ตอนที่ 243 คนทรยศ
ซ่งต๋าไม่เคยคิดว่าตัวเองรู้ความแล้ว คิดเพียงแค่ หากทั้งหมดเป็นไปตามที่คนเขากล่าว ตนคงไม่มีหน้าเจอบรรดาสหายอีกแล้ว
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่อยากตอบตกลง
เห็ดหลินจือ นางไม่ต้องการหรอก
นางไม่เคยเห็นเห็ดหลินจือมาก่อน จริงอยู่ที่เห็ดหลินจือนั่นชวนให้คนอิจฉาตาร้อน แต่ตอนนั้นพ่อเฒ่ากล่าวต่อหน้าทุกคนไว้ชัดเจนแล้วว่า จะคืนเห็ดหลินจือแก่ฮั่วหลิน ดังนั้นต่อให้นางอยากได้ นางก็ไม่คิดจะก่อเรื่องอะไร…
หากนางเปลี่ยนใจอยากได้ คงเป็นเพราะกรณีอื่นมากกว่า
เช่นพ่อเฒ่าเปลี่ยนใจภายหลัง คิดจะแบ่งเห็ดหลินจือให้บรรดาบุตรชาย หากเป็นเช่นนั้นนางจะเข้าร่วมการเจรจาเพื่อแบ่งสันปันส่วนเห็ดหลินจือเป็นแน่…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบุตรชายที่พูดถึงปัญหาอย่างตรงไปตรงมา เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่จึงไม่กล้ารับปาก
เมื่อก่อนบุตรชายไม่เคยเรียกร้องอะไร นี่นับเป็นครั้งแรกที่พูดจาอย่างรู้ความและอ่อนน้อมเช่นนี้ แม้นางคิดว่าบุตรชายตนซื่อบื้อ แต่เมื่อนึกถึงอุปนิสัยเด็กหนุ่มซ่งสวินผู้นั้น ก็พลันคิดว่า ลูกต๋ารู้ความเช่นนี้ดีแล้ว
“แม่…แม่จะไม่ให้พี่ชายเจ้าก่อเรื่องเช่นนั้นเป็นแน่…” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่อ้ำๆ อึ้งๆ แต่ท้ายที่สุดก็กล่าวออกมา
แต่ซ่งต๋ากลับมองมารดาอย่างผิดหวัง “แต่ท่านแม่ ท่านพูดไปก็เปล่าประโยชน์! พี่ใหญ่ไม่เชื่อฟังท่านหรอก!”
“…” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่รู้สึกคล้ายลูกธนูพุ่งปักเข้ากลางหัวใจอย่างแม่นยำ
นางอ้าปากหมายจะโต้แย้ง แต่กลับพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
บุตรชายคนโต…น่าจะไม่เชื่อฟังนางจริงๆ นั่นแหละ
ซ่งต๋าถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ไยชีวิตข้าจึงทุกข์ขนาดนี้ มีพี่ชายแท้ๆ กลับมีนิสัยชั่วร้าย ท่านดูพี่ชายคนรองสิ ตอนที่เขากลับมาครั้งก่อน อ่อนโยนต่อข้าจะตาย ทั้งยังถามข้าด้วยว่า ระยะนี้เรียนเป็นอย่างไรบ้าง ชมเชยข้ายกใหญ่! ส่วนพี่ใหญ่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน!”
“…” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ปวดใจยิ่งขึ้น
บุตรชายคนเล็กเป็นคนทรยศเห็นๆ
ไฉนจึงไปชื่นชมคู่อริเสียได้ละ…
หัวใจที่เจ็บปวดรวดร้าวเต้นระรัวด้วยความรู้สึกแย่ๆ
ขณะที่อึดอัดใจอยู่นั้นก็มีแขกมาเยือนบ้านซ่ง
มืดค่ำป่านนี้ ซ่งอิงกลับพาฮั่วหลินและซ่งอู่มาเยี่ยมเยียน
ทั้งสองบ้านอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ระยะทางไม่ได้ห่างไกล จึงเดินทางไปมาสะดวก เพื่อระงับอาการหงุดหงิดของเด็กทั้งสองคนในบ้าน ซ่งอิงจึงไม่มีตัวเลือก นอกจากพาทั้งสองมาที่นี่
ก่อนหน้านี้เด็กทั้งสองคนล้วนเศร้าใจ แต่ยามนี้กลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ครั้นถึงบ้านซ่ง เด็กทั้งสองเตะประตูห้องซ่งต๋าด้วยความหงุดหงิด ซ่งต๋าตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นมาจากเตียง
“อาหก! ท่านไม่พูดคำไหนคำนั้น ท่านยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่!? ทั้งที่พวกเราพูดกันไว้ดิบดีว่าจะไปรับความลำบากที่โรงเรียนด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าท่านจะกล้าโดดเรียน ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านโดดเรียนครั้งหนึ่งจะถูกหักดอกไม้แดงออกไปกว่าครึ่งหนึ่งเชียวนะ!” ฮั่วหลินอยากจะหยิกซ่งต๋าเสียเหลือเกิน
จะหายเงียบไปสองสามวันก็ได้ แต่นั่นมันเหมือนกับโดดเรียนที่ไหนเล่า?!
มารดาเขาพูดคำไหนคำนั้นมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ทันไรก็คงหักลบดอกไม้แดงออกไปจนเกือบหมดแล้ว ถึงตอนนั้นซ่งต๋าคิดจะกลับมาก็ไม่ได้แล้วน่ะสิ!
“น้องหก! เจ้าทำเยี่ยงนี้ผลที่ตามมาภายหลังจะร้ายแรงอย่างยิ่ง! เหตุใดจึงทำเช่นนี้ ข้าผิดหวังในตัวเจ้าเหลือเกิน!” ซ่งอู่เจ็บปวดใจคล้ายถูกรังแกไม่ต่างกัน
ซ่งอิงอุดหู เด็กๆ โหวกเหวกโวยวายเหลือเกิน
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ช่างสรรหามาเอะอะโวยวายกันจริงๆ
ทันทีที่ซ่งต๋าเห็นผู้มาเยือนก็รีบมุดเข้าใต้ผ้านวมทันทีทันใด เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ทำใจให้บุตรชายถูกเข้าใจผิดได้ที่ไหน นางรีบขวางเด็กน้อยทั้งสองคนไว้ แล้วนำคำพูดของซ่งต๋าไปบอกกล่าว
“ลูกต๋าบ้านข้ามีความตั้งใจทำดีจริงๆ เพียงแต่…ไม่อาจห้ามคนอื่นพูดจาว่าร้ายลับหลังได้น่ะสิ…” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ยิ้มเล็กน้อย มองซ่งอิงแวบหนึ่ง
ซ่งอิงขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้
เพราะตอนที่ข้ามภพมา ซ่งต๋าทำเรื่องเลวร้ายต่อนาง นางจึงไม่ค่อยถูกชะตากับซ่งต๋าสักเท่าไร ตอนนั้นที่ซ่งต๋าเอ่ยปากขอพักเรื่องเรียน นางคิดว่า เด็กคนนี้ขี้เกียจเรียนอีกแล้ว หรือไม่ก็เพราะทางด้านครอบครัวบุตรคนโตคิดไม่ซื่อขึ้นมาอีกแล้ว…
คิดไม่ถึงเลยว่า เหตุเกิดเพราะมีคนพูดจาเหลวไหลลับหลัง
ตอนที่ 244 หลบเอาหน่อย
ซ่งต๋าอุปนิสัยใจคอเช่นนี้ หากใช้วาจานิ่มนวลคงไม่ได้ผลแน่
สาเหตุของเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่ซ่งต๋าคิดว่า จะช้าหรือเร็วซ่งเลี่ยนและซ่งอิงต้องมีปัญหากระทบกระทั้งกันแน่นอน ถึงตอนนั้นซ่งต๋าคงไม่กล้าสู้หน้าผู้อื่น สู้รีบไสหัวออกมาแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า…
ซ่งอิงมองซ่งต๋าอย่างประหลาดใจ
ซ่งต๋ารู้สึกละอายใจเล็กน้อย “พี่รอง…ในภายภาคหน้า ข้าจะปกป้องเห็ดหลินจือที่เป็นของหลานหลินอย่างแน่นอน…”
“…” ซ่งอิงพลันละอายใจ
ฮั่วหลินและซ่งอู่ต่างตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าสาเหตุที่สหายหักหลังตนเองจะเป็นเพราะเรื่องนี้ ความโกรธเคืองจึงมลายหายไปในทันใด “น้องหก หนิวซานซานเป็นคนทำใช่หรือไม่!”
“ไม่ใช่” ซ่งต๋าก้มหน้า แล้วมองซ่งอิงแวบหนึ่ง “หนิวซานซานเป็นเพียงตัวกลางชักนำ รั้งตัวข้าเอาไว้ชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นพี่หลี่เป็นคนออกหน้า…”
“เขาบอกกับข้าชัดเจนว่า ไม่ให้ข้าอยู่บ้านพี่รองอีก บอกว่าแม่ข้า…แม่ข้าขี้เหนียว จึงให้พี่รองคอยเลี้ยงดู ไม่ว่าจะเป็นการดื่ม การกิน แล้วยังเอ่ยว่า เมื่อพี่ใหญ่ข้ากลับมา เห็นข้าเป็นเช่นนี้ก็จะไม่นับข้าเป็นน้องชายแล้ว มิหนำซ้ำยังพูดว่า พี่ใหญ่และพี่รองไม่ถูกกัน…เดิมทีข้าไม่ได้เก็บมาคิดจริงจัง แต่…ระยะนี้ในโรงเรียน ข้าได้ยินคนอื่นพูดถึงข้าอย่างลับๆ พวกเขากล่าวว่า ข้าอยู่กับพี่รองเพราะคิดจะฮุบสมบัติครอบครัวพี่รอง…”
“พี่รอง ข้าเปล่าจริงๆ นะ ข้าก็แค่อยากกินของดีๆ ข้าไม่ได้ต้องการเงินเลย” ซ่งต๋าเสริมหนึ่งประโยค
อาหารที่มารดาเขาทำไม่อร่อย ไม่เหมือนพี่สาวคนรองที่ทำกับข้าวใส่น้ำมันอย่างไม่นึกเสียดาย
“ท่านอยากเล่นกับข้าต่างหาก!” ฮั่วหลินขมวดคิ้วพลางกล่าวกับซ่งต๋าอย่างไม่พอใจ
“ใช่” ซ่งต๋าพยักหน้าทันที
ฮั่วหลินจึงพอใจ
“หลี่จิ้นเป่าไอ้คนสมควรตาย ลูกชายข้าเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย? ต้องจุ้นจ้านมากขนาดนี้เชียว! ข้าจะทุบเขาให้แหลก!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความโกรธ
ซ่งอิงคิดไม่ถึงเช่นกันว่า หลี่จิ้นเป่าจะว่างงานขนาดนี้
ไม่ให้ซ่งต๋าไปบ้านนางแล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรล่ะ
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ระเบิดอารมณ์ ยิ่งคิดยิ่งทนไม่ไหว ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วยื่นมือมาฉุดซ่งต๋าให้ลุกออกจากผ้านวม หยิบมีดแล้วเดินปรี่ไปบ้านหลี่
ซ่งอิงคิดเช่นกันว่า ต้องสั่งสอนหลี่จิ้นเป่าสักหน่อย จึงไม่คิดห้าม
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่เดินดุ่มมุ่งหน้าไปบ้านหลี่ ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงตะโกนด่าทอไปด้วย ผู้คนตามรายทางล้วนชะโงกหน้ามอง และคนจำนวนไม่น้อยก็พากันเดินตามไปรับชมราวกับเป็นเรื่องสนุก
“หลี่จิ้นเป่า! เจ้าโผล่หัวออกมาเสีย! ไอ้คนสารเลวหัวใจดำมืด ตระกูลซ่งข้าไปทำอะไรให้เจ้า เจ้าจึงพูดจาใส่ร้ายป้ายสีลูกชายข้า ไม่กลัวถูกนรกตัดลิ้นบ้างหรือไร!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนมาดูเร็วเจ้าค่า ครอบครัวบุตรลำดับที่สามของตระกูลหลี่ช่างหน้าไม่อาย ตอนแรกให้ร้ายหลานสาวข้า เด็กคนนี้ก็เลยเลียนแบบ มาคราวนี้ก็กล่าวหาลูกชายที่ศึกษาหาความรู้อยู่กับพี่สาวว่ามีเจตนาไม่ดีแอบแฝงอีก!”
“ใช่ ลูกชายคนโตของข้าเดินไปในทางที่ผิด แต่ตระกูลซ่งก็ส่งเขาไปรับโทษที่หยาเหมินแล้ว ไม่ได้ติดค้างใครทั้งนั้น! และไม่ได้ติดค้างเอ้อร์ยาแล้วเช่นกัน! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับลูกต๋าบ้านข้าด้วย?! ลูกชายที่น่าสงสารของข้าถูกไอ้สารเลวผู้นี้ว่าร้ายจนไม่กล้าออกไปไหนมาไหน! ลูกต๋าบ้านข้าเป็นคนที่เปราะบางเสียยิ่งอะไร ถูกเจ้าข่มขู่จนกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว!”
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่นึกถึงตอนที่บุตรชายปาหินใส่ซ่งอิงก็ยิ่งเดือดดาลในใจ
“ไอ้คนหน้าไม่อายผู้นี้ ตั้งตนเป็นอริกับหลานสาวตระกูลข้ามาโดยตลอด ตอนแรกก็เป่าหูเด็กๆ ในหมู่บ้านให้เล่นงานหลานสาวข้า ตอนนั้นถึงขั้นหน้าผากแตก เลือดตกยางออก เกือบเอาชีวิตไม่รอด!!”
“หลี่จิ้นเป่า! เจ้าเก่งนักก็โผล่หัวออกมาสิโว้ย คอยดูเหอะข้าจะสับเจ้าให้กลายชิ้น!”
“…”
หลี่จิ้นเป่ากล้าออกมาเสียที่ไหนกัน
ทุกอย่างที่เขาทำล้วนมีความเสี่ยง แต่เขาทำไปก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อซ่งอิง
เขาไม่เชื่อว่า ซ่งอิงจะชอบลูกพี่ลูกน้องชายผู้ดีแต่กิน ดีแต่ดื่มสองคนนั้น!
หากเขาลอบขับไล่คนเหล่านั้นให้ไสหัวไปได้ ซ่งอิงต้องขอบคุณเขาแน่นอน ถูกหรือไม่? ส่วนเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่…ถึงอย่างไรก็บุกเข้าบ้านเขาไม่ได้ เขาคอยหลบเอาหน่อยก็พอแล้ว!