ตอนที่ 585 หย่าหรือเป็นแม่ม่าย
มีผู้สูงวัยคนอื่นๆ ในหมู่บ้านเดินเข้ามาปลอบขวัญไม่หยุดหย่อนเช่นกัน ฮั่วหรง…น้อมรับอย่างเกรงใจ มองดูแตกต่างกับฮั่วเจ้ายวนโดยสิ้นเชิงจริงๆ
ซ่งอิงถึงขั้นรู้สึกว่าตนต้องแยกแยะให้กระจ่างชัด
“หลานหรง ตอนนั้นเจ้าไม่อยู่ หัวหน้าหมู่บ้านจึงสู่ขอภรรยาแทนเจ้ามาไว้คนหนึ่ง…” ขณะพูดก็ดันซ่งอิงก้าวเดินไปข้างหน้า “ซึ่งก็คือนาง ลูกสาวคนเดียวของครอบครัวบุตรคนรองในตระกูลซ่ง นามว่าอาอิง รู้ความและน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง ตัวนางก็เป็นคนขยันและมากความสามารถเช่นกัน แล้วยังรับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไว้เพื่อเจ้าด้วย สาวน้อยคนนี้แม้ว่าแต่งงานกับเจ้าโดยที่เจ้าไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ก็เป็นเด็กดีคนหนึ่งจริงๆ เจ้า…เจ้าอย่าได้ทำให้นางลำบากใจละ ลองอยู่ร่วมกันดูเถอะ!”
ผู้ชราในหมู่บ้านรู้ดีอยู่แก่ใจเกี่ยวกับเรื่องที่ซ่งอิงแต่งงานกับฮั่วหรง
เรื่องที่ว่ารักใคร่กันลึกซึ้งอะไรนั่นไม่แน่หรอกว่าจะเป็นความจริง ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นเพียงการหาป้ายหลุมศพของใครสักคนมาเป็นที่พึ่งพิง เมื่อแก่เฒ่าตายจากไปจะได้มีคนอยู่ในหลุมฝังข้างๆ ไม่ถึงขั้นต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย
อย่างไรเสียจากสถานการณ์ของซ่งอิงตอนนั้น หากแต่งงานกับคนที่ยังมีชีวิตก็ไม่อาจหาคนดีๆ ได้ในเวลาอันสั้น
ตอนนั้นทุกคนยอมรับแนวคิดของสาวน้อยผู้นี้ไม่ค่อยได้ แต่บัดนี้เมื่อมองย้อนไปอีกที กลับรู้สึกว่าเด็กสาวผู้นี้ฉลาดเฉลียว
ตัวนางเองมีความสามารถ หากหาสามีสักคนจะกลายเป็นต้องแบกรับความกดดันจากครอบครัวสามี ชีวิตดำเนินไปอย่างลำบาก
บัดนี้ ทุกคนล้วนกังวลใจว่าฮั่วหรงจะยอมรับซ่งอิงไม่ได้
ซ่งอิงอยากสบถเหลือเกิน
เป็นผู้หญิงช่างเสียเปรียบจริงๆ นางดีเลิศปานนี้ ไม่นึกเลยว่าคนอื่นยังต้องกังวลว่าฮั่วหรงจะยอมรับนางไม่ได้อีก!
แต่ความนึกคิดของคนเหล่านี้ จริงๆ แล้วก็เป็นเพราะความหวังดีต่อนาง ไม่ได้มีใจคิดร้ายต่อนางเลยสักนิด!
ซ่งอิงจ้องมองฮั่วหรง ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันแล้วกล่าว “เซียงกง[1] ท่านไม่ต้องสร้างความลำบากใจให้ตัวเองไปหรอก ท่านหายไปเป็นเวลาปีกว่า ไม่แน่ว่าคงมีคนอื่นที่ข้างนอกนั่นแล้วกระมัง หากเป็นเช่นนี้ เราก็จากกันด้วยดีเถิด เดี๋ยวให้ท่านหัวหน้าหมู่บ้านช่วยเป็นพยาน เขียนหนังสือหย่าร้างก็เป็นอันสิ้นเรื่องแล้ว”
“ไม่ต้อง ข้ายังต้องขอบใจเหนียงจื่อ[2]ที่สืบทอดทายาทไว้ให้ข้า” ฮั่วหรงโค้งตัวให้อย่างเกรงอกเกรงใจ
ซ่งอิงตระหนกตกใจ
นี่คือฮั่วเจ้ายวนจริงๆ ด้วย? ไม่สิ ไม่ ฮั่วเจ้ายวนผู้นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็งก้อนยักษ์ ใช่ผู้ที่ยอมค้อมตัวให้ใครเช่นนี้ที่ไหนกันเล่า
รอยยิ้มมุมปากของซ่งอิงนั้นดูเหมือนยิ้มไม่ออกสักเท่าใด อยากจะร้องไห้ อีกทั้งยังรู้สึกโชคร้ายเหลือเกิน หลังจากนั้นชั่วขณะหนึ่ง นางก็คิดบางอย่างได้แล้ว
นางเป็นใคร! เซียนสาวน้อยพละกำลังดุจเหล็กกล้า ยังจะถูกผู้ชายคนหนึ่งเหนือกว่าได้ด้วยหรือ
แค่พากลับบ้านไปเลี้ยงไว้เท่านั้นเอง หากไม่เชื่อฟังก็เล่นงานให้เต็มเหนี่ยว หากใช้กำลังไม่ได้ เช่นนั้นก็ข่มขู่ให้กลัว ในนิทานปรัมปราสวี่เซียน[3]ก็ตกใจกลัวงูจนตายไปเลยมิใช่หรือ นางจะให้งูดำ กบเขียวและหนิวต้าลี่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา ไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่ทำให้เขาตกใจกลัวจนตาย
ในเมื่อไม่หย่าก็ขออยู่เป็นแม่ม่าย
ครั้นคิดได้เยี่ยงนี้ ซ่งอิงก็กระตุกยิ้มมุมปากและหรี่ตาลงเล็กน้อย “เซียงกงเหนื่อยแล้วกระมัง ข้าพาเจ้ากลับบ้านไปพักผ่อนแล้วกัน!”
คนอื่นๆ ต่างก็ไม่รบกวนการบ่มเพาะความรู้สึกระหว่างพวกเขาสองสามีภรรยาแล้วเช่นกัน ต่างคนต่างแยกย้ายไป แน่นอนว่าในหมู่บ้านก็มีคนไม่น้อยถกกันเรื่องนี้
รถม้าเป็นของที่เช่ามา เมื่อส่งคนถึงที่แล้วก็จากไป
ซ่งอิงพาคนเขากลับบ้าน ฮั่วหลินคอยเดินตามหลังตลอดเวลาโดยไม่ส่งเสียงใดๆ แววตาสับสนมาก
นี่คือเซียนสวรรค์ผู้มากความสามารถที่กลับชาติมาเกิดผู้นั้นนี่!
รอยแผลเป็นอาจทำปลอมขึ้นมาได้ แต่บุญกุศลที่ติดตัวไม่อาจทำปลอมขึ้นมาได้มิใช่หรือ
ดังนั้นอาศัยจังหวะที่ฮั่วหรงไม่ได้สังเกต ฮั่วหลินรีบกล่าวขึ้นทันควัน “ท่านแม่ เขาคือท่านอาของท่าน…นี่มิใช่ว่าจะมามอบเนื้อให้กันแล้วหรอกกระมัง”
“บุญกุศลเหมือนกันเลยหรือ” ซ่งอิงกล่าว
“เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน! สว่างไสวจนแสบตา!” ฮั่วหลินกล่าวอย่างจริงจัง
หากเป็นเช่นนี้…ซ่งอิงคลี่ยิ้มอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
“เซียงกง~” ซ่งอิงดัดเสียง สะอิดสะเอียดตัวเองถึงขนาดขนลุกเกรียวทั้งตัว จากนั้นเอื้อมมือไปดึงฮั่วหรงไว้ “ท่านกลับมาเสียที ข้าคิดถึงท่านจะแย่แล้ว ท่านไม่รู้อะไร ข้าใช้ชีวิตตัวคนเดียวลำบากมากเพียงใด ก่อนหน้านี้ยังเจอชายหน้าไม่อายผู้หนึ่งด้วย พูดอยู่ได้ว่าเป็นอาของท่าน เอาเปรียบข้าไปไม่น้อยเชียวละ!”
“…” ฮั่วหรงรู้สึกถึงโลหิตอึกหนึ่งคั่งค้างอยู่ในใจ เกือบกระอักตายก็ว่าได้
ตอนที่ 586 ใครเป็นผู้เข้ายึดครองบ้านหรือที่ดินของผู้อื่นโดยพลการ
เขาอยากถามไถ่ซ่งอิงมากว่าตนเอาเปรียบนางอย่างไร และหน้าไม่อายอย่างไรหรือ…นอกจากนั้น นางเชื่อถึงเพียงนี้จริงๆ หรือว่าเขาคือฮั่วหรง ไม่นึกเลยว่าจะกระโจนเข้ามาหาโดยไม่ป้องกันตัวให้ดีแบบนี้ น้ำเสียงที่ผ่านการดัดนี้ช่างให้ความรู้สึกน่ากลัวอย่างกับปีศาจ เหมือนกับแม่เล้าที่อยู่ตามหอนางโลมก็ไม่ปาน เขารู้สึกอยากขัดขืนไปทั่วทั้งตัว ไม่รู้เช่นกันว่านางไปเรียนรู้มาจากไหน
เขาสงสัยเล็กน้อยว่าตนทำผิดพลาดแล้วหรือไม่
หากเขารู้ว่าหลังเจอซ่งอิงแล้วนางจะเผยท่าทีชวนสยองเช่นนี้ เกรงว่าเขาคงได้ทำให้ตัวตนฮั่วหรงผู้นี้ตายใหม่อีกครั้งระหว่างทาง
“เซียงกง” ซ่งอิงเงยหน้า กะพริบตาปริบๆ
น่าสะอิดสะเอียดจะแย่
ฮั่วหรงพ่นลมหายใจออกมา “ไยจึงว่าร้ายท่านอาใต้เท้าเช่นนี้เล่า เหนียงจื่อ อย่าได้ซุกซนไป”
“…” ซ่งอิงคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “เซียงกง ท่านช่างหน้าตาเหมือนท่านอาใต้เท้าเหลือเกิน ข้าคิดว่าท่านสองคนเหมือนกันยิ่งกว่าฝาแฝดเสียอีก”
“บรรพบุรุษเดียวกันย่อมค่อนข้างเหมือนกันเป็นธรรมดา” ฮั่วหรงคลี่ยิ้มเล็กน้อย
“ในเมื่อท่านกลับมาแล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้เราสามคนทั้งครอบครัวก็ไปคารวะท่านอาใต้เท้าสักหน่อย ท่านว่าดีหรือไม่” ซ่งอิงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
นางดัดเสียงจนรู้สึกว่าตัวเองเจ็บคอขึ้นมาแล้วเล็กน้อย
“ท่านอาใต้เท้าออกเดินทางไปเมืองหลวงแล้ว เกรงว่าคงไม่ได้เจอ” ฮั่วหรงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงกรอกตามองบนใส่ “ท่านยังมัวแสร้งทำอยู่ได้”
“ข้าไม่เข้าใจ เหนียงจื่อหมายความว่าอันใด” ฮั่วหรงมองนางอย่างไร้เดียงสา
หากไม่ใช่เพราะปีศาจข้างกายนางมองเห็นบุญกุศลของเขาได้กระจ่างชัดแจ้ง ไม่แน่ว่าซ่งอิงคงได้สงสัยว่าผู้ที่มาเยือนนี้เป็นคนละคน!
ฮึ! ดูแสร้งทำท่าทางเข้าสิ แค่เปลี่ยนภาพลักษณ์ภายนอกก็นึกว่านางจะจำไม่ได้แล้วหรือ!
“ท่านทำเช่นนี้มันยุติธรรมกับฮั่วหรงแล้วหรือ มิใช่ว่าเขาเป็นหลานชายของท่านหรือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหรือ หากเขามองเห็นท่านปั่นหัวภรรยาของเขา แม้แต่ฝาโลงก็คงจะปิดไม่อยู่แล้วกระมัง!” ซ่งอิงสบถฮึ
ฮั่วหรงนิ่งเงียบไปชั่วขณะ “ข้าเหมือนใต้เท้าฮั่วมากเลยหรือ”
“เหอะ เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน สีผิว ส่วนสูง เหมือนอย่างกับถอดแบบมา ใครจะเชื่อว่าไม่ใช่คนคนเดียวกัน! ก็มีแค่หัวหน้าหมู่บ้านซ่งเท่านั้นที่เป็นคนซื่อเชื่อว่าเป็นคนหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกัน!” ซ่งอิงกลอกตามองบน “ใต้เท้าฮั่ว ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่ ช่วยพูดให้หายแคลงใจหน่อยเถิด เสแสร้งแกล้งทำก็ไม่ใช่ตัวตนของท่านเช่นกันกระมัง”
ฮั่วหรงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย เพื่อแสร้งทำให้เหมือน เขาทุ่มเทไปไม่น้อย แม้ว่ารูปลักษณ์เหมือนกัน แต่บุคลิกเป็นคนละคนอย่างโดยสิ้นเชิง…ไม่ใช่ว่าผู้หญิงหลอกง่ายหรืออย่างไร
เพียงแต่ว่าขณะนี้ ให้เขายอมรับว่าตนหลอกลวงหลานสะใภ้ตัวเองเช่นนั้นไม่ได้หรอก ดังนั้นจึงกล่าวว่า “เหนียงจื่อเข้าใจผิดแล้ว ข้าก็คือฮั่วหรง ฮั่วหรงก็คือข้า ข้าไม่ตาย กระดานฝาโลงศพนี่จะปิดอยู่ได้อย่างไรเล่า”
ในเมื่อเขาต้องเล่นละคร ก็ย่อมต้องทำให้ถึงที่สุด
ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าฮั่วเจ้ายวนไปเมืองหลวงแล้ว
ซ่งอิงตวัดสายตาดุจมีดคมกริบไป “ใต้เท้าฮั่วเป็นคนเที่ยงตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้นมาแต่ไหนแต่ไร และเห็นได้ว่าชอบให้ชาวประชาเคารพกฎระเบียบเช่นกัน ท่านทำเช่นนี้ไม่เท่ากับตบหน้าตัวเองหรือเจ้าคะ”
ฮั่วหรงได้ยินดังกล่าวก็หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ศิลาทันที
“ในเมื่อเจ้าพูดถึงเพียงนี้แล้วข้าก็ไม่ปิดบังเจ้าเช่นกัน ฮั่วหรงเดิมทีก็คือตัวตนของข้า ข้าดำรงชีวิตอยู่ในหมู่บ้านซิ่งฮวามาสิบกว่าปี ต่อมาภายหลังจึงได้ไปเข้าร่วมกองกำลังทหารรับช่วงต่อจากตระกูลฮั่วทั้งหมด เปลี่ยนชื่อเป็นฮั่วเจ้ายวน ดังนั้น…คนที่เจ้าแต่งงานด้วยก็คือข้า” ฮั่วหรงพูดจบก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งอย่างหน้าตาเฉย “ช่วงปีที่ผ่านมานี้รู้สึกใจเหนื่อยล้าเล็กน้อยจึงอยากกลับหมู่บ้านพักผ่อนสักหน่อย หากกล่าวถึงผู้ที่ยึดครองตัวตนนี้…เช่นนั้นก็น่าจะเป็นเหนียงจื่อที่ยึดครองตัวตนของครอบครัวข้าเสียมากกว่า หาใช่ข้ายึดครองเหนียงจื่อไม่…”
“…” บ้าบออะไรกันเนี่ย!
มีดหั่นผักของนางเล่า! นางจะสับท่านผู้นี้!
ยังมีหน้ามาว่านางเป็นคนที่ยึดครองบ้านหรือที่ดินของผู้อื่นโดยพลการอีกหรือ!
“ทว่าในเมื่อเหนียงจื่อยึดครองแล้วก็ยึดครองไป ข้าไม่สนใจเช่นกัน เจ้าก็อยู่ให้สบายใจเป็นพอ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากใจหรอก” ฮั่วหรงเผยสีหน้าสุภาพอ่อนโยน กล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
นางอยากกินเนื้อไวๆ แล้ว นอกจากนั้นยังต้องการกินไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูก จับคนเขาเอาไปตุ๋นทั้งตัวเลย!
[1] เซียงกง (相公) ใช้เรียกสามีในแบบที่เคารพและยกย่องสามีมาก
[2] เหนียงจื่อ (娘子) คำเรียกภรรยา
[3] สวี่เซียน(许仙)เป็นตัวละครเอกชายในตำนานนางพญางูขาว เขาเป็นมนุษย์ทั่วไป มีคนรักเป็นปีศาจนางพญางูขาว สวี่เซียนมารู้ว่าคนรักของตนเป็นปีศาจงูขาวในภายหลัง