หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนทื่ 687 เดิมพัน (1)

ตอนทื่ 687 เดิมพัน (1)

หลิ่วหันตรวจต่อไป ตรวจสอบทั่วทั้งร่างของหญิงสาว คุณชายจ้าวที่ยืนอยู่ด้านข้างเริ่มหงุดหงิด เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าหมายความเช่นไร คนตายไปแล้วพวกเจ้ายังคิดดูหมิ่นคนตายอย่างนั้นหรือ” หนานกงมั่วหันกลับไป มองคุณชายจ้าวด้วยสายตาเรียบนิ่ง เอ่ย “ตามที่คุณชายจ้าวเอ่ยเช่นนี้ หากจวิ้นจู่เช่นข้ายกให้เจ้าเป็นคนจัดการแล้วคนตายจะตายอย่างสงบได้อย่างนั้นหรือ จวิ้นจู่เช่นข้าเกรงว่า คนผู้นี้คงตายตาไม่หลับแน่”

คุณชายจ้าวหัวใจกระตุก “เจ้าหมายความเช่นไร”

หนานกงมั่วยิ้มไม่เอ่ยวาจา

“เกิดอันใดขึ้น” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังเข้ามาจากด้านอก คุณชายจ้าวมีสีหน้ายินดีขึ้นมา หันกลับไป “ท่านพ่อ ท่านต้องจัดการให้ข้านะขอรับ”

ผู้ที่มาใหม่ก็คือแม่ทัพจ้าวที่ทะเลาะกับพวกหนานกงมั่วเมื่อหลายวันก่อน แม่ทัพผู้นี้อายุเกือบจะห้าสิบปีแล้ว ทว่ายังคงกำยำ ชีวิตในสนามรบกว่าหลายสิบปีทำให้เขาดูดุร้ายและโหดเหี้ยม ทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้

แม่ทัพจ้าวกวาดตามองหนานกงมั่ว ส่งเสียงหยัน เอ่ย “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ ท่านทำเยี่ยงนี้หมายความเช่นไร”

หนานกงมั่วลุกขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “จวิ้นจู่ข้าก็อยากถามแม่ทัพจ้าว คุณชายของท่านหอบศพมาขวางทางเข้าสำนักแพทย์ของข้าหมายความเช่นไร”

“เห็นอยู่ว่าหมอของพวกเจ้าจ่ายยาจนคนตาย” แม่ทัพจ้าวอาศัยว่ามีคนหนุนหลังเขา เอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างถือดี “หากจวิ้นจู่คิดจะเอาฐานะมากดดันพวกข้า มิสู้เราไปขอความยุติธรรมจากแม่ทัพเซี่ยเป็นอย่างไร” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่จำเป็นต้องถึงแม่ทัพเซี่ยหรอก จวิ้นจู่เช่นข้าจะคุยกับท่านด้วยเหตุผล…ที่นี่”

แม่ทัพจ้าวส่งเสียงหยัน เอ่ย “จวิ้นจู่ เรื่องเช่นนี้สตรีเยี่ยงท่านคนเดียวคงไม่อาจตัดสินได้ เชิญแม่ทัพเว่ยกลับมาแล้วค่อยว่ากันเถิด ส่วนนักโทษสองคนนี้จับขังเอาไว้ก่อน”

คนของหยาเหมินไม่กล้าแตะต้อง คนติดตามอยู่ด้านหลังแม่ทัพจ้าวกลับไม่มีความเกรงกลัวนั้น เดินขึ้นมาด้านหน้าคิดจะควบคุมตัวจางจวีอานและติงเสียวเถี่ย ใบหน้าของหนานกงมั่วทะมึนขึ้น เอ่ยเสียงเย็น “ข้าจะดูว่าใครกล้า”

“ลงมือ” แม่ทัพจ้าวไม่เกรงกลัวต่อหนานกงมั่ว ส่งสัญญาณมือออกคำสั่ง

อย่างไรคำสั่งของทหารก็มีน้ำหนักมากกว่า ทหารองครักษ์หลายคนไม่กล้ารีรอรีบเข้าไปควบคุมตัวติงเสียวเถี่ยและจางจวีอานเอาไว้

“บังอาจ” ไม่รู้เมื่อไรที่คนสองคนอยู่ในชุดทหารองครักษ์เหมือนกันมายืนปรากฏตัวอยู่ด้านข้างหนานกงมั่ว ดาบซ้ายขวายื่นเข้ามาขวางทางองครักษ์เหล่านั้น มองชายที่มีสีหน้าไม่เป็นมิตรปรากฏตัวขึ้น องครักษ์ของแม่ทัพจ้าวพลันไม่กล้าก้าวต่อไปด้านหน้า แม่ทัพจ้าวพลันรู้สึกเสียหน้า “คำสั่งข้าพวกเจ้าไม่ฟังแล้วหรือ ยังไม่รีบจับตัวเอาไว้อีก”

“หาเจอแล้วเจ้าค่ะ” ด้านหลัง หลิ่วหันเอ่ยขึ้นมา ทุกคนได้ยินเช่นนั้นจึงหันเหสายตาไปมองยังหลิ่วหันที่นั่งอยู่ เห็นเพียงหลิ่วหันกำลังใช้มือลูบไปที่ศีรษะของหญิงสาว ดึงเข็มเงินยาวที่ปักอยู่ออกมาช้าๆ หลิ่วหันลุกขึ้น บิดเข็มเงินในมือ เอ่ย “คุณชายจ้าวจะบอกว่าท่านหมอจางแทงเข็มนี้ลงไปบนศีรษะของอนุที่รักของท่านหรือ แม่ทัพจ้าว หากไม่เชื่อได้โปรดให้อู่จั้ว[1]ของหยาเหมินมาชันสูตรศพ มาดูว่าเข็มเล่มนี้ถูกแทงเข้าไปตั้งแต่เมื่อใด”

เข็มเล่มนี้ทั้งยาวและเรียว โค้งงอได้ง่าย คิดอยากแทงเข้าไปบนศีรษะของคนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อแทงเข้าไปแล้ว ร่องรอยนั้นเล็กราวกับเส้นผม หากเป็นอู่จั้วธรรมดาคงหาสาเหตุการตายไม่ได้ หนานกงมั่วหยิบผ้าออกมารับเข็มในมือของหลิ่วเอาไว้ มองสำรวจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นหันไปมองคุณชายตระกูลจ้าว เข็มแบบนี้คิดจะแทงเข้าไปยังจุดลมปราณบนศีรษะคน ไม่มีพื้นฐานกำลังภายในนั้นทำไม่ได้ เห็นชัดว่าสองพ่อลูกตรงหน้านั้นทำไม่ได้ มองดูสายตาฉายแววตื่นตกใจของคุณชายจ้าว เห็นชัดว่าเขาไม่รู้ถึงสาเหตุการตายของสตรีผู้นี้จริงๆ เช่นนั้น…ถูกคนหลอกใช้หรือ

เพียงแต่…ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าได้หวังว่าจะถอนตัวออกไปง่ายๆ หนานกงมั่วเก็บเข็มเงินเอาไว้ เอ่ยกับองครักษ์ด้านข้าง “ไปตีกลองที่หยาเหมิน จวิ้นจู่เช่นข้าจะร้องคุณชายจ้าวฆ่าอนุภรรยาใส่ร้ายผู้อื่น”

“ขอรับ จวิ้นจู่” องครักษ์คนหนึ่งพยักหน้ารับ หมุนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านที่มุงดูอยู่รอบๆ ตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตรงหน้า ได้แต่ยืนนิ่งงันมองกลุ่มคนตรงหน้า

คุณชายจ้าวผู้นั้นโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ เอ่ยขึ้นด้วยความโกรธ “เจ้าเหลวไหล ใส่ความ”

หนานกงมั่วยิ้มร้าย “ใส่ความหรือ คุณชายจ้าวเจ้าไร้ซึ่งหลักฐานก็ยกศพมาขวางทางอยู่หน้าประตู ข้าถึงจะเรียกว่าใส่ความ ข้าจวิ้นจู่…เรียกว่าใส่ใจในความมั่นคงของประชาชน ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับราชสำนัก มีอันใดคุณชายจ้าวก็ไปบอกกับนายอำเภอที่หยาเหมินเถิด” คุณชายจ้าวกลับไม่ได้กังวลอันใดนัก เพียงแต่สถานการณ์เช่นนี้นั้นน่าขายหน้าเป็นที่สุด “ใครกล้า”

หนานกงมั่วหัวเราะมองไปยังแม่ทัพจ้าว เลิกคิ้ว “แม่ทัพจ้าว ท่านก็อยากเอ่ยว่า ใครกล้า หรือ เห็นว่า…คนของจวิ้นจู่เช่นข้าทำผิดจะต้องโบยให้ตาย หากเป็นคุณชายของท่านทำผิดแล้วนอนสบายหายห่วงอย่างนั้นหรือ อนุญาตขุนนางวางเพลิงทว่าไม่อนุญาตให้ชาวบ้านจุดตะเกียงคงมิใช่เรื่องที่ดีนัก”

แม่ทัพจ้าวกัดฟัน ใบหน้าทะมึน เอ่ย “พาคุณชายไปหยาเหมิน”

“ท่านพ่อ…”

“หุบปาก” แม่ทัพจ้าวเอ่ยอย่างไม่พอใจ ยังไม่ทันได้เอ่ยอันใด น้ำเสียงร้อนใจก็ดังขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ แย่แล้วขอรับ คุณชายสี่เพิ่งจะถูกม้าเหยียบขาหักขอรับ”

“ว่าอันใดนะ” ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของแม่ทัพจ้าวก็เปลี่ยนไปทันที

แม่ทัพจ้าวผู้นี้มีอนุภรรยามากมาย เช่นเดียวกันบุตรชายและบุตรีก็มากไปด้วย เพียงแต่คนที่ได้อยู่ในค่ายทหารด้วยนั้นมีเพียงบุตรชายเชื้อสายรองสองคนละบุตรีเชื้อสายรองหนึ่งคนที่เกิดจากอนุภรรยาคนเล็ก และหนึ่งในนั้นที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดคงจะเป็นคุณชายสี่ผู้นี้ ไม่เพียงเป็นบุตรชายที่เกิดจากอนุที่รัก ยังเป็นบุตรชายที่เขาสามารถเชิดหน้าชูตาได้ดีที่สุด ตอนนี้ได้ยินว่าเขาถูกม้าเหยียบขาหัก แม่ทัพจ้าวจึงร้อนรนขึ้นมา หมุนตัวกำลังจะเดินกลับออกไป

เพียงแต่ อยากมานั้นมาง่ายอยากไปกลับไม่ง่ายเพียงนั้น ยังไม่ทันได้หันหลังกลับก็ถูกองครักษ์ข้างกายของหนานกงมั่วและหลิ่วหันขวางทางเอาไว้ แม่ทัพจ้าวร้อนใจ ยิ่งไม่พอใจหนานกงมั่วมากขึ้น เอ่ยเสียงเย็น “ซิงเฉิงจวิ้นจู่ ทำเช่นนี้หมายความเยี่ยงไร” หนานกงมั่วตวัดดวงตาขึ้นมองด้วยท่าทีงดงาม เอ่ยเสียงเรียบว่า “เรื่องที่นี่ยังไม่จบ ท่านแม่ทัพก็คิดจะไปแล้วหรือ กล้ายกศพมาหาเรื่องข้าถึงหน้าประตู หากท่านแม่ทัพไม่มีคำอธิบายให้กับข้า ท่านจะให้ข้าหนานกงมั่วเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

เดิมทีคุณชายจ้าวมาหาเรื่องหนานกงมั่วก็ไม่ได้หารือกับแม่ทัพจ้าวมาก่อน แม่ทัพจ้าวไม่ชอบเว่ยจวินมั่ว แน่นอนว่าต้องช่วยบุตรชายของตน แต่ว่าตอนนี้มีเรื่องสำคัญ ไหนเลยจะมีกะจิตกะใจมาสนใจเรื่องพวกนี้ เพียงปัดมือ เอ่ย “จวิ้นจู่จัดการไปตามกระบวนการยุติธรรมก็พอ หากเป็นความผิดของลูกชั่ว ตระกูลจ้าวไม่มีทางไม่ยอมรับแน่ ตอนนี้ขอจวิ้นจู่หลีกทางด้วย ข้ามีเรื่องเร่งด่วน”

หนานกงมั่วยกยิ้มมุมปาก คล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้มปรายตามองคุณชายจ้าว เอ่ย “ท่านแม่ทัพช่างเที่ยงธรรม จวิ้นจู่เช่นข้านับถือ เช่นนั้นก็ไม่รบกวนเวลาท่านแม่ทัพแล้ว เชิญท่านแม่ทัพ”

แม่ทัพจ้าวส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ ทิ้งไว้เพียงสองคนจากนั้นจึงเดินนำทหารองครักษ์ออกไป

แม่ทัพจ้าวกลับไม่คิดว่าการตัดสินใจของตนนั้นมีปัญหาอันใด อย่างไรต่อให้บุตรชายใส่ร้ายหมอจากสำนักแพทย์ของหนานกงมั่วจริงๆ ถึงตอนนั้นค่อยบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้ อีกทั้งต่อให้บุตรชายถูกส่งไปยังหยาเหมิน อย่างไรตอนนี้เจ้าหน้าที่ที่หยาเหมินก็ยังไม่กล้าทำอันใดกับเขา แต่ว่าบุตรชายที่รักตอนนี้กลับถูกม้าเหยียบจนขาหัก เป็นอย่างไรบ้างก็ยังไม่รู้ แน่นอนว่าฝั่งนั้นเร่งด่วนกว่า รอจนเขาดูสถานการณ์การบาดเจ็บชองบุตรชายเสร็จค่อยกลับมาจัดการทางนี้ก็ยังทัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากทำให้ซิงเฉิงจวิ้นจู่ขุ่นเคือง อีกทั้งยังตกไปอยู่ในมือของนางจะมีจุดจบอย่างไร

[1]อู่จั้ว เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพในสมัยจีนโบราณ

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท