ตอนที่ 623 เขาขาดแคลนเงินนี่ / ตอนที่ 624 ไล่ออกไป
ตอนที่ 623 เขาขาดแคลนเงินนี่
เพราะเขาไม่ค่อยเข้าใจต้นทุนของสบู่หอมนี้ ดังนั้น…ทำได้เพียงคำนวณอย่างคาดเดา
คุณชายรองเซว์ตกตะลึงปนประหลาดใจมาก ต่อจากนั้นก็ขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ยุติธรรมในใจ
ลูกน้องเขาอย่างผู้จัดการร้านเหล่านั้นหลอกเอาเปรียบเขาแล้วหรือไม่ เมื่อก่อนยามที่ร้านชุ่ยเหยียนไจรายงานบัญชีให้ทราบ ได้ผลกำไรแค่หนึ่งหมื่นสองพันตำลึงเงินต่อปีเท่านั้น!
ร้านค้าแห่งอื่นเหล่านั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงขั้นมีบางร้านผลกำไรเพียงแค่สี่ห้าพันตำลึงเงินต่อปีเท่านั้นอีกด้วย!
ร้านค้าเหล่านั้น เขาลงทุนไปตั้งเท่าไร
ทำเลร้านค้าล้วนดีงามที่สุด คนงานก็จัดหาไว้ให้มากพอเช่นกัน ได้ยินว่าในร้านขบคิดสินค้าตัวใหม่ออกมาทุกปี สิ่งของที่ขายก็เป็นของหลากหลายอย่าง ไม่ว่าอะไรล้วนมีทั้งนั้น ไฉนพอถึงท้ายปียังทำเงินสู้ร้านขายสบู่หอมอย่างเดียวไม่ได้!
“คุณชายรองอย่าได้โมโหเลยขอรับ นี่เป็นเรื่องปกติ” คนทำบัญชีเริ่มกล่าวเสริมขึ้นมาทันใดอีกครั้ง “สบู่หอมสิ่งนี้ใช้ดี ราคาก็ไม่แพง ดังนั้นชาวบ้านชอบใช้กันถ้วนหน้า และด้วยความที่ทั้งอำเภอหลี่มีเพียงตระกูลนางที่ทำของสิ่งนี้ ถึงขั้นว่านอกจากร้านเซียนเส้อในเมืองยงแห่งนั้น ทั่วทั้งหล้าก็หาร้านค้าที่เหมือนกันนี้ไม่ได้ ก็เลยไม่มีผู้ใดมาแทนที่ได้ขอรับ…”
“ท่านน่าจะรู้ว่า สบู่หอมสิ่งนี้ปัจจุบันก็ถือเป็นของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของประชาชน แต่กลับถูกนางผูกขาดไว้คนเดียวไปแล้ว ฉะนั้นเกรงว่าเงินที่คำนวณออกมานี้ยังจะเป็นจำนวนที่น้อยไปด้วยซ้ำ…หาก หากข้าน้อยคาดเดาถูก ขอเพียงแม่นางผู้นี้เก็บหอมรอมริบเงินไว้มากๆ หน่อย ใช้เวลาไม่กี่ปีก็จะเปิดร้านเช่นนี้ได้ทั่วหล้า ถึงตอนนั้น…ตระกูลขุนนางบรรดาศักดิ์สูงส่งอย่างเราๆ ยังไม่แน่ว่าจะมีเงินเท่านางเสียด้วยซ้ำขอรับ” คนทำบัญชีกล่าวขึ้นอีกครั้ง
คุณชายรองเซว์เดือดดาลอย่างยิ่ง
“ไฉนผู้จัดการร้านที่อยู่ใต้อาณัติข้าจึงไม่ขายของที่ทำเงินได้ขนาดนี้!” ตั้งใจหลอกลวงเขาใช่หรือไม่!
คนทำบัญชีพึมพำ “นี่เป็นตำรับลับ…คนของพวกเราอยากซื้อ ก็ซื้อมาไม่ได้ขอรับ…”
คุณชายรองเซว์นิ่งอึ้งไป ก่อนจะนึกขึ้นมาได้
ตำรับลับ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่จนปัญญาจริงๆ
เพียงแต่ว่า…
เรื่องราวมากมาย ตัวเขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
อย่างเช่นร้านชุ่ยเหยียนไจที่อำเภอหลี่แห่งนี้ ทำไมตอนแรกจึงทำเงินได้มากขนาดนั้น…
ร้านค้าที่อยู่ข้างเคียงในเวลาหนึ่งปีจะทำเงินได้เพียงครึ่งเดียวของเขาเท่านั้น ซึ่งสาเหตุในประเด็นนี้ก็คือร้ายชุ่ยเหยียนไจอาศัยอำนาจอิทธิพลรังแกผู้อื่น แต่แม้เขารับรู้ กลับไม่คิดควบคุมจัดการ ซ้ายขวาก็แค่ประชาชนธรรมดาๆ มีอะไรเป็นปัญหาใหญ่เสียที่ไหนเล่า
อีกอย่าง เขาขาดแคลนเงินนี่!
เมืองหลวงทางด้านนั้น เขาชอบโสเภณีชั้นสูงเป็นที่สุด ค่ำคืนเดียว ดื่มสุราหน่อยและร้องรำทำเพลงก็ใช้จ่ายเงินไปเกือบสองร้อยตำลึงเงินแล้ว แต่เขาเป็นคุณชายรองตระกูลเซว์ผู้องอาจสง่างาม จะไม่เหมาไว้คนเดียวได้อย่างไร
เหมาสาวงามที เดือนหนึ่งอย่างน้อยๆ ก็ต้องหนึ่งพันตำลึงเงินกระมัง ในปกติแต่ละวันก็ไปดื่มสุราและซื้อของอีกหน่อย เงินไม่พอใช้จ่ายเสียด้วยซ้ำไป
ทว่าร้านว่านหลิงแห่งนี้…
ร้านว่านหลิงแห่งเดียวก็ทำเงินได้ถึงเจ็ดแปดพันตำลึงเงิน มิหนำซ้ำยังไม่ต้องคอยกังวลใจเกินไปอีกด้วย…
ใต้หล้ากว้างใหญ่เพียงนี้ เปิดร้านสาขาเพิ่มจำนวนหนึ่งย่อมทำได้อยู่แล้วกระมัง
ไม่ต้องมาก เปิดสักสิบสาขา ยี่สิบสาขา…
หนึ่งปีเจ็ดแปดหมื่นตำลึงเงิน หรือมากถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นห้าพันตำลึงเงิน?
นึกมาถึงตรงนี้ คุณชายรองเซว์ถึงกับเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ
เขายกเท้าย่างเดินเข้าไป
หลังจากเข้าไปในร้านว่านหลิง คุณชายรองเซว์กวาดตามองปราดหนึ่ง ไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่ลูกค้าเยอะหน่อย นอกจากนั้น…
ผู้จัดการร้านรูปลักษณ์ไม่เลวทีเดียว แล้วยังมีหนึ่งในเด็กช่วยงานของร้าน ไม่นึกเลยว่าจะเป็นแม่นางน้อยคนหนึ่ง
แม่นางผู้นี้สวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อนที่ปักลายสีดำ ดวงตาคู่นั้นมองดูฉลาดเฉลียวจริงๆ เหมือนนกตัวหนึ่งที่บินไปบินมาในร้านค้าแห่งนี้
ดูน่าสนใจกว่าสาวใช้ข้างกายเขาเหล่านี้เล็กน้อย
คุณชายรองเซว์กระตุกมุมปาก กระทั่งแม่นางน้อยผู้นั้นเดินผ่านข้างตัวเขา ก็เอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายรั้งเอาไว้
“ไม่ทราบว่าแม่นางมีนามว่าอันใดหรือ” คุณชายเซว์เอ่ยปากถาม
เฮยยายาหันหน้าไปมองเขา รู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย
เพียงแต่ว่างูดำและอวิ้นหลิงต่างก็เคยบอกนางไว้ว่า ลูกค้าเสมือนกับอาหารและบิดามารดา จะทำให้ขุ่นเคืองใจมิได้ ดังนั้นนางจึงคลี่ยิ้ม “ข้านามว่าเฮยอวิ๋นชิง จะเรียกยายาก็ได้เช่นกัน คุณชาย ท่านต้องการซื้อของหรือเจ้าคะ อยากได้สบู่กลิ่นอะไรเจ้าคะ หรือว่าเอาอย่างละก้อนดีเจ้าคะ”
ตอนที่ 624 ไล่ออกไป
คุณชายเซว์คิดไม่ถึงว่าแม่นางสาวน้อยที่ดูดีเช่นนี้จะแซ่เฮย หากเรียกชื่อเล่นก็ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเฮยยายา?
ไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อแม่นางคิดอย่างไร
ทว่า ชื่อจริงของนางก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว
อวิ๋นชิง งดงามอย่างยิ่ง
“แม่นางอวิ๋นชิงทำงานอยู่ที่นี่หรือ เดือนหนึ่งได้กี่ตำลึงเงิน ข้าให้เจ้าหนึ่งร้อยตำลึงเงิน เจ้าไปกับข้าเถอะ!” คุณชายเซว์มองดวงหน้างดงามนี้ก็แทบอดรนทนรอไม่ไหวขึ้นมาเล็กน้อยเสียแล้ว
พากลับบ้านไป จากนั้นคืนนี้ก็ขลุกตัวอยู่แต่ในเรือน
น่าเสียดาย ผู้จัดการร้านคนนั้นเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง หากเป็นสาวน้อยก็น่าจะรูปลักษณ์งดงามกว่าเฮยอวิ๋นชิงเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ
คุณชายรองเซว์เพิ่งพูดจบ ก็มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก คนผู้นั้นสวมชุดสง่างาม ทั่วทั้งตัวราวกับปรากฏแสงประกายสว่างจ้าก็ไม่ปาน ครั้นเดินพ้นประตูเข้ามาก็กล่าวกับผู้จัดการร้าน “อวิ้นหลิง เถ้าแก่เหนียงให้ข้านำผลไม้มาส่งให้จำนวนหนึ่ง ต้นผลไม้ในหมู่บ้านไร่สวนออกผลแล้ว”
เมื่อปีศาจนกยูงเดินพ้นประตูเข้ามา ลูกค้าในห้องนี้ต่างก็แทบหยุดหายใจ
ชั่วพริบตาหนึ่ง คุณชายรองเซว์ถึงขั้นมองนิ่งอึ้งไป ไม่กล้าเชื่อเลยว่าใต้หล้านี้จะมีคนที่รูปโฉมงดงามเช่นนี้ด้วยหรือ
ราวกับเซียนสวรรค์ที่อยู่บนฟากฟ้าก็ไม่ปาน
จิ่งเช่ว์มองเห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งคว้าข้อมือของเฮยยายาอยู่ จึงขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ลูกค้าท่านนี้ ท่านกำลังทำอันใดหรือ มิใช่ว่ากำลังล่วงเกินเสี่ยวเฮยอยู่กระมัง”
เฮยยายาแม้ว่ารูปลักษณ์อัปลักษณ์ แต่จะร้ายจะดีก็เป็นพวกนกเช่นกัน เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเขา จึงนับว่ามีความสนิทกันมากกว่าเมื่อเทียบกับปีศาจตนอื่น
“เอ่อ…” คุณชายรองเซว์อึ้งทึ่งไปชั่วครู่ “เจ้า…เป็นผู้ชายหรอกหรือ ไม่ ไม่เป็นไร เจ้ากลับไปกับข้า เปลี่ยนอาภรณ์เป็นหญิงก็ไม่เลวเช่นกัน”
แค่มอง ไม่ใช้งาน ก็สิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือ
“แท้ที่เจ้ามาหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ ด้วย” จิ่งเช่ว์สบถฮึ คิ้วรูปดาบคู่นั้นเลิกขึ้นเล็กน้อย ลูกค้าที่อยู่ในห้องนี้ต่างก็รู้สึกว่าคุณชายจากตระกูลผู้ร่ำรวยคนนั้นเกินไปหน่อยแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะดูถูกคนอื่นเช่นนี้!
จิ่งเช่ว์เป็นปีศาจนกยูง นกยูงรูปลักษณ์งดงามตามธรรมชาติ รูปลักษณ์หลังบรรลุก็มีความสามารถอย่างการมีเสน่ห์ดึงดูดผู้อื่น ดังนั้นผลลัพธ์ในขณะนี้จึงปกติอย่างยิ่ง
คนจำนวนไม่น้อยล้วนรู้สึกว่าคุณชายรองเซว์กำลังกระทำเรื่องเลวทราม
คนอื่นไม่รู้ฐานะตัวตนของคุณชายเซว์ผู้นี้ ณ ตอนนี้คนที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรมก็อดด่าทอขึ้นมาไม่ได้
“อันธพาลทุเรศนี่โผล่มาจากไหน ไม่นึกเลยว่าจะไร้ยางอายเช่นนี้!”
“เจ้าไม่เคยเห็นผู้หญิงใช่หรือไม่ ถึงได้จะให้ชายองอาจสง่างามไปสวมอาภรณ์สตรี น่ารังเกียจจริงๆ หากอยากเห็นนักหนาก็กลับไปให้พ่อเจ้าสวมให้ดูไป!”
“หัวโตหูกาง มองแวบเดียวก็รู้ว่ามิใช่คนดี เมื่อครู่ยังรังแกแม่นางผู้นี้อีกด้วย จากนั้นก็หมายตาคุณชายท่านนี้อีก เป็นอันธพาลคนหนึ่งที่กินไม่เลือกจริงๆ ไม่ว่าหญิงหรือชายก็กินได้ทั้งนั้น ไอ้คนที่จะชายก็ไม่ชาย จะหญิงก็ไม่หญิงประเภทนี้สมควรขับไล่ออกไปเสีย!”
“ใช่ๆๆ! ขับไล่ออกไป!”
ขณะกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ก็มีคนเดินปรี่เข้ามา…
จิ่งเช่ว์ยกยิ้มมุมปาก
อวิ้นหลิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ทางที่ดีเจ้าอย่าให้พวกเขาทะเลาะวิวาทกันขึ้นมาเชียว มิเช่นนั้นในร้านข้าได้รับความเสียหาย เดี๋ยวเถ้าแก่เหนียงจะลงโทษเจ้าเอาได้”
จิ่งเช่ว์รวดเร็วฉับไว รีบส่งเสียงตะโกนขึ้นมาทันควัน “หยุดเถิด!”
ชั่วพริบตาเดียวทุกคนก็หยุดนิ่งลง
เฮยยายาเบิกตาค้าง ถึงขั้นอดอิจฉาเสน่ห์ของปีศาจนกยูงไม่ได้
เป็นนกเช่นเดียวกัน แต่คนเขารูปลักษณ์งดงามสดใสอย่างยิ่ง ไฉนนางจึงรูปลักษณ์ดำทมิฬเสียเล่า
“ร้านค้าของพวกเรายังต้องทำกิจการค้าขายกันอีก จะมาก่อปัญหากันที่นี่มิได้ ทว่าก็ยังต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยจัดการแทนข้า” จิ่งเช่ว์ยิ้มเล็กน้อย
“…” อวิ้นหลิงมองคนที่กำลังตกตะลึงเหล่านั้น แล้วถอนหายใจออกมา
อย่างน้อยเฮยยายาก็ยังเป็นนกตัวหนึ่ง บินได้ส่งเสียงร้องได้ เขาก็แค่เม่นตัวหนึ่ง นอกจากทิ่มแทงคนด้วยขนเม่นก็ไม่มีความสามารถอันใดมากมาย
บรรดาลูกค้าเชื่อฟังคำพูดของจิ่งเช่ว์จริงๆ อย่างที่คิดไว้ ไม่มีใครเอะอะสร้างปัญญาให้เห็นแล้ว ถึงขั้นว่าแต่ละคนหันมาซื้อสินค้าไม่น้อยในทันที ถือว่าเป็นการขออภัย
“ขวางทางเข้าออกร้านเอาไว้” หลังจากลูกค้าโขยงใหญ่นี้ไปกันแล้ว คุณชายรองเซว์ก็กล่าวขึ้นทันควัน