เยี่ยนอ๋องกระตุกมุมปาก สายตามองไปยังหวังป้าและหลูอวิ๋นเฟิงที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของกระโจม เอ่ย “พวกเขาหรือ เรื่องของตระกูลหลูข้าต้องหารือกับหนิงอ๋องก่อน ที่เหลือคือเรื่องอันใดเล่า” เว่ยจวินมั่วเอ่ย “กองโจรพ่ะย่ะค่ะ” มองคิ้วที่ขมวดมุ่นของเยี่ยนอ๋อง หนานกงมั่วจึงหัวเราะออกมา เอ่ย “คุณชายหลูไปพักก่อนเถิด หัวหน้าหวังอยู่คุยกันก่อน”
หลูอวิ๋นเฟิงรู้ดีว่าเมื่อเทียบกับหัวหน้ากองโจรอย่างหวังป้า สถานะของตนนั้นน่ากระอักกระอ่วนมากกว่า ประสานมือหันไปทางคนอื่นๆ จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
หวังป้าก้าวขึ้นมาด้านหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ “เอ่อ…กระหม่อมถวายพระพรเยี่ยนอ๋อง” แม้ว่าตอนนั้นเขาจะถูกทหารของหนิงอ๋องตามไล่ล่าไปทั่ว อยู่นอกด่านนั้นยังเป็นอิสระ แต่บุคคลยิ่งใหญ่อย่างท่านอ๋องนั้นเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ยิ่งไปกว่านั้น ตัวจริงของเยี่ยนอ๋องยังนั่งอยู่ตรงนั้น พลังที่แผ่ออกมามิใช่คนทั่วไปจะเทียบเคียงได้
เยี่ยนอ๋องเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางเกียจคร้านสายตามองไปยังเขา “อยู่นอกด่าน เจ้าช่วยจวินมั่วและอู๋สยาหรือ”
หวังป้ามองหนานกงมั่ว ยิ้มเจื่อนออกมา เอ่ย “กระหม่อมเพียงแต่ช่วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ามาสิ เมื่อครั้งนั้นเจ้าทำอันใดที่สีโจวถึงได้ถูกเจ้าสิบเจ็ดไล่ล่าจนต้องหนีไปนอกด่าน”
หวังป้าสีหน้าขมขื่น เอ่ย “ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมมิได้ทำอันใดเลยจริงๆ นะพ่ะย่ะค่ะ”
เฉินอวี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างรู้สึกสนุกขึ้นมา “เป็นโจรแล้วยังกล้าบอกว่ามิได้ทำอันใดอย่างนั้นหรือ มิได้ทำอันใดจะถูกหนิงอ๋องพาคนไปล้อมรังได้หรือ เพียงแต่ สามารถหนีออกมาจากเงื้อมมือของไท่หนิงอ๋องได้ แสดงว่าเจ้าก็เก่งไม่น้อย” หวังป้าถอนหายใจ รู้สึกปั่นป่วนอยู่ในท้องจนแทบอยากอาเจียนออกมา แม้เขาจะเป็นโจรแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด เขาเพียงดักเส้นทางพ่อค้า ขุนนางร่ำรวยบ้างเป็นบางครั้ง เขาไม่ฆ่าคน วางเพลิง ไม่ทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน หนิงอ๋องเพิ่งมาปกครองสีโจว ไม่เอ่ยวาจามากความเพียงเห็นว่าเป็นหุบเขาโจรก็จุดไฟเผา เห็นโจรก็ฆ่า เหมือนโจรเสียยิ่งกว่าโจรซะอีก
เห็นท่าทางขมขื่นของเขา เยี่ยนอ๋องพลันขบขันขึ้นมา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสิบเจ็ดอายุยังน้อย การเคลื่อนไหวเมื่อตอนขึ้นปกครองเมืองใหม่ๆ ข้าเองก็พอได้ยินมาบ้าง ตอนนั้นมีโจรหลบหนีมายังโยวโจวไม่น้อย ที่แท้นี่คงจะเป็นปลาที่หลุดแหสินะ”
หวังป้ารีบเอ่ย “ท่านอ๋อง กระหม่อมไม่เคยทำเรื่องป่าเถื่อนใดๆ เลยจริงๆ นะพ่ะย่ะค่ะ ขอท่านอ๋องโปรดให้ความเป็นธรรมด้วย”
เยี่ยนอ๋องลูบปลายคาง เอ่ยเสียงเรียบ “ไว้ชีวิตพวกเจ้าก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแต่…พวกเจ้ามีคุณค่าอันใดให้ข้าไว้ชีวิตพวกเจ้า”
“เอ่อ…” หวังป้ามองขอความช่วยเหลือจากหนานกงมั่ว หนานกงมั่วหลุบตาลง กลั้นรอยยิ้มเอาไว้ เอ่ย “ท่านอ๋อง หัวหน้าหวังนับว่าคุ้นเคยกับเส้นทางในเป่ยหยวนเป็นอย่างดีเพคะ”
“เอ๋”
“ใช่ ใช่ ใช่” สมองของหวังป้าทำงานทันใด รีบเอ่ย “พวกกระหม่อมอาศัยอยู่ที่เป่ยหยวนหลายปี คุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดีพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนอ๋องพยักหน้า เอ่ย “ข้ารู้แล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด” ไม่ได้บอกว่าสุดท้ายแล้วจะละเว้นโทษให้พวกเขาหรือไม่ เห็นท่าทางนิ่งงันของหวังป้า หนานกงมั่วจึงกระแอมไอ เอ่ย “หัวหน้าหวัง ออกไปพักผ่อนก่อนเถิด”
“อ้อ พ่ะย่ะค่ะ” หวังป้าได้สติคืนมารีบเอ่ยตอบ สัมผัสได้ว่าจะรักษาชีวิตของตนและพวกพ้องได้แล้ว
มองหวังป้าเดินออกไป เยี่ยนอ๋องจึงหันมามองเว่ยจวินมั่ว เอ่ย “นี่คือสิ่งที่เจ้าปรารถนาหรือ ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่”
“กระหม่อม…”
“หุบปาก” เยี่ยนอ๋องเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด ตอนนี้ไม่มีใครอื่น จะมากระหม่งกระหม่อมอันใดกัน”
เว่ยจวินมั่วเงยหน้า มองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเยี่ยนอ๋องด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง หนานกงมั่วคิดว่าตนเองสามารถอ่านได้จากสีหน้าของใครบางคนได้สี่คำว่า โวยวายไร้เหตุผล
เยี่ยนอ๋องเองรู้สึกหน่ายที่จะคุยกับเจ้าเด็กนี่ หันไปหาจูหง “เจ้าเป็นหัวหน้าเขา เจ้าจะว่าอย่างไร”
จูหงลำบากใจ “เอ่อ…” คุณงามความดีของคุณชายเว่ยครั้งนี้ไม่น้อย การประทานรางวัลหากน้อยไปคงไม่เหมาะสม เกรงว่าท่านอ๋องเองก็คงไม่พอใจ แต่ว่า หากเป็นขุนพลผู้บัญชาการกองทัพ อำนาจของเขาอย่างมากก็แต่งตั้งได้เพียงรองขุนพลให้คุณชายเว่ยขึ้นมาเป็นรองขุนพลของตนเองก็เท่านั้น แต่ว่า…เพิ่งเข้ามาอยู่ในกองทัพได้ไม่ถึงครั่งปี เริ่มจากการเป็นผู้บัญชาการกองร้อยขึ้นมาเป็นรองขุนพลจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ ไม่สู้ตอนปลดตำแหน่งยังจะง่ายกว่า
จูหงมองไปยังเฉินอวี้ ในหมู่ขุนพลอย่างพวกเขา เฉินอวี้คือคนที่ฉลาดที่สุดแล้ว
เฉินอวี้เมินเฉย ข้ามองไม่เห็น…มองไม่เห็น…นี่เพียงแค่ปัญหาการเลื่อนขั้นของคุณชายเว่ยมิใช่หรือ เจ้าคนโง่
“เอ่อ…ขอท่านอ๋องได้โปรดตัดสินใจพ่ะย่ะค่ะ” ไหวพริบของจูหงทำงาน เตะมันกลับคืนไป
เยี่ยนอ๋องอดหัวเราะออกมาไม่ได้ มองสำรวจเว่ยจวินมั่วอยู่นาน ก่อนจะเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้…แม่ทัพเซี่ยลี่ผู้บัญชาการกองกำลังโยวโจวยังขาดเพื่อนร่วมงาน เจ้าไปที่นั่นว่าอย่างไร”
เว่ยจวินมั่วย่นคิ้ว มองไปยังหนานกงมั่ว ไหนเลยเยี่ยนอ๋องจะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอันใด โบกมือเอ่ยอย่างใจกว้าง “ผู้บัญชาการกองกำลังโยวโจวเป็นแม่ทัพขั้นสอง พาครอบครัวไปด้วยได้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าเห็นใครพอใช้ได้ก็เอาไปด้วย อ้อ…ห้ามเอาไปเกินหนึ่งร้อยคนเล่า”
เหล่าขุนพลไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ท่านอ๋อง ท่านคิดจะผลักดันหลานชายแต่ท่านช่วยแอบๆ หน่อยมิได้หรือ ผู้บัญชาการกองกำลังโยวโจว เป็นแม่ทัพขั้นสอง นี่เป็นการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากราชสำนักเลยนะ แม้ว่าจะไม่ได้มีอำนาจมากเท่าขุนพลอย่างพวกเขา แต่เมื่อเทียบกับพวกเขาที่ทำงานให้กับเยี่ยนอ๋อง ตำแหน่งนั้นขึ้นตรงกับราชสำนักเลยนะ ที่สำคัญก็คือ…ไยท่านจึงนำหลานของตนไปยัดไว้กับผู้บัญชาการเมืองโยวโจวที่ถูกควบคุมโดยราชสำนักอย่างเข้มงวดเช่นนั้นเล่า ผู้ที่อยู่จินหลิงผู้นั้นจะยอมหรือ คุณชายเว่ยไปอยู่ที่นั่นจะไม่ถูกคนกัดจนเหลือแต่กระดูกหรือ
“ท่านอ๋อง…นี่จะไม่…” จูหงอดไม่ได้ที่จะโต้แย้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่พอใจต่อคุณชายเว่ย แต่เขาก็ไม่อยากเห็นคนมีความสามารถต้องไปตายเพราะคนของราชสำนักพวกนั้นกลั่นแกล้ง แม้ในนามจะเรียกว่ากองกำลังโยวโจวเหมือนกัน แต่ผู้บังคับการกองกำลังโยวโจวที่ราชสำนักส่งมาแตกต่างจากกองกำลังทหารเหล็กโยวโจวที่เรียกว่าเป็นคนของเยี่ยนอ๋องเช่นพวกเขาคนละเรื่องเลย ใครโชคร้ายเข้าไปอยู่ในเขตของอีกฝ่ายล้วนแล้วแต่ตกขั้นกันทั้งนั้น ท่านอ๋องคิดจะดึงหลานชายขึ้นมาหรืออยากให้เขาตายกันแน่
ทว่าเฉินอวี้กลับคิดไปมากกว่านั้น เลิกคิ้วราวกับกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง
เยี่ยนอ๋องเลิกคิ้ว มองไปยังเว่ยจวินมั่ว เอ่ย “เป็นอย่างไร ไม่กล้าหรือ”
เว่ยจวินมั่วกลับไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัว เพียงเอ่ยเสียงเรียบ “กระหม่อมรับบัญชา”
“เยี่ยม” เยี่ยนอ๋องเอ่ยอย่างพึงพอใจ “ค่ายทหารกองกำลังโยวโจวห่างจากที่นี่ไปไม่ไกล เจ้ากลับไปเก็บของแล้วก็ไปด้วยตนเอง พอดี อีกไม่นานอากาศก็จะเย็นแล้ว ปีนี้อย่าได้ให้ข้าเห็นว่าเซี่ยลี่ผู้นั้นทำงานอืดอาดอีกเล่า”
“เสด็จลุง” คุณชายเว่ยหมดคำพูด
“ยังต้องการอันใดอีกเล่า” เยี่ยนอ๋องเอ่ยถาม
“ราชโองการแต่งตั้ง” ไม่มีราชโองการของฝ่าบาทจะให้เขาไปรับตำแหน่งที่ค่ายกองกำลังโยวโจวหรือ ไม่ถูกเขายิงเพราะหาว่าโกหกสิถึงจะแปลก
เยี่ยนอ๋องพูดไม่ออก “อ้อ ยังมีเวลา เช่นนั้นอีกสองวันค่อยว่ากัน” ราชโองการยังไม่มา เซียวเชียนเยี่ยเจ้าเด็กนั่นก็ใช่ว่าจะออกให้ง่ายๆ
“…”
เพิ่งเดินออกมาจากกระโจมใหญ่ เซียวเชียนจย่งก็รีบวิ่งตามมา “พี่ชาย พี่สะใภ้”