หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 682 เบื้องหลังของราชโองการแต่งตั้ง (1)

ตอนที่ 682 เบื้องหลังของราชโองการแต่งตั้ง (1)

ในห้องโถงใหญ่ เซี่ยลี่ผู้บัญชาการกองกำลังโยวโจวอายุเลยห้าสิบปีไปแล้วกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง เบื้องล่างนั้นมีขุนพลหลายคนนั่งอยู่ เห็นท่านแม่ทัพไม่เอ่ยอันใดจึงมีคนเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ท่านแม่ทัพ เยี่ยนอ๋องทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร” พวกเขาและกองทัพส่วนพระองค์ของเยี่ยนอ๋องนั้นเดิมต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้เยี่ยนอ๋องส่งหลานชายของตนเข้ามาอยู่ในกองทัพ คิดจะทำสิ่งใดกันแน่

เซี่ยลี่กวาดตามองผู้ใต้บังคับบัญชาเล็กน้อย เอ่ยเสียงเข้ม “ไม่ว่าเยี่ยนอ๋องคิดจะทำอันใด นี่ก็เป็นประพระสงค์ของฝ่าบาท” ราชโองการฝ่าบาทเป็นคนออก จะต่อต้านได้หรือ

นายทหารชั้นสูงเหล่านั้นมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป มีคนอดขมวดคิ้วไม่ได้ เอ่ย “นี่ฝ่าบาทกำลัง…” ฝ่าบาทไม่เคยยอมรับคุณชายเว่ยผู้นี้ ก่อนหน้านี้ส่งคนตามล่ามาจนถึงโยวโจว หรือตอนนี้ฝ่าบาทต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับเยี่ยนอ๋อง…ด้วยตำแหน่งที่อ่อนไหวเช่นนี้ มันจะอันตรายเกินไปหรือไม่

เซี่ยลี่ถอนหายใจ เอ่ยเสียงเข้ม “ความคิดของฝ่าบาทคงไม่ใช่สิ่งที่เราจะคาดเดาได้ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีเป็นพอ”

ความจริงแล้ว เซี่ยลี่รู้ดีว่าฝ่าบาทคิดจะทำอันใด สิ่งที่เขาได้รับมาไม่ใช่เพียงราชโองการแต่งตั้ง นอกเหนือจากนั้นยังมีราชโองการลับมาด้วย เพียงแต่สิ่งนี้ไม่อาจเอามาเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้ได้

“รายงานท่านแม่ทัพ แม่ทัพเว่ยมาถึงแล้วขอรับ”

ดวงตาของเซี่ยลี่ลุ่มลึกขึ้น เอ่ยเสียงเข้ม “เชิญ”

ชั่วครู่ ขบวนของเว่ยจวินมั่วก็เดินเข้ามา หนานกงมั่วและเว่ยจวินมั่วเดินเคียงข้างกันนำอยู่ด้านหน้า ทั้งสองอยู่ในชุดธรรมดาทั่วไป เว่ยจวินมั่วนั้นอยู่ในชุดสีคราม สีหน้าเย็นชา คิ้วคมหนารับกับดวงตา หนานกงมั่วอยู่ในชุดสีขาวนวลปักลายผีเสื้อและดอกชบางดงาม ผมสวยถูกรวบขึ้นง่ายๆ ปล่อยปลายพริ้วไหว ตามมาด้านหลังของทั้งคู่คือคุณชายฉังเฟิงที่กำลังเล่นพัดในมือด้วยท่วงท่าสบายๆ เจี่ยนชิวหยางที่มีรอยยิ้มสว่างไสว รวมไปถึงซิงเวยและหลิ่วหัน คนหนึ่งกอดกระบี่คนหนึ่งถือดาบคู่ใจ ด้านข้างหลิ่วหันเป็นชวีเหลียนซิงที่อยู่ในชุดสีชมพูแจ่มแยงตา

คนพวกนี้ บุรุษนั้นหล่อเหลา สตรีก็งดงาม เพียงสุ่มเลือกออกมาสักคนความงดงามก็สามารถสังหารคนที่อยู่ในนี้ได้เพียงชั่วพริบตา ทว่ากลับให้ทุกคนต้องตกอยู่ในภวังค์โดยไม่รู้ตัว

มีคนมองไปยังหนานกงมั่วที่ยืนอยู่ข้างเว่ยจวินมั่วรวมไปถึงสตรีสองคนที่อยู่ด้านหลัง ดวงตาฉายแววเหยียดหยามขึ้นมา มาอยู่ในกองทัพยังพาสตรีงดงามมาด้วย นี่คือคุณชายเว่ยผู้เก่งกาจที่เอ่ยถึงกันจริงๆ น่ะหรือ

“ข้าน้อยเว่ยจวินมั่ว คารวะแม่ทัพเซี่ย” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเข้ม

เขาเป็นขุนนางขั้นสอง คนที่อยู่ตรงนี้นอกจากเซี่ยลี่ก็มีเพียงคนเดียวที่มีฐานะเทียบเท่ากับเขา คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่มีขั้นที่ต่ำกว่าเขา แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องสนใจ

เซี่ยลี่กระแอมไอ พยักหน้า เอ่ย “แม่ทัพเว่ย เดินทางมาลำบากแล้ว เชิญนั่งเถิด ผู้นี้…คือซิงเฉิงจวิ้นจู่ใช่หรือไม่” หนานกงมั่วยิ้มบางๆ พยักหน้าตอบรับ “คารวะแม่ทัพเซี่ย”

เซี่ยลี่รีบเอ่ยมิกล้า จริงอยู่ว่าเขาเป็นขุนนางขั้นหนึ่ง แต่หนานกงมั่วเป็นจวิ้นจู่ที่อดีตฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง เพียงฝ่าบาทไม่มีราชโองการรับสั่งถอดตำแหน่งของนาง เช่นนั้นนางก็ยังเป็นจวิ้นจู่ที่ถูกแต่งตั้งจากฝ่าบาท

“จวิ้นจู่เชิญนั่ง”

“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”

ทั้งสองเดินไปนั่งเก้าอี้ด้านหน้าสองตัวที่ว่างอยู่ พวกลิ่นฉังเฟิงขยับไปยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา ดูไม่เหมือนมารายงานตัวเข้ารับตำแหน่ง แต่เป็นการเตรียมตัวเจรจาต่อรองกันเสียมากกว่า เซี่ยลี่หรี่ตาลงมองสำรวจลิ่นฉังเฟิง เอ่ย “ผู้นี้…ข้ารู้สึกคุ้นตา คล้ายจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลลิ่นใช่หรือไม่”

แน่นอนว่าเซี่ยลี่ไม่มีทางไม่รู้ว่าลิ่นฉังเฟิงเป็นใคร เพียงหาเรื่องสืบเสาะข้อมูลเท่านั้น

ลิ่นฉังเฟิงเองไม่ใส่ใจ แสยะยิ้มกลับไป เอ่ย “ท่านแม่ทัพจำได้นับเป็นวาสนาของข้าแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพเว่ยเท่านั้น มิกล้ารับความเอ็นดูจากท่านแม่ทัพ”

“เอ๋” เซี่ยลี่พยักหน้า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ในมือของแม่ทัพเว่ยช่างมีแต่คนเพียบพร้อมด้วยความสามารถ”

“ท่านแม่ทัพชมเกินไปแล้ว” เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบด้วยท่าทางเรียบนิ่ง

นายพลคนหนึ่งเริ่มอยู่นิ่งไม่ไหว เอ่ยถาม “ได้ข่าวมาว่าคุณชายเว่ยพาฮูหยินไปเที่ยวเล่นที่นอกด่านหรือ ไม่รู้ว่าทิวทัศน์ข้างนอกนั่นเพลิดเพลืนหรือไม่” แม้จะถามด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจ แต่ใครที่พอมีหูก็พอจะฟังออกว่านั่นคือการเย้ยหยัน

หลิ่วหันที่ยืนอยู่ข้างหน้านกงมั่วกำลังจะเดินเข้าไปอย่างอดไม่ได้ ทว่าถูกท่าทางของหนานกงมั่วห้ามเอาไว้ ดูแล้วราวกับหลิ่วหันเพียงขยับตัวธรรมดาเท่านั้น พวกเซี่ยลี่เองก็มองการกระทำนั้น ดวงตาวูบไหวเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เห็นชัดว่ากำลังรอคำตอบของเว่ยจวินมั่ว

เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “พอใช้ได้”

นายทหารชั้นสูงผู้นั้นยิ้มเย็นออกมา “พอใช้ได้อย่างนั้นหรือ ได้ยินมาว่าทั้งสองท่านถูกทหารเป่ยหยวนไล่ล่า จนเยี่ยนอ๋องต้องนำกำลังทหารนับแสนไปรอรับอยู่ที่เขตชายแดน เยี่ยนอ๋องช่างเป็นลุงที่รักหลานมากเสียจริง”

วาจานี้หากคนที่ไม่รู้เรื่องราวความเป็นไปมาฟัง ราวกับว่าเว่ยจวินมั่วเป็นเด็กไม่รู้ความพาภรรยาออกไปเที่ยวเล่น ถูกพวกเป่ยหยวนตามฆ่าจนเยี่ยนอ๋องต้องนำกำลังไปรอรับ ต้องเคลื่อนกำลังคนมากมายเพราะคนคนเดียว ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ สายตาของเหล่านายทหารชั้นสูงที่มองมายังเว่ยจวินมั่วพลันเปลี่ยน เว่ยจวินมั่ววางถ้วยชาลง ตวัดดวงตาขึ้นมองนายทหารชั้นสูงผู้นั้น เอ่ย “เป็นเช่นนั้น แล้วเยี่ยงไร”

นายทหารชั้นสูงผู้นั้นถูกดวงตาเย็นยะเยือกจับจ้อง รู้สึกราวกับมีเข็มกำลังปักลงบนร่างกาย เนิ่นนานกว่าจะมีสติกลับคืนมา ยิ้มเย็น เอ่ย “เยี่ยงไรอย่างนั้นหรือ ข้ามิได้โชคดีมีเสด็จลุงเป็นผู้ปกครองเมือง มีมารดาเป็นต้าจั่งกงจู่ จะทำอย่างไรได้เล่า”

เว่ยจวินมั่วหลุบตาลง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็หุบปากเสีย”

“เจ้า!” นายทหารชั้นสูงผู้นั้นลุกขึ้นยืนทันใด จ้องเว่ยจวินมั่วเขม็งเห็นชัดว่าโกรธไม่น้อย

ด้านหลังเว่ยจวินมั่ว ซิงเวยชักกระบี่ยาวออกมาจากฝัก ปลายกระบี่แหลมชี้ไปยังนายทหารผู้นั้น ใบหน้าซิงเวยเย็นชาดุจขุนเขา เส้นผมสีเทาบวกกับดวงตาไร้ความรู้สึก ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีเข็มทิ่มเข้าไปในกระดูก

‘ปึก!’ ถ้วยชาในมือของเซี่ยลี่ถูกวางลงบนโต๊ะแรงๆ เอ่ยเสียงเย็น “พอแล้ว พวกเจ้ายังเห็นข้าอยู่ในสายตาหรือไม่”

เห็นเซี่ยลี่โกรธขึ้นมา นายทหารชั้นสูงผู้นั้นจึงส่งเสียงหยันในลำคอพร้อมกับนั่งลง มองมาทางนี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“แม่ทัพเว่ย” เซี่ยลี่ขมวดคิ้ว มองมายังเว่ยจวินมั่ว

หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ยเสียงเบา “เวย เก็บกระบี่เถิด”

ซิงเวยเก็บกระบี่ไปเงียบๆ กลับมายืนที่ตำแหน่งเดิม ยังคงยืนกอดกระบี่ไม่เอ่ยวาจาอยู่เช่นเดิม ราวกับคนที่กระจายไอสังหารเมื่อครู่มิใช่เขา เซี่ยลี่มองทหารทั้งสองฝั่ง ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ เอ่ยเสียงเข้ม “ในเมื่อแม่ทัพเว่ยเพิ่งมาถึงครั้งแรก แต่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานขั้นสองที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้ง ขั้นสองเช่นเดียวกันไม่อาจเสียมารยาท แม่ทัพเว่ย ช่วยสั่งสอนคนของท่านให้ดีด้วย หากเกิดเรื่องที่ไม่สมควรขึ้นในกองทัพ อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง นายทหารชั้นสูงคนอื่นๆ เองก็ตอบรับ “น้อมรับท่านแม่ทัพที่ชี้แนะ” ทั้งสองฝั่งจึงสงบลง เซี่ยลี่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เอ่ย “แม่ทัพเว่ยเพิ่งมา คิดว่าคงยังไม่คุ้นเคยกับตำแหน่งในค่ายบัญชาการโยวโจว ข้ามีทหารในการดูแลทั้งหมดหนึ่งแสน ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้ามีขุนพลขั้นสองสองคน และสี่คนอยู่ในขั้นสาม เพียงแต่สองเดือนก่อน แม่ทัพหันอายุมากจึงกลับบ้านเกิดไปแล้ว ดังนั้นเยี่ยนอ๋องจึงได้แนะนำให้แม่ทัพเว่ยมารับตำแหน่ง ต่อไปแม่ทัพเว่ยก็รับหน้าที่ต่อจากแม่ทัพหันก็พอ แม่ทัพเว่ยมีอันใดสงสัยหรือไม่”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท