเอาแต่นินทาว่าร้ายฮูหยินไม่หยุดเลยขอรับ”

หนานกงมั่วครุ่นคิดพลางลูบคางเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “คิดว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะมีนิสัยชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น นึกไม่ถึงเลยว่าท่านหมอซือเองก็ถนัดด้านนี้ด้วย นินทาว่าร้ายเก่งกว่าผู้หญิงอย่างข้าเสียอีก”

“ใช่แล้วขอรับ ฮูหยิน ท่านหมอซือมิใช่คนดี ต้องระวังเขาไว้”

หนานกงมั่วเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเขาเบาๆ เอ่ยว่า “ข้ารู้แล้ว ช่วงที่ผ่านมานี้เจ้าแอบขี้เกียจบ้างหรือไม่”

“ไม่อยู่แล้วขอรับ” ติงเสียวเถี่ยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีทันใด เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตำราที่ฮูหยินมอบให้ข้า ข้าท่องจำหมดแล้ว และข้าก็ได้เรียนกับท่านหมอเวินมาไม่น้อยอีกด้วย”

“เช่นนั้นก็ดี” หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ยต่อไป “การเรียนรู้ไร้ที่สิ้นสุด คิดอยากจะประสบความสำเร็จก็อย่าเอาแต่เอ้อระเหยลอยชายไปวันๆ อย่างเด็ดขาด รู้หรือไม่”

“ขอรับ ฮูหยิน” ติงเสียวเถี่ยรีบขานรับเสียงดังฟังชัด

“เว่ยฮูหยินกลับมาแล้วหรือ” พอท่านหมอเวินได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก ก็รีบชะโงกหน้าออกมาดูด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

หนานกงมั่วอมยิ้มพลางพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับทักทายกลับไปว่า “ท่านหมอเวิน” ติงเสียวเถี่ยที่อยู่ด้านหลังก็รีบนำของขวัญมอบให้ทันที หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ย “ข้านำของกินจากโยวโจวมาด้วย ไม่ใช่ของแพงอันใด ท่านหมอเวินลองชิมดู”

ท่านหมอเวินเองก็ไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจแต่อย่างใด เอื้อมมือมารับของฝากด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เช่นนั้นก็ขอบคุณเว่ยฮูหยินและผู้บังคับการกองพันเว่ยแล้ว” แม้จะไม่ใช่ของมีค่าราคาแพง ทว่าถือเป็นน้ำใจอย่างหนึ่ง คนหนุ่มสาวมีความตั้งใจเช่นนี้ถือว่าหาได้ยากยิ่ง ท่านหมอเวินเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อย จู่ๆ ท่านหมอเวินก็แสดงสีหน้าลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “เอ่อ…แล้วท่านหมอซือ…”

หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ย “ทางฝั่งท่านหมอซือข้าให้คนส่งไปแล้ว” ถึงแม้จะไม่ถูกกับท่านหมอซือ แต่หนานกงมั่วก็มิใช่คนแล้งน้ำใจ แค่หยิบติดไม้ติดมือเพิ่มมาอีกสักชิ้นสองชิ้น ท่านหมอซือจะเอาไปทิ้งหรือเอาไปเผาก็สุดแล้วแต่เขา ไม่ได้เกี่ยวอันใดกับนาง

ท่านหมอเวินจึงพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “เว่ยฮูหยินช่างเป็นคนจิตใจกว้างขวางโดยแท้” ท่านหมอเวินเองก็อยากจะให้บุคลากรในสำนักแพทย์มีความปรองดองสามัคคีกัน แต่สำหรับคนนิสัยเช่นท่านหมอซือ อย่าว่าแต่หนานกงมั่วเลย แม้แต่ท่านหมอคนอื่นๆ ก็สุดจะเอือมระอา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากไม่รีบลาออกเสียก่อน คนที่จิตใจคับแคบก็จำต้องทำใจให้กว้างขึ้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้ว่าเว่ยฮูหยินจะเป็นสตรี แต่กลับมีจิตใจที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก จึงทำให้ท่านหมอซือยิ่งดูน่าเวทนาเข้าไปใหญ่

หนานกงมั่วนั่งลงคุยกับท่านหมอเวิน ถามไถ่ถึงเรื่องของสำนักแพทย์ในระยะเวลาที่ผ่านมา ท่านหมอเวินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงตัดสินใจเอ่ยว่า “ก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง”

หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าตั้งใจรับฟังอย่างจริงจัง

ท่านหมอเวินเอ่ย “ข้าเองก็อายุมากแล้ว เดิมทีควรต้องเกษียณกลับบ้านเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว เพียงแต่ว่าในค่ายทหารขาดแคลนหมอเป็นอย่างมาก ข้าเลยอยู่ต่ออีกสองปี แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกษียณในเร็วๆ นี้ ดังนั้นตำแหน่งผู้ดูแลสำนักแพทย์ก็จะว่างลง” ตามหลักแล้วอายุของท่านหมอเวินถือว่าไม่ได้สูงวัยมากนัก เพียงแต่สุขภาพร่างกายของท่านหมอเวินไม่ดี จึงถือเป็นงานหนักพอสมควร

หนานกงมั่วเองก็เข้าใจในความหมายของท่านหมอเวิน หากท่านหมอเวินออกไปแล้ว ตำแหน่งผู้ดูแลสำนักแพทย์ก็ย่อมต้องมีคนมารับช่วงต่อเป็นธรรมดา เดิมทีท่านหมอซือเป็นคนที่น่าจะมารับตำแหน่งนี้ที่สุด แต่จู่ๆ ก็มีหนานกงมั่วปรากฏตัวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นฝีมือด้านการแพทย์และการทุ่มเทให้กับกองทัพของหนานกงมั่วนั้น ยากที่ท่านหมอซือจะเทียบเทียมได้ หากเป็นเช่นนี้ตำแหน่งนี้ก็คงจะเป็นของท่านหมอซือได้ยากแล้ว

หนานกงมั่วเองก็ไม่ได้บอกปัดด้วยความเกรงใจแต่อย่างใด เพียงแต่ถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าท่านหมอเวินคิดเห็นอย่างไร”

ท่านหมอเวินจ้องมองสีหน้าสงบสุขุมของหนานกงมั่ว แอบพยักหน้าในใจเบาๆ จากนั้นจึงเอ่ย “ถึงแม้ตำแหน่งผู้ดูแลสำนักแพทย์จะไม่ได้คัดเลือกจากความสามารถทางการแพทย์เป็นหลัก แต่แม่ทัพมักจะคำนึงถึงเรื่องนี้ก่อนเสมอ รวมไปถึงเรื่องผลงาน คุณงามความดีและอื่นๆ อีกหลายประการ เดิมทีข้าคิดไว้ว่าหากไม่เจอคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ก็คงจะทำได้เพียงเลื่อนตำแหน่งให้ท่านหมอซือ แต่ตอนนี้มีเว่ยฮูหยินเข้ามา ข้าจึงมีความคิดอื่น”

หนานกงมั่วพยักหน้าเบาๆ ทว่าก็ไม่ได้เอ่ยอันใดออกมา เพียงแค่ฟังท่านหมอเวินเอ่ยด้วยความตั้งใจเท่านั้น “ถึงแม้ว่าเว่ยฮูหยินจะมาที่กองทัพได้ไม่นานนัก แต่ทุกการกระทำของท่าน ข้าเห็นมันทุกอย่าง แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีตำแหน่งหมอที่เป็นสตรีมาก่อน และข้าเองก็ไม่เคยรับลูกศิษย์หรือผู้ช่วยที่เป็นสตรี แต่แม่ทัพกลับยินยอมให้ท่านมาประจำการในสำนักแพทย์แห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา แล้วเว่ยฮูหยินคิดเห็นอย่างไร”

หนานกงมั่วอมยิ้มพลางเอ่ย “เป็นความกรุณาที่ท่านหมอเวินให้ความสำคัญ หากเป็นเช่นนี้ ข้าเองก็จะทำอย่างเต็มกำลังที่สุด” หนานกงมั่วไม่มีความคิดจะปฏิเสธแต่อย่างใด เรื่องที่นางและท่านหมอซือไม่ถูกชะตากันถือเป็นข้อชี้ขาดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว หากท่านหมอซือเป็นคนดูแลควบคุมในสำนักแพทย์ ในอนาคตนางก็จะทำงานอย่างยากลำบาก

ท่านหมอเวินยิ้มพลางพยักหน้าเบาๆ “ดี ได้ยินเว่ยฮูหยินเอ่ยมาเช่นนี้ ข้าเองก็สบายใจแล้ว” เดิมทีท่านหมอซือก็มิใช่ตัวเลือกที่น่าพึงพอใจอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายังหาคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งไม่ได้ก็เท่านั้น ถึงแม้หนานกงมั่วจะเป็นสตรี แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ท่านหมอเวินเองก็ได้สังเกตการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอหรือการทำงานในกองทัพก็ไม่ได้ด้อยไปจากบุรุษเลยแม้แต่น้อย ออกจะดีกว่าเสียด้วยซ้ำ หลายวันก่อนหนานกงมั่วได้ฝึกฝนรักษาอาการป่วยนับสิบโรค ศึกสงครามครั้งล่าสุดจึงได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเต็มที่ ท่านหมอเวินเชื่อว่าหากฝากสำนักแพทย์แห่งนี้ไว้ในมือของนาง จะต้องดีอย่างแน่นอน…

“ท่านหมอซือมีนิสัยหยิ่งทะนง วันข้างหน้าหากไปล่วงเกินเว่ยฮูหยินเข้า ขอเว่ยฮูหยินอย่าได้เอามาใส่ใจ” อย่างไรเสียก็เป็นสหายที่ร่วมงานมาหลายปี ท่านหมอเวินจึงอดไม่ได้ที่จะช่วยเอ่ยแทนเขาสักคำสองคำ หนานกงมั่วได้ยินแล้วก็พยักหน้าพร้อมกับเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ขอเพียงท่านหมอซือไม่ทำอันใดเกินเลย ข้าย่อมไม่ทำร้ายเขาอยู่แล้ว” หากท่านหมอซือทำสิ่งใดที่ไม่ควรทำขึ้นมาจริงๆ แม้นางจะไม่กล่าวโทษ ทว่าแม่ทัพในค่ายทหารก็จะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ อยู่ดี

ท่านหมอเวินเองย่อมเข้าใจหลักการในข้อนี้ดีจึงไม่ได้ดึงดันแต่อย่างใด เพียงยิ้มรับพลางเอ่ย “ในเมื่อเว่ยฮูหยินรับปากแล้ว อีกไม่กี่วันข้าเองก็ควรจะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”

หนานกงมั่วยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านหมอเวินลำบากในค่ายทหารมาหลายปี ก็ถึงเวลาที่ควรจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเกิดแล้ว” คงเพราะท่านหมอเวินนึกถึงการเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่กำลังจะมาถึง ท่านหมอเวินจึงดูตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที เขาพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง “ขอให้เป็นจริงดังที่ฮูหยินกล่าว”

“ไม่ได้! ข้าไม่เห็นด้วย!” ในห้องโถงของสำนักแพทย์ ท่านหมอเวินพึ่งจะเอ่ยจบ ท่านหมอซือที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนคัดค้านด้วยเสียงที่ดังลั่น หมอท่านอื่นๆ รวมไปถึงลูกศิษย์ต่างก็พากันหันไปมองเจ้าของเสียงที่โมโหร้ายทันที คนที่ขวัญอ่อนก็พลอยตกใจกลัวจนหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท