ตอนที่ 337 จำนวนเล็กน้อย
ซ่งเหล่าเกินไม่ได้เอ็นดูเจ้าของร่างมากกว่าผู้อื่นแต่อย่างใด เขาเพียงแค่คิดว่า จวนโหวที่เป็นตระกูลใหญ่โตและมีบรรดาศักดิ์นำเด็กยกให้ครอบครัวชาวนาอย่างเขา นับเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อเด็กคนนี้อย่างยิ่ง
เจ้าของร่างรู้ความ โดยปกติแต่ละวันก็รู้จักทำงานทำการ ซ่งเหล่าเกินคิดว่าภายภาคหน้าเกิดเด็กคนนี้ถูกรับตัวกลับไป แม้แต่ความสามารถที่ดูเป็นรูปเป็นร่างสักอย่างก็ยังไม่มี จะแสดงถึงว่าตระกูลซ่งพวกเขาดูแลไม่ดี และกลัวว่าภายภาคหน้าเจ้าของร่างจะถูกคนในครอบครัวดูถูกดูแคลน
ดังนั้นจึงตัดสินใจเด็ดขาด จ้างคนมาสอนงานปัก
บัดนี้ซ่งอิงไม่ทอดทิ้งตระกูลซ่งแล้วดำเนินชีวิตน้อยๆ ของตัวเองไป ก็เพราะมีซ่งเหล่าเกินรวมอยู่ในคนตระกูลซ่งด้วย แม้เขาปฏิบัติต่อเจ้าของร่างผิดพลาดไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ได้ติดค้างอะไรใหญ่โต ถึงขั้นหากจะคิดคำนวณขึ้นมาจริงๆ ย่อมถือเป็นผู้มีพระคุณด้วยซ้ำไป
ยามนี้ซ่งอิงก็ไม่ได้แยแสเงินหนึ่งร้อยอีแปะนั่นเช่นกัน
ที่นางต้องการคือให้เจียวซื่อเป็นคนหนึ่งที่รู้จักเห็นคุณค่าและมีทัศนคติที่ถูกต้อง!
เอ่ยปากทีก็คิดแต่จะเอาเปรียบ นี่มันไม่เหมาะสม
“แค่สิบวันต้องใช้เงินตั้งหนึ่งร้อยอีแปะเชียวหรือ! เอ้อร์ยาเจ้าเป็นคนที่ทำกิจการใหญ่โต ไม่ขาดเหลือเงินจำนวนเล็กน้อยนี้เช่นกัน อีกอย่างนั่นก็เป็นน้องสาวเจ้า…” เจียวซื่อกระวนกระวายใจเล็กน้อย
หนึ่งเดือนหนึ่งร้อยอีแปะ หนึ่งปีก็หนึ่งตำลึงเงินเชียวนะ?!
ซ่งอิงยกยิ้มมุมปาก “อาสะใภ้สามเจ้าคะ ใครว่าข้าไม่ขาดแคลนเงินกันเล่า ท่านก็รู้เช่นกันว่าเงินของข้าเอาให้อาสี่ไปหมดแล้ว ในบ้านมีสมาชิกตั้งหลายคน เลี้ยงไม่ไหวจริงๆ เจ้าค่ะ หากท่านคิดว่าข้าขี้เหนียว เช่นนั้นไม่สู้อีกเดี๋ยวข้าจะพาน้องอู่ส่งกลับมาด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรอาสะใภ้สามท่านก็ตำหนิโทษข้าแล้ว จะส่งกลับคืนอีกสักคนข้าก็ไม่แยแสเช่นกัน”
“เช่นนั้นมิได้เชียว…” เจียวซื่อรีบกล่าวทันควัน
บุตรชายกลับมาก็จะบอกเล่าความดีของซ่งอิงให้ฟัง แล้วยังบอกกล่าวนางว่าอยู่ที่ซ่งอิงทางด้านนั้นได้เรียนรู้อะไรบ้างแล้ว ได้กินอะไรบ้างแล้ว
บัดนี้บุตรชายนางดูจ้ำม่ำกว่าเมื่อก่อนมากจริงๆ!
ที่สำคัญคือ บุตรชายได้เรียนรู้ตัวหนังสือแล้วจำนวนไม่น้อย ท่าทางที่ท่องหนังสือมองดูชวนให้ผู้คนชื่นชอบเป็นพิเศษ!
อีกอย่าง หากบุตรชายนางถูกส่งกลับมา ซ่งต๋าของบ้านใหญ่ก็เรียนอยู่กับซ่งอิงที่นั่น ซ่งอิงเคยเล่าเรียนหนังสือมาบ้างและมากความสามารถ เช่นนั้นภายภาคหน้าก็จะสอนหลานต๋าจนเก่งกาจกว่าลูกอู่หรอกมิใช่หรือ
เจียวซื่อสีหน้าเปลี่ยนไป “เงินจำนวนเล็กน้อยนี้…ช่างเถอะๆ เรียนก็เรียน! ลองเรียนดูก่อนสักเดือน หากซานยาไม่ฉลาดเฉลียวค่อยกลับมาทำงาน!”
ซ่งอิงแอบส่ายหน้า
เจียวซื่อก็รักและสงสารลูกๆ แน่นอน แต่ทัศนคติในการพูดจาและกระทำเรื่องราวใดๆ กลับชวนให้ผู้คนคิดว่า นางไม่ดีต่อลูกๆ
ทัศนคติเช่นนี้ ทำไปเพื่ออะไรเล่า?
ในเมื่ออยากให้ลูกๆ ก้าวหน้า ไฉนไม่แสดงออกให้ชัดเจนด้วยความอ่อนโยนและตรงไปตรงมากับลูกๆ?
เจียวซื่อเรียกซานยาที่อยู่ในลานบ้านมาหา กระโชกโฮกฮากและดันนางไปตรงหน้าซ่งอิง “หลังจากนี้พี่สาวคนรองของเจ้าจะสอนเจ้าปักลาย เจ้าตั้งใจเรียนให้ดีด้วย หากแอบขี้เกียจข้าจะตัดขาของเจ้า! จุ๊ๆๆ ดู๊ดูมือสกปรกนี้ของเจ้าสิว่ากลายเป็นสภาพเช่นไรไปแล้ว! มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่พวกที่จะจับเข็มได้ หลังจากนี้ไม่ต้องทำงานหนักแล้ว! บนมือด้านไปหมดแล้วเช่นนั้นจะไม่ขูดผ้าเป็นรอยหรือ”
ซ่งอิงรู้สึกไม่ชอบใจเท่าใดนัก
ซานยาตัวเล็กเช่นนี้ ถูกเจียวซื่อผลักหนึ่งทีก็เหมือนใบไม้ที่ถูกลมฤดูใบไม้ร่วงพัดกวาดเอาไปก็ไม่ปาน เกือบทำให้นางหน้าคะมำแล้วด้วยซ้ำ!
บนมือซานยามีรอยด้านจำนวนมาก ดีที่ตอนนี้อายุยังน้อย จากนี้ก็แช่น้ำอุ่นบ่อยๆ หน่อยแล้วค่อยทายาที่ให้ความชุ่มชื่นอีกนิดก็น่าจะช่วยให้ฟื้นฟูกลับมาได้เช่นกัน
ระดับทักษะการปักลายของเจ้าของร่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ แค่นางสอนอย่างละเอียดหน่อย ขอเพียงซานยาไม่โง่เขลาเกินเยียวยา ภายภาคหน้าก็ไม่ถึงขั้นต้องทำงานเปรอะเปื้อนหรืองานเหน็ดเหนื่อยเพื่อเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ
แน่นอนละ การปักลายต้องใช้สายตามาก แต่…
นี่เพียงแค่จุดเริ่มต้นหนึ่ง อาศัยช่วงที่ยังเด็กเลี้ยงดูนางให้ดีๆ สั่งสอนนางให้ดีๆ เพื่อที่ภายภาคหน้าเติบใหญ่และจะได้ไม่เหมือนกับเจียวซื่อที่ตระหนี่ถี่เหนียวเสียยิ่งกว่าอะไรดี
ซานยาเหมือนก้อนแป้งกลมๆ เจียวซื่อบีบนางอย่างไรนางก็กลายเป็นลักษณะอย่างนั้น เสียงก็เล็กเหมือนยุงตัวหนึ่ง “ข้าจะเชื่อฟังคำพูดของพี่รองและตั้งใจเรียน…”
เจียวซื่อมองบนใส่บุตรสาวแวบหนึ่ง จากนั้นคลี่ยิ้ม “เอ้อร์ยาเจ้าอดทนสอนนางหน่อยนะ หากนางเรียนรู้ช้าไปเจ้าก็ตีนางเลย จะให้สิ้นเปลืองเงินครอบครัวเราไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้เชียว!”
ตอนที่ 338 นางเป็นนักรบ
ซ่งอิงคิดว่าหากตนพูดกับเจียวซื่อมากกว่านี้อีกสองสามประโยค เกรงว่าจะโกรธเกรี้ยวจนขาดใจตายได้
“หลายวันนี้ข้ายุ่งอยู่กับทางด้านร้านค้าของท่านพ่อท่านแม่ข้า ไว้รอมีเวลาว่างแล้วจะให้น้องอู่มารับซานยา ช่วงนี้อาสะใภ้สามก็ดูแลซานยาให้ดีๆ ให้นางแช่น้ำอุ่นเยอะๆ มือจะได้หายด้าน ระหว่างที่อยู่บ้านก็ฝึกปักลวดลายไปก่อนนะเจ้าคะ” ซ่งอิงพูดจบ ก็หันไปกล่าวกับซ่งอิ๋นซาน “อาสาม ถาดสองร้อยใบนี้ใช้เวลาทำนานเท่าใดหรือเจ้าคะ”
“ของเช่นนี้ไม่เสียเวลามากนัก ข้าเตรียมไม้สักหน่อย อย่างมากสุดห้าวันก็เรียบร้อยแล้ว” ซ่งอิ๋นซานกล่าว
ที่ยุ่งยากไม่ใช่ทำถาด แต่เป็นการไสไม้ออกมา
“ตกลงเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้า
พรุ่งนี้นางยังต้องไปในตำบลเพื่อสั่งทำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารหนึ่งชุดใหญ่ จานใบเล็กๆ ก็ต้องทำเป็นชุดๆ เช่นนี้จึงจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยชวนให้คนมองเห็นแล้วรู้สึกสบายตา
พูดจบ ซ่งอิงเตรียมกลับบ้าน
เพียงแต่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านสามไม่ทันไรก็เจอเข้ากับเผยซื่อ
คู่อริเจอหน้ากันพร้อมดวงตาแดงฉานอย่างเห็นได้ชัดเป็นพิเศษ เผยซื่อเท้าสะเอว มองดูพร้อมคุกคามอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ ซ่งอิงครุ่นคิดแล้วเดินถอยหลังหลายก้าว รักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับเผยซื่อเกินกว่าสามเมตร
หญิงธรรมดาทั่วไปจะไม่มีทางเอาลูกในท้องมาล้อเล่น แต่เผยซื่อ…
นางไม่ใช่หญิงที่ปกติทั่วไป
นางเอาเด็กในท้องมาเป็นนักรบในการขอของกินจากพ่อเฒ่าได้
เผยซื่อเห็นนางเดินถอยหลังจึงคิดจะเดินเข้าใกล้ทันที ซ่งอิงยกมือขึ้นชี้ไปที่ตำแหน่งเท้าของนาง “หยุด! อยู่ให้ห่างจากข้าหน่อย ข้ากลัวว่าเจ้าอดมาขโมยของจากข้าไม่ได้!”
“…” เผยซื่อหนังตากระตุก ความเดือดดาลพลุ่งพล่าน “เสี่ยวกูจื่อ ข้าไม่มีเงินเลย เจ้าเอาเงินให้ข้าหน่อยสิ!”
มารดาของนางสอนไว้!
แม่นางกล่าวว่า ขอเพียงนางพยายามก่อกวนคนตระกูลซ่งให้ได้มากที่สุด ก่อนหน้าสามีนางกลับมา ตระกูลซ่งจะต้องทนไม่ไหวแล้วจะพานางส่งกลับตระกูลเผยแน่!
ซ่งอิงตงิดใจคล้ายจะเกิดปัญหาบางอย่าง จากนั้นไม่ทันไรก็อดนึกสนุกขึ้นมาไม่ได้ “พี่สะใภ้ ข้าหูไม่ดี เจ้าช่วยพูดอีกรอบทีสิ?”
“เจ้าเอาเงินมาให้ข้าใช้ ข้าอุ้มท้องลูกของพี่ใหญ่เจ้า พี่ใหญ่เจ้าถูกเจ้าส่งไปทำงานตรากตรำของหยาเหมินแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบ!” เผยซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงเกือบหัวเราะจนตัวงอ
ด้านหลัง เจียวซื่อหน้าตาขมึงทึงอย่างชัดเจน
มีลูกสะใภ้ที่มีลักษณะเช่นนี้ที่ไหนกันเล่า เอ่ยคำพูดนี้ออกมาไม่ชวนให้คนหัวเราะเอาหรือ ดูความรู้จักผิดชอบชั่วดีนี้เข้าสิ สวรรค์ อยากจะตบให้ตายคามือจริงๆ!
“พี่สะใภ้ใหญ่ก็รู้นี่ว่าที่อยู่ในท้องเจ้าคือลูกของซ่งเสี่ยน ต้องการเงินแล้วจะมาเอาที่ข้า คนที่ไม่รู้ความนอกความในยังจะได้นึกว่าเจ้ากับข้ามีอะไรแล้วหรือไม่เสียอีก?” ซ่งอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูถูก เจียวซื่อได้ยินคำพูดเผยซื่อเมื่อครู่ก็รู้สึกคล้ายระเบิดเป็นจุณเช่นกัน
นี่ก็แค่คนหนึ่งที่ไม่รู้ความเท่านั้น!!
มีแม่นางที่ไหนพูดจาเยี่ยงนี้ มันน่าหงุดหงิดใจไม่น้อยเลย
เผยซื่อตะลึงงัน จากนั้นก็รีบส่งเสียง ‘ถุย’ “พูดจาเหลวไหลให้มันน้อยๆ หน่อย! หากวันนี้เจ้าไม่เอาเงินให้ข้า ข้าก็ไม่ให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น นอกเสียจากเดินเหยียบตัวข้าข้ามไปเสีย!”
พูดจบ เผยซื่อยื่นท้องออกมา
มองดูไม่เกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้น ดูใจกล้าเก่งกาจเหลือเกิน
“พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ต้องการลูกแล้วกระมัง มิเช่นนั้นจะทำเรื่องประเภทนี้ได้ลงคอหรือ” ซ่งอิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า จากนั้นกล่าวใส่คนด้านหลัง “อาสะใภ้สาม รบกวนท่านส่งเสียงตะโกนดังๆ ให้คนเรียกหมอมาทีเจ้าค่ะ”
“เรียกหมอมาทำอันใด หรือว่า…เจ้าคิดจะกดท้องของนางจริงๆ น่ะ?!” เผยซื่อตระหนกตกใจ
เอ้อร์ยามองดูค่อนข้างอ่อนโยน คิดไม่ถึงว่าจะโหดเหี้ยมเพียงนี้!
เผยซื่อสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน แต่กลับยังคงไม่ขยับเขยื้อน
มารดานางบอกไว้แล้วว่า คนตระกูลซ่งจะไม่ทำอะไรเด็กในท้องของนางแน่นอน หากนางถูกรังแกจนแท้งลูกจริงๆ เช่นนั้นตระกูลเผยก็จะมาเอาเรื่องตระกูลซ่ง เมื่อซ่งเสี่ยนกลับมาก็จะไม่พอใจตระกูลซ่งเช่นกัน!
“อาสะใภ้สาม ท่านเรียกคนเขามาก็เป็นพอเจ้าค่ะ” ซ่งอิงสงบนิ่งอย่างยิ่ง
นางเสียงไม่ดัง ขี้เกียจจะตะโกน อีกทั้ง เจียวซื่อและเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่คนที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนเช่นนี้ ตะโกนขึ้นมาจึงจะเสียงดังสนั่นมากพอ