ตอนที่ 251 เลี้ยงลูกชาย
พ่อค้าต่างถิ่นสามสี่เจ้านี้ไม่ได้กินผลกำไรจากสินค้าประเภทเดียว ฉะนั้นการแนะนำดังกล่าวจึงเป็นความหวังดีล้วนๆ
น่าเสียดายที่ ณ ตอนนี้โรงอี้จวินไม่อาจเปิดร้านสาขาย่อยได้
โรงอี้จวินเพิ่งลืมต้าอ้าปากได้อีกครั้ง เป้าหมายหลักยังคงเป็นการพัฒนากิจการเครื่องประทินโฉมของตัวเอง จะได้มีโอกาสดีๆ ท้าทายร้านชุ่ยเหยียนไจด้วยเช่นกัน กิจการในถิ่นเดิมยังทำได้ไม่ดี แล้วจะไปทำนอกพื้นที่ได้อย่างไร?
ซ่งอิงคิดคำนวณเงินเก็บของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง
น่าเวทนาเล็กน้อย
เดือนหนึ่งแม้ทำเงินได้เกือบๆ สามร้อยตำลึงเงิน แต่ก็ใช้จ่ายไปมากเช่นกัน นอกจากค่าวัตถุดิบแล้ว ในบ้านยังต้องเลี้ยงดูเด็กกินเก่งอีกสามคน ส่งผลให้ในมือมีเงินเก็บเพียงสองร้อยตำลึงเท่านั้น เงินจำนวนเท่านี้ ประหยัดๆ หน่อยคงเพียงพอเลี้ยงชีพได้ชั่วชีวิตแล้ว แต่หากคิดจะเปิดร้านค้าสักแห่ง…ค่อนข้างยากทีเดียว
หากช่วงแรกเพียงแค่เช่าห้องก็คงไม่มีปัญหา
แต่นางไม่มีลูกมือ
ซ่งอิงกำลังครุ่นคิด ปรายตามองไปเห็นอาสี่ของนางกำลังเดินอาดมุ่งหน้ามายังโรงอี้จวินพอดี
ครั้นพ้นประตูเข้ามา มองเห็นนางก็ยกยิ้มมุมปาก “เอ้อร์ยาอยู่ด้วยหรือ พอดีเลย เอาอวี้เมี่ยนเถาฮวา[1]ให้ข้าชุดหนึ่ง ข้าจะเอากลับไปมอบให้อาสะใภ้สี่เจ้า”
ซ่งอิงเห็นซ่งหม่านซานกลับดวงตาลุกวาว
เจ้าของกิจการฮวาให้คนนำสิ่งของมามอบให้ทันที “หลายปีมานี้น้องซ่งอุดหนุนกิจการข้ามาโดยตลอด เครื่องแป้งชุดนี้ลดราคาให้เจ้าหกส่วนแล้วกัน”
“เกรงใจกันเกินไปแล้ว” ซ่งหม่านซานคลี่ยิ้มสบายๆ จากนั้นปรายตามองซ่งอิงแวบหนึ่ง “เจ้ามองข้าทำไม หน้าข้ามีอะไรติดหรือ”
ซ่งหม่านซานรับของมาไว้เรียบร้อยก็สาวเท้ายาวเดินออกไป ซ่งอิงเดินตามไปติดๆ ทันที
“อาสี่ งานที่ท่านทำอยู่ยังน่าทำหรือไม่” ซ่งอิงเอ่ยถาม
“ทำไมจะไม่น่าทำล่ะ วันๆ ไม่มีเรื่องอะไรต้องทำ ปล่อยน้ำลงร่องระบายน้ำบ้างเป็นครั้งคราวก็ใช้ได้แล้ว เรื่องอื่นก็มีคนอื่นจัดการอยู่ด้วย ข้าแค่อยู่ไปวันๆ เท่านั้น” ซ่งหม่านซานไม่กระดากอายแต่อย่างใด
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาบ่าย หากไม่ใช่งานเบาสบายเหลือเกิน เขาจะถ่อออกมาเดินเตร็ดเตร่ได้อย่างไรล่ะ
แน่นอนละ งานเช่นเจ้าหน้าที่คุมประตูระบายน้ำนี่ ตามจริงก็มีช่วงเวลาที่ยุ่งเช่นกัน แต่เขาเป็นใครล่ะ ย่อมมีวิธีแอบอู้อยู่แล้ว
ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย “เช่นนั้น…อาสี่ ทำงานนี้แล้วมีความสุขหรือไม่”
“ก็พอได้” ซ่งหม่านซานเองก็ไม่ได้เห็นซ่งอิงเป็นเด็กน้อยที่ต้องพูดจาเอาใจ จึงบอกกล่าวตามตรงอีกครั้ง “อาสี่อย่างข้าไม่มีความสามารถอื่นใดเช่นกัน นอกจากรู้จักคบหาสหายมากหน้าหลายตา งานอื่นก็ไม่ถนัดทั้งนั้น ตอนนี้ลูกคังก็สามขวบกว่าแล้ว ข้าผู้เป็นพ่อจะทำตัวไร้การไร้งานไปวันๆ เช่นเมื่อก่อนนั้นก็ไม่ดีนัก จะอย่างไรก็ต้องขยันขันแข็งเสียหน่อย ภายภาคหน้ายังต้องเก็บเงินแต่งเมียให้ลูกคังอีก”
หากไม่ทำงาน ใครจะเลี้ยงภรรยาและลูกเขาล่ะ
เมื่อก่อนค่อยยังชั่ว บิดาเขาใจกว้างให้เงินเลี้ยงดู ตอนนี้แตกต่างไป พี่รองแยกครอบครัวออกไปแล้ว ทะเบียนครัวเรือนพวกเขาสามพี่น้องแม้ยังอยู่ด้วยกัน แต่ทรัพย์สินในครอบครัวก็แบ่งสันปันส่วนกันไปแล้วรอบหนึ่ง หากคิดจะแบมือขอเงินอีก เช่นนั้นก็ไม่ได้แล้ว!
เขาเป็นคนที่มีศักดิ์ศรี หากให้คนเห็นภรรยาเขาผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แม้แต่เงินซื้อแป้งทาหน้าและเยี่ยนจือยังไม่มี เช่นนั้นเขายังจะมีหน้าอยู่ได้อย่างไร
ดังนั้น ไม่ว่างานนี้ดีหรือไม่ดีก็ทำๆ ไปเถอะ!
“เหตุใดเจ้าจึงสนอกสนใจสถานการณ์อาสี่อย่างข้าขึ้นมาล่ะ” ซ่งหม่านซานพูดจบ พลันรู้สึกไม่ชอบมาพากล
ซ่งอิงยิ้มอ่อน “ข้าก็แค่อยากถามไถ่อาสี่ดูว่ามีความคิดที่จะช่วยข้าทำงานหรือไม่…”
“ยาสระชิงซือ?” ซ่งหม่านซานมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างรวดเร็ว
“ถูกต้อง กิจการยาสระชิงซือดำเนินไปได้ไม่เลว สอดคล้องกับความต้องการของชาวบ้านทั่วไป หากไปเปิดโรงผลิตแล้วเร่ขายในที่อื่น กิจการจะต้องยอดเยี่ยมเป็นแน่ อีกทั้งมีพ่อค้าสี่ห้าคนก่อนหน้านี้ช่วยเป็นหน้าเป็นตาสร้างชื่อเสียง การที่ข้าจะเอื้อมมือเข้าไปทำก็เบาแรงขึ้นมาก…เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่มีคนช่วยงานเสียนี่” ซ่งอิงกล่าว
ซื้อคนก็พอพึ่งพาได้อยู่ แต่คนที่ซื้อจะมีนิสัยใจคอและฝีมืออย่างไรนางเองก็คาดเดาไม่ได้
อีกทั้งคนที่มีความสามารถก็ราคาแพงมาก
“ทำไมไม่ไปหาพี่รอง?” ซ่งหม่านซานกล่าว
คงไม่ใช่ว่าหลานสาวมองแวบเดียวก็มองออกว่าเขาเก่งกาจกว่าบิดานางมากกระมัง?
ตอนที่ 252 ต่อรองส่วนแบ่ง
ซ่งอิงมองเห็นแววตาซ่งหม่าน ก็รู้สึกได้ว่าคนผู้นี้ต้องคิดไปเรื่อยเปื่อยอยู่เป็นแน่
จึงเอ่ยปากออกไป “ท่านพ่อข้า…อุปนิสัยซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาเกินไปจึงไม่เหมาะจะทำกิจการประเภทค้าขาย”
นิสัยบิดานางเหมาะแก่การเป็นเจ้าของที่ดิน อยู่ทำไร่ทำนา ไม่เหมาะแก่การคบค้าสมาคมกับผู้คนมากมาย เขาทักษะการพลิกแพลงต่ำเกินไป
แน่นอนละว่านี่ก็คือข้อดีของเขาเช่นกัน หากภายภาคหน้าซ่งสวินสอบขุนนางได้ ต่อให้เป็นแค่บัณฑิตซิ่วฉายคนหนึ่ง มีบิดาเยี่ยงนี้อยู่ก็อุ่นใจได้มากว่า ไม่เพียงแค่ไม่สร้างปัญหาให้ตนเอง แต่ยังเป็นแบบอย่างให้หลานๆ ได้ด้วย
เพียงแต่บิดานางไม่มีที่นาในครอบครัวแล้ว เป็นเรื่องหนึ่งที่น่าเศร้าจริงๆ
ก่อนหน้านี้ส่วนแบ่งของการขายบ๊ะจ่าง อย่างน้อยๆ ก็ซื้อที่ดินอุดมสมบูรณ์ได้สามสี่หมู่ น่าเสียดายที่บิดานางและพี่ชายต่างดื้อรั้น ต้องการเก็บหอมรอมริบเอาไว้อยู่ได้…
ทั้งที่มีเงินแต่กลับใช้ชีวิตอย่างอัตคัด คนเช่นนี้หาได้ยากยิ่งเช่นกัน
“ก็จริง พี่รองซื่อบื้อเหมือนวัวตัวหนึ่ง มอบงานประเภทนี้ให้เขา แม้ว่าไม่ขาดทุนก็ทำให้เขากลัดกลุ้มจนนอนไม่หลับเอาได้” ซ่งหม่านซานกล่าวเชิงดูถูก “งานที่ว่านี้ทำอย่างไรล่ะ หากข้าช่วยเจ้าแล้วจะแบ่งกันอย่างไร”
ซ่งหม่านซานไม่กระดากอายแม้แต่น้อย ถึงขั้นเผยท่าทีต้องการต่อรองราคากับซ่งอิงก็ว่าได้
“อาสี่ท่านอยากทำหรือ แต่งานผู้คุมประตูระบายน้ำนั่น…”
“งานผู้คุมประตูระบายน้ำมีหรือจะทำเงินได้มากเท่ายาสระชิงซือ” ซ่งหม่านซานเหลือกตาใส่นาง “เจ้าเด็กสาวตัวคนเดียว ไม่มีคนคอยช่วยเหลือข้างกายสักคน ย่อมทำงานใหญ่ๆ ไม่ได้อยู่แล้ว แต่อาสี่อย่างข้าต่างออกไป สหายที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ สวมกางเกงตัวเดียวมีไม่รู้เท่าไร อุปนิสัยคนเหล่านี้ข้าเองก็รู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง เพียงแค่เรียกหา คนมากมายก็อยากจะเป็นลูกมือข้าทั้งนั้น…”
“แต่ตอนที่ท่านกลับบ้านไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่กล่าวว่ามีสหายไปอยู่กับเปาไล่จื่อแล้วหรือ” ซ่งอิงกล่าว
“…” ซ่งหม่านซานหนังตากระตุก “เจ้าจะไปรู้อะไร ไอ้หนุ่มนั่นเดิมทีก็ไม่น่าเชื่อถือ หากข้าหาคนมาทำงานจริงจังย่อมไม่ต้องการเขาหรอก”
“อาสี่พูดถูก” ซ่งอิงแสร้งทำเป็นใสซื่อ
“สรุปแล้วส่วนแบ่งนี่จะแบ่งอย่างไร” ซ่งหม่านซานกล่าว
ซ่งอิงขบคิด “มีสองประเภท”
“ประเภทแรกก็คือเช่นเดียวกับโรงอี้จวิน ข้าเพียงแค่มอบตำรับให้ ส่วนอื่นๆ อย่างเช่นเงินและร้านค้าล้วนเป็นอาสี่จัดการด้วยตัวเอง เงินที่ได้รับจากผลกำไรสุทธิแบ่งให้ข้าสามส่วน แน่นอนละว่า อาสี่ต้องรับประกันได้ว่าคุณภาพสินค้าจะสอดคล้องกับความต้องการของข้า การกำหนดราคาก็ต้องเหมาะสมกับความผันผวน”
“ประเภทที่สอง ข้าออกเงินค่าใช้จ่ายของร้านค้า คนงานและด้านต่างๆ ล้วนมีข้าเป็นผู้รับผิดชอบด้วยเช่นกัน อาสี่เพียงแค่เป็นผู้ดูแลร้านอย่างสบายๆ หน้าที่หลักของอาสี่คือจัดการดูแลทุนและกำไรของร้าน จ่ายเงินค่าแรงรายเดือน ส่วนเรื่องเงินค่าแรงของท่านจะต้องมากกว่าตอนที่เป็นเจ้าหน้าที่คุมประตูระบายน้ำที่ท่านทำแน่นอน นอกจากนี้ทุกครึ่งปีจะจ่ายเงินรางวัลตามความดีความแย่ของกิจการให้อีกด้วย” ซ่งอิงกล่าว
ซ่งหม่านซานขมวดคิ้ว
มองระยะยาว ประเภทแรกย่อมดีแน่นอน
คนโง่เท่านั้นจึงจะทำงานให้คนอื่น
แต่ในสถานการณ์ความเป็นจริงคือ เขาไม่มีเงิน
“ข้าจะขอพูดถึงประเภทแรก เจ้าลองฟังดูหน่อย?” ซ่งหม่านซานครุ่นคิดอย่างหนักแล้วจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เจ้าออกเงิน ส่วนอื่นให้เป็นหน้าที่ข้ารวมไปถึงด้านแรงงานคน ล้วนมีข้าเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด แต่ข้าจะเป็นเพียงผู้ดูแลร้านเท่านั้น เพียงแต่เงินค่าแรงนี่นะ….แบ่งเป็นสิบส่วนแล้วกัน”
ซ่งอิงหัวเราะแห้ง
สิบส่วน ฟังดูไม่มาก แต่หากกิจการไม่เลว เดือนหนึ่งไม่แน่ว่าจะได้หลายสิบตำลึงเงินเชียวละ!
ต้องเข้าใจว่าทางด้านโรงอี้จวินนี้แม้หนึ่งเดือนฝากขายได้เงินเพียงหนึ่งร้อยกว่าตำลึงเงิน แต่ในความเป็นจริงเพราะโรงอี้จวินมีกิจการของตัวเองด้วย ไม่ได้จดจ่อมาที่ยาสระชิงซือเพียงอย่างเดียว
หากเปิดร้านยาสระซิงซือสักร้านโดยเฉพาะ เช่นนั้นยังจะเหมือนกันได้อีกหรือ
อีกทั้งในเมื่อจะเปิดร้านทั้งที นางย่อมหวังไปสถานที่ใหญ่โตอย่างเช่นเมืองยง ที่นั่นผู้คนมากมาย การค้าขายก็จะรุ่งเรืองไปด้วย!
ผู้ดูแลร้านทั่วไปหนึ่งเดือนทำเงินได้สี่ห้าตำลึงเงินก็ไม่เลวแล้ว หากได้ถึงสิบตำลึงเงินขึ้นไป นั่นล้วนเป็นร้านค้าใหญ่ๆ ที่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น!
————————–
[1] อวี้เมี่ยนเถาฮวา (玉面桃花) หนึ่งในชื่อเครื่องประทินโฉมอย่างแป้งฝุ่นทาหน้าซึ่งมีส่วนผสมสำคัญอย่างดอกท้อ