ตอนที่ 627 ความผิดแปลกทางธรรมชาติ / ตอนที่ 628 คนกลาง
ตอนที่ 627 ความผิดแปลกทางธรรมชาติ
คุณชายเซว์ไม่เข้าใจเช่นกัน ทั้งที่น่าจะเป็นสถานการณ์ที่เอาชนะได้อย่างแน่นอน สุดท้ายไฉนจึงกลายเป็นเช่นนี้
คนของเขาขณะนี้บางส่วนถูกทิ่มจนบาดเจ็บยับเยินไปทั่วทั้งตัว เหล่าเด็กช่วยงานในร้านแห่งนี้ก็ดูไม่ธรรมดาเช่นกัน รู้จักคิดวิธีแสนเข้าท่า จับคนโยนไปถูกตัวของผู้จัดการร้านคนนั้น มิหนำซ้ำโยนไปแต่ละครั้งยังแม่นยำยิ่ง!
คุณชายเซว์หน้าตาถมึงทึงมองดูรอยเลือดเป็นจุดๆ ตามตัวเหล่าองครักษ์อันเนื่องจากถูกอาภรณ์ผู้จัดการร้านทิ่มแทง
“พวกเจ้าบังอาจนัก! รู้หรือไม่ว่าท่านพ่อข้าเป็นใคร!” คุณชายรองกล่าวด้วยความโมโห
อวิ้นหลิงเผยสีหน้าจริงจัง “ไม่รู้ แต่ทว่า ต่อให้บิดาของเจ้าเป็นเซียนสวรรค์ ก็ต้องจ่ายเงินมาอยู่ดีเช่นกัน”
ในห้องนี้มีสิ่งของไม่น้อยล้มระเนระนาด เพียงแต่ไม่ได้เสียหาย น่าจะยังใช้งานได้อีก ทว่าสบู่หอมบางส่วนที่ร่วงลงบนพื้นถูกเหยียบแล้ว นี่ก็จะขายไม่ได้อีกแล้ว
ความเสียหายเหล่านี้แน่นอนว่าต้องคิดบัญชีกับคนผู้นี้
คุณชายรองเซว์มองผู้จัดการร้านอย่างเย็นชา
“ผู้เป็นนายร้านเจ้าคือใครกันแน่!” คุณชายรองเซว์กล่าวขึ้นอีกครั้ง
เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพียงสตรีชาวบ้านทั่วไปคนหนึ่ง!
ผู้จัดการร้านของสะใภ้ตระกูลชาวบ้านจะสวมชุดคลุมอย่างที่สวมกันในสนามรบได้หรือ อีกทั้งชุดคลุมที่นิยมสวมกันยามออกรบนี่มองดูธรรมดาทั่วไป แต่กลับทนทานต่ออาวุธอย่างคมมีดดาบ ถูกดาบฟาดฟันก็แล้วยังไม่ได้รับความเสียหายอันใด มิหนำซ้ำยังทิ่มแทงคนได้ด้วย!
อีกทั้งเขาสังเกตแต่ละคนในที่นี้ ล้วนเก่งกาจกันทั้งนั้น ต่อกรกับองครักษ์ของเขาที่กล้าหาญและสู้รบเก่งกาจโดยไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วนิ่วหน้า เพียงขยับเบาๆ ก็หลบหลีกได้!
“เถ้าแก่เหนียงของข้าเป็นบุคคลที่มีความรู้และทักษะอันยอดเยี่ยมของโลก” อวิ้นหลิงแอบภาคภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย
“…” เขามิได้เหมือนคนโง่เง่าผู้หนึ่งกระมัง จึงต้องถูกคนอื่นกลั่นแกล้งและดูถูกจนอับอายขายหน้าเช่นนี้!
“จะเอาเงินใช่หรือไม่ ตกลง ข้าเองก็อยากดูเหมือนกันว่าหลังจากได้เงินของข้าไปแล้ว ร้านค้าของเจ้าแห่งนี้ยังจะเปิดต่อไปได้อีกหรือไม่!” เขาจะทำอย่างไรได้เล่า องครักษ์บาดเจ็บหมดแล้ว และจะมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ไปเรื่อยก็คงมิได้กระมัง!
เขาโยนตั๋วเงินจำนวนห้าสิบตำลึงเงินด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด ก่อนจะเดินจากไปพร้อมความอัปยศอดสูเล็กน้อย
ด้านหลัง องครักษ์เหล่านั้นแต่ละคนคว้าดาบเล่มยาวขึ้นมา ดูเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก
“พวกเจ้าไปทำงานหลังร้านเถอะ ตรงนี้ไม่มีเรื่องที่พวกเจ้าต้องจัดการแล้ว” ครั้นอีกฝ่ายไปกันแล้ว อวิ้นหลิงจึงบอกกล่าวผู้คุ้มกันเรือนเหล่านั้น
ผู้คุ้มกันเรือนเหล่านี้เป็นคนธรรมดาทั้งหมดจริงๆ เพียงแต่การคนส่วนผสมสบู่หอมของซ่งอิงเป็นงานใช้กำลัง ดังนั้นก่อนหน้านี้ยามที่ซ่งอิงซื้อคนงาน ก็พยายามเลือกผู้ที่มีพละกำลังมากหน่อยอย่างคนเหล่านี้ ทั้งทำงานได้แล้วยังดูแลความปลอดภัยในร้านได้อีกด้วย ใช้ประโยชน์ได้ดีเยี่ยม
ส่วนเด็กช่วยงานคนอื่นๆ มีสามคนเป็นปีศาจน้อย อย่างเช่นปีศาจกระต่ายอะไรทำนองนี้ แต่ก็ทำได้เพียงวิ่งๆ กระโดดๆ และแทะเล็มสิ่งของ ไม่ได้มีความสามารถมากมายนัก นางจึงไม่ได้คาดหวังอะไร
แน่นอนว่าเมื่อครู่นี้ก็ต้องขอบคุณพวกเขาด้วยเช่นกันที่เตะคนล้มไปหลายคน
“ข้าไปบอกกล่าวเถ้าแก่เหนียงสักหน่อยแล้วกัน?” เฮยยายากล่าว “คนผู้นี้ดูเหมือนไม่ธรรมดาเลย จะให้คนสั่งปิดร้านของเราได้จริงๆ หรือ”
อวิ้นหลิงกังวลใจเล็กน้อยเช่นกัน
ปีศาจอย่างพวกเขาไม่เหมือนเหล่ามนุษย์ที่รู้จักวางแผนการร้ายได้มากมาย
ทันใดนั้นเขาก็ให้เฮยยายาไปแจ้งเถ้าแก่เหนียงให้ทราบล่วงหน้า แต่เฮยยายาแอบเปลี่ยนร่างเป็นนกแล้วออกไปทางประตูด้านหลัง แต่กลับเรียกรวมนกอีกาฝูงเบ้อเร่อบินไปมาอยู่ท่ามกลางท้องนภา หลังบินเวียนวนมาชั่วขณะหนึ่งก็มองเห็นคุณชายรองเซว์พร้อมพวกที่หนีหัวซุกหัวซุนไป
ในขณะนี้เอง คุณชายรองผู้นั้นนั่งอยู่ในรถม้า คนอื่นๆ เดินตามอยู่ข้างหลังอย่างตะลีตะลาน
ดูเหมือนต้องการไปโรงหมอ?
ผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนหลังเห็นท้องนภาถูกเงาดำบางอย่างปกคลุมก็ตระหนกตกใจ
“ไยจึงมีนกกาจำนวนมากขนาดนี้ หรือว่าจะมีคนตายที่ไหน!”
“อย่าพูดจาเหลวไหลน่า อากาศเย็นแล้ว นกเหล่านี้คงย้ายถิ่นมาหรือกระมัง”
“เมื่อก่อนไม่เคยเห็นกาไปมาจำนวนมากขนาดนี้เลยนี่? นี่…นี่ถือว่าผิดธรรมชาติหรือไม่ คงไม่ได้จะเกิดภัยพิบัติอันใดกระมัง!”
ผู้คนเบื้องล่างต่างส่งเสียงจอแจขึ้นมา จากนั้นไม่นาน ก็มีวัตถุเล็กๆ ที่ราวกับหยาดฝนกระหน่ำตกลงมาจากท้องฟ้า
กระทบลงไปดังแปะๆ
หลังสิ้นเสียงกระทบ ฝูงนกก็บินหายไปทั้งหมด
ฝูงชนมองไป เห็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่ห้อมล้อมรถม้าไว้ตรงกลาง แต่ละคนพยายามบดบังศีรษะ แต่อย่างไรก็บังไม่มิด ถูกมูลนกตกใส่เปรอะเปื้อนไปทั้งหน้า
ตอนที่ 628 คนกลาง
ชาวบ้านหลบหลีกไปไกลหลายเมตร เกรงกลัวว่าจะแปดเปื้อนความโชคร้ายไปด้วย ทั้งยังเบือนหน้านี้อย่างสะอิดสะเอียนเล็กน้อย
“ไยจึงหยุดรถม้าเสียแล้ว!” คุณชายรองเซว์เดิมทีก็รู้สึกหงุดหงิดจะแย่ จึงเลิกม่านหน้าต่างเปิดออกแล้วเอ่ยถามทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าสองมือนั้นเป็นอะไร ไปสัมผัสถูกสิ่งสกปรกที่เกาะบนผ้าม่านพอดิบพอดี ความรู้สึกน่าแขยงทำให้หนังศีรษะเขาระเบิดในชั่วพริบตา เดือดดาลจนเกือบเสียสติไปแล้วก็ว่าได้
“คุณชายขอรับ คนของเราเปื้อนมูลนกกันถ้วนหน้า เมื่อครู่มีนกฝูงหนึ่งอยู่เหนือศีรษะขอรับ…” องครักษ์งุนงงเช่นกัน
วันนี้อาจไม่ใช่วันที่ฤกษ์ดีของเขา
“ยังไม่รีบไปอีก! กลับจวน!” เขาถึงขั้นได้กลิ่นแล้วด้วย!
เฮยยายาทำเรื่องนี้เสร็จสิ้นจึงได้ไปทางด้านซ่งอิง
ซ่งอิงได้ยินข่าวคราวนี้ก็ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด ครุ่นคิดดูก็รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเช่นกัน
อำนาจอิทธิพลเป็นของดี หากคนผู้นี้ไปที่ว่าการอำเภอแล้วให้นายอำเภอออกคำสั่งปิดร้านของนาง ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ และถึงขั้นว่านายอำเภอจะไม่กล้าปฏิเสธเสียด้วยซ้ำ
อยากจะจัดการปัญหาก็ไม่ใช่ว่ายาก ตัวอย่างเช่นไปหาที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ ที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ที่ว่านี้แน่นอนว่าก็มีแค่ฮั่วเจ้ายวนที่มีอำนาจอิทธิพลมากที่สุด
เพียงแต่ลำพังเรื่องก่อนหน้านี้ที่นางต้องการเนื้อของเขา ก็อาศัยมิตรภาพความสัมพันธ์งี่เง่าไร้เหตุผลใส่เขาไปแล้ว ตอนนี้มีปัญหาแล้วจะไปขอร้องเขาอีก นางก็ออกจะดูเป็นคนหนึ่งที่ไม่เอาไหนจริงๆ กันพอดีสิ
นี่แน่นอนว่าเป็นวิธีการจัดการปัญหาอย่างเรียบง่ายหน่อย
ยังมีอีกวิธีการหนึ่ง นั่นก็คือจัดการส่งตัวคุณชายรองเซว์ออกจากอำเภอหลี่ไปก่อนที่เขาจะลงมือ
แต่จะจับตัวคนเขาส่งออกไปอย่างประหลาดยากแก่การเข้าใจ ก็จะเป็นการเผยความสามารถของตัวนางอย่างเลี่ยงไม่ได้
หลังครุ่นคิด ซ่งอิงก็กล่าวกับเฮยยายา “ไปในตัวเมืองแล้วจ่ายเงินจ้างสตรีปากสว่างหรือไม่ก็พวกขอทานให้กล่าวว่าคนสูงศักดิ์ที่มาจากเมืองหลวงต้องการแก้แค้นให้ผู้จัดการร้านชุ่ยเหยียนไจ จึงมาคอยข่มขู่บีบบังคับ ท่านนายอำเภอผู้ยิ่งใหญ่ของเราใกล้จะรับมือไม่ไหวเต็มทนแล้ว ก็คงต้องให้ความร่วมมือตามความประสงค์ของคนสูงศักดิ์ผู้นั้น สั่งปิดร้านว่านหลิงในไม่ช้านี้!
ถ้อยคำนี้ต้องทำให้โด่งดังถึงขั้นรับรู้กันทั่วทั้งเมือง ที่สำคัญไปกว่านั้น คือต้องแพร่พรายให้ถึงหูของนายอำเภอด้วย และต้องจัดการโดยไว”
เฮยยายาไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน แต่ก็ยังคงไปกระทำตามคำสั่งทันที
คุณชายรองเซว์ไม่ได้รีบร้อนเจรจากดดันเลยสักนิด หลังกลับไปก็อาบน้ำอาบท่า
หลังจากชำระกายเรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยมาพักใหญ่แล้ว ทำได้เพียงให้ผู้ดูแลงานในเรือนนำคำพูดไปถ่ายทอดยังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น นายอำเภอจึงต้องเตรียมให้คนไปสั่งปิดร้านค้า แต่คนของที่ว่าการอำเภอเพิ่งออกไปหยกๆ ก็กลับมาเข้าอีกครั้งเสียแล้ว
“ใต้เท้าขอรับ…ข้างนอกมีชาวบ้านไม่น้อยถามไถ่ว่า มีคนมาแก้แค้นแทนผู้จัดการร้านคนที่เป็นฆาตกรผู้นั้นใช่หรือไม่ขอรับ!” เจ้าหน้าที่มือปราบมีสีหน้าตื่นตระหนก
คดีความร้านชุ่ยเหยียนไจก่อนหน้านี้ทำให้ต้องตัดศีรษะคนไปไม่น้อย ชาวบ้านจำฝังใจ หากตอนนี้ที่ว่าการอำเภอกลับคำ เช่นนั้นชาวบ้านทั่วทั้งเมืองย่อมต้องไม่ยินยอมเป็นแน่!
นายอำเภอตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน “ลองสืบดูอย่างละเอียดสิว่าข้างนอกนั่นเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วกันแน่!”
ไม่ต้องส่งคนไปด้วยซ้ำ ไม่ทันไรซือเหยียก็เดินเข้ามา นำถ้อยคำที่ตนได้ยินจากข้างนอกบอกเล่าอย่างละเอียด นายอำเภอได้ยินก็เบิกตาโต เดือดดาลเกือบเป็นลม
“เจ้าว่า…เจ้าว่าสะใภ้ตระกูลฮั่วผู้นี้ต้องการตั้งตัวเป็นอริกับคุณชายตระกูลเซว์รึ! ตอนนี้แย่แล้ว ข้าก็เป็นคนกลางระหว่างสองฝ่ายนี้น่ะสิ!” นายอำเภอกล่าวอย่างโมโห “ตอนนี้ข้าจะทำอย่างไร หากให้คนไปปิดร้านนาง หลังจากนี้ยามที่ใต้เท้าฮั่วมาตะเวนตรวจตราอีกแล้วได้ยินคำพูดของประชาชน เช่นนั้น เช่นนั้นข้าผู้นี้ยังจะเป็นขุนนางได้อยู่อีกหรือ!”
ใต้เท้าฮั่วผู้นั้นว่างงานเป็นที่สุด มิเช่นนั้นเขาจะต้องกังวลใจเช่นนี้หรือ!
“ใต้เท้า ข้าคิดว่าทางด้านคุณชายรองเซว์ผู้นั้น ท่านปฏิเสธได้นะขอรับ” ซือเหยียนจนปัญญาอย่างยิ่งเช่นกัน
“ปฏิเสธรึ! บิดาเขาคือไคหยางกง! หลังจากสร้างความขุ่นเคืองแล้ว ข้ายังคิดเรื่องเลื่อนขั้นได้อีกหรือไร!” นายอำเภอหงุดหงิดและอึดอัดใจไปหมด
“แต่ไคหยางกงห่างไกลจากพวกเราเยอะเลยนะขอรับ ทว่าใต้เท้าฮั่วผู้นั้นอยู่แค่เมืองยงนี้เอง ไม่แน่ว่าวันดีคืนดีจะมาเยือนก็เป็นได้ หากสร้างความขุ่นเคืองให้ท่านอ๋องอู่เฉินแล้ว อย่าว่าแต่เลื่อนขั้นเลย แม้แต่ตำแหน่งขุนนางนี้ท่านก็คงไม่ได้เป็นอีกแล้ว และไม่แน่ว่าจะต้องจบสิ้นชีวิตด้วยนะขอรับ” ซือเหยียบอกกล่าวอย่างโหดร้ายมาก
ก่อนหน้านี้ได้ข่าวคราวว่าใต้เท้าฮั่วไปเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นนายอำเภอแต่ละอำเภอรอบๆ ต่างก็โล่งใจ มีความอาจหาญอาศัยจังหวะนี้ตักตวงผลประโยชน์อีกไม่น้อย ผลปรากฏว่าทางด้านนั้นเพิ่งกอบโกยเสร็จสิ้น ใต้เท้าฮั่วก็กลับมาโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า มิหนำซ้ำยังตัดสินโทษประหารคนเหล่านั้นอีกด้วย