ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล – ตอนที่ 483 ไล่ออกไป ตอนที่ 484 ก่อความวุ่นวาย

ตอนที่ 483 ไล่ออกไป ตอนที่ 484 ก่อความวุ่นวาย

ตอนที่ 483 ไล่ออกไป

ซ่งอิงยังคงใส่ใจคำพูดเกี่ยวกับซ่งสวินของหมู่คนภายนอกเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเอาใจใส่กับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

งานเลี้ยงนั้นแน่นอนว่าต้องไปร่วมด้วย นางอยากมองดูสิว่าบ้านตระกูลลู่มีปีศาจจริงหรือไม่ และจะได้ถือโอกาสไปทางด้านตัวอำเภอสังเกตุการณ์ว่าเว่ยไฉจัดการไปถึงไหนแล้ว

กล่าวถึงเว่ยไฉ เขาเวลานี้ทุกข์ยากและน่าเวทนาจริงๆ

หลังซ่งอิงจากมา เขาเพิ่งออกมาจากตรอกเล็กแห่งนั้นอย่างงุนงงสับสน เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็น ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้อื่น เมื่อกลับถึงบ้านก็มองดูเรือนเก่าสองหลัง ในใจทวีความเจ็บปวดยิ่งขึ้น

เรือนหลังนี้อีกไม่นานก็จะไม่ใช่ของเขาแล้ว

หากเป็นเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง เขาอาจยังพอคิดหาวิธีเอากลับคืนมาได้ แต่เด็กสาวคนนั้น…

นึกถึงภาพฉากที่ประหลาดนั่น เว่ยไฉถึงกับตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว

เขาไม่อาจไม่เชื่อฟังคำพูดนั้นที่เซียนผู้ยิ่งใหญ่เอื้อนเอ่ยได้น่ะสิ? คนผู้นั้นเอาสิ่งของจำนวนมากหายไปเฉยๆ ได้ เกิดจู่ๆ ทำให้เขาหายไปเสียดื้อๆ โดยไม่มีใครรับรู้ทั้งสิ้นแล้วจะทำอย่างไร!

เว่ยไฉรู้สึกตื่นตระหนกในใจ อดครุ่นคิดอย่างหนักไม่ได้ว่าควรทำอย่างไรจึงจะทำให้ซ่งอิงเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้พอใจ

แต่ร้านชุ่ยเหยียนไจก็ไม่ใช่ว่าจะหาเรื่องได้โดยง่ายเพียงนั้น…

เว่ยไฉอยู่ในตัวอำเภอแห่งนี้ก็ไม่ใช่ว่าไร้มิตรสหายเช่นกัน แต่เรื่องนี้เขากลับไม่กล้าบอกกล่าวสู่ภายนอก อย่างไรเสียเมื่อพูดออกไปก็ไม่แน่ว่าจะมีคนเชื่อ และดีไม่ดียังคิดว่าเขาแพ้พนันสูญเงินจนเสียสติไปแล้ว

เขาถอนหายใจ พักผ่อนไปหนึ่งวันทั้งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในใจ

วันรุ่งขึ้น เว่ยไฉเดินเตร็ดเตร่อยู่หน้าประตูร้านชุ่ยเหยียนไจ

กิจการของร้านชุ่ยเหยียนไจแห่งนี้ดำเนินไปได้อย่างดีเยี่ยมมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่หลังเดินเข้าไปแล้วกลับเดินออกมามือเปล่า น่าจะเป็นเพราะหาซื้อของที่อยากซื้อไม่ได้

หลังชั่งใจอยู่พักใหญ่ ท้ายที่สุดเว่ยไฉก็เดินเข้าไปในร้านชุ่ยเหยียนไจ

คนของร้านชุ่ยเหยียนไจล้วนปฏิบัติต่อผู้คนโดยดูจากภาพลักษณ์ภายนอกมาแต่ไหนแต่ไร ครั้นเห็นผู้มาเยือนสวมเสื้อผ้าซอมซ่อ ก็จะสีหน้าบูดบึ้งขึ้นเล็กน้อ ยและไม่มีถ้อยวจีที่เป็นมิตรเลยสักนิด เว่ยไฉมองดูอยู่นานพอตัว ในที่สุดก็มองเห็นผู้ดูแลร้านหยวนที่เขาเจรจาแลกเปลี่ยนในวันนั้น

“ผู้ดูแลร้าน! ไอ้หยา ข้าตามหาท่านเจอเสียที…” เว่ยไฉรีบสาวเท้าเดินเข้ามาหา

ครั้นผู้ดูแลร้านหยวนมองเห็นเขาก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ทำเรื่องที่ให้เจ้าจัดการสำเร็จแล้วใช่หรือไม่”

“สำเร็จแล้วครึ่งหนึ่ง…” เว่ยไฉยิ้มเจื่อนเล็กน้อย “ผู้ดูแลร้านหยวน ข้าไปทำตามที่ท่านบอกกล่าวแล้ว หลังพาซ่งฝูซานเข้าโรงพนัน ต่อมาเขาก็เป็นฝ่ายเข้าไปเองครั้งหนึ่ง นี่จะเห็นได้ว่าเขาติดใจการเล่นพนันแล้วจริงๆ”

“นี่เพิ่งกี่วันเอง? ต่อให้ติดพนันแล้ว แต่บทจะเลิกก็คงเลิกได้เช่นกัน” ผู้ดูแลร้านสบถฮึ “ทำไม เจ้ายังอยากให้ข้าเอาเงินที่เหลือจ่ายให้เจ้าล่วงหน้าอีกหรือ”

“ระยะนี้ข้าตกอยู่ในสภาวะยากลำบากจริงๆ น่ะสิ…” เว่ยไฉหัวเราะเจื่อน

เขาคิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าหากผู้ดูแลร้านหยวนยินยอมให้นำเงินส่วนที่เหลือจำนวนสามสิบตำลึงเงินมอบให้เขา เช่นนั้น…เขาก็จะหนีไปให้ไกลๆ หลบไปสักระยะแล้วค่อยกลับมา!

เขาไม่ใช่ไม่เคยคิดจะขายบ้านไปเสียก่อนที่ซ่งอิงจะครอบครองบ้าน แต่เขาไม่มีความใจกล้านั้น!

หากขายไปแล้วจริง จะถูกคนของโรงพนันไล่ล่าตามฆ่าเอาได้!

ผู้ดูแลร้านหยวนได้ยินคำพูดของเขาก็แสยะยิ้มดูถูก

“ยังทำงานไม่สำเร็จลุล่วงก็มาขอเงินกันแล้วหรือ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่ที่จะโดนหลอกได้โดยง่ายเช่นนั้นสิ?” ผู้ดูแลร้านหยวนกล่าวอย่างมีโทสะ

“ผู้ดูแลร้านหยวน ซ่งฝูซานไปเล่นพนันต่อแล้วจริงๆ! ท่านมองหน้าข้าก็รู้แล้ว!” เว่ยไฉรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย “ท่านก็ถือเสียว่าช่วยชีวิตน้อยๆ ของข้าสักชีวิต เงินสามสิบตำลึงเงินที่เหลือนั่นข้าขอเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ท่านว่าตกลงตามนี้ได้หรือไม่” เว่ยไฉกล่าวขึ้นอีกครั้ง

มีเงินสักสิบห้าตำลึงเงินเขาก็ไปหลบแถวๆ เมืองยงหรืออำเภอใกล้เคียงสักระยะหนึ่งได้แล้ว ทั้งยังมีเงินทุนด้วย ไม่แน่ว่าโชคจะเข้าข้างเขา ทำเงินได้หลายร้อยตำลึงเงิน ถึงเวลาก็ลงหลักปักฐานที่นั่นเสียเลย ไม่หวนกลับมาแล้ว จะได้ไม่ถูกเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นเล่นงานเอาได้

แต่ครั้นผู้ดูแลหยวนได้ยินคำพูดนี้กลับรู้สึกว่าเว่ยไฉคิดจะผิดสัญญา

ทันใดนั้นก็เผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นอีกเล็กน้อย

“เอาเงินของร้านชุ่ยเหยียนไจข้าไปแล้ว เจ้ายังคิดจะเบี้ยวกันอีกหรือ ตอนนี้ข้ายังไม่ได้ทวงถามผลลัพธ์จากเจ้าเลย เจ้ากลับกล้าดีมีหน้ามาทวงเงินกับข้า! ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเขาออกไปซ้อมเสีย!” ผู้ดูแลร้านหยวนส่งเสียงเรียกขึ้นมาทันที

ตอนที่ 484 ก่อความวุ่นวาย

ร้านชุ่ยเหยียนไจมีมือเฆี่ยนตีดีๆ หลายคนทีเดียว ครั้นได้ยินเสียงก็รีบกรูเข้ามาในทันใด

เมื่อเห็นดังนี้ เว่ยไฉก็ตกใจกลัวจนเนื้อตัวสั่นระริก จากนั้นเอ่ยปากส่งเสียงตะโกน “ร้านชุ่ยเหยียนไจพวกเจ้าไม่ใช่พวกดีเด่อันใด พอข้ารับรู้เรื่องที่กระทำลับหลังผู้อื่นก็คิดจะฆ่าปิดปากข้า!”

ด้วยความที่ยังอยู่ในร้าน เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ลูกค้าจำนวนไม่น้อยจึงหันมามอง

ผู้ดูแลร้านหยวนขมวดคิ้วมุ่น “รีบๆ ไล่ออกไป!”

พูดจบก็รีบปรี่ไปปั้นหน้ายิ้มแย้มใส่ลูกค้าคนอื่น “รบกวนทุกท่านแล้ว นี่ไม่รู้เช่นกันว่าเป็นคนสติไม่ดีมาจากไหน มาขอเงิน พอไม่ได้ก็พูดจาเหลวไหลยกใหญ่”

“ข้าไม่ได้พูดจาเหลวไหล ข้าสืบถามมาตั้งนานแล้ว พวกเจ้าก็แค่คิดว่าสบู่หอมของโรงอี้จวิ้นขายดี แต่แม่นางสาวน้อยที่ร่วมกิจการกับโรงอี้จวินไม่สนใจร้านชุ่ยเหยียนไจพวกเจ้า พวกเจ้ามีใจเคียดแค้นก็เลยให้ข้าชักจูงคนของครอบครัวแม่นางสาวน้อยผู้นั้นไปโรงพนัน!” เว่ยไฉรีบส่งเสียงตะโกนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กำลังเปล่งเสียงดังลั่น เขาก็ถูกกุมตัวออกไปแล้วโยนล้มลงไปบนพื้นด้านนอก

“โอ๊ยๆๆๆ!” เว่ยไฉกุมนิ้วมือและส่งเสียงตะโกนโอดโอยขึ้นมากะทันหัน “ร้านชุ่ยเหยียนไจคิดจะฆ่าปิดปากคนแล้ว!”

“คนของร้านชุ่ยเหยียนไจพวกเจ้าช่างเป็นเลงทรามจริงๆ ร้านตัวเองทำของออกมาไม่ดี เห็นคนอื่นเขาดีกว่าไม่ได้จึงลอบทำร้ายคนอื่นเขา ข้าทำตามที่สั่งการแล้วแต่กลับไม่ให้ค่าตอบแทนแก่ข้า!” เว่ยไฉเกรงกลัวว่าตนจะถูกปิดปาก “พวกท่านดูเอาไว้! คนเหล่านี้คิดจะฆ่าข้าจริงๆ! มือที่สมบูรณ์ดีของข้าเวลานี้กลับใช้การไม่ได้แล้ว!”

นิ้วมือของเว่ยไฉเป็นผลจากการถูกซ่งอิงเยียบต่างหากเล่า

ตอนที่เดินพ้นประตูร้านเข้ามาไม่มีคนสังเกตเห็นส่วนนี้ แต่ยามนี้ทุกคนพร้อมใจกันมองไปยังนิ้วมือของเขา ค้นพบว่านิ้วมือของเขาคดงออย่างเหนือความคาดหมาย ทุกคนต่างก็ตระหนกตกใจ

ในใจผู้จัดการร้านชุ่ยเหยียนไจโกรธจัด ขยิบตาส่งสัญญาณให้ผู้ดูแลร้านหยวนให้หาคนไปจัดการเสีย

“เว่ยไฉ เจ้ายังอยากได้เงินหรือไม่!” ผู้ดูแลร้านหยวนเดินเข้าไปแล้วกล่าวเสียงกระซิบ

เว่ยไฉสบถฮึ

หากแรกเริ่มผู้ดูแลร้านหยวนคนนี้ยินยอมให้เงินแก่เขาแต่โดยดี เขาย่อมไสหัวไปอย่างว่าง่ายแน่ แต่ตอนนี้แตกต่างไปแล้ว เขาสร้างความไม่พอใจให้ร้านชุ่ยเหยียนไจแล้ว ต่อให้ตอนนี้ผู้ดูแลร้านหยวนมอบเงินให้เขา แต่เดี๋ยวก็จะให้คนมาแย่งเอาไปได้เช่นกัน

หากผู้ดูแลร้านหยวนคนนี้คิดเล่นงานอะไรเขาสักนิดๆ หน่อยๆ นั่นเป็นเรื่องง่ายดายจะตายมิใช่หรือ

เขาเคยได้ยินมานานแล้วเช่นกันว่าร้านชุ่ยเหยียนไจแห่งนี้มีสาขาแยกย่อยไปแต่ละสถานที่ อีกทั้งยังเป็นกิจการของผู้สูงศักดิ์ทางด้านเมืองหลวงแห่งนั้นอีกด้วย เขาอยากจะหลบหนีก็หลบไม่พ้นอยู่ดี!

สู้หัวชนฝาอยู่ที่อำเภอหลี่แห่งนี้จะดีเสียกว่า หากเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นทำลายร้านชุ่ยเหยียนไจแห่งนี้ได้จริง เขาก็ไม่ต้องกังวลใจแล้วว่าร้านชุ่ยเหยียนไจจะตามแก้แค้น!

และขณะนี้เรื่องที่ดีที่สุดสำหรับเขาก็คือ เขาอยู่ภายใต้สายตาผู้อื่น ทำให้ร้านชุ่ยเหยียนไจทำอะไรเขาไม่ได้!

“บรรดาผู้สูงศักดิ์ทุกท่านมองดูกันเร็วเข้า! ผู้ดูแลร้านคนนี้มาข่มขู่ข้าอีกแล้ว! หลังจากนี้ข้าเว่ยไฉ หากเป็นอะไรไปเช่นนั้นก็ขอให้ทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือร้านชุ่ยเหยียนไจพวกเขานั่นเอง!” เว่ยไฉรีบตะเกียกตะกายคุกเข่าอยู่บนพื้น “หากมีผู้จิตใจดีช่วยทวงความเป็นธรรมให้แก่ข้าได้ เว่ยไฉผู้นี้ก็พร้อมเป็นวัวเป็นม้าถือเป็นการตอบแทนคุณ…”

สิ่งที่แสดงออกมาจะสะท้อนความรู้สึกนึกคิดในใจ ลักษณะของเว่ยไฉมองดูไม่ใช่ว่าน่าเชื่อถืออย่างยิ่งเสียทีเดียว เพียงแต่เขาดูค่อนข้างน่าสงสาร

อาภรณ์บนเนื้อตัวเก่าจนน่าเวทนา นัยน์ตาทั้งสองดูไร้ชีวิตชีวา อีกทั้งนิ้วมือนั่นก็ถูกทำให้หักงอแล้วจริงๆ

“ผู้จัดการร้าน ที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่” มีคุณชายจากตระกูลผู้ร่ำรวยตระกูลผู้หนึ่งมาซื้อของเป็นเพื่อนบรรดาน้องสาวในครอบครัวตนพอดี เอ่ยถามขึ้นมาอย่างเห็นเป็นเรื่องตลก

“ไอ้หยา นายท่านของข้า พวกเราเป็นคนทำกิจการค้าขาย จะทำเรื่องประเภทนี้ได้อย่างไรกันเล่า” ผู้จัดการร้านรีบกล่าวทันควัน

“เจ้าต้องปฏิเสธอยู่แล้ว!” เว่ยไฉส่งเสียงถุย “วันนี้ข้าไม่กลัวขายหน้าแล้วเช่นกัน ขอบอกทุกท่านตามตรงเลยว่า ข้าไม่ใช่คนดีอะไรเช่นกัน เพื่อเงินจำนวนหนึ่งจึงยินยอมตอบรับความต้องการของผู้ดูแลหยวน ทำเรื่องไม่ถูกต้องกับสหายที่ดีของข้าผู้นั้น…ข้าทุ่มทุนสละถึงเพียงนี้ก็เพราะต้องการเงินเพื่อดำรงชีพ แต่ร้านชุ่ยเหยียนไจพวกเขาก็ไม่ยอมจ่ายเงินแก่ข้าจนได้!”

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

Status: Ongoing

นิยายสโลว์ไลฟ์แฟนตาซีที่นางเอกมุ่งมั่นทำไร่หาเงินและจับปีศาจเพื่อช่วยเหลือคน เพื่อตายไปจะได้เป็นเซียน!

ซ่งอิง คิดว่าชีวิตนี้ตนเองจะเป็นเพียงหญิงสาวชาวนาเรียบง่ายคนหนึ่งที่ไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิต

แต่บัดนี้ที่ดินของครอบครัวมีภูตโสมโผล่มาตนหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยปีศาจกบเขียว

พอเลี้ยงไก่มันก็บินได้ เลี้ยงลามันก็หัวเราะได้…

เพราะขวดหยกที่ติดตัวมาด้วยครั้งทะลุมิตินำมาซึ่งมิติพิเศษและความสามารถในการจับปีศาจ

แม้จะไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิตแต่แค่สิ่งนี้ปณิธานของนางที่ว่า

‘ยามมีชีวิตอยู่ขอให้เงินตำลึงทองเต็มห้อง ตอนที่ตายไปแล้วก็ขอให้คุณงามความดีเจิดจรัสจนได้ขึ้นสวรรค์กลายเป็นเซียน!’

ของนางจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท